เรื่องสยองของคนหลังคัน: SiamFishing : Thailand Fishing Community
123>
กระดาน
คห. 66 อ่าน 20,409 โหวต 30
เรื่องสยองของคนหลังคัน
mr.x(104 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ตั้ง: 10 มิ.ย. 53, 13:58
เรื่องเล่าสยองขวัญ รวบรวมจากประสบการณ์ของคนตกปลาอย่างเราๆ หรืออาจเป็นเรื่องที่คิดไปเอง เปลี่ยนบรรยากาศให้ดูน่าตื่นเต้น หรือใครเคยเจอเรื่องแปลก เล่าสู่กันฟังมั้งก็ดีครับ หนุกดี

********************************************************

คุณหมีพู
เคยเจอหนนึงครับ...

ไปตกปลาที่ บึงไทรน้อยวิลเลจ( เดี๋ยวนี้ปิดไปแล้ว ) กับเพื่อนอีกสองคน รวมเป็นสามคน วันนั้นไม่รู้เป็นอะไร หลอนเลยครับ เหตุการณ์เป็นงี้...

...ผมชอบตกปลาเกมส์ครับ ประเภท สวายใหญ่ ๆ ยี่สก หรือ นวลจันทร์ ซ่ง  ที่ว่าเป็นปลาเกมส์เพราะ ที่นี่ ปลาใหญ่มาก ๆ ครับ สวายมีตั้งแต่ 4 ถึง 20 โล ยี่สก นวลจันทร์ 5 โลอัพ ผมเคยได้ยี่สก  9 โลกว่า ๆ ครับ  ซ่งฮื้อ นี่ระดับ 10 กว่าโลเพียบ  ผมก็ไปตกกันเป็นประจำครับ  จนมาครั้งหนึ่ง ผมไปตกที่บ่อนั้นรตามปกติ แต่น้ำเสียก่อนวันที่ผมไปตกได้สัก 3-4 วันแล้ว ปลาตายเพียบเลยครับ และ ส่วนใหญ่เป็น ปลาซ่ง และ ตะเพียน โอ้โห แต่ละตัวขนาดไม่ใช่เล็ก ๆ เลยครับ  เหม็นไปหมดทั้งบ่อ แต่เค้าก็เปิดให้ตกนะครับ (แต่ไม่มีคนตกเลยวันนั้น เพราะคงทนไม่ไหว) ผมก็เห็นว่ามันเป็นที่โล่ง ลมพัดเย็น ๆ เรื่อย ๆ กลิ่นก็ไม่ได้แรง พอทนได้ ก็ตกปลากันไป แต่ปลาไม่ค่อยกิน สาย  ๆ หน่อย เพื่อนผมที่ชอบตกปลานิล ด้วยคันสปิน และ รอกเล็ก ๆ  โดนปลาลากยาวเลยครับ ผมยังหัวเราะแซวมันว่า .....เอ๋ย เจอสวายผิดคิวเข้าแล้ว  มันก็จับคันวัด และ อัดคันโก่งเลยครับ หนักตื้ออยู่เป็นนาน ปลาก็สู้ มันเป็นสวายแน่ ๆ แต่พอเอาเข้าถึง ริมตลิ่ง สามคนที่ตกปลาอยู่ด้วยกันวันนั้น ตลึงเลยครับ ไอ้เพื่อนผมคนที่อัดเข้ามา หน้าซีดเลย (มันเป็นคนกลัวผีอยู่ด้วย) สิ่งที่ติดเบ็ดมา เป็นปลาแน่นอนครับ ทุกคนก็เห็น แต่มันเป็น ปลาที่มีแต่กระดูก ทั้งตัว  ทั้งหัวและตัว เห็นแต่กระดูกที่มีเนื้อหนังติดกระรุ่งกระริ่งหมดแล้ว แต่ เบ็ดติดอยู่ในปากด้วย  จริง ๆ ครับ มันเป็นแค่ซากปลาตาย ที่ไม่กระดุกกระดิกสักนิด เพื่อนผมอีกคนรีบเอาคีมปลดเบ็ดที่คาอยู่ที่กระดูกปากออก แล้วหันมามองหน้ากันทั้งสามคน ด้วยความสงสัย  แล้ว ไอ้ตัวที่ลากสายยาวเหยียด กับ ดึงคันโก่งแล้วโก่งอีกน่ะ มันคือไอ้ตัวนี้หรือ  สยองไปเหมือนกันครับ  มันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้  ที่ปลาที่ติดอาจจะหลุดไป แล้วเกี่ยวเอาไอ้ซากนี้ขึ้นมา แต่ ทำไม  เบ็ดติดอยู่ที่ปาก ทำไมซากไม่ลอยน้ำเหมือนปลาตายทั่วไป แล้ว ระหว่าง อัดปลาก็ไม่ได้รู้สึกว่าเบ็ดหลุดแต่อย่างไร คันถูกดึงโก่งมาจนกระทั้งเห็นตัว แต่พอเห็นตัว กลับเป็น ปลาตาย งงมากครับ...

********************************************************


คุณ Lukmaesai
ผมเคยเจอหลายครั้งครับเพราะว่าชอบค้างแรมตกปลากลับเพื่อน ๆ บ่อยครับเอาสักเรื่องหนึ่งนะครับ

เรื่องมีอยู่ว่าพอดีเพื่อนผมมีแฟนอยู่ที่จังหวัดพะเยาน่ะครับ ตอนพาแฟนกลับไปเที่ยวพะเยาก็ชวยเพื่อน ๆ ไปด้วยกันประมาณ 8 - 9 คนครับ พอหลังจากไห้วผู้ใหญ่เสร็จก้อพากันไปตกปลาที่อ่างเก็บน้ำแถวนั้น ( จำชื่ออ่างไม่ได้ครับ ) ตกอยู่นานปลาก็ไม่เข้ามากินเลยก็เลยกะจะนอนค้างที่นั้น แต่ผู้ใหญ่บอกว่าอ่างนี้นอนไม่ได้ ...... ดุ ก็เลยจะพาไปนอนอีกที่หนึ่งที่สามารถนอนค้างได้ พอซักพักก็เก็บสัมพาระเพื่อย้ายหมายครับเชื่อไหมครับว่า พวกผมทุกคนรวมทั้งพวกผู้ใหญ่ก็ได้ยินเสียงปลาขึ้นน้ำครับดังมาก ๆ เลยครับเหมือนกับก้อนหินที่หนักเป็นตัน ๆ ตกน้ำเลยครับดังมาจากด้านในของอ่างครับแต่ไม่เห็นน้ำสั่นเลยครับ และตลอดทั้งวันก็ไม่มีปลาขึ้นน้ำมาให้เห็นเลย จึงพากันรับกลับและย้ายหมายต่อไป

พอมาถึงหมายที่สองโดยปลอดภัยก็จัดแจงประกอบคันและส่งเหยื่อลงน้ำก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรขึ้นเลยพวกเราก็นั้งตั้งวงรอเวลาปลาเข้าชาร์ตเหยื่อจนประมาณตี 2 น้องของเพื่อนผมเกิดปวดฉี่ขึ้นมาก็เลยชวนเพื่อนไปด้วยกันแต่อีกคนไม่ไปก็เลยไปคนเดียวแต่ตอนกลับมาเพื่อนอีกคนเห็นมา 2 คนก็เลยถามอีกคนว่าไปกับใครน้องคนนั้นก็ตอบว่าไปคนเดียวหลังจากนั้นพวกเราก็เฉย ๆ ประมาณตี 3 พวกผมก็เฝ้าต่อไม่ไหวก็เข้าไปนอนพอซักพักนี่ซิครับ พี่สาวผมและคนที่เข้านอนยังไม่หลับก็ได้ยินเสียงมีคนเดินรอบ ๆ เต้นที่พัก ทุกคนนิ่งเงียบอยู่นาน พีผมก็ออกมาดูเพราะนึกว่าหมามาแอบกันอาหารปลาแต่ก็ไม่เจออะไรเลยก็เลยเข้าไปนอนต่อสักพักก็ได้ยินเสียงมาอีก แต่ก็ไม่ได้ลุกขึ้นมาดูอีก  พอตอนเช้าก็มาถามดูว่าใครได้ยินบ้างทุกคนตอบพร้อมกันว่าได้ยินแต่ไม่กล้าออกมาดูครับจากนั้นก็เก็บของกลับบ้านครับ นี่ขนาดที่ว่าอ่างเก็บน้ำที่สามารถนอนค้างได้นะครับแล้วที่นอนค้างไม่ได้จะเป็นยังไง.

ปล. ตอนเข้าไปตกปลาที่ไหนพวกผมก็จะขออนุญาติเจ้าที่ทุกครั้งครับ

*****************************************************************************

คุณ MR.QMR
เคยเจอเหมือนกันครับ 10 ปีแล้ว ตอนเรียนมหาวิทยาลัยนเรศวร ปี 4 ที่พิษณุโลก ชอบตกปลาสวาย  บนสะพานข้ามแม่น้ำน่านตอนกลางคืน (เพื่อนนักตกปลาชาวพิดโลก นิยมกันมากๆ) ผมชอบไปตกบนสะพานท่าโพธิ์ - หนองอ้อ ทางเลี่ยงเมืองไป ม.นเรศวร (มอ.นอก) เพราะใกล้หอพัก พวกผมไปกัน 3 คน เบ็ด 5 ชุด มีเพื่อนๆ นักตกปลากันหลายกลุ่ม 20 กว่าคน ก็นั่งกินเบียร์ สมัยนั้น Leo สามขวดร้อย ได้ปลากด size 2 โลมาตุนไว้ 1 ตัว เพื่อนกลุ่มข้างๆ ก็ได้สวายขึ้นมาเรื่อยๆ ก็เฮกันละครับ เพราะส่วนใหญ่ก็รู้จักกัน ทีนี้ซิครับตอนตี 1 ปลากินเบ็ดเพื่อนผม อัดปลานานมากครับ มีการดึงสายออกเรื่อยๆ ลากออกซ้าย-ขวา เสียงกรีดร้องของ abu 6500 สะท้านใจเลย คันนางเงือก 10 ฟุตงี้โง้งน่ากลัวครับ  เพื่อนผมมันมั่นใจมากเพราะใส่สาย 30 ปอนด์โหลด อัดปลาประมาณ 20 นาที เพื่อนๆกลุ่มอื่นก็มาเชียร์ครับคิดว่างานนี้บิ๊กหวายแน่ๆ แต่พอตักขึ้นมาได้เนี่ยหัวใจแทบวาย    หัวกระโหลกคนครับ ขาวโพลนเลย เบ็ดติดตรงปากเลย คนเนี่ยแตกฮือเลยครับ เพื่อนผมหน้าซีดมือสั่น พอดีมีสักพักสายตรวจผ่านมา เลยแจ้งความ ทุกกลุ่มเก็บเบ็ดกลับหมดเลยทันที หลังจากวันนั้นพวกผมก็ไม่ได้ไปตกปลาที่แม่น้ำน่านอีกเลย แหยงเลยครับ จนเรียนจบ ยิ่งเพื่อนผมด้วยแล้วสยองครับมันเอาคันกับรอกขายทิ้งเลย (แค่พันเดียว) คนที่เรียน มน.เมื่อก่อนจะรู้ดีครับว่าแม่น้ำน่านช่วงนี้ โดยเฉพาะหน้าวัดคุ้งวารี ท่าโพธิ์ มีศพลอยมาติดอวนคนหาปลาบ่อยๆ


******************************************************************************

คุณ ปลาจรวด
ใครเคยไปนอนตกปลาที่เขาเต่า ที่หัวหินบ้างครับ ผมเคยเจอที่นั่นแหละ บนนั้นจะมีปากถ้ำอยู่ พวกผมไปกัน 6 คนหลังจากวางเบ็ดเสร็จก็หุงหาอาหารกินกันโดยเอาปลาที่ได้มาทำกับข้าว แต่พอตอนคดข้าวใส่จาน เพื่อนผมกับคดข้าวใส่จาน 7 ใบ ก็เลยถามเพื่อนมันว่า เฮ้ย มากัน 6 คนทำไม คดข้าว 7 จาน มันบอกว่าก็..นับแล้วนี่หว่าว่ามี 7 คน นั่นไงนั่นมันออกมาจากรูถ้ำพอดีตอนนั้นซัก 3 ทุ่มได้แล้ว พระจันทร์ก็สว่าง พวกเรา 5 คนไม่มีใครเห็น ไอ้เพื่อนที่คดข้าวมันกับเห็นว่ามีคนออกมาจากรูถ้ำ พวกเราได้แต่เงียบไม่พูดกันเลยผมงี้นั่งเสียวสันหลังวาบๆเลย ก็เลยบอกเพื่อนคนที่คดข้าวว่า สงสัยเป็นเจ้าที่เจ้าทาง .....เอากับข้าวใส่จานแล้วจุดธูปเรียกเขากินที หลังจากนั้นพวกเราเก็บเบ็ดจะกลับกันก็กลับไม่ได้อีก น้ำค้างลงแรงมากโขดหินตรงหน้าผามันลื่นต้องกลับมานอนกันตรงที่เราตกปลาอีก ต้องรอจนสายของอีกวันจึงลงกันมาได้หลังจากนั้นพวกเรา 6 คนไม่มีใครไปตกปลาที่นั้นกันอีกเลย


*******************************************************************************

ทีมนักล่าไอ้ตาใส
เคยเจอเหมือนกันตอนไปตีปลาช่อนเป็นคลื่นน้ำวิ่งผ่านจุดที่ตีเหยื่อปลอมเหมือนมีปลาประมาณกระเบนราหูยักษ์วิ่งอยู่ใต้น้ำ
พอดีเจอคนแถวนั้นบอกว่ามีคนตายโดนรถแบคโฮหมกอยู่ตรงนั้น......สยิวดี...

*******************************************************************************

คุณ wa

เหอๆๆๆ ผมเคยเจอบ่อยๆ สมัยอยู่เชียงใหม่ อ่างห้วยตึงเฒ่า นะคับ มีคนตายเยอะจิง ดุจิงๆ ถามคนเชียงใหม่ในนี้ก้อได้ถ้าใครเคยไปเฝ้าปลา กลางคืนนะคับ หลอนเลยย ไปทีไร เพื่อนโดนทุกที แบบว่า เพื่อนคงมีบุญอะคับ ผมมันคนบาป มีผมคนเดียวไม่เคยเจอจะๆ อืมม เอาเรื่องไหนดีหว่า เอาที่เพื่อนเคยเจอ หน้าเขื่อนดีกว่าคับ วันนั้นผมไม่ได้ไปกับเพื่อนรุ่นพี่ เค้าเลยไปกับน้องเมีย กันสองคน ไปตกปลาอยู่หน้าเขื่อน ตรงที่เป็นแพพักผ่อน แบบว่า อยู่คนละแพกัน นั่งสักพัก มีเสียงคนเล่นน้ำ หันมองไปแพข้างๆเหมือนกับนั่งเอาเท้าแกว่งน้ำเล่น ก็ตะโกนว่า น้องเมียไปทีนึงว่า ตกปลานะเว้ย เล่นน้ำงี้ปลาที่ไหนจะกิน เงียบไปสักพัก คราวนี้ได้ยินเสียงโดดลงน้ำเลย ตูม มีเสียงว่ายน้ำจ๋อมแจ๋ม รุ่นพี่ก็โมโห ฉายไฟฉายไปดู ไม่เห็นใคร น้ำก็เรียบกริบ ไม่ได้เอะใจอะไร สักพัก น้องเมีย เดินมาหา เลยโดนว่าไปชุดใหญ่ น้องเมียก็งงๆ เอ้าพี่ ผมไปตกปลาอยู่นู่นๆ หัวแพนู่น ห่างจากพี่เป็นสิบแพ ไปตั้งแต่เย็นแล้ว เพิ่งเดินกลับมาหาพี่นี่แหละ รุ่นพี่เหวอเลย อ้าวแล้ว คนที่อยู่แพข้างๆเมื่อกี้ตั้งแต่เย็นไม่ใช่.....เหรอ ไม่ใช่คับพี่ คำตอบนี้ทำให้เกิดอาการหลอนของทั้งคู่เลย ตอนที่เรามา มีแต่เราสองคนนะที่อยู่เฝ้าปลาอะ จากนั้นก็มีเสียงคนเดินบนถนน หันไปดู ไม่มีใคร ชักยังไงๆ แล้วสักครู่ก็มีเสียงทำลายความเงียบ เสียงเหมือนคนโดดลงน้ำแล้วว่ายน้ำเล่น รุ่นพี่ยังไม่กลัวไร ฉายไฟดู ผืนน้ำเรียบกริบ จากนั้นก็ตัวใครตัวมันเลย เบ็ดไม่ต้องเก็บมัน ค่อยมาเก็บตอนเช้า


*******************************************************************************

คุณ Sarat.L

ผมก็เคยเจอเหมือนกันครับ แต่มันก็นานแล้วสมัยยังเรียนอยู่ เรื่องก็คือว่าบ้านผมอาศัยอยู่แถว สี่แยกสาธุประดิษฐ์ สมัยก่อนละแวกนี้นั้น พวกผมนิยมตกปลากันที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อก่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาจะมีหลายหมาย มากเพราะติดริมแม่น้ำ โดย พวกผมจะตกปลาจำพวก ปลาสวาย ปลาดุก แต่มีอยู่หมายหนึ่งปลาดุกกินดีมาก ๆ ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้หมายที่ว่านี้ก็ คือ ใต้สะพานนิคมอุตสาหกรรมที่เชื่อต่อระหว่าง ถ.พระราม 3 ไปยังสมุทรปราการ ซึ่งสมัยก่อนหมายนี้นั้นลักษณะ คือ เป็นที่ร้างขนาดใหญ่มีหญ้าขึ้นสูงประมาณเกือบถึงเอว โดยทางรถที่วิ่งได้ก็คือรถมอเตอร์ไซค์ วิ่งผ่านสวนกันเท่านั้น นอกนั้นจะมีแต่หญ้าขึ้นรกสูง ด้านซ้ายมือสุดที่ก็จะเป็นวัด ซึ่งชื่อว่าวัดคลองภูมิ ด้านขวามือก็จะเป็นที่ติดคลองเล็ก ๆ โดยมีบ้านคนอาศัยอยู่ประมาณต้น ๆ ถ้าเข้าไป ลึก ๆ ก็จะไม่มีบ้านคนอาศัย โดยวันที่ผมเจอนั้น เรื่องมีอยู่ว่าพวกผมชอบตกปลากันกลางคืน แล้วจะกลับบ้านอีกทีก็ตอนเช้า ๆ โดยผมจะเป็นรุ่นพี่ใหญ่สุด ในกลุ่มก็จะขับมอไซค์นำหน้า ส่วนพวกเพื่อน ๆ ก็จะขับตาม ๆ กันมา 2 - 3 คัน ต้องตาม ๆ กันเพราะทางเข้าหมายมันแคบ และขรุขระ ส่วนรถที่ผมขี่นั้นไฟหน้า ก็ไม่ค่อยสว่าง เพราะเป็นรถเก่า ถ้าจะให้สว่างต้องเบิ้ล เครื่องมันถึงจะสว่าง ระหว่างทางที่ค่อย ๆ ขี่ไป เบิ้ลเครื่องไปนั้น เกือบใกล้ถึงหมายอยู่แล้ว สายตามผมเหลือบไปเห็นร่าง คน ลาง ๆ ซึ่งผมคิดว่าเป็นผู้หญิงเพราะ ตัวเล็ก ๆ ผมยาว ๆ เดินตัดผ่านหน้ารถผมไป โดยห่างกันประมาณซัก 6 - 7 เมตร ได้ ณ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร แถมหยุดรถให้คนเดินข้ามไปก่อน อีกทั้งผมยังเบิ้ลเครื่องให้ไฟสว่าง ส่องทางให้อีกโดยหันแฮนด์มอไซค์ จากด้านขวามือ ค่อย ๆ เลื่อนไปยังด้านซ้าย แต่พอร่างคนที่เดินตัดหน้ารถไปด้านซ้ายนั้น อยู่ดี ๆ ร่างคนก็หายไปเฉยเลย ต่อหน้าต่อตาผมเลย โอ้โหในใจโดนแล้ว หันไปข้างหลังถามเพื่อนที่นั่งซ้อนท้ายรถ ว่าเห็นอะไรหรือเปล่า เพื่อนบอกไม่มีอะไร แถมยังถามผมอีกว่าหยุดรถทำไม ในใจเห็นคนเดียวหรือเนี่ย แต่ผมก็ยังเฉย ๆ ไม่กล้าที่จะบอกเพื่อนเพราะกลัวเพื่อน ตกใจแล้วรีบขับรถกลับเพราะมันค่อนข้างอันตรายทางมันขรุขระ ก็เลยตัดสินใจว่าให้ถึงหมายก่อน แล้วค่อยบอกดีกว่า พอถึงหมายผมก็บอกเพื่อน ๆ ทันที พอเพื่อนผมรู้เรื่องที่ผมเล่าเท่านั้น ก็รีบขึ้นมานั่งที่รถ รีบ ขับกลับทันที ตั้งแต่นั้นมาหมายแห่งนี้ผมก็ไม่เข้าไปตกอีกเลย จนทุกวันนี้ความเจริญเข้ามา มีสะพานข้ามไปสมุทรปราการ อีกทั้งใต้สะพานยังเป็นสวนสาธารณะ แล้วครับ


*****************************************************************************

Exp.สุริยา

เคยที่เขื่อนศรีครับ แต่อาจจะไม่ใช่ก็ได้แต่ก็ทำผมนอนไม่หลับทั้งคืน  คือผมไปเที่ยวตกปลาที่แพแห่หนึ่งอ่ะครับ ตอนกลางคืนผมจะตกหน้าดิน เวลาผมตีเหยื่อลงไป น้ำมันลึก สายก็จะวิ่งออกจากรอก นานพอประมาณ มีอยู่ครั้งนึง ผมตีออกไป สายมันวิ่งเหมือนตอนเหยื่อจมอ่ะครับ แต่ไม่หยุดสักที ผมปล่อยสายหมดไปครึ่งหลอดกว่าๆแล้ว ก็เลยแปลกใจอ่ะครับที่แรกยังไม่คิดอ่ะไรมากเลยกระชากกลับ นึกว่าปลามาชาร์จ ดึกกลับมา มีแต่สายเปล่าๆครับ งงเลย สายเอ็นยังไม่ทันตึงเลยตอนผมกระชาก  ตอนนั้นผมอยู่ที่แพกัน4คน ไปกันแค่4คนอ่ะครับ ชาย2หญิง2 เพื่อนผมทั้งหมดยังไม่เคยมาเที่ยวแบบนี้ผมเลยไม่กล้าเล่าให้ฟังในคืนนั้นครับ บอกไปแค่ว่าสงสัยปลากิน แล้วขาด ไม่กล้าบอกมันครับ เพราะกลัวชวนมันแล้วไม่มาอีก


*******************************************************************************

คุณ ปลาข่อน

ผมก็เคยเจอที่เขาเต่าครับ เมื่อประมาณ3-4ปีที่แล้วไปเที่ยวที่หัวหินรู้สึกจะเป็นตอนหน้าหนาวชอบตกปลาเลยชวนเพื่อนไป เพื่อนบอกเลยเขาเต่าน้าเค้าไปวันก่อนได้มาเยอะ ตกไปจนกระทั่งถึงตี2ได้ปลาดุกตัวเดียว ผมก้อเห็ยแสงเขียวๆเหมือนทุ่นฟอสฟอรัสอะครับ ลอยมาเป็นแพเลยพอถามเพื่อนมันบอกว่าอย่าไปดูไม่ทันแล้วครับพอผมเอาไฟส่องเท่านั้น ลมพัดมาวูบเลยครับคนเล่นน้ำประมาณ3-4คนและหันหน้ามายิ้มให้พวกผม อึ๋ยพิมพ์ไปขนลุกไป จะกลับก้อกลับไม่ได้น้ำมันขึ้นครับทางขาดหมด นั่งล้อมวงรอบกองไฟโดยไม่พูดอะไรกันเลยครับ นึกแล้วขนยังลุกไม่หายเลยครับ คนแก่อะไรมาเล่นน้ำตอนตี 2

*******************************************************************************

คุณ FF

นอนโรงแรมระวังนะครับ อาผม เจอแล้ว โรงแรมแถวๆภาคเหนือนี่แหละครับ ขอไม่เอ่ยชื่อโรงแรมนะ อาเขาเป็นคนไม่กลัวผีเลย วันนึงไปเที่ยวพักผ่อนแล้วเข้าพักที่โรงแรมไปกับแฟนอาเขาน่ะ พบนอนหลับไป แล้วฝันว่า คุณอายืนดู มีผู้ชายทะเลาะกับผู้หญิงแล้วฆ่าผู้หญิงตายเอาศพหมกใต้เตียง  แล้วคุณก็ตื่นตอนตีสามตีสี่ได้ ก็นอนไม่หลับ คิดไปต่างๆนาๆว่าเหมือนจริงมาก เลยทำใจให้สงบ พอสว่างก็ออกมาไปแถวๆหน้าโรงแรมกินกาแฟ  ปาท่องโก๋ คุยกับคนขาย ก็ได้ความ ว่ามีคนฆ่ากันตายจริงๆ เหตุการณ์แบบที่อาฝันเลย แต่อาก็ไม่ได้บอกคนขายว่าฝัน  เจอเข้าไปก็หลอนพอควรเลยครับ


********************************************************************************

คุณ tsomrak2007

สวัสดีครับ เรื่องของผมเกิดขึ้นตอนขับมอเตอร์ไซค์ก่อนไปตกปลา  มีคนรู้จักที่ไปซื้อโจ๊กตอนเช้า ทักว่าหน้าดำๆหมองๆ แนะนำให้ไปทำสังฆทาน ผมตอบไปว่าไม่มีอะไรดอกครับ ตากแดดตกปลาบ่อยไปหน่อย หมวกก็ไม่ใส่ และผมก็ไม่ได้คิดมาก พอสักครู่ก็ขับมอเตอร์ไซค์คันเดิม มุ่งหน้าบ่อฟ้าใส ถ.แพรกษา ไปคนเดียวครับ เบ็ด 2 ชุด ทุ่นลอยท้ายบ่อ ขับเข้าไปเลยเกือบหลุดลงบ่อก็หลายครั้ง ทั้งๆที่แทบจะคลานไป ลมก็ไม่แรง ถึงหมายก็ปั้น ขนมปังป้น+เมยเขียว ได้ปลาจีนไซด์จานเปล เกือบ 20 ตัวครับ ออกจากบ่อกลับเปลี่ยนเส้นทาง ขาไปจาก ถ.พระราม3ไป ถ.พระราม9 เข้า ถ.ศรีนครินทร์ -ขากลับ ถ.ศรีนครินทร์ เข้า ถ.บางนา ยาวไป ถ.ทางรถไฟสายเก่าครับ เพื่อทะลุ ถ.สุนทรโกษา-ครองเตยข้ามสะพานไป ถ.พระราม3  แต่ระหว่างกลางทาง ถ.ทางรถไฟสายเก่า หน้าโรงกลั่น ช่วงที่มีรางรถไฟพาดผ่าน ผมขับมาอย่างเชื่องช้า เพราะรถ  18 ล้อ เยอะมาก รถก็ติดๆ ขยับนิดก็หยุด ทันใดนั้น รถผมก็ล้มลง  รถไม่ถไลแต่ตัวผมถไลไปไกลเกือบ 5 เมตร เหมือนถูกหอบหิ้วเรียดไปกับถนน  หัวไปติดอยู่ใต้กันชนรถเท็กซี่ เงยหน้าขึ้นมอง เห็นติดอยู่แนวล้อหน้าซ้ายพอดิบพอดี แต่กลับไม่เป็นอะไรเลยครับ แม้แต่รอยถลอกก็ไม่มี  ยังสตินะครับ ไม่ได้เมาด้วย ได้ยินเสียงตะโกนว่า" หยุด...."  ก็มีวัยรุ่นชาย 2 คน มาช่วยดึงผมออกจากใต้กันชน หน้ารถเท็กซี่ และ ช่วยยกขยับรถไปข้างทางด้านซ้าย  ยังไม่ทันจะถอดหมวกกันน็อคออก ก็ได้ยินอีกว่า " เกือบมีมาแทนซะแล้ว " ถอดออกได้มองหาคน ที่มาช่วยก็ไม่เห็นมีใครเลย  กลับถึงบ้านแล้วนอนก็นอนไม่หลับ จนเช้าเลยครับ    (คืนเกิดเหตุเป็นวันเสาร์ครับ)  มาคิดทบทวนตอนอยู่ที่บ่อ  ก่อนที่ผมจะออกจากบ่อ  ได้คนแก่ แก่ราวๆ  80 เห็นจะได้ครับ เดินผ่านหน้าผมไป-กลับ ถึง 4 รอบ ทิ้งช่วงเวลาเดินประมาณ 5 นาที/เที่ยว เวลาราวๆ 2 ทุ่ม ขากลับ เที่ยวสุดท้าย ลุงแกหยุดตรงหน้าผม ถามถึงปลากินดีไหม  บ้านอยู่ไหน ทำไมยังไม่กลับ  ผมตอบลุงแก่ว่า ดึกสักหน่อยถึงจะกลับครับ  แกก็ว่าให้ระวังรถไฟ แล้วลุงก็เดินต่อ แบบว่า กระพริบตา ก็หายไปแล้ว พูดอยู่ในใจว่าลุงแก แข็งแรงอยู่เลยนะ คนสมัยก่อนนี่ เดินเร็วจัง แกว่า เดินไปปากบ่อไปตามลูกชายมากินข้าว จากท้ายบ่อที่ผมลงเบ็ด ถึง ปากบ่อ ผมว่านะ 1 กม.เห็นจะได้  ในหูผมยังได้ยินเสียงลุงอยู่เลยครับ  " ระวังรถไฟ "


*************************************************************************************

คุณ khan t.

หมายนี้น้านักล่าลำน้ำจางคงรู้จักดีครับ "จำกลางหาว" อยู่ด้านในของเขื่อนแม่จาง  จังหวัดลำปาง
เขื่อนนี้สร้างขึ้นมากว่า 40 ปีแล้ว ภายใต้เขื่อนนั้นเป็นทั้งป่าเขา หมู่บ้านเก่า รวมถึงวัดร้างต่าง ๆ มากมายที่จมอยู่ใต้น้ำ
ทุกครั้งที่เข้าหมายพวกผมถือเคล็ดกันมากไม่ทำอะไรซี้ซัวเด็ดขาดแต่วันนั้นไม่เป็นอย่างนั้น
ด้วยทางที่แสนทุระกันดานโขยกขย่มมานาน กว่าจะเข้าถึงหมายก็มืดค่ำ ผมเองนั่นแหละที่ปวดฉี่จนทนไม่ไหวกระโดดลงรถปุ๊ปรีบปลดทุกข์ทันทีโดยมิได้ขอขมา จากนั้นก็กลับมาช่วยกันกางเต็นท์ก่อไฟเตรียมเครื่องค้างแรมกันตามปกติ แล้วจู่ ๆ ผมก้าวพลาดเท้าขวาเหยียบลงไปในหลุมเสาเต็นท์ที่คณะเก่ามาขุดไว "พล็อก"
ความเจ็บปวดซานไปทั่วตัวผมทรุดกองอยู่ตรงนั้นทันที ตอนแรก เพื่อน ๆ ก็คิดว่าเป็นมุกตลกล้อเล่นกัน แต่พอเห็นผมนอนเกลือกกลิ้งทุรนทุรายก็รีบมาลากเอาตัวผมไปที่เต็นท์ใหญ่ ปรากฏว่าข้อเท่าผมพลิกขนาดหนักชนิดที่เรียกว่าพับเลย  นายหนุ่ยรีบบอก "พี่ตี๋ใจเย็น มันไม่ใช่เป็นไรมาก" ไม่พูดเปล่ามันกระชากดึงข้อเท้าผมดังกรึบทันที อ้ากกกกกกกกก...........
ผมฟุบเลย คืนนั้นทั้งคืนนอนไม่ได้ ปวดมาก รู้สึกร้อนผ่าวที่ข้อเท้าตลอดทั้งคืน
พอรุ่งเช้าผมต้องตัดไม้มาทำไม้เท้า แต่เหตุการณ์ไม่หมดแค่นั้น เช้านั้นพอนายหนุ่ยตื่นมาปรากฎว่าที่งามนิ้วมือมีเลือดไหลออกมาในปริมาณที่เหมือนกับว่าโดนมีดปาด แต่มันไม่มีแผล ผมสำรวจดูเท้าผมก็ไม่มีแผล งง
ตอนนั้นยังไม่ได้เอะใจอะไร ก็ตกปลาต่อไป แต่ไม่รู้อะไรวันนั้นทั้งวันเบ็ดสิบกว่าหลังไม่มีปลามาเฉี่ยวเลย จนน้องบอยเริ่มหงุดหงิด ๆ ๆ ๆ ๆๆ เลยเปิดขวดเล่นกันแต่วันยันเย็นยันค่ำไปเลย พอเริ่มได้ที่ปากก็เริ่มพล่อย คุยหยอกล้อเจ้าที่ว่าหวงปลาบ้างหล่ะ ไม่ถึงเหล้าบ้างหล่ะ ลามปามใหญ่ จนเกือบสามทุ่มเลยตัดใจเก็บของกันงุด ๆ เตรียมกลับ ระหว่างนั้นน้องบอยยังไม่หยุดปากลามปามเจ้าที่ไปเลื่อย ๆ จนขนของขึ้นรถหมดนั้งเข้าที่เข้าทางเรียบร้อยรถก็เคลื่อนออกจากหมายซึ่งทางเป็นโขดหินขึ้นตามลำห้วย ทันใดนั้นเสียงเจ้าบอยก็ดังขึ้น
"วู้......กล้วย" พอสิ้นเท่านั้น
"โครม"
"เฮยยยยยยหยุดไอ้บอยตกรถ"
ทั้งที่ฝาท้ายนอกจากจะมีสลักของติดรถแล้ว ยังมีเชือกรัดของโยงอยู่รุงรัง บัดนี้มันเปิดออกอ้าซ่า ข้าวของหล่นเกลื่อน ไอ้บอยร้องโอดโอยอยู่ตรงนั้นเอง
ขณะนี้พวกเราเริ่มรู้ตัวแล้วว่าเจอกับอะไรอยู่ต่างก้มหน้าก้มตาเก็บของโยน ๆ เข้าท้ายรถรีบออกมาจากที่นั่นให้เร็วที่สุด  แต่ระหว่างทางกลับ พวกผมขนหัวลุกชันเลย
ปรากฏมีแสงไฟสีนวลเป็นลูกลอยอยู่ในราวป่าข้างทาง ไฟลูกนั้นลอยไปทิศทางเดียวกับที่รถวิ่งอยู่ ทุกคนมองหน้ากัน เงียบ มีแต่เสียงหายใจหอบของทุกคนเท่านั้นเวลานี้ แล้วไฟลูกนั้นก็ลับไปที่สันดอย
เมื่อกลับมาถึงบ้าน นอกจากผม หนุ่ย บอย ที่ประสบเหตุแล้ว อีกสองคนที่เหลือก็จับไข้ ที่จริงก็เกือบทุกคน หลังจากวันนั้นผ่านมาอีกสองเดือนพวกเราจึงมาคุยกันใหม่ เราควรเข้าไปขอขมาเจ้าที่กันดีไหม เพราะต่างคนต่างหายกลัวแล้ว เราจึงเข้าหมายนั้นอีกครั้ง คราวนี้อย่างแรกที่ไปถึงผมหาขนมหวาน บอยหาเหล้า หนุ่ยหาพวงทันทีมาลัย คนอื่น ๆ ธูปเทียน พอลงรถได้ปรีเข้าหาต้นไม้ใหญ่จุดธูปเทียนขอขมาสิ่งที่ลูกช้างได้ล่วงเกินไป
เชื่อหรือไม่

***********************************************************************

คุณ ก.
ที่หนักๆเลยของผม ก็มีแต่ไม่ได้ไปตกปลา เจอแวบๆอะไรบ้างเหตุการณ์อะไรแปลกบ้างแต่มันไม่ชัวว์ ไปลองของตอนเที่ยงคืนตีหนึ่งตีสอง ที่ไหนๆไปมาหมด
อันนี้หลอนเลยคับ
ตอนนั้นไปอยู่ในป่า ตอนที่เขื่อนสองแคว  ยังเป็นป่า พาคนงานไปปลูกต้นไม้ แล้วคนงานไปนอนรวมๆกันที่กระท่อม ผมเป็นไม่กลัวผีเลยนอนคนเดียว นอนในรถกระบะ4ประตู เปิดกระจก ยุงไม่ค่อยมี นอนไปตื่นมาตีสอง เงียบมากกก จำได้เลยเพราะดูนาฬิกาในรถ ก็เลยกินน้ำไปเกือบหมดขวด แล้วก็เอนหลังนอน ยังไม่ทันหลับตา ก็มีเสียงเหมืนใครขึ้นบนท้ายรถ ดังกุ๊กกักๆ พื้นกระบะไลเนอร์อะ จำเสียงได้ ผมไม่ได้งัวเงียนะผมตื่นเต็มมีสติแน่นอน ในใจคิดว่า คนแถวนี้อาจจะแอบมาขโมยของหรือป่าวเพราะ ท้ายรถมีกล่องเสื้อผ้าและกล่องของต่างๆ  กำลังคิดจะลุกขึ้นดู รถก็สั่น เหมือนมีใครกดกันชนหน้ารถให้ยุบดังแอ๊ดๆ เสียงแหนบ เสียงช่างล่าง และเสียงกันชนหน้าที่เป็นสแตนเลส ผมก็ลุก ลุกไม่ได้ครับ อาการคล้ายๆผีอำ แต่ไม่ใช่อะ ผมมีสติครับ  ผมก็จะลุกเหมือนกับใครเอามือมากดที่ไหล่ทั้งสองข้าง กดหนักมากครับ หนักจนปวดอะ  ผมพยายามดิ้นแต่ก็ไม่ได้ ได้นิดหน่อยก็โดนกด  ตาพร่าๆ เป็นเงาดำๆทะมึนๆ เลยคิดโดนเข้าแล้ว  ท่องบทสวดมนต์ที่รู้ที่จำได้ทั้งหมดเลยครับ  พอท่องๆไปก็โดนกดที่ขมับทั้งสองข้างยิ่งท่องยิ่งถูกบีบ ปวดหัวมากก  ตอนนี้ในใจคิดตูไปทำอะไรผิดเนี่ย  พอแล้วมันปวดยอมแล้ว สักพักผมก็นึกถึงหลวงพ่อ ทำจิตให้นิ่ง แล้วก็หายไป ผมก็ลุกขึ้นมาได้ เหงื่อเต็มกาย ดูนาฬิกา ตีสองครึ่ง ผมโมโหมากครับ อยากรู้ผีมันหน้าตาเป็นอย่างไง ทำตูซะทรมานเลย ผมออกมาจากรถ ก็มีลมพัดใบไม้เบาๆ เป็นทางไป ผมเดินตามไป มันพัดรอบรถ ผมเดินเร็วขึ้นๆตามก็ไม่เห็นอะไร วนได้สองรอบ ก็หยุด ลมที่ว่าก็พัดไปทางต้นไม้ใหญ่ ไหวแรงมากก และไหวอยู่ต้นเดียว แล้วหายไปกับความมืด
ผมก็หยุดนิ่ง แล้วกลั้นใจเดินไปกระท่อม เรียกป๊า ผมเรียกเบาๆ แค่คำเดียวก็ตื่นแล้วบอกผมนอนเถอะ ไม่มีอะไรหรอก หลังจากกลับมาบ้าน ก็คุยกัน ป๊าบอกว่านึกแล้วว่าต้องมา มันรู้สึกแปลกๆ ก็เล่าให้ฟัง ที่บ้านไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ด้วย แต่ก็เป็นประสบการณ์ครับ เก่งนักไม่เอาแล้วแบบนี้
ตรงแถวๆที่ผมไปนอนน่ะ คนงานเก็บวัตถุโบราณได้ด้วย เป็นพวกเศษพดด้วงหรือไงดีแหละ  เขื่อนสองแควมีโบราณสถานอยู่18แห่งด้วยมั้ง ที่ต้องจมไป อันนี้เพิ่งรู้หลังจากเกิดเรื่องไปร่วมปี น่ากลัวครับ

***************************************************************

***************************************************************************************

คุณ skyfish

เมื่อประมาณห้าปีที่ผ่านมาผมได้เข้าไปตกปลาในโกดังข้าวแห่งหนึ่งแถวราฏบูรณะเราไปกันประ6คนทุกคนเป็นเพื่อนที่เล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆเราไปตกปลาดุกกันครับประมาณตี1เราทุกคนได้ยินเสียงเหมือนคลื่นวิทยุเสียงสูงๆแล้วก็หายไปซักพักมีเสียงเหมือนผู้หญิงบ่นพึมพัมอยู่คนเดียวแล้วก็ร้องไห้เป็นเสียงที่มาจากทางไหนไม่รู้เรามองหาต้นเสียงตลอดเวลาเราได้ยินเสียงกันเกือบทั้งคืนแต่พวกเราไม่ได้มีอาการหวาดกลัวต่อเสียงที่ได้ยินแต่อย่างไรประมาณตี4กว่าๆลมเริ่มหยุดเดินทุกอย่างดูนิ่งไปหมดแล้วเราทั้งหกคนต้องอดจมูกเหม็นมากครับกลิ่นสาบสางและเน่าเหม็นเหมือนหมาเน่าอย่างไรอย่างนั้นพวกเราเริ่มรู้ตัวแล้วละครับว่าเจอกับอะไรผมนั่งตกปลากันบนโป๊ะยื่นไปในนำเวลาเอาข้าวขึ้นท่าพอใกล้เช้าพวกเราเก็บเบ็ดเดินไปบอกลุงยามที่เฝ้าโกดังว่าเราเจอกับอะไรมาลุงยามแกเดินไปดูพร้อมพวกผมเอาไฟฉายส่องดูตามใต้โป๊ะส่องอยู่นานก็เจอที่มาของเสียงครับเป็นผู้หญิงใส่เสื้อกล้ามสีดำกางเกงสามส่วนจำได้แม่นเลยครับแกนอนหงายอยู่ใต้โป๊ะที่พวกผมตกปลากันบวมอืดไปหมดเลยครับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาชันสูตรตอนเกือบ7โมงต้องรอให้ปากคำกับตำรวจอีกจำได้ว่าปอเต็กตึ้งมาเก็บตอนดึงแขนแกขึ้นมาเพื่อจะห่อผ้าขาวเนื้อตรงแขนหลุดออกมาเลยครับเห็นกระดูกเลยพวกผมทั้งหกรุ่งขึ้นไปใส่บาตรอุทิศส่วนกุศลให้กับเขาครั้งแรกในชีวิตครับจะว่ากลัวก็กลัวสงสารเขาก็สงสารเขาคงมาให้เราช่วย โปรดใช้ความเชื่อส่วนบุคคลในการอ่านนะครับ

**************************************************************

คุณ น้าป๋าต่อ

มาแว้วจ้า 
เรื่องของผมเอาที่ไหนดีง่ะ(เจอบ่อย) เอาที่ไปเจอกันทั้งทีมก็แล้วกันครับคืองี้ มีวันนึงนัดลูกทีมส่วนใหญ่ไปตีปลาช่อนที่พระประแดงกับน้าป้อ มีพี่ไก่ไปด้วย โอ้โห!!!ชุดใหญ่เลย จากนั้นก็เข้าหมายมีครอบครัวของผม ของเดียร์และอีกหลาย10ชีวิตเดินทางไปด้วยในทริพนี้ หลังจากที่สนุกกันทั้งวันก็ถึงเวลาเดินทางกลับตอนขาเข้าเป็นตอนบ่าย อู้ยยยย!!!!บรรยากาศสวยงามแต่ตอนขากลับนี่นะซิครับบรรยากาศโคตะระหลอนเลยเดินกันมาเป็นแถวเรียง1ตามคันคูคลอง ผมเดินปิดท้ายเพราะไม่กลัวส่วนคนอื่นก้มหน้าเดินกันงุดๆๆๆๆเงียบกริบเลย ทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรวิ่งตามหลังมาเพราะเดินบนกอหญ้านะครับได้ยินเสียงชัดเลย ก็หันไปดูไม่มีอะไรก็เดินต่อไปและแล้วก็มาถึงสะพานข้ามคลองเล็กๆเป็นไม้ไผ่2ท่อนเอามามัดกันพอเวลามันเดินก็ดังเอี๊ยดๆง่ะ ทุกคนเดินข้ามกันไปเหลือผมปิดท้ายพอผมข้ามไปเมียผมก็รออยู่ที่หัวสะพานเพราะทำของตกไว้เลยเอาไฟฉายส่องหากันอยู่ทันใดนั้นก็มีเสียงไม่ไผ่ลั่นเอี๊ยดๆเหมือนมีคนเดินข้ามมา ผมกับเมียก็เงยหน้ามองก็ไม่มีอะไรแต่เมียผมเขาเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อจรัญ สิงห์บุรีน่ะครับ เขาก็บอกว่ามีอะไรตามมาแน่นอนผมก็บอกว่าไปเถอะต่างคนต่างอยู่ จากนั้นก็เดินมาที่ทางโค้งแล้วด้านซ้ายมือจะเป็นบ่อน้ำก็ได้ยินเสียงดังแปะในน้ำใจก็คิดว่าปลาช่อนมันขึ้นดังแปลกๆนะแล้วก็มีเสียงแปะๆๆๆๆๆๆตามมาอีกเหมือนเสียงคนเอามือตีน้ำเล่น ดังนานมากแล้วปิดท้ายด้วยเสียงแคร๊กๆ เมียผมหันมาถามว่าเสียงอะไรดังแปะๆๆๆๆ ผมก็บอกว่าไม่รู้ แล้วเสียงดังแคร๊กๆล่ะเลยยก.45ในมือให้ดูจากนั้นก็เดินไปกะว่ามีอะไรโผล่มาก็ล่อหมดแม๊กละครับ จากนั้นดินมาจะถึงรถแล้วมีเสียงเหมือนลูกบอลกลิ้งบนสนามหญ้าเลยหันไปมองเห็นเป็นลูกกลมๆดำๆกลิ้งตามหลังมาในลักษณะเลื้อยนะครับเลยกะว่าเข้ามาถึงระยะตรูยิงแน่เหมือนจะรู้แฮะเลื้อยวับหายเข้ากอหญ้าไป 
จากนั้นก็เดินไปที่รถออกเดินทางกลับบ้าน ปลากฏว่าตามกันไม่ทันเพราะไปกันหลายคันครับ เลยบอกบุ๊งว่าให้หาที่จอดรอก่อนนังเอมันบอกว่าให้รอที่บ้านข้างๆนี่แหละรถว่างดีเลยจอดรอ ทันใดนั้นเจ้าเอบอกว่าป๋าบ้านหลังนี้มีลิงด้วยผมก็มองไปเจ้าโน๊ตก็สะกิดยิกๆแต่ผมเห็นเป็นเด็กยืนท้าวสะเอวอยู่พยายามจ้องก็เห็นว่าเป็นเด็กมีเลือดมีเนื้อแน่นอนเลยมาคิดว่าทำไมเด็กมันซนจังง่ะดึกแล้วไม่นอนเลยหันไปบอกกับโน๊ตว่าบ้านนี้เด็กนอนดึกนะมันก็เงียบจากนั้นก็มองเห็นผ้ายันต์ สายสิญจ์ อาหารเซ่นไหว้เลยบอกว่าบุ๊งไปเหอะ พอถึงบ้านเลยมาสุมหัวคุยกันก็เจอกันทั่วหน้าครับเดี๋ยวต้องให้มันมาเล่ากัน แล้วบ้านหลังนั้นก็เป็นบ้านร้างแล้วมีเสียงเล่าลือว่าเป็นบ้านผีสิงครับ เจริญจริงๆมีที่จอดเยอะแยะไม่จอดดันไปจอดเอาที่เจ๋งๆ เวรกำ 
จากนั้นก็เล่าเรื่องนี้ให้น้ามาดฟังแกก็บอกว่าให้ไปทำบุญซะไม่งั้นเดี๋ยวจะเดือดร้อนทั้งทีมเลยไปทำบุญกัน ก็ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นครับ ผมคิดว่าเขาคงจะมาส่งนะครับจากนั้นอีก2วันรถของน้าป้อก็ไปจูบต้นไม้แถวนครสวรรค์นิดหน่อย ฟาดเคราะห์ไปครับ
เดี๋ยวที่เหลือให้ลูกทีมมาหลิมครับ ฮิฮิ

*****************************************************************

คุณ skyfish

เมื่อประมาณห้าปีที่ผ่านมาผมได้เข้าไปตกปลาในโกดังข้าวแห่งหนึ่งแถวราฏบูรณะเราไปกันประ6คนทุกคนเป็นเพื่อนที่เล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆเราไปตกปลาดุกกันครับประมาณตี1เราทุกคนได้ยินเสียงเหมือนคลื่นวิทยุเสียงสูงๆแล้วก็หายไปซักพักมีเสียงเหมือนผู้หญิงบ่นพึมพัมอยู่คนเดียวแล้วก็ร้องไห้เป็นเสียงที่มาจากทางไหนไม่รู้เรามองหาต้นเสียงตลอดเวลาเราได้ยินเสียงกันเกือบทั้งคืนแต่พวกเราไม่ได้มีอาการหวาดกลัวต่อเสียงที่ได้ยินแต่อย่างไรประมาณตี4กว่าๆลมเริ่มหยุดเดินทุกอย่างดูนิ่งไปหมดแล้วเราทั้งหกคนต้องอดจมูกเหม็นมากครับกลิ่นสาบสางและเน่าเหม็นเหมือนหมาเน่าอย่างไรอย่างนั้นพวกเราเริ่มรู้ตัวแล้วละครับว่าเจอกับอะไรผมนั่งตกปลากันบนโป๊ะยื่นไปในนำเวลาเอาข้าวขึ้นท่าพอใกล้เช้าพวกเราเก็บเบ็ดเดินไปบอกลุงยามที่เฝ้าโกดังว่าเราเจอกับอะไรมาลุงยามแกเดินไปดูพร้อมพวกผมเอาไฟฉายส่องดูตามใต้โป๊ะส่องอยู่นานก็เจอที่มาของเสียงครับเป็นผู้หญิงใส่เสื้อกล้ามสีดำกางเกงสามส่วนจำได้แม่นเลยครับแกนอนหงายอยู่ใต้โป๊ะที่พวกผมตกปลากันบวมอืดไปหมดเลยครับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาชันสูตรตอนเกือบ7โม
คห.1: 10 มิ.ย. 53, 14:30
eak29(2564 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.2: 10 มิ.ย. 53, 14:33
+สยองดีคับน้า...

คห.3: 10 มิ.ย. 53, 14:48

อ่านกันเพลินเลยครับ...

บางเรื่องอ่านไปคิดภาพตามไปก็ขนลุกดีครับ 

แต่พออ่านมาถึงเรื่องของคุณ หนอนน้อย กำลังอ่านและคิดภาพตามไปอยู่ดีๆ เจอประโยคสุดท้ายฮาแตกเลย 

.....

คุณ khan t. 

หมายนี้น้านักล่าลำน้ำจางคงรู้จักดีครับ "จำกลางหาว" อยู่ด้านในของเขื่อนแม่จาง  จังหวัดลำปาง
บ้านเราแต่ละหมาย กลางคืนนี่สุดยอดๆทั้งนั้นครับน้าตี๋ อย่าว่าแต่กลางคืนเลย กลางวันก็ทำให้ขนลุกได้เช่นกันครับ


เรื่องแบบนี้ ไม่เชื่อ ก็อย่าลบหลู่ อะไรที่ไม่เห็น ก็ใช่ว่าจะไม่มี 

Chostep(33 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.4: 10 มิ.ย. 53, 14:56
เจอบ่อยๆคับพ่ออ่านแล้วโดนเลย^^
คห.5: 10 มิ.ย. 53, 15:00
บอกคำเดียวว่าสุดยอดความเสียว 
คห.6: 10 มิ.ย. 53, 15:05
ประสบการณืแบบนี้ผมเชื่อว่านักตกปลาหลายท่านเคยเจอคับ ตัวผมเองก็เคยเจอคับ ภาพคมชัดเลย ใช่แน่นอน เจ้าที่!!!!!!
เมื่อเดือนมีนาที่ผ่านวันที่ 27-28 พวกผมไปตกปลาที่บางประกงคับ พอดีเพื่อนผมมีหมายแถวๆๆๆบางคล้า เป็น รร.คับ เดินไปขออนุญาติครูใหญเข้าไปตกคับ ท่านบอกว่าตามสบายเลย ถ้าค้างคืนกันก็ฝากดูแล รร. ด้วยน่ะ เพราะคืนนี้ไม่มีใครเฝ้า รร. หลังจากนั้นพวกผมก็ไปนั่งประกอบคันเบ็ดเตรียมที่จะตกปลา ตั้งแต่เวลา 11.00-16.00 ประมานนี้ ไม่มีปลามากินเบ็ดเลยแม่แต่ตัวเดียว ทุกคนเริ่มบ่นกัน งึมงำๆๆ ไม่สนุกเลยวะ อะไรวะปลาแม่มหายไปไหนหมดวะ รร.กากวะ ด่าบ่นกันไปสาระพัด (วันนั้นไปกัน 7 คน มือใหม่ 4 มือก่า3)แต่ที่บ่นมากหน่อยก็จะเป็นพวกมือใหม่ละคับ ตอนนั้นก็เย็นแล้ว ผมกับเพื่อนอีก 1 คนเดินไปหาฝืนเพื่อเอามาปิ้งไก่ กะมาทอดไข่เจียว เดินหาฝืนไปเรื่อย ตาเหลือบไปเห็นศาลพระภูมของ รร. ผมเลยคิดในใจเอาแล้วไง มาละไม่ได้ไหว่กันด้วย ก็เลยหันไปถามเพื่อน มรึงได้ไหว้หรือป่าววะ มันก็บอกยังไม่ได้ไหว้เหมือนกัน ผมก็เลยยกมือไหว้พร้อมขอปลาจากศาลพระภูมิ หลังจากนั้นก็กลับไปตกปลา ปิ้งไก่กัน ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อละคับ ปลาดุกทะเลขนาดเกือบ 2 โลกินเบ็ดผม ผมหันไปบอกพวกมันบอกว่าเป็นไงท่านให้ปลากรูแล้วโว้ย หลังจากนั้นฝูงปลากด ม้า หางกิ่ว กินดีมาก กุ้งเรา 300 ตัว เหลือไม่ถึง 100ตัว หลังจากมันกับปลาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท้องเริ่มหิว กับข้าวพร้อม กินกันแบบแหกหม้อแหกไห้ พอกินเส็ดก็แยกย้ายกันอาบนํ้า ผมเป็นคนอาบนํ้าคนสุดท้าย อาบมันตรงริมแม่นํ้านั้นละคับ ข้างหลังผมตรงกับศาลพระภูมิพอดีคับ อาบนํ้าเส็ดผ้าขนหนูหายคับ ผมเลยตะโกนด่าเพื่อนใครเอาผ้าไปวะ ตรงนั้นมันมืดคับมองแทบไม่ค่อบเห็น มองหาผ้าขนหนู มันไปอยู่บนยอดกะถินได้ไงไม่รู้ ผมละงงเลย ในใจก็คิดว่าเพื่อนแกล้ง กลับมาก็ด่าพวกมันแบบรวมเลยๆๆๆ มันเลยบอกมาว่าใครจะไปแกล้งมรึง พวกกรูนั่งตกปลาอยู่เนี่ย มรึงบ้าป่าว เอาแล้วไงใราแกล้งฟ่ะ ลมกะไม่น่าแรงขนาดนั้น แต่ช่างมันคงไม่มีอะไรหรอกผมคิด หลังจกนั้นผมกะมานั้งตกปลาต่อ กับเพื่อนอีกนึง ประมานเที่ยงคืนเศษ พวกที่ไม่ไหวก็เข้านอนกัน เหลือผมกับเพื่อนอีก 2 คน นั้งตกปลาอยู่ ในความรู้สึกผมเหมือนมีใครจ้องมองอยู่ เลยหันไปมองที่ศาลพระภูมิ สิ่งที่ผมเห็นคือ ชายร่างสูง ตัวใหญ่ เป็นเงาสีดำๆๆ เดินหายเข้าไปในศาลพระภูมิ ขนลุก หน้าซีด แขนสั่นเลยคับ หันมาบอกเพื่อนกูเห็นอะไรไม่รู้วะ ผีแน่เลย มันก็บอกมรึงนิ่งไว้ๆไม่ต้องพูด กรูก็เห็น  เอาแล้วไงยังไงดี คิดจะวิ่งก็ไม่มีแรง เลยบอกเพื่อนไปนอนกันเถอะ กรูไม่ไหวแล้ว ตอนนั้นผมกลัวมากคับ ยอมรับเลยไม่เคยเจอแบบมายืนมองกันเลย ตอนเป็นทหารก็เจอแค่กลิ่น กับ เสียง แล้วก็มาแบบแว๊บๆๆ ไม่เคยเจอแบบมายืนมองเลย พูดถึงแล้วยังขนหัวลุกอยู่เลยคับ พอขากลับแวะปั๊มก็เลยพูดกัน พวกที่ไม่ได้ไหว้ศาลพูดตรงกันเลยคับ ตอนหลับๆๆๆจะฝันเห็นชายร่าง สูงใหญ่  เดินมาบอก ว่าทำไมว่า เหตุใดพวกสูเจ้ามิรู้จักการะเทสะ เยือนถิ่นใยมิรู้จักขอขะขมาละโทษ  หลังจากนั้นก็เดินทางกลับบ้านกัน คุยเรื่องนี้กันไปกลัวกันไปต่างๆๆนานา
คห.7: 10 มิ.ย. 53, 15:17

ไหนๆกระทู้นี้ ก็มาเรื่องแบบนี้แล้ว...

ขอฝากไว้สักเรื่องแล้วกันนะครับ

ขอบอกว่า ไม่อ่านแล้วจะเสียดาย
.....

  วีธีทำน้ำมันพรายครับ ดีดเป๊ะ ดีดเป๊ะ กระโดดใส่เลย ***//////

ช่วงนี้ลองสำรวจดูวัด หรือโรงพยาบาลใกล้ๆบ้าน ว่ามีผีตายท้องกลมบ้างหรือเปล่า ท้องแฟบๆ อย่าไปสนใจ เมื่อได้เป้าหมายที่ต้องการแล้ว เตรียมอุปกรณ์

เทียนไข 1 เล่ม ถ้าโลภมากก็อนุญาตเพิ่มเป็น 2 เล่ม

ไฟแช็ค 1 อัน ไม่ควรใช้ไม้ขีดไฟ เพราะเวลาผีมา ลมมักจะแรง แล้วมือเราก็อาจจะสั่นด้วย

ถ้วยสำหรับใส่น้ำมัน กี่ใบแล้วแต่จำนวนเทียน

ชวนเพื่อนไปด้วย 1 คน เผื่อผีไม่ยอมจะได้ช่วยกันขู่ เพื่อนสายตาสั้นไม่ต้องชวนไป เดี๋ยวมาลนผิดที่ มาลนไฟที่คางเรา จะหมางใจกันเปล่าๆ

เพื่อนที่วิ่งช้าๆ เป็นคนที่เราควรจะชวนไปด้วยเป็นอย่างยิ่ง

อย่าลืมแขวนพระ ไม้กางเขน กระเทียม กระบี่ และอื่นๆ ที่ผีไทย และผีนานาชาติกลัวไปด้วย เนื่องจากเราไม่รู้ว่าผีนับถือศาสนาใด

ก่อนลงมือ ดูฤกษ์ดูยามให้ดี ผีจะได้ไม่หลอก เช็คดูกับกรมอุตุฯด้วยว่าต้องไม่มีฝน ถ้ามีฝนโดยเฉพาะฝนตกหนัก ควรไปยืนตากฝนร้องเพลงเศร้าๆหน้าบ้านคนที่เรารักมากกว่า อาจจะได้คะแนนเห็นใจ

เมื่อได้ฤกษ์งามยามดีแล้ว อย่าลืมตรวจสอบว่า มีการสวดศพกี่วัน ไม่ใช่พระกำลังกุสลาธรรมาอยู่ แล้วเราไปงัดโลงเหยงๆ เราอาจจะเป็นศพไปด้วย

ก่อนจะออกจากบ้าน ทดสอบลมหายใจก่อน โดยวิธีอุดจมูก แล้วหายใจทีละข้าง ข้างไหนหายใจสะดวก ให้ก้าวท้าวข้างนั้นก่อน ถ้าสะดวกทั้งสองข้าง ก็ก้าวเท้าทั้งสองข้างพร้อมกัน แต่ถ้าไม่สะดวกทั้งสองข้าง ควรไปหาหมอได้แล้ว

ระหว่างที่ก้าวเท้า ถ้ามีเสียงจิ้งจกทัก ให้หยุดทันที... มองหาจิ้งจก ทักทายตอบตามมารยาท แล้วค่อยก้าวต่อไป

พอมาถึงวัด ตรงไปที่ป่าช้าทันที ไม่ควรแวะหาเจ้าอาวาส หรือหลวงพี่องค์ใด เพราะงานนี้ไม่จำเป็นต้องครบพระรัตนตรัย มีเพียงพระพุทธที่คล้องคออยู่ ก็พอแล้ว ถึงบริเวณป่าช้า หาเป้าหมายที่ต้องการ โดยตรวจชื่อดูตามโกดังเก็บศพ ถ้าเป้าหมายชื่อ นาค ควรกลับไปตั้งหลักที่บ้าน แล้วหาเป้าหมายใหม่ดีกว่า ไม่น่าเสี่ยง แม้จะไม่ได้อยู่พระโขนงก็ตาม

เมื่อเจอเป้าหมายที่ต้องการแล้ว เอาโลงออกจากช่องเก็บศพ เอาศพออกจากโลง ตามแต่วิธีของแต่ละคน อันนี้แล้วแต่ความกล้า ว่าจะอยู่ในระดับใด ถึงตอนนี้ หมาจะเริ่มหอน ลมจะพัดแรง มือซ้ายถือเทียนไขที่เตรียมมา มือขวาจับเพื่อนไว้แน่นๆ กันเพื่อนหนี (ถ้าถนัดซ้าย ก็ใช้มือขวาถือเทียนไข มือซ้ายจับเพื่อน จะมั่นคงกว่า) ให้เพื่อนจุดไฟแช็ค พร้อมเอามือป้องลมกันไฟดับ (สังเกตว่า มือเพื่อนจะไม่ว่างทั้งสองข้าง เผื่อกรณีฉุกเฉิน เราจะเผ่นได้โดยสะดวก)

พอเทียนไขติดไฟดีแล้ว เอาไปลนที่ใต้คางของผี เสียงจะดังฉี่ๆ คล้ายทอดปลา ถ้ารู้สึกหิว ให้ออกไปซื้อของกินได้ที่ร้านเซเว่นฯ หน้าวัด แล้วค่อยกลับมาใหม่ ช่วงนี้ยังไม่ต้องทำอะไร รอจนศพลุกขึ้นนั่ง ให้เพื่อนหยิบภาชนะมารองที่ใต้คางของผี อย่าลืมย้ำให้เพื่อนถือภาชนะด้วยมือทั้งสองข้าง (มือขวาเรายังจับเพื่อนไว้แน่นเช่นเดิม) น้ำมันพรายจะหยดลงภาชนะ ผีจะเฮี้ยนหรือไม่เฮี้ยน ดูได้ตอนนี้ ถ้าผีส่งเสียง โอย..โอย เราควรจับเพื่อนให้แน่นยิ่งขึ้น แต่ถ้าเพื่อนร้อง โอย..โอย แสดงว่าเราจับเพื่อนแน่นเกินไปแล้ว

ผีบางตนที่เฮี้ยนมากๆ อาจจะมีการหักคอให้หวาดเสียว พอผีเอื้อมมือมาปุ๊บ เราจะรู้ได้ทันทีว่าพระเราศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ ถ้าพระดี ผีจะแหกปากร้องร้องลั่น ด้วยความกลัว ถ้าพระเก๊ เราก็จะแหกปากร้องด้วยความเจ็บแทน ตอนนี้เครื่องรางของขลังต่างๆ ที่เตรียมมา ให้ลืมไปก่อน แนะนำให้ใช้เท้าข้างใดข้างหนึ่ง ยันแรงๆ (หรือที่เรียกว่าถีบ) ไปที่ยอดอกของผีหลายๆครั้ง จนกว่าผีจะปล่อยเรา

พอน้ำมันเต็มภาชนะ เอาเทียนออกจากคางผีช้าๆ อย่าเพิ่งดับไฟ เพราะช่วงนี้ผีอาจตุกติก มีลูกเล่น ให้เรากระดิกเท้าเบาๆเตือน ผีก็จะลงนอนแต่โดยดี เอาผีใส่โลง เอาโลงใส่ช่องเก็บศพ เก็บข้าวเก็บของกลับบ้าน เป็นอันเสร็จพิธี พอถึงตอนนี้ ลมจะสงบ ไก่จะเริ่มขันพอดีตามสูตร

ก่อนจะนำไปใช้งาน อย่าลืมสังเกตสีของน้ำมันก่อน ถ้าเป็นสีแดง ออกเทน 91 เหมาะสำหรับชายรุ่นใหม่ (New Generation) ผู้สดใส ร่าเริง มองโลกในแง่ดี ส่วนน้ำมันสีเหลืองอำพัน ออกเทน 95 เหมาะสำหรับผู้ชายรอบจัด เจ้าชู้ แต่ถ้าเป็นสีเหลืองคล้ำๆ ละก็ เหมาะสำหรับชายมาดแมน ผู้ใช้แรงงานเป็นอย่างมาก ใช้ไม่ตรงกับที่ระบุก็ได้ แต่คุณภาพอาจจะลดลง

วิธีใช้ เมื่อเจอคนที่เราหมายปอง รีบเทน้ำมันพรายใส่นิ้วชี้ ไม่ควรใช้นิ้วกลาง เนื่องจากน่าเกลียดมาก เวลาเราชูนิ้วกลางโร่เข้าไปหาเหยื่อ ปริมาณน้ำมันพราย ก็แล้วแต่เราจะเอาขั้นไหน ถ้าหยดสองหยด ก็ ลืมตัว มัวเมาเฝ้าพิศวาส แต่ถ้าจะเอาถึงขั้น หลงรูปจูบกระดาษที่วาดไว้ ละก็ ใช้วิธีสาดเอาเลยดีกว่า

น้ำมันพรายจะต้องป้ายให้โดนผิวหนังเหยื่อ ดังนั้น เราจะต้องเล็งให้แม่น ตรงข้อศอก ดีที่สุด เพราะตรงนั้นป้ายง่าย ไม่หวาดเสียว แต่ถ้าเหยื่อใส่เสื้อแขนยาว ก็เปลี่ยนมาเล็งที่หลังมือแทน ถ้าเหยื่อใส่ถุงมือ ก็เปลี่ยนมาที่แก้ม ถ้าเหยื่อยังใส่หน้ากากอีก ก็เลิกสนใจเถอะ หมอนั่นมัน บ้าแน่ๆ

ป้ายแล้ว อย่าลืมให้เบอร์โทร หรือ อีเมลแอดเดรส ด้วย เสร็จแล้วกลับมานอนยิ้มหวาน รอโทรศัพท์ที่บ้านได้ ไม่เกินสามวันเจ็ดวัน... เหงือกแห้ง

* เครดิต * ขอขอบคุณ นายตั้ม จากทะเลไท ครับ 
Anubis_k(1252 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offlineใบแดง
คห.8: 10 มิ.ย. 53, 15:28
อันนี้ สยองกว่าครับ.....


http://www.siamfishing.com/board/view.php?tid=17307


catska(1751 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.9: 10 มิ.ย. 53, 15:33
+เอาไปเลย10กะโหลก
mr.x(104 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.10: 10 มิ.ย. 53, 15:47
อ้างถึง: นักล่าแห่งลำน้ำจาง posted: 10-06-2553, 14:48:49


อ่านกันเพลินเลยครับ...

บางเรื่องอ่านไปคิดภาพตามไปก็ขนลุกดีครับ 

แต่พออ่านมาถึงเรื่องของคุณ หนอนน้อย กำลังอ่านและคิดภาพตามไปอยู่ดีๆ เจอประโยคสุดท้ายฮาแตกเลย 

.....

คุณ khan t. 

หมายนี้น้านักล่าลำน้ำจางคงรู้จักดีครับ "จำกลางหาว" อยู่ด้านในของเขื่อนแม่จาง  จังหวัดลำปาง
บ้านเราแต่ละหมาย กลางคืนนี่สุดยอดๆทั้งนั้นครับน้าตี๋ อย่าว่าแต่กลางคืนเลย กลางวันก็ทำให้ขนลุกได้เช่นกันครับ


เรื่องแบบนี้ ไม่เชื่อ ก็อย่าลบหลู่ อะไรที่ไม่เห็น ก็ใช่ว่าจะไม่มี 



เรื่องนี้น่ากลัวดีครับ
คห.11: 10 มิ.ย. 53, 15:48
chartai(619 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.12: 10 มิ.ย. 53, 15:58
+ ชอบอ่านครับแต่ยังไม่เคยเจอกับตัวครับ
mr.x(104 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.13: 10 มิ.ย. 53, 16:01
อ้างถึง: nuengST.louis posted: 10-06-2553, 15:05:15

ประสบการณืแบบนี้ผมเชื่อว่านักตกปลาหลายท่านเคยเจอคับ ตัวผมเองก็เคยเจอคับ ภาพคมชัดเลย ใช่แน่นอน เจ้าที่!!!!!!
เมื่อเดือนมีนาที่ผ่านวันที่ 27-28 พวกผมไปตกปลาที่บางประกงคับ พอดีเพื่อนผมมีหมายแถวๆๆๆบางคล้า เป็น รร.คับ เดินไปขออนุญาติครูใหญเข้าไปตกคับ ท่านบอกว่าตามสบายเลย ถ้าค้างคืนกันก็ฝากดูแล รร. ด้วยน่ะ เพราะคืนนี้ไม่มีใครเฝ้า รร. หลังจากนั้นพวกผมก็ไปนั่งประกอบคันเบ็ดเตรียมที่จะตกปลา ตั้งแต่เวลา 11.00-16.00 ประมานนี้ ไม่มีปลามากินเบ็ดเลยแม่แต่ตัวเดียว ทุกคนเริ่มบ่นกัน งึมงำๆๆ ไม่สนุกเลยวะ อะไรวะปลาแม่มหายไปไหนหมดวะ รร.กากวะ ด่าบ่นกันไปสาระพัด (วันนั้นไปกัน 7 คน มือใหม่ 4 มือก่า3)แต่ที่บ่นมากหน่อยก็จะเป็นพวกมือใหม่ละคับ ตอนนั้นก็เย็นแล้ว ผมกับเพื่อนอีก 1 คนเดินไปหาฝืนเพื่อเอามาปิ้งไก่ กะมาทอดไข่เจียว เดินหาฝืนไปเรื่อย ตาเหลือบไปเห็นศาลพระภูมของ รร. ผมเลยคิดในใจเอาแล้วไง มาละไม่ได้ไหว่กันด้วย ก็เลยหันไปถามเพื่อน มรึงได้ไหว้หรือป่าววะ มันก็บอกยังไม่ได้ไหว้เหมือนกัน ผมก็เลยยกมือไหว้พร้อมขอปลาจากศาลพระภูมิ หลังจากนั้นก็กลับไปตกปลา ปิ้งไก่กัน ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อละคับ ปลาดุกทะเลขนาดเกือบ 2 โลกินเบ็ดผม ผมหันไปบอกพวกมันบอกว่าเป็นไงท่านให้ปลากรูแล้วโว้ย หลังจากนั้นฝูงปลากด ม้า หางกิ่ว กินดีมาก กุ้งเรา 300 ตัว เหลือไม่ถึง 100ตัว หลังจากมันกับปลาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท้องเริ่มหิว กับข้าวพร้อม กินกันแบบแหกหม้อแหกไห้ พอกินเส็ดก็แยกย้ายกันอาบนํ้า ผมเป็นคนอาบนํ้าคนสุดท้าย อาบมันตรงริมแม่นํ้านั้นละคับ ข้างหลังผมตรงกับศาลพระภูมิพอดีคับ อาบนํ้าเส็ดผ้าขนหนูหายคับ ผมเลยตะโกนด่าเพื่อนใครเอาผ้าไปวะ ตรงนั้นมันมืดคับมองแทบไม่ค่อบเห็น มองหาผ้าขนหนู มันไปอยู่บนยอดกะถินได้ไงไม่รู้ ผมละงงเลย ในใจก็คิดว่าเพื่อนแกล้ง กลับมาก็ด่าพวกมันแบบรวมเลยๆๆๆ มันเลยบอกมาว่าใครจะไปแกล้งมรึง พวกกรูนั่งตกปลาอยู่เนี่ย มรึงบ้าป่าว เอาแล้วไงใราแกล้งฟ่ะ ลมกะไม่น่าแรงขนาดนั้น แต่ช่างมันคงไม่มีอะไรหรอกผมคิด หลังจกนั้นผมกะมานั้งตกปลาต่อ กับเพื่อนอีกนึง ประมานเที่ยงคืนเศษ พวกที่ไม่ไหวก็เข้านอนกัน เหลือผมกับเพื่อนอีก 2 คน นั้งตกปลาอยู่ ในความรู้สึกผมเหมือนมีใครจ้องมองอยู่ เลยหันไปมองที่ศาลพระภูมิ สิ่งที่ผมเห็นคือ ชายร่างสูง ตัวใหญ่ เป็นเงาสีดำๆๆ เดินหายเข้าไปในศาลพระภูมิ ขนลุก หน้าซีด แขนสั่นเลยคับ หันมาบอกเพื่อนกูเห็นอะไรไม่รู้วะ ผีแน่เลย มันก็บอกมรึงนิ่งไว้ๆไม่ต้องพูด กรูก็เห็น  เอาแล้วไงยังไงดี คิดจะวิ่งก็ไม่มีแรง เลยบอกเพื่อนไปนอนกันเถอะ กรูไม่ไหวแล้ว ตอนนั้นผมกลัวมากคับ ยอมรับเลยไม่เคยเจอแบบมายืนมองกันเลย ตอนเป็นทหารก็เจอแค่กลิ่น กับ เสียง แล้วก็มาแบบแว๊บๆๆ ไม่เคยเจอแบบมายืนมองเลย พูดถึงแล้วยังขนหัวลุกอยู่เลยคับ พอขากลับแวะปั๊มก็เลยพูดกัน พวกที่ไม่ได้ไหว้ศาลพูดตรงกันเลยคับ ตอนหลับๆๆๆจะฝันเห็นชายร่าง สูงใหญ่  เดินมาบอก ว่าทำไมว่า เหตุใดพวกสูเจ้ามิรู้จักการะเทสะ เยือนถิ่นใยมิรู้จักขอขะขมาละโทษ  หลังจากนั้นก็เดินทางกลับบ้านกัน คุยเรื่องนี้กันไปกลัวกันไปต่างๆๆนานา


โอวว ใช้ได้เลยครับเรื่องของน้า ขนลุกเลย
คห.14: 10 มิ.ย. 53, 16:06
อ่านตาลายเลยคร้าบบบ.คุณลภ
lovefishing(560 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.15: 10 มิ.ย. 53, 16:08
น่าจะเจอแบบที่ให้3ตัวเจ๋งๆๆ
คห.16: 10 มิ.ย. 53, 16:08
ชอบมากคับ อ่านปายขนลุกปาย อิอิ
cowboy51(1224 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.17: 10 มิ.ย. 53, 16:14
++++เยี่ยมเลยครับ

***ผมก็หลอนเป็นประจำ โดนหลอกกลางวันแสกแสก
    นั่งหลิววัดผิดวัดถูก
    โดนผีปลาหลอกกินเหยื่อ โดยเฉพาะปลาซ่ง จ้องทุ่น หลอนเป็นประจำครับผม
mr.x(104 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.18: 10 มิ.ย. 53, 16:19
อ้างถึง: นักล่าแห่งลำน้ำจาง posted: 10-06-2553, 15:17:43


ไหนๆกระทู้นี้ ก็มาเรื่องแบบนี้แล้ว...

ขอฝากไว้สักเรื่องแล้วกันนะครับ

ขอบอกว่า ไม่อ่านแล้วจะเสียดาย
.....

  วีธีทำน้ำมันพรายครับ ดีดเป๊ะ ดีดเป๊ะ กระโดดใส่เลย ***//////

ช่วงนี้ลองสำรวจดูวัด หรือโรงพยาบาลใกล้ๆบ้าน ว่ามีผีตายท้องกลมบ้างหรือเปล่า ท้องแฟบๆ อย่าไปสนใจ เมื่อได้เป้าหมายที่ต้องการแล้ว เตรียมอุปกรณ์

เทียนไข 1 เล่ม ถ้าโลภมากก็อนุญาตเพิ่มเป็น 2 เล่ม

ไฟแช็ค 1 อัน ไม่ควรใช้ไม้ขีดไฟ เพราะเวลาผีมา ลมมักจะแรง แล้วมือเราก็อาจจะสั่นด้วย

ถ้วยสำหรับใส่น้ำมัน กี่ใบแล้วแต่จำนวนเทียน

ชวนเพื่อนไปด้วย 1 คน เผื่อผีไม่ยอมจะได้ช่วยกันขู่ เพื่อนสายตาสั้นไม่ต้องชวนไป เดี๋ยวมาลนผิดที่ มาลนไฟที่คางเรา จะหมางใจกันเปล่าๆ

เพื่อนที่วิ่งช้าๆ เป็นคนที่เราควรจะชวนไปด้วยเป็นอย่างยิ่ง

อย่าลืมแขวนพระ ไม้กางเขน กระเทียม กระบี่ และอื่นๆ ที่ผีไทย และผีนานาชาติกลัวไปด้วย เนื่องจากเราไม่รู้ว่าผีนับถือศาสนาใด

ก่อนลงมือ ดูฤกษ์ดูยามให้ดี ผีจะได้ไม่หลอก เช็คดูกับกรมอุตุฯด้วยว่าต้องไม่มีฝน ถ้ามีฝนโดยเฉพาะฝนตกหนัก ควรไปยืนตากฝนร้องเพลงเศร้าๆหน้าบ้านคนที่เรารักมากกว่า อาจจะได้คะแนนเห็นใจ

เมื่อได้ฤกษ์งามยามดีแล้ว อย่าลืมตรวจสอบว่า มีการสวดศพกี่วัน ไม่ใช่พระกำลังกุสลาธรรมาอยู่ แล้วเราไปงัดโลงเหยงๆ เราอาจจะเป็นศพไปด้วย

ก่อนจะออกจากบ้าน ทดสอบลมหายใจก่อน โดยวิธีอุดจมูก แล้วหายใจทีละข้าง ข้างไหนหายใจสะดวก ให้ก้าวท้าวข้างนั้นก่อน ถ้าสะดวกทั้งสองข้าง ก็ก้าวเท้าทั้งสองข้างพร้อมกัน แต่ถ้าไม่สะดวกทั้งสองข้าง ควรไปหาหมอได้แล้ว

ระหว่างที่ก้าวเท้า ถ้ามีเสียงจิ้งจกทัก ให้หยุดทันที... มองหาจิ้งจก ทักทายตอบตามมารยาท แล้วค่อยก้าวต่อไป

พอมาถึงวัด ตรงไปที่ป่าช้าทันที ไม่ควรแวะหาเจ้าอาวาส หรือหลวงพี่องค์ใด เพราะงานนี้ไม่จำเป็นต้องครบพระรัตนตรัย มีเพียงพระพุทธที่คล้องคออยู่ ก็พอแล้ว ถึงบริเวณป่าช้า หาเป้าหมายที่ต้องการ โดยตรวจชื่อดูตามโกดังเก็บศพ ถ้าเป้าหมายชื่อ “นาค” ควรกลับไปตั้งหลักที่บ้าน แล้วหาเป้าหมายใหม่ดีกว่า ไม่น่าเสี่ยง แม้จะไม่ได้อยู่พระโขนงก็ตาม

เมื่อเจอเป้าหมายที่ต้องการแล้ว เอาโลงออกจากช่องเก็บศพ เอาศพออกจากโลง ตามแต่วิธีของแต่ละคน อันนี้แล้วแต่ความกล้า ว่าจะอยู่ในระดับใด ถึงตอนนี้ หมาจะเริ่มหอน ลมจะพัดแรง มือซ้ายถือเทียนไขที่เตรียมมา มือขวาจับเพื่อนไว้แน่นๆ กันเพื่อนหนี (ถ้าถนัดซ้าย ก็ใช้มือขวาถือเทียนไข มือซ้ายจับเพื่อน จะมั่นคงกว่า) ให้เพื่อนจุดไฟแช็ค พร้อมเอามือป้องลมกันไฟดับ (สังเกตว่า มือเพื่อนจะไม่ว่างทั้งสองข้าง เผื่อกรณีฉุกเฉิน เราจะเผ่นได้โดยสะดวก)

พอเทียนไขติดไฟดีแล้ว เอาไปลนที่ใต้คางของผี เสียงจะดังฉี่ๆ คล้ายทอดปลา ถ้ารู้สึกหิว ให้ออกไปซื้อของกินได้ที่ร้านเซเว่นฯ หน้าวัด แล้วค่อยกลับมาใหม่ ช่วงนี้ยังไม่ต้องทำอะไร รอจนศพลุกขึ้นนั่ง ให้เพื่อนหยิบภาชนะมารองที่ใต้คางของผี อย่าลืมย้ำให้เพื่อนถือภาชนะด้วยมือทั้งสองข้าง (มือขวาเรายังจับเพื่อนไว้แน่นเช่นเดิม) น้ำมันพรายจะหยดลงภาชนะ ผีจะเฮี้ยนหรือไม่เฮี้ยน ดูได้ตอนนี้ ถ้าผีส่งเสียง โอย..โอย เราควรจับเพื่อนให้แน่นยิ่งขึ้น แต่ถ้าเพื่อนร้อง โอย..โอย แสดงว่าเราจับเพื่อนแน่นเกินไปแล้ว

ผีบางตนที่เฮี้ยนมากๆ อาจจะมีการหักคอให้หวาดเสียว พอผีเอื้อมมือมาปุ๊บ เราจะรู้ได้ทันทีว่าพระเราศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ ถ้าพระดี ผีจะแหกปากร้องร้องลั่น ด้วยความกลัว ถ้าพระเก๊ เราก็จะแหกปากร้องด้วยความเจ็บแทน ตอนนี้เครื่องรางของขลังต่างๆ ที่เตรียมมา ให้ลืมไปก่อน แนะนำให้ใช้เท้าข้างใดข้างหนึ่ง ยันแรงๆ (หรือที่เรียกว่าถีบ) ไปที่ยอดอกของผีหลายๆครั้ง จนกว่าผีจะปล่อยเรา

พอน้ำมันเต็มภาชนะ เอาเทียนออกจากคางผีช้าๆ อย่าเพิ่งดับไฟ เพราะช่วงนี้ผีอาจตุกติก มีลูกเล่น ให้เรากระดิกเท้าเบาๆเตือน ผีก็จะลงนอนแต่โดยดี เอาผีใส่โลง เอาโลงใส่ช่องเก็บศพ เก็บข้าวเก็บของกลับบ้าน เป็นอันเสร็จพิธี พอถึงตอนนี้ ลมจะสงบ ไก่จะเริ่มขันพอดีตามสูตร

ก่อนจะนำไปใช้งาน อย่าลืมสังเกตสีของน้ำมันก่อน ถ้าเป็นสีแดง ออกเทน 91 เหมาะสำหรับชายรุ่นใหม่ (New Generation) ผู้สดใส ร่าเริง มองโลกในแง่ดี ส่วนน้ำมันสีเหลืองอำพัน ออกเทน 95 เหมาะสำหรับผู้ชายรอบจัด เจ้าชู้ แต่ถ้าเป็นสีเหลืองคล้ำๆ ละก็ เหมาะสำหรับชายมาดแมน ผู้ใช้แรงงานเป็นอย่างมาก ใช้ไม่ตรงกับที่ระบุก็ได้ แต่คุณภาพอาจจะลดลง

วิธีใช้ เมื่อเจอคนที่เราหมายปอง รีบเทน้ำมันพรายใส่นิ้วชี้ ไม่ควรใช้นิ้วกลาง เนื่องจากน่าเกลียดมาก เวลาเราชูนิ้วกลางโร่เข้าไปหาเหยื่อ ปริมาณน้ำมันพราย ก็แล้วแต่เราจะเอาขั้นไหน ถ้าหยดสองหยด ก็ “ลืมตัว มัวเมาเฝ้าพิศวาส” แต่ถ้าจะเอาถึงขั้น “หลงรูปจูบกระดาษที่วาดไว้” ละก็ ใช้วิธีสาดเอาเลยดีกว่า

น้ำมันพรายจะต้องป้ายให้โดนผิวหนังเหยื่อ ดังนั้น เราจะต้องเล็งให้แม่น ตรงข้อศอก ดีที่สุด เพราะตรงนั้นป้ายง่าย ไม่หวาดเสียว แต่ถ้าเหยื่อใส่เสื้อแขนยาว ก็เปลี่ยนมาเล็งที่หลังมือแทน ถ้าเหยื่อใส่ถุงมือ ก็เปลี่ยนมาที่แก้ม ถ้าเหยื่อยังใส่หน้ากากอีก ก็เลิกสนใจเถอะ หมอนั่นมัน บ้าแน่ๆ

ป้ายแล้ว อย่าลืมให้เบอร์โทร หรือ อีเมลแอดเดรส ด้วย เสร็จแล้วกลับมานอนยิ้มหวาน รอโทรศัพท์ที่บ้านได้ ไม่เกินสามวันเจ็ดวัน... เหงือกแห้ง

* เครดิต * ขอขอบคุณ นายตั้ม จากทะเลไท ครับ 


น้ามีซักขวดมั้ยครับ  พอดีจะไปดูบันทึกเทปรายการ สตอร์เบอรี่ชีสเค้ก ถึงสตูดิโอเลย แต่น้าจะไปด้วยป่าววว 
mr.x(104 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.19: 10 มิ.ย. 53, 16:29
อ้างถึง: santod posted: 10-06-2553, 16:06:33

อ่านตาลายเลยคร้าบบบ.คุณลภ


อ้าววว คุณโต๊ด มาไงครับ  ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ไปตกปลาเลยว่ะ ได้ข่าวว่าช่วงนี้กำลังพีค
กับอาวุธใหม่อยู่ใช่ป่าว เห็นเค้าออกหมายนอก หมายแท่นขุดกัน แล้วน้ำลายไหล ว่างๆ ไปกัน  เฮ้ยโต้ด
เอารูปปลามาโชว์มั้ง อยากเห็น ไปก่อน 
คห.20: 10 มิ.ย. 53, 16:47
น้ำมันพลาย อ่านแล้วน้ำตาไหลเลยครับ กลั้น(หัวเราะ)ไม่อยู่จริงๆ
คห.21: 10 มิ.ย. 53, 16:55
++++ผมไปตกปลาเที่ยวในป่าเจอกับตัวเองบ่อยๆ..หลอกจะๆผมคิดเสียว่าเขาอยู่คนละภพกับเราคงมาขอส่วนบุญเรา...ทางใครทางมัน...มาให้เห็นได้แต่อย่ามาทำความเดือดร้อนให้เราใช้ได้ครับ....เจอแล้วก็ไปทำบุญอุทิศส่วนบุญกุศลให้เขาไปครับ...ทางที่ดีเจอหลอกแบบนี้หาคาถาหัวใจท้าวเวสสุวันมาท่องให้ขึ้นใจ...สวดลงนรกไปเลยครับ...เขาจะได้ไปเกิดใหม่ไม่เป็นผีเร่ร่อนต่อไปครับ....****ห้ามสวดแพร่เมตตาเด็ดขาดจะทำให้ไม่ไปไหนเลยครับ


****ป.ล.ห้ามพูดกับคนไม่เคยเจอผีหลอก....เดี๋ยวเขาจะหาว่าเราบ้าคร๊าบบบบบบ
mr.x(104 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.22: 10 มิ.ย. 53, 17:02
อ้างถึง: ผู้การเสือ posted: 10-06-2553, 16:55:57

++++ผมไปตกปลาเที่ยวในป่าเจอกับตัวเองบ่อยๆ..หลอกจะๆผมคิดเสียว่าเขาอยู่คนละภพกับเราคงมาขอส่วนบุญเรา...ทางใครทางมัน...มาให้เห็นได้แต่อย่ามาทำความเดือดร้อนให้เราใช้ได้ครับ....เจอแล้วก็ไปทำบุญอุทิศส่วนบุญกุศลให้เขาไปครับ...ทางที่ดีเจอหลอกแบบนี้หาคาถาหัวใจท้าวเวสสุวันมาท่องให้ขึ้นใจ...สวดลงนรกไปเลยครับ...เขาจะได้ไปเกิดใหม่ไม่เป็นผีเร่ร่อนต่อไปครับ....****ห้ามสวดแพร่เมตตาเด็ดขาดจะทำให้ไม่ไปไหนเลยครับ


****ป.ล.ห้ามพูดกับคนไม่เคยเจอผีหลอก....เดี๋ยวเขาจะหาว่าเราบ้าคร๊าบบบบบบ



doggy(227 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.23: 10 มิ.ย. 53, 17:13
tarseahunter(669 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.24: 10 มิ.ย. 53, 17:18
คห.25: 10 มิ.ย. 53, 17:48

น้ามีซักขวดมั้ยครับ  พอดีจะไปดู บันทึกเทปรายการ สตอร์เบอรี่ชีสเค้ก ถึงสตูดิโอเลย แต่น้าจะไปด้วยป่าววว
ไม่มีหรอกคร้าบน้ำมันพราย มีแต่น้ำมันจิ้งจก ไม่รุ้ใช้แทนได้ไหม 

ว่าแต่รายการนี้ น่าไปดูรายการสดจริงๆ 

......

อ้างถึง: pot_372 posted: 10-06-2553, 16:47:46

น้ำมันพลาย อ่านแล้วน้ำตาไหลเลยครับ กลั้น(หัวเราะ)ไม่อยู่จริงๆ
บอกแล้วไงครับ ไม่อ่านแล้วจะเสียดาย

123>
siamfishing.com © 2024