ภาพที่ 1
บทความนี้ผมเขียนขึ้นมาจากการพบเห็นชีวิตของนักตกปลาท่านหนึ่ง ที่ได้เดินทางมาจนถึงทางตันในหัวใจตัวเองด้ายคำพูดที่ว่า (เล่นมาสุดแล้ว) โดยที่เค้าก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่า เค้าได้สร้างกำแพงที่ไม่สามารถข้ามผ่านอุปสรรค์ในใจตัวเอง และหลงอยู่กับความสำเร็จ ความภาคภูมิใจในสิ่งที่ตนได้ทำไปในอดีต แต่ดันลืมไปว่า ความรู้ในเรื่องของการตกปลามันไม่มีที่สิ้นสุด มันไม่มีอะไรถูก ไม่มีอะไรผิด มันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เปลี่ยนไปตามกาลเวลาของมัน คำว่าเล่นมาจน “สุดแล้วทุกอย่าง” มันทำให้เค้าไม่สามารถข้ามไปต่อ ในกิจกรรมการตกปลาหลายๆ ประเภท หลายๆ ชนิด หลายๆ อุปกรณ์ จนทุกวันนี้ผมยืนมองเค้าตกปลาด้วยวิธีการแบบเดิมๆ ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย และไม่ได้ปลา
เรื่องมีอยู่ว่าวันหนึ่งผมได้ไปเจอกับนักตกปลาท่านนี้ ที่หลงใหลการตกปลาด้วยวิธีการตีเหยื่อปลอมในแบบของเค้า ด้วยอุปกรณ์ในแบบของเค้า และไม่ได้ปลาเหมือนเดิม และไม่ยอมเปลี่ยนวิธีการตก ไม่เปลี่ยนอุปกรณ์ ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับเขาครั้งสองครั้งถึงแนวทางอื่น ๆ ผมได้คำตอบจากเค้าว่า เล่นมาจนสุดทุกอย่างที่มี แล้ววิธีที่เค้าทำอยู่มันดีที่สุดแล้ว ไม่มีอะไรดีกว่านี้อีกแล้ว
ผมจึงนึกสงสัยว่าเค้าต้องเป็นมือโปรระดับชาติแน่ ๆ เล่นมาจนสุดขนาดนี้เราอาจจะได้ความรู้จากเค้าบ้างไม่มากก็น้อย ผมเลยตามไปดู จึงพบว่าไม่มีอะไรเลย ไม่เคยได้รางวัลที่ไหน ไม่เคยได้รับเชิญไปไหน ไม่ได้เป็น Tester อะไร สรุปไม่มีอะไรเลยเสียเวลาที่ติดตาม แต่ไม่เสียเปล่า ผมได้บางสิ่งกลับมาจากเรื่องนี้ครับ
และสุดท้ายผมได้คำตอบในใจตัวเองว่าเรายังมาไม่สุดมันมีอะไรใหม่ ๆ ให้เราได้ลองได้ค้นหา ผมเองก็ตกปลามานานและยอมรับว่า ความรู้สึกที่ว่ามันสุด ๆ ก็เคยเกิดขึ้นกับใจของผมเหมือนกัน แต่พอผมได้ไปตกปลาทะเล ได้ไปตกปลาตามเขื่อนต่างๆ ได้ไปขับเรือหลาย ๆ ลำ ผมจึงพบว่าโลกของการตกปลามันช่างกว้างใหญ่ไพศาล จนผมคิดไม่ถึง
และขอฝากบทความนี้ให้กับน้า ๆ ที่รู้สึกว่าเรามาจนสุดแล้ว ให้ได้เปิดโอกาสให้ใจของเรามองผ่านความสำเร็จในอดีตของตัวเราเอง แล้วข้ามผ่านไปสู่กิจกรรมการตกปลาอื่น ๆ ที่มีอีกมากมายบนโลกใบนี้ แล้วคำว่า “สุด” ที่เป็นกำแพงมันจะไม่เกิดขึ้นในใจของน้าๆ อย่างแน่นอนครับ ขอให้สนุกกับสิ่งใหม่ ๆ ยอมรับวิถีทางใหม่ ๆ แล้วเราได้ตื่นเต้นที่จะเรียนรู้ไปกับมัน อย่าเอาคำว่า “สุด” มาเป็นกำแพงปิดกันตัวเองโดยไม่รู้ตัว ขอบคุณครับที่อ่านจนจบ