น้าๆท่านใดอ่านข่าวเรื่องเบอร์มรณะแล้วบ้างช่วยตอบที
ภาพที่ 1
จากข่าวเดลินิวส์ครับ
ภาพที่ 1
'ชาวเหนือ'ขยาดลือคร่ากว่า 40 ศพ อจ.เตือนอย่าเชื่อ
อาจารย์วิศวฯ สยบข่าวลือเบอร์โทรมรณะ "ต่อติดตาย"ยืนยันเป็นไปไม่ได้ที่จะรับโทรศัพท์แล้วตาย แจงมือถือมีระบบกรองคลื่นความถี่ที่จะเป็นอันตรายต่อคน หลังชาวบ้านทั่วภาคเหนือผวาหนัก เบอร์สีเลือด-เลขตอง ไม่กล้ารับ บอกใครรับชะตาขาด เลือดออกปาก-จมูกจนตาย ทั้งที่ปกติสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ลือกระหึ่มมีคนสังเวยเบอร์มรณะไปแล้ว หลายศพ โดยเฉพาะแพร่ลือหนักถึงขนาดตายไปแล้วกว่า 40 ศพ พ่อแม่พากันห้ามลูกหลานอย่ารับเบอร์แปลกเด็ดขาด ขณะที่รองผู้ว่าเชียงใหม่เตือนอย่าหลงเชื่อ-เป็นไปไม่ได้ แนะใช้วิจารณญาณ
เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ จ.เชียงใหม่ รายงานว่าได้เกิดข่าวลือกันอย่างแพร่สะพัดเรื่องโทรศัพท์มรณะว่า หากผู้ใดรับโทรศัพท์ที่มีเบอร์แปลก ๆ ที่ลงท้ายหรือขึ้นต้นด้วยเลขตอง เช่น 081-333 xxxx หรือ 083-xxxx 444 หรือเบอร์โทรฯ ที่ตัวเลขเป็นสีแดงโชว์ที่หน้าจอโทรศัพท์ ผู้รับจะช็อกตายอย่างไม่ทราบสาเหตุทันที และลือกันว่า ที่ผ่านมามีคนเสียชีวิตไปแล้วหลายรายในหลายหมู่บ้านทางภาคเหนือ โดยข่าวลือดังกล่าวได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ทั้งจากการบอกเล่าปากต่อปาก และโทรศัพท์บอกกันเป็น ทอด ๆ ในเหล่าบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง สร้างความหวาดผวาให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก
นางนวล (นามสมมุติ) อายุ 55 ปี ชาวบ้านใน อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เรื่องเบอร์โทรฯ ที่ชาวบ้านร่ำลือกัน จนทำให้หวาดระแวงไปทั่วอำเภอนั้น ตนก็รู้ข่าวมาจากญาติที่อยู่ใน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ซึ่งได้โทรศัพท์มาบอกว่า คนในหมู่บ้านที่นั่นได้รับโทรศัพท์หมายเลขแปลก ๆ ที่โทรฯ เข้ามา พอรับโทรศัพท์ได้สักพักจะเกิดอาการชักกระตุก หน้าเขียวซีด และเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุในเวลาต่อมา ทั้งที่ปกติแล้วสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี นอกจากนี้บางรายพอรับโทรศัพท์มรณะปุ๊บจะล้มลงและเสียชีวิตทันที
ทั้งนี้ ไม่เฉพาะในเขตพื้นที่ อ.ไชยปราการ เท่านั้น ในเขตพื้นที่ อ.เชียงดาว อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ก็มีข่าวลือเช่นเดียวกันนี้แพร่กระจายอย่างหนักเช่นกัน ทำให้ทุกคนในอำเภอตอนนี้ต่างก็โทรศัพท์ไปหาญาติพี่น้อง และลูกหลานที่มีโทรศัพท์มือถือ หรือแม้กระทั่งโทรศัพท์บ้าน ว่าหากมีใครโทรฯมาหรือเบอร์แปลก ๆ อย่ารับสายเด็ดขาด ซึ่งตนไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะจริงเท็จแค่ไหน แต่รู้ต่อ ๆ กันมาว่ามีคนเสียชีวิตไปแล้วหลายคน แม้กระทั่งในต่างจังหวัด เช่นที่ จ.ลำปาง จ.น่าน และ จ.พะเยา ก็มีเรื่องในลักษณะแบบนี้เหมือนกัน
ด้าน นางสาวเมย์ (ไม่มีนามสกุล) อายุ 30 ปี เป็นชาวไทยใหญ่ บ้านอยู่ ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตนมาทำงานในตัวเมืองเชียงใหม่ และเมื่อไม่นานมานี้แม่ซึ่งอยู่บ้านที่ อ.ฝาง ได้ลงจากดอยและโทรศัพท์มาบอกว่า หากมีเบอร์แปลก ๆ ที่ขึ้นต้นด้วยเลขตองตั้งแต่ 000-999 อย่ารับสายเด็ดขาด ถ้ารับแล้วจะตาย ตอนนี้กลุ่มไทยใหญ่ก็ตายไปแล้วหลายคน ซึ่งตนได้จดเบอร์แปลกต่าง ๆ ที่แม่บอกไว้ใส่ติดกระเป๋าไว้ตลอดเวลา และตอนนี้รู้สึกกลัว ไม่กล้ารับโทรศัพท์มือถืออีกเลย หากไม่ใช่เบอร์ที่คุ้นเคย หรือเบอร์ที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์ เพราะกลัวว่าจะตายจริง ๆ
ตอนนี้ในกลุ่มไทยใหญ่ร่ำลือกันว่าเป็นเรื่องลี้ลับ อาจจะเป็นเบอร์ของคนตายที่ตายด้วยอุบัติเหตุ หรือตายโหง พอรับปุ๊บก็จะมีลักษณะคล้ายโดนไฟฟ้าช็อต หรือมีคลื่นความถี่บางอย่างเข้ามาที่หูอย่างแรง ทำให้แก้วหูแตกถึงขั้นหมดสติ และเลือดคั่งในสมองจนตาย สาวชาวไทยใหญ่ กล่าว
ด้าน ร้อยตรีชยันต์ อยู่สวัสดิ์ นายอำเภอฝาง จ.เชียงใหม่ กล่าวถึงข่าวลือประหลาดนี้ว่า สำหรับเรื่องเบอร์โทรฯ ลึกลับนี้ตนยังไม่ทราบข้อมูลที่ชัดเจน แต่หากมีเรื่องที่กลุ่มชาวบ้านหวาดผวากันขนาดนี้ ตนก็จะเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงกับชาวบ้านอีกครั้ง ว่าเรื่องราวแท้จริงเป็นอย่างไร และต้นสายของเรื่องมาจากไหน เพื่อจะได้ทราบข้อสรุปที่ชัดเจน และทำให้กลุ่มชาวบ้านเกิดความสบายใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกระแส ข่าวเรื่องเบอร์โทรฯมรณะนี้ ได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในตัวเมืองเชียงใหม่ มีการโทรฯ มาสอบถามถึงข่าวลือดังกล่าวจนวุ่นวายไปหมด และลุกลามไปยังหลายจังหวัดภาคเหนือตอนบน ไม่ว่าจะเป็นที่ จ.เชียงราย พะเยา ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่อง สอน แพร่ และน่าน นอกจากนั้นยังมีสถานีวิทยุหลายแห่งที่เปิดโอกาสให้ผู้ฟังโทรศัพท์เข้ามาขอเพลง บรรดาประชาชนที่โทรฯ เข้ามาต่างสอบถามเรื่องราวของโทรศัพท์มรณะกันเป็นจำนวนมาก
ส่วน นายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ รอง ผวจ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า กรณีกระแสข่าวที่ทำให้ชาวบ้านกลัวเกี่ยวกับเบอร์โทรฯ ลึกลับ หรือเบอร์โทรฯ สยองรับแล้วตายนี้ อยากบอกพี่น้องประชาชนว่าอย่าไปตื่นตระหนกกับเรื่องแบบนี้ เพราะมันไม่เป็นความจริง และเป็นไปไม่ได้ เป็นเรื่องของการใช้จิตวิทยา และเล่ากันปากต่อปาก อย่างไรก็ตาม จะให้นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าไปดูแลและอธิบายกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความสบายใจ และไม่หลงเชื่อไปกับกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดี ที่จงใจกระทำให้เกิดเหตุการณ์โกลาหลดังกล่าวขึ้น
ขณะที่ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ลำปาง ราย งานว่า ขณะนี้หลายอำเภอทั่วทั้ง จ.ลำปาง มีข่าวลือแพร่สะพัดว่ามีคนเสียชีวิตหลายราย หลังจากรับโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีหมายเลขมรณะโทรฯ เข้ามา โดยเฉพาะ บ้านไร่ หมู่ 4 ต.หัวเมือง อ.เมืองปาน จ.ลำปาง มีชาวบ้านเสียชีวิตแล้ว 3 รายนั้น ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงไปที่ นายชำนาญ เลียบโลก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหัวเมือง ระบุว่า ข่าวที่มีผู้เสียชีวิตจากกรณีดังกล่าวเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น แต่จากการสำรวจพบว่าชาวบ้านเกิดความกลัวและมีความเชื่อในเรื่องเบอร์มรณะจริง
ข่าวลือเบอร์โทรศัพท์อันตรายนี้ ถือว่าเป็นความเชื่อของแต่ละบุคคลที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ แต่เมื่อมีข่าวลือมาจะไปบังคับให้แต่ละคนไม่ให้เชื่อก็เป็นไปไม่ได้ แต่ควรใช้วิจารณญาณด้วย อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่ามีข่าวลือจริง และชาวบ้านในอำเภอเมืองปานก็พากันหวาดกลัวเบอร์โทรฯมรณะนี้ โดยบางคนเชื่อว่าเมื่อรับเบอร์โทรฯมรณะ จะมีการปล่อยคลื่นความถี่สูงผ่านโทรศัพท์มายังผู้รับจนทำให้เสียชีวิต ซึ่งในเรื่องนี้ผมจะได้รายงานไปยังฝ่ายปกครองให้ได้รับทราบว่า ยังไม่มีผู้เสียชีวิตในพื้นที่ด้วยสาเหตุจากข่าวลือดังกล่าวแต่อย่างใด นายก อบต.หัวเมือง กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.แพร่ เช่นกันว่า เกิดกระแสข่าวลือโทรศัพท์มรณะ 3 หมายเลขคือ 087-576XXXX 08-3333-6867 และ 08-9336-6567 ถ้าใครรับโทรศัพท์หมายเลขดังกล่าว จะต้องชะตาขาดเสียชีวิตทันที โดยลือว่าที่ จ.น่าน มีผู้รับเบอร์โทรฯมรณะจนเสียชีวิตไปแล้วกว่า 40 ราย แถมล่าสุดมีรายงานว่า ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ มีเสียงตามสายของงานประชาสัมพันธ์วิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.แพร่ ประกาศเตือนนักศึกษาให้ระมัดระวัง อย่ารับโทรศัพท์ทั้งสามหมายเลขดังกล่าว
นายธนวัฒน์ เบี้ยจรัส อายุ 35 ปี มีอาชีพขายกาแฟสดอยู่ที่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ กล่าวว่า ในช่วงสายของวันนี้ตนได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนที่ทำงานอยู่ภายในวิทยาลัยดังกล่าว แจ้งว่าที่วิทยาลัยได้มีประกาศเตือนให้นักศึกษาระวังอันตราย ห้ามรับโทรศัพท์ 3 หมายเลข เพราะอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ พร้อมระบุด้วยว่า หลังจากมีหมายเลขโทรฯศัพท์ดังกล่าวโทรฯเข้าหา เมื่อกดรับหน้าจอโทรศัพท์จะเป็นสีแดง และได้ยินเสียงพระสวดศพ สักพักผู้รับโทรศัพท์จะมีเลือดกำเดาออกและมีเลือดออกทางปาก จากนั้นไม่นานจะเสียชีวิตทันที
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา ทางผู้อำนวยการของวิทยาลัยดังกล่าวได้ออกมาปฏิเสธ โดยยืนยันว่าทางวิทยาลัยไม่ได้ประกาศเตือนนักศึกษา หรือบอกให้นักศึกษางดการรับโทรศัพท์หมายเลขดังกล่าวแต่อย่างใด เพราะเป็นเรื่องที่ขาดหลักการและไม่มีเหตุผลเพียงพอให้น่าเชื่อถือได้
ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวพบว่ามีกระแสของข่าวลือเกี่ยวกับโทรศัพท์มรณะดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยระบุว่ามีผู้เสียชีวิตจากโทรศัพท์มรณะเกิดขึ้นอีก 2 รายที่ ต.เวียงทอง อ.สูงเม่น จ.แพร่ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสังเกตการณ์ ปรากฏว่าไม่พบผู้เสียชีวิตและไม่มีการแจ้งความแต่อย่างใด ซึ่งถือว่าเป็นข่าวลือที่มีการแพร่สะพัดอย่างรวดเร็วโดยไม่ทราบสาเหตุ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลองโทรศัพท์ไปยังหมายเลขมรณะทั้ง 3 หมายเลข พบว่าหมายเลข 087-576XXXX มีผู้รับสายเป็นชาย แต่พูดสำเนียงภาษาไทยไม่ชัด โดยบอกว่าอยู่ที่ อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ แต่เมื่อสอบถามถึงกระแสข่าวลือดังกล่าว เจ้าของโทรศัพท์ได้ปิดโทรศัพท์ทันที และจากนั้นไม่ยอมรับโทรศัพท์อีกเลย ส่วนอีก 2 หมายเลขพบว่าเป็นหมายเลขที่ไม่มีในระบบของโทรศัพท์
ในส่วน รศ.โกศล โอฬารไพโรจน์ หัวหน้าสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนาภาคพายัพ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า การที่มีกระแสข่าวลือไปทั่วภาคเหนือ ว่ามีเบอร์โทรศัพท์มรณะ หรือหมายเลขอันตราย เป็นเบอร์สีแดงโทรฯ เข้ามาเมื่อใครรับสายก็จะเสียชีวิตนั้น เรื่องนี้ตามหลักทฤษฎีด้านวิศวกรรมของโทรศัพท์มือถือนั้น ก่อนที่ผู้ผลิตจะนำมือถือออกจำหน่าย จะต้องมีการทดสอบอุปกรณ์และความพร้อมของโทรศัพท์ก่อนแล้ว โดยเฉพาะเรื่องของการจำกัดคลื่นเสียง ว่าสมควรให้ได้ยินในระดับไหน หากคลื่นความถี่เสียงสูงเกินไป ก็จะถูกอุปกรณ์ที่อยู่ภายในหรือตัวกรองความถี่เสียงตัดเสียงดังกล่าวออกไป ดังนั้นเรื่องการรับโทรศัพท์แล้วทำให้เสียชีวิตนั้น คิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นได้
นอกจากนี้ บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส โดยนางวิไล เคียงประดู่ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานประชาสัมพันธ์ ชี้แจงกรณีเบอร์โทรฯ มรณะ ที่ลือกันว่าหากรับสายจาก 3 เบอร์โทรฯ ดังกล่าวจะทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตนั้น บริษัทขอเรียนว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เนื่องจากในทางเทคนิคโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่สามารถส่งผ่านคลื่นความถี่ในช่วงที่จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนได้.