ภาพที่ 1
น้าๆหลายคน คงเคยเจอปัญหาเหมือนผมบ้างแหละเรื่องเบ็ดจิ๊ก ว่าทำไมเบ็ดผูกสำเร็จ แบรนดังๆ มันแพงเหลือเกินน แล้วจะผูกเองให้สวยแบบนั้นอ่ะ...มันทำยากแค่ไหน
พอได้ลองทำดูเองแล้ว ปรากฏว่าไม่ง่ายจริงๆ เจอหลายปัญหามาก ที่แน่ๆนิ้วได้แผลไปหลายรูครับ
เอาหละครับ ผมจะลองอธิบายการทำแบบของผมดู โดยแอบเข้าใจว่ามันสวยใช้ได้แล้วหละครับ ...ขออธิบายละเอียดๆสักนิดนะครับ ผมลองผิดลองถูกอยู่นานเลย
ภาพที่ 2
อุปกรณ์ สำคัญก่อนเลยนะครับ
--ตัวเบ็ด ผมเลือกตัวเบ็ดของ Shout ขนาด 2/O ครับ ตูดแบน เป็นเบ็ดสโลว์
Q-เบ็ดสโลว์จิ๊ก กับเบ็ดจิ๊กธรรมดา มันต่างกันอย่างไร
A-เบ็ดสโลว์จิ๊ก จะมีขนาดตัวเบ็ดที่เล็กกว่า เบากว่า และคมกว่า เนื่องจากความสามารถในการSet Hook ของคันสโลว์นั้นจะต่ำกว่าคันจิ๊กทั่วไปอยู่มาก จึงจำต้องคมมากๆ แบบว่าปลาเฉียวก็ติดเลย และต้องเบาพริ้วเพื่อที่จะรบกวนการออกแอ็คชั่น
ของเหยื่อให้น้อยที่สุดครับ
--สายเคฟล่า ผมเลือกสายของ Shout เช่นกัน ด้วยเหตุผลที่สำคัญมากๆคือ มันเป็นสีขาว 555...5 เพราะผมเคยเอาสีครีมหรือสีอื่นๆมาลองทำหลายทีแล้วมันรู้สึกว่ามันเป็น Japanอ่ะ ...(อันนี้คิดเอง ความชอบส่วนตัวครับ)
และอุปกรณ์อื่นๆ ตามภาพ เดียวจะอธิบายตอนถึงเวลาใช้งานครับ
ภาพที่ 3
1.ก็ตัดความยาวของสายเคฟล่าตามทีต้องการครับ ผมเลือกความยาวที่ 9.5cm.
2.แล้วเราก็เอากาวร้อน มาทาที่ตูดเบ็ดบางๆ เพื่อเวลาพันด้ายทับ สายเคฟล่ากับตูดจะได้ไม่ปลิ้นไปมา ...เอาสายมาทาบตามความยาวที่เราคิดว่ามันจะแข็งแรง ผมวางส่วนที่ทับกันประมาณ 6-7mm.
ภาพที่ 4
3.แล้วเราก็เอาด้ายเย็บผ้า หมุนเข้า Bobbin ให้เยอะๆเลย เพื่อเอามาพันทับสายเคฟล่า
Q-ทำไมจึงใช้ด้าย ทำไมไม่ใช้สายPE
A-ผมเคยใช้สายPEแล้วครับ มันไม่เวิร์คแล้ว เพราะเมื่อเวลาตัวเคลือบมันแตกออก มันจะลามแตกไปเรื่อย เพราะความเหนียวของPE และที่ใช้ด้ายก็เพราะ 1.ราคาถูกกว่า ,เลือกสีได้เยอะและง่ายกว่า ,โครงสร้างของมันไม่แข็งแรงและเป็นใสใย
ที่เรียงตัวกันแบบหลวมๆ ซึ่งทำให้ง่ายต่อการแทรกตัวลงไปของกาวร้อน ,สิ่งที่เราต้องการจากขั้นตอนนี้คือโครงสร้างในการยึดกับตูดเท่านั้นครับ เวลาที่ลงกาวร้อนแล้วมันแทรกซึมได้ทั่วกว่า และแข็งแรงกว่า และสิ่งสุดท้ายถ้ามันแตก มันจะ
ไม่ลาม แตกมันจะแตกออกเฉพาะส่วนเท่านั้น ซึ่งด้ายจะขาดบริเวณส่วนนั้นๆครับ
4.ทีนี้ก็พันด้ายให้ทั่ว คลุมสายเคฟล่าให้หมดอย่าให้สีขาวของสายเล็ดลอดออกมาได้ เพื่อ......ความสวยงาม 555...5
ภาพที่ 5
5.เมื่อพันเสร็จแล้ว ก็หยอดกาวร้อนเคลือบเลยครับ เอาให้คลุมให้ทั่ว แต่อย่าให้แฉะนะครับ ขั้นตอนสำคัญ ระวังอย่าให้กาวร้อนลามไปโดนสายเคฟล่าตรงบริเวณที่ไม่ได้เอาคลุมถักปิดไว้ เพราะมันทำให้สายแข็งกระด้าง กรอบและแตกเป็นขุยในอนาคต
6.ทำซ้ำเช่นนี้ตั้งแต่ขั้นตอนแรกอีกครั้ง แต่ทำที่ปลายสายอีกด้านนึงครับ และตากแห้ง (ใช้เวลาไม่นานครับ)
ภาพที่ 6
7.เมื่อตากแห้งดีแล้ว เราก็จะได้เบ็ดจิ๊กผูกเอง หน้าตาแบบนี้แล้วละครับบ ^_^
ภาพที่ 7
8.ต่อไปเก็บงานนิดนึงครับ เอากรรไกรตัดเล็บ เล็มส่วนที่เป็นปลายสาย หรือส่วนที่แหลมๆออกมาครับ
**ตอนพันด้ายทับรอบสุดท้ายก่อนลงกาว ไม่ต้องผูกนะครับ แค่พันๆๆๆแล้วลงกาวเลย การผูกจะทำให้เป็นปมครับ
ภาพที่ 8
9.เพื่อความสวยงานครับ เอากระดาษทรายมาลูกมาขัดสักหน่อย พอให้การเคลือบขั้นตอนสุดท้ายได้ออกมาสวยงามม
ภาพที่ 9
10.จาก1-9 เราจะได้ชิ้นงานออกมาแบบนี้แล้วครับ....สวยมั้ยหล่ะฮ่ะะ ขาวแดง มันดูเป็นเจแปนที่สุดในโลกกันเลยทีเดียว 555
**โม้เพลินครับ ขั้นตอนนี้คือการขัดกระดาษทรายจะทำให้มีฝุ่นติดตามร่อง ตามรอยนะครับ หาแปรงแห้งปัดออกให้เกลี้ยงนะครับ เพราะไอ้ฝุ่นนั้นมันสีเทา ถ้ามีคงเหลือค้างไว้มันจะไม่สวยครับ
***การปัดฝุ่นออก อย่าใช้น้ำเด็ดขาดครับ เดียวมันจะมีผลต่อขั้นตอนถัดไปเป็นอย่างยิ่ง
ภาพที่ 10
11.ลงน้ำยาเคลือบไกด์ที่ผสมกัน 1:1 นั่นแหละครับ หาง่ายดี มีขายทุกร้านที่ขาดอุปกรณ์ตกปลา ไม่ต้องอีพอกซี่อะไรๆให้วุ่นวาย ตัวนี้แหละทั้งง่าย แข็งแรง และแววสวยงามตาครับ
Q-ทำไมจึงต้องเคลือบเพิ่ม กาวร้อนอย่างเดียวไม่พอหรือ
A-กาวร้อนอย่างเดียวไม่พอครับ เพราะกาวร้อนแพ้ความชื้น แพ้น้ำครับ เวลาใช้งานหรือจิ๊กไปนานๆ มันจะเปื่อยครับ เสียหายมาก ลองนึกเวลาน้าๆโดนกาวร้อนติดมือ และเมื่ออาบน้ำ มันก็จะหลุดออกได้เองครับ
Q-ทำไมจึงไม่ใช้ท่อหด เคลือบให้วุ่นวายทำไม
A-ใช้ท่อหดก็ได้ครับถ้าไม่มีเวลา แต่ถ้ามีเวลาใช้เคลือบแบบนี้ดีกว่าครับ เพราะเวลาใช้ท่อหดตอนล้างอุปกรณ์ทำให้ล้างเอาน้ำเค็มออกยากครับ น้ำเค็มจะแทรกตัวเข้าไปอยู่ในท่าฝั่งอยู่ในสาย ทำให้มันมีสนิมโดยที่เราไม่เห็น เพราะท่อหดมีสีทึบครับ
และกาวร้อนในท่อหด ก็จะชำรุดแน่นอนเมื่อโดนน้ำเค็มโดยตรงครับ
**การเคลือบขั้นตอนนี้ พยายามเคลือบให้ถึง คลุมกาวร้อนให้มิด แต่อย่าให้เหยิ้มมแฉะนะครับ เดียวตอนตากแห้งมันจะย้อยแล้วจะไม่งามครับ
ภาพที่ 11
12.ตากแห้งครับ ถ้าไม่โดนแดดก็ตากสัก 24-30ชม. นะครับ ให้น้ำยาเคลือบทำงานเต็มที่ไม่ต้องไปเร่งมันมาก ไม่ต้องผสมตัวเร่งแข็งให้เยอะนะครับ แห้งช้าๆนี่แหละดี มันไม่หนืดและแทรกเข้าร่องเข้าหลืบได้ง่ายกว่า
ภาพที่ 12
13.ผูกเบ็ดทั้งสองตาเสร็จไปแล้ว ทีนี้ก็มาผูก SolidRing ครับ ผมก็เลือกใช้ Owner ครับ ไหนๆก็ผูกเองแล้วเราก็ไม่ต้องจ่ายแพงอีกต่อไป เอาเงินส่วนนั้นมาซื้อวัสดุดีๆ ดีกว่าครับ
ภาพที่ 13
13.1 เริ่มต้นผูกตามภาพเลยครับ
Q-ทำไมจึงไม่ถักสายซ่อนกัน
A-เพราะมันทำยากกว่า และเวลาแทงสายด้วยลวดจะทำให้ปลายสายมันบานออกต้องตัดทิ้ง และสายที่ซ่อนซ้อนกันอยู๋นั้นคือการเปลืองโดยใช้เหตุ ผมเลือกShout 120lbsแล้วไม่จำเป็นต้องซ้อนกันในสาย หรือถัก
และการผูกท่านี้ก็ไม่ได้ทำให้ความแข็งแรงลดลงเลย
ภาพที่ 14
13.2ม้วนหัวสัก2รอบตามภาพนะครับ
Q-ทำไมต้องม้วน 2รอบครับ
A-เพราะถ้าเราม้วนทีเดียว เวลาเบ็ดติดปลาแค่ตัวเดียว จะเกิดแรงดึงจากปลาถึง SolidRing ซึ่งเงื่อนที่เรามัดแค่รอบเดียวนั้นจะรูดเข้ามาครับ เมื่อรูดจนสุด ก็จะเกิดแรงกระฉาก ณ วินาทีที่รูดจนสุด จังหวะนี้แหละครับ
ถ้าโชคร้ายก็คือปลาหลุดไปเลย
ภาพที่ 15
13.3 ก็ลอด SolidRing เข้าตามรูปเลยครับ
**ขั้นต้อนการผูก SolidRing ทุกขั้นตอนนี้ถ้าเป็นไปได้ ล้างไม้ล้างมือกันหน่อยนะครับ เพราะสายมันสีขาวเดียวมันจะดำเป็นขี้เป็ดแล้วมันจะไม่สวยครับ
ภาพที่ 16
13.4 ดึงปลาย SolidRing ขึ้นมาครับ
ภาพที่ 17
13.5 ดึงให้ตึงครับ
14.เสร็จงานแล้วครับ **สิ่งที่ยากที่สุดในการผูก SolidRing คือ เราจะผูกอย่างไร ให้สายเคฟล่าที่แข้งๆเหนี่ยะ มันหงายออกแบบนี้ แล้วตัวเบ็ดมันจะสวยเหมือนButterflyเลย
**อันนี้ไม่รู้จะอธิบายยังไงครับ แต่ที่รู้คือ น้าๆลองทำดูเองนะ เดียวจะเข้าใจมันเองครับ หรือถ้าไม่ซีเรียส เบ็ดจะเกสรเข้าหากัน หรือเบ็ดซ้อนตัวหันไปทางเดียวกัน ก็ใช้งานได้นะครับไม่มีปัญหา เรื่องตรงนี้ผมว่ามันคือความสวยงามมากกว่า
ถ้าใครบอกว่า เบ็ดต้องหันอย่างโน่น นี่....ผมว่า..ไม่จำเป็น จังหวะปลาชาจเหยื่อเรากำหนดองศาเบ็ดไม่ได้หรอกครับ
ภาพที่ 19
ยูนิฟอร์มพร้อมรบในทีมเหยือน เบ็ดกางใบกับชูธงรบ กับสีสันแบบ Japan ที่เข้ากับเหยื่อ Damiki กันอย่างลงตัว 5555
ภาพที่ 20
สุดท้าย ลากันด้วยภาพนี้ครับ เบ็ดจิ๊กผลงานผมเอง ตัวนึงเกี่ยวกับกริ๊ปเปอร์ อีกตัวนึงเหยื่อกับกระเป๋าเหยื่อจิ๊กที่มีเหยื่ออยู่เต็มทุกช่อง(นน.รวม 12กก.) ปรากฏว่าเบ็ดตัวนี้แข็งแรงดีครับ
ก็ยังขาดอยู่แต่ขั้นตอนการเอาไปตกใช้งานจริงดูนี่แหละครับ 5555....
ทำเองใช้เองคงมีผิดมีพลาดโปรดแนะนำกันด้วยนะครับ มิบังอาจสอนหรือแนะนำใคร ก็แค่แลกเปลี่ยนความรู้กันไป คำพูดใดที่ไม่เหมาะสม ขออภัยไว้ล่วงหน้าเลยนะครับ สี่ตีนมีพลาด นักปราชญ์มีพลั้ง
ปล. Q-เมื่อเสร็จงาน นิ้วเป็นไงบ้างครับ
A-พรุนจ้าา
^_^