วันนี้ผมจะมารีวิว Aldebaran 2015  สำหรับโครงสร้างภายนอกอย่างละเอียดนะครับว่ามันพัฒนาหรือแตกต่างจาก Aldebaran 2009  อย่างไรบ้าง รวมถึงชุดตกแต่งที่มีขายในท้องตลาดด้วยว่าใช้กันได้หรือไม่ จุดไหนที่ใช้ไม่ได้บ้าง รวมถึงน้ำหนักเฉพาะของ อะหลั่ย แต่ละชิ้นหากเราต้องการแต่งเพื่อ Performance หรือเพื่อให้สมรรถนะสูงขึ้นกว่าเดิม และความสวยงามแปลกตา แน่นอนว่าชุดแต่งสำหรับเจ้าตัวนี้ยังไม่มีสำนักแต่งใดทำออกสู่ท้องตลาด สำหรับท่านไม่อยากรอซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ว่าซื้อมาประยุกต์ใช้กันได้หรือไม่สำหรับของแต่งหลายสำนักที่มีขายกันอยู่ตอนนี้ เรามาดูรีวิวแบบบ้านๆกันเลยครับ

เริ่มจากสปูลครับ น้ำหนักโดยรวมอยู่ที่ 12.6 กรัม ทั้งนี้มันต้องแบกน้ำหนักของลูกปืน s-arb รวมถึงชุด SILENT TUNE เข้าไปด้วย ซึ่งจริงๆแล้วน้ำหนักชุดลูกปืนและ SILENT TUNE นี้ต้องหักออกนะครับ เพราะมันทำหน้าที่แค่ประคองสปูล ไม่ได้หมุนไปพร้อมสปูลแต่อย่างใด สปูลจึงไม่ต้องแบกน้ำหนักในการหมุนเข้าไปด้วย หากอยากจะรู้น้ำหนักจริงๆของสปูลจะต้องถอดชุด SILENT TUNE+ลูกปืน s-arb ออกไป แต่ทีนี้ผมไม่มีตัวถอดครับ55+ เลยคะเนเอาแล้วกันกะว่าน้ำหนักสปูลไม่น่าเกิน 11 กรัมแน่นอน อาจจะน้อยกว่านั้นด้วยซ้ำครับ ความจุสายสำหรับสปูลลูกนี้ (lb-m) (ปอนด์-เมตร) 10/100  12/80  14/80 ถือว่าจุสายพอสมควรเลยสำหรับรอกตัวแค่นี้ เจ้าสปูลMagnumliteของShimanoนี้ ซึ่งเป็น machined จากอลูมิเนียมเกรดหรือรหัส A7075  นี้เป็นสปูลน้ำหนักเบาที่ดีที่มีแรงเฉื่อยต่ำแต่ออกตัวได้ดีขึ้นครับ

จากชุดสปูล สิ่งที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเปรียบเทียบกับชุดสปูลAldebaran 2009 คือ ในสปูลตัวนี้จะมีชุด ลูกปืนs-arb+silent tune.ติดมาที่เมนชาร์ฟหรือแกนสปูลด้วย เจ้าตัวsilent tuneนี้ประกอบด้วยสปริงและแหวนรองลูกปืน โดยสปริงจะทำหน้าทีข้างนึงดันตัวแกนสปูลไว้ อีกข้างนึงจะดันตลับลูกปืนให้แน่น โดยลูกปืนจะถูกดันมาที่ สลักส่งกำลังที่เมนชาร์ฟหรือที่เราเรียกกันว่าสลักแกนสปูลนั่นละครับ โดยการดันนี้ลูกปืนจะไม่ชิดกับสลักเลยทีเดียวจะมีเพลทรองตลับลูกปืนและบูชพลาสติกคั่นตัวลูกปืนอีกที ทำให้ลูกปืนจับกับเบ้าที่BODYรอกแน่น ไร้อาการคลอนหรือให้ตัวแบบที่เจอกันในรอกรุ่นเก่าๆของค่ายชิ เช่น CQ.หรือ AR ครับ การคลอนหรือให้ตัวได้ส่งผลถึงการเสียดสีจนเกิดเสียงดังในขณะส่งเหยื่อที่สปูลหมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วสูง รวมถึงการหมุนรอกด้วยความเร็วหรือมีโหลดที่ปลายสาย จะช่วยลดเสียงและสร้างความสมูทขึ้นได้ดีกว่าครับ ระบบหน่วงจากเม็ดราหนีศูนย์แบบเดิมในตัว 09 ก็ถุกปรับเปลี่ยน ใส่ระบบหน่วงแบบใหม่ svs infinity เข้ามาแทน ทำให้ปรับได้ละเอียดขึ้น จากการปรับโดยวงแหวนพารามิเตอร์จากภายนอกอีกที เม็ดหน่วงหรือเม็ดราจะให้มาเป็นแบบ4เม็ดสีขาวไม่เหมือนตัว JDM 2013 Metaniumที่มี6เม็ด เราสามารถสลับไปมาระหว่างที่อยู่ในตำแหน่งปิดโดยการเลื่อนไปด้านข้างเพื่อเปิด ซึ่งแตกต่างจาการทำงานของระบบเบรก VBS ดั้งเดิมของ Shimanoครับ

ฝาข้าง ในรุ่น 2015 นี้ทำจากวัสดุ CI4+ น้ำหนักเบามาก แต่มีความคงทนแข็งแรงเพียงพอสำหรับการนี้ ดังจะเห็นได้จากรอกรุ่นก่อนหน้าหลายรุ่นที่ใช้วัสดุตัวนี้กันหมดแล้ว เช่น chronarch ci4+ หรือกระทั้งรอกสปินนิ่ง เช่น stradic ci4 หรือ rarenium cl4 เรื่องความแข็งแรงในการใช้งานจึงไร้ข้อกังขาตรงจุดนี้ ฝาข้างตัวนี้ถูกออกแบบใหม่ใ้ต่างจากตัว 09 นะครับเป็นนัยว่าไม่ต้องการแบกน้ำหนักของชิ้นส่วนที่ไม่ต้องการออกไป เช่นคานสลักฝา ชุดสปริงฝา แคล้มป์ล้อก เหล่านี้ล้วนทำจากโลหะในการทำหน้าที่ยึดฝาติดไว้กับ bodyรอก กันฝาตกหล่นขณะปรับเม็ดราให้มากหรือน้อยตามความเหมาะสม แต่ชิ้นส่วนเหล่านี้ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปเมื่อALDEBARAN 2015หันหลังให้กับระบบเม็ดราแบบเดิมๆ หันมาคบกับระบบหน่วง svs infinity ซึ่งไม่มีความจำเป็นต้องปรับเม็ดราบ่อย แต่สามารถปรับหน่วงแบบละเอียดได้จากฝาข้างภายนอกได้เลย จุดนี้นี่เองจึงกำจัดชิ้นส่วนที่เพิ่มน้ำหนักตัวรอกออกไปได้ทำให้รอกเบาขึ้น นับเป็นความชาญฉลาดของ shimano มากครับ หากแต่ฝาข้างด้านหน่วงของALDEBARAN 2015นั้นสามารถเปิดได้จากคันโยกด้านล่างตัวรอกที่ออกแบบทำหลบมุมไม่ให้ดูเกะกะเพื่อความสวยงาม อีกทั้งการใช้งานก้ไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใดในการโยกเพื่อเปิดฝาข้าง ยังคงทำได้สะดวกเช่นเดิม หลังจากโยกคานโยกมาในตำแหน่ง open ดังที่ฝาข้างมีตัวอักษรสีขาวและทิศทางการโยกกำกับไว้ ก็ใช้มือบิดฝาข้างเบาๆ ก็จะหลุดออกจาก body อย่างง่ายดาย เผยให้เห็นชุดสปูลและชุดหน่วงหากเราต้องการปรับจูนนั่นเองครับ การเปิดฝาข้างแบบนี้ช่วยลดอาการเสียหาย เมือ่เทียบกับการเปิดฝาในรูปแบบเดิมของตัว 09 ที่ใช้ นิ้วเขี่ยลุกปิดของฝาด้านข้างให้เปิดออกแล้วออกแรงบิดเพื่อเปิดฝา การบิดแบบนี้ตัวบิดจะรับแรงบิดมากครับ หากเกิดคราบตะกรันจากน้ำที่จับตัวแน่นทำให้ฝืดหรือติดตายที่ตัวบิดเมื่อไร หายนะมาเยือนทันทีสำหรับลูกบิดแบบนี้ มันเป็นปัญหาที่พบเจอมานานตั้งแต่รุ่น scorpion mg-1000 ถึงแม้จะพบเจอปัญหานี้ไม่บ่อยก็ตามทีหากรู้จักดูแลรักษาเช็ดล้างรอก แต่ปัญหานี้ได้ถูกแก้ไขหลังจากตัว 2015 ได้ใช้คานโยกเปิดฝาและบิดตัวล็อกแบบนี้ นับเป็นความยอดเยี่ยมของ shimano อีกเช่นกันที่ได้ปรับปรุงตรงจุดนี้

สิ่งท่านเห็นในภาพ บริเวณห้องเกียร์ด้านหน้าตัวรอก ท่านจะมองเห็นสกรู2ตัว นักแต่งรอกอาจจะไม่ชอบใจเท่าใดนักเพราะมันเป็นสกรูหัวเทเปอร์ หรือลาดเอียงให้จมไปในตัวรอกเพื่อความสวยงามไร้การโผล่พ้นมาจากตัวรอก เป็นความปราณีตใส่ใจในชิ้นงานอย่างแท้จริงที่ออกแบบมาเป็นอย่างนี้ แต่ขณะเดียวกันก็สร้างความลำบากใจให้นักแต่งรอกด้วยเช่นกันสกรูหัวเทเปอร์อย่างนี้ ไม่มีสำนักแต่งค่ายไหนทำออกมาขายเลยตอนนี้ ถ้าจะเอาสกรูแต่งที่มีขายตอนนี้มาใส่คงน่าเกลียดพิลึดเพราะหัวมันจะโผล่ออกมา55+ คงต้องรอสำนัก ZPI สำนักเดียวละครับ เจ้านี้เค้าทำชุดแต่งสำหรับค่าย SHIโดยเฉพาะอยู่แล้ว นัยว่าเป็นพาร์ทเนอร์กัน ดุจ HONDA & MUGEN หรือ  TOYOTA & TRD และ NISSAN & NISMO ละครับ ร้องเพลงรออย่างเดียวครับถ้าจะแต่งแบบเอาสวยและเบา 55+

จากภาพเราจะเห็นกลเม็ดเคล็ดลับจุดสำคัยอีกจุดหนึ่ง ที่กระชากเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นสตรอร์เวทหรือ แชมป์รอกตีเหยื่อปลอมที่เบาที่สุดในโลกเวลานี้มาครองชนะ TKO.น็อกเอ้าท์แบบไม่ต้องออกแรงมาครองอย่างง่ายดาย คือการลดน้ำหนักส่วนที่ไม่ต้องรับแรงใดๆมากในบางจุดจากวัสดุโลหะสแตนเลสมาเป็นวัสดุ CI4+เช่น เสื้อเพลารางเกลี่ยหรือรางสัปรดที่ภาษานักตกปลาทั่วไปเรียกกัน และถ้วยเขาควายที่ล้วนแต่ทำมาจากวัสดุCI4+เพื่อลดน้ำหนัก แต่เสาประคองตัวเกลี่ยยังคงใช้วัสดุสแตนเลสเช่นเดิม แต่หากมองในอีกแง่ด้านลบอาจจะมองว่าถอยหลังลงคลองที่ดาวน์เกรดจากวัสดุสแตนเลสมาเป็น CI4+แบบนี้ แต่ที่แน่ๆมันได้ผล น้ำหนักเบาขึ้นแน่นอน 55+ มาต่อครับจากภาพเราจะเห็นเฟรมกลางที่ทางshimanoคุยว่าทำจากวัสดุแมกนิเชี่ยม อันนี้ไม่ยืนยันเพราะไม่ได้พิสูจน์อย่างแน่ชัด เท่าที่ลองเคาะดูมันทำจากโลหะแน่นอน ที่สำคัญเบาหวิวทีเดียว จากโครงสร้างเท่าทีดูความแข็งแรงไม่ได้แตกต่างจากตัวปี09นักเพียงพอจะรับ ทอร์คแรงบิดตัวของเฟรมขณะอัดปลาได้เป็นอย่างดี ความแข็งแรงจึงไม่น่าห่วงสำหรับเฟรมรอกครับ และการทำสีพ่นเคลือบสีจากโรงงานทำได้ดี สีดูหนามีเลเยอร์เป็นชั้นฟิล์มเคลือบ ไม่เป็นเม็ดสากมือดูบางๆเหมือนตัว 09 สีตัวนี้ดูหนาทีเดียวกับสีเทาดำเมทาลิค สวยงามใช้ได้ทีเดียวครับ

ฝีมือถ่ายภาพเข้าขั้นแย่มากเลยผม มืดตึ๊ดตื๋อเลย 55+ จากภาพนี้เรามาโฟกัสกันที่ตัวเกลี่ยสายครับ จะเห็นได้ว่ามันแตกต่างจากตัว 09 อย่างสิ้นเชิง ตัว 09 นั้นถึงแม้จะเป็นทรงเทเปอร์เหมือนกันคือด้านในที่รับสายจากสปูลจะมีรูขนาดใหญ่ลบมุมตามขอบให้โค้งมนและยังเคลือบผิวด้วยทองแบบโกลด์เชอร์เมทถ้าข้อมูลผมไม่ผิด ให้สายไหลออกได้แทบไร้การขัดตัวและแรงเสียดทานแม้สายจะกองอยู่ด้านข้างของสปูลก็ตามที ไร้การขูดขีดของสายที่ขอบมุมด้านในตัวเกลี่ยที่ไม่ลบคมแบบบางยี่ห้อ เป็นผลให้สายเกิดการเสียดทานจากการครูดขณะสายไหลออกมากจนเสียระยะส่งเหยื่อเบาๆแบบไม่ควรและสายยังเสื่อมสภาพเร็วจากการเป็นขุยอีกด้วย รูเกลี่ยจะเป็นแบบเทเปอร์ด้านในที่รับสายจากสปูลจะมีขนาดใหญ่และค่อยๆลดขนาดเรียวลงไปจนถึงด้านนอกที่เล็กลงเป็นรูปกรวยหรือเทเปอร์นั่นเอง แต่ขณะเดียวกันการเป็นรูปกรวยวงกลมด้านในแบบนี้มันมีอย่างหนึ่งที่ทำได้ไม่ดีนักสำหรับเหยื่อเบาๆขณะสายไหลออกจากสปูลจนสายในสปูลเหลือน้อย ระนาบการไหลของสายจะเปลี่ยนไปทำให้สายไหลออกไปยังไม่ดีแบบที่ต้องการในความเป็นเลิศ ความไม่สุดที่สายไหลออกขณะสายในสปูลเหลือน้อยนี่เอง ทำให้ทาง shimano ออกแบบรูเกลี่ยด้านในเสียใหม่จากวงกลมให้เป็นวงรีลงมาทางด้านล่าง แก้ปัญหาเรื่องระนาบของสายขณะสายไหลออกและสายในสปูลเหลือน้อย จะทำได้ดีขึ้นความเสียดทานน้อยลงแม้ระนาบเปลี่ยน ดังเราจะเห็นได้ว่าด้านในตัวเกลี่ยจะเป็นวงรีแบบแปลกๆคือด้านบนกว้างด้านลางสอบเล็ก แต่ยังคงเป็นเทเปอรืและลบขอบมุมเหมือนเดิมและยังชุบทองเพื่อความลื่นที่เพิ่มมากขึ้นแทบไร้แรงเสียดทานขณะสายไหลออก นี่คือข้อแตกต่างที่พบเห็นได้ชัดว่ารูเกลี่ย สองรุ่นนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร อีกจุดนึงจากภาพที่เราเห็นความแตกต่างคือ บาร์กดฟรีสปูล ออกแบบได้โฉบเฉี่ยว ชุบโครเมี่ยมดำเงาขึ้นแฝงด้วยประโยชน์การใช้งานที่ดีกว่าเดิมในตัว 09 จะเห็นได้ว่าบาร์กดถูกออกแบบให้ท้ายบาร์ด้านขวายื่นยาวมากกว่าด้านซ้าย เพื่อรับสรีระนิ้วโป้งของคนถนัดขวา โดยรับแรงกดตังแต่โคนนิ้วโป้งด้านขวากันเลยทีเดียว  การออกแบบที่รับแรงจากโคนนิ้วด้านขวาเป็นการออกแบบให้เข้ากับสรีระขณะใช้งานจริงได้อย่างยอดเยี่ยมครับช่วยให้กดฟรีสปูลถนัดขึ้นมาก แถมยังรองด้วยยางสีดำกันลื่นด้วยครับ การล้างรอกควรระวังด้วยนะครับ หากไปเจอช่างเถอะ ช่างขี้เกียจ ช่างไม่รู้ หายนะเกิดได้ง่ายครับหากเผลอไปแช่ในน้ำมันเบนซิน หรือรอนสัน โดยไม่ถอดตัวนี้ออกก่อน ยางตัวนี้จะบวมได้ครับ ดังนั้นต้องถอดตัวนี้ออกก่อนล้างนะครับอย่าให้โดนน้ำมัน

จากภาพนี้ มืดตึ๊ดตื๋ออีกละ 555+ เรามาโฟกัสกันที่ตัวพีเนี่ยนเกียร์ หรือเฟืองตัวเล็ก หรือเฟืองตัวตั้ง ตามแต่จะเรียกกันครับ จะเห็นได้ว่าเฟืองตัวนี้มีร่องรับเขี้ยวสลักแกนสปูลถึง4ร่องหรือเป็น2เท่าของเฟืองรอกบางรุ่นที่มี2ร่องเป็น2เท่า เพื่อการลงล็อกขณะสับแขนล็อกเพื่อเด้งชุดฟรีสปูลลง ขณะเราต้องการถ่ายทอดกำลังเช่นหมุนรอก 4ร่องแบบนี้ให้การเข้าล็อกของสลักกับพีเนี่ยนเกียร์แม่นยำเข้าล็อกได้ง่ายและนุ่มนวลกว่าแบบ2เขี้ยวขณะเดียวกํนไม่เหมาะสำหรับงานโหดๆมากนัก เช่นงัดแบบหฤโหดเป็นต้น รอกตัวเท่านี้เองครับจบเรื่องพีเนี่ยนเกียร์นะครับ

มาต่อครับ ทีนี้มาดูฝาข้างชุดห้องเกียร์บ้างครับ ฝาด้านนี้น่าจะทำจากวัสดุ CI 4+ เพื่อหวังผลในการลดน้ำหนัก เรามาเท้าความถึงวัสดุ CL4+กันอีกครั้งครับ CI4 + โดยพื้นฐานแล้วโฆษณาว่ามีความเป็นเป็นคอมโพสิตมากกว่า CI4 เดิม ใช้ในการทำวัสดุตัวรอกบางส่วนเช่นตัว 2009 Stradic  และCI4 + นี้อาจดูคล้ายกันกับ Zaionของ Daiwa โดยเป็นวัสดุผสม มีการโฆษณาอ้างไว้ในข้อได้เปรียบที่โดดเด่นของการนำไปใช้เป็นวัสดุที่เป็นหลักว่าจะเป็นการลดน้ำหนักได้มากกว่า อลูมิเนียม เช่นเดียวกับความสามารถในการเป็นโครงสร้างที่แข็งแรงสามารถเทียบเคียงได้กับแมกนีเซียมขณะเดียวกันก็นำความสามารถที่ทนการกัดกร่อนจากน้ำเค็ม (เหมือนรอกChronarch CI4 +ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่น้ำเค็มหรือน้ำกร่อยโดยทาง Shimano)ครับ ทีนี้มาต่อเรื่องฝาข้างต่อ สิ่งที่แตกต่างจากตัว09 นอกจากวัสดุแล้ว ตัวเกลียวชุดปุ่มปรับหน่วง จากที่ตัว 09 เดิมใช้เกลียวแบบอลูมิเนี่ยม แต่ตัว2015 นี้ใช้เกลียวทำจากวัสดุ CI4+ครับ เนื่องจากปุ่มหน่วงไม่ต้องรับแรงอะไรวัสดุตัวนี้วัสดุตัวนี้ก็แข็งแรงเพียงพอแล้วครับ ที่สำคัญเป็นการลดน้ำหนักได้ดีทีเดียว ยังไม่เล่าเรื่องข้อดีของการทำงานของระบบ x-shift นะครับ เอาไว้เล่าตอนแกะดูเครื่องในรอกอีกทีอธิบายตามรูปจะเข้าใจมากยิ่งขึ้นครับ ใบ้ให้นิดนึงว่าระบบx-shift นี้จะเห็นผลมากเมื่อท่านมีปลาใหญ่อยู่ปลายสายละครับ 55+

ความยาวแขนหมุน ให้กำลังกว้านดีทีเดียว knob รูปทรงนี้จับถนัดมือดีมากครับยางนุ่มหนึบและยังทำหน้าที่แฝงเป็นตุ้มน้ำหนักในตัว เป็นกลเม็ดในการสร้างแรงเฉื่อยขณะหมุนรอกทำให้รู้สึกเบาเรงนุ่มสมูทขึ้นครับอันเป็นกลเม็ดเด็ดของทางshimanoที่หลายคนอาจไม่ทราบในการทำให้ลื่นนุ่มสมูทมาจากแขนหมุนด้วยส่วนนึงนอกจากเฟืองแล้วอ่ะครับ เรื่องยาง knob ในระยะยาวจะมีปัญหาเรื่องการเสื่อมสภาพเหนียวมือดังที่เป็นในรุ่นเก่าๆหรือไม่ แต่กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ข้อนี้ครับ

น้ำหนักรวมของแขนหมุนครับเบามากๆ

อันนี้น้ำหนักรวมของแขนหมุนทั้งชุด ก็จัดว่าเบามากเช่นกันสำหรับแขนเดิมๆ

สตาร์แดรก เบามากๆ

ด้านนี้จะเห็นได้ว่า หมดสิทธิ์สำหรับของแต่งทุกสำนักตอนนี้ ต้องรอครับ 55+

มีหลายท่านทั้งpm.และโทรมาสอบถามว่า เจ้า ALD 2015 นี้ตีเหยื่อเบามากๆได้ดีไหม เช่นขนาด2กรัมตีได้ระยะดีไหม เพราะคาดหวังไว้สูงกับเจ้า2015 ตัวใหม่นี้ ขอเรียนตามตรงนะครับว่า เจ้า ALD 2015นี้ ทาง shimano เองก็ไม่ได้บอกหรือระบุว่าเป็นรอก Finesse Reel นะครับ หากเราดูจากความจุสายของสปูลน่าจะพอรู้ เท่าที่ผมได้ทดลองใช้สองสามวันนี้ มันทำระยะได้น่าพอใจระดับนึงครับสำหรับเหยื่อ 2กรัม แต่ต้องเลือกคันที่ดีดเหยื่อเบาได้ดีมาใช้คู่กันด้วยนะครับ อย่างที่บอกรอกตัวนี้ถูกออกแบบมาใช้ใช้สำหรับเหยื่อทั่วไปมากกว่าครับ แต่ถ้าเหยื่อตั้งแต่ 5 กรัมขึ้นไปกระฉูด!!!ครับ ด้วยน้ำหนักที่เบามากๆ ขนาดรอกตัวเล็กน่ารัก หากนำมาแมทต์กับคันเบาๆรับรองตกสนุกมาครับกับชุดคัน+รอก สองขีดนิดๆ แต่คาดว่าน่าจะมีตัวพิเศษ [Finesse Reel ตามหลัง หลังจากออกรอกหมุนซ้ายมาแล้วอีกที สาวกอดทนรออีกนิดนะครับสำหรับ ALD 2015 ที่อวตารแปลงร่างมาเป็น Finesse Reel โดยเฉพาะ รับรองว่าสุดๆแน่นอน