จับ และ ปล่อย ......
เอาเป็นภาษาไทยง่ายๆ ไม่มากความ .....
มัลดีฟ .... เมื่อตกปลาได้ .....อยากจะเอาปลาอะไรกลับก็ได้ ...ถ้าคิดว่ามีปัญญาทำและกินหมด ....
ยกเว้น ... ปลาเกมส์ทุกชนิด ...ทึีจะต้องปล่อย ....
ปลาเก๋า ปลาแดง ...อยากเอากลับไปทำกิน ...
บอกกัปตันเลยครับ .... เค้าจะเก็บให้ ...
แต่ในจำนวนที่นักตกปลาประจำทริปจะรัปทานกันหมด ....
ส่วนปลาเกมส์ปล่อยหมดทุกตัว ....ไม่ว่าจะทำท่าตาย ...หรือแกล้งตาย ...
ยกเว้น ทนพิษบาดแผลไม่ไหวตายบนเรือ ....ถึงจะเก็บ
หลักการนนี้เป็นหลักฎิบัติที่ดีมากๆครับ .... จับ แล้ว ปล่อย
แต่ในบ้านเรา มันก็ยังถือเป็นหลักการที่ดีอยู่ .... แต่ ... เป็นหลักปฎิบัติที่ทำได้ยาก ....
ผมใช้ชีวิตคลุกคลีกับชาวมัลดีฟมา 3 ทริป ระยะเวลารวม 20 วัน ....
ผมเข้าไปทำอาหารในครัวบ้านเค้าทุกทริปแทบจะทุกมื้อ ....
ขอบอกว่า ....มัลดีฟ ยังล้าหลังในเรื่องการ " ทำมาหารัปทาน " หรือ " เอาง่ายๆ ทำมาหาแหลก " ....
เค้าทำกับข้าวกันไม่เป็นและไม่หลากหลาย ......
อาหารชาวมัลดิเวียนไม่มีอะไรมากมายนอกจาก " กะหรี่ " เป็นหลัก ....
เค้าไม่มีหรอกครับ .... แกงส้ม ผัดฉ่า ผัดเผ็ด แกงหน่อไม้ นึ่งซิอิ้ว นึ่งบ๊วย ลวกจิ้ม ....
ในเมื่อ " คนไทย " ทำกับข้าวเก่งสารพัดและประชาการเยอะกว่ามากมายหลายสิบเท่า .....
ก็ไม่น่าจะแปลกใจเท่าไร ....ที่คนบ้านเรา คนไทย .... ไม่ค่อยจะปล่อยปลาที่ตกกันได้นัก ....
จึงไปเข้า Concept " Catch & EAT "
สิ่งที่สำคัญมากกว่า การตกปล่อย ตกไม่ปล่อย .... ตกเป็นเกมส์ หรือ ตกเป็นอาหาร .....
คือการประมงแบบล้างผลาญในท้องทะเล ......
จากชาวประมงขนานแท้ ....
ที่ห็นแก่ตัว ...... และไม่มีสามัญสำนึก ....
ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม .......
ผมเชื่อว่า .... กีฬาตกปลา และ แนวทาง " จับ แล้ว ปล่อย " ....
จะถูกพัฒนาไปในแนวทางที่ดีขึ้นและจะกลายเป็นหลักปฎิบัติที่ถูกกำหนดลงในเรือตกปลาแบบ Game Fishing ของบ้านเราในอณาคต ....