ไปTEXASมาอีกแล้วครับ(69) "We are MrSHARK": SiamFishing : Thailand Fishing Community
12345>>>
กระดาน
คห. 325 อ่าน 28,991
ไปTEXASมาอีกแล้วครับ(69) "We are MrSHARK"
MrSHARK(2963 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ตั้ง: 28 พ.ย. 52, 17:24
ไปTEXASมาอีกแล้วครับ(69) "We are MrSHARK"
The Long Run  :  The Eagles



TEXAS Rig  Chapter 69  "We are MrSHARK"

และแล้วพวกเรา Mr.SHARK Fishing Gang ในเส้นทางของTexas Rig ก็ดั้นด้นมาจนถึงทริปที่ 69 จนได้ ในวาระพิเศษเช่นนี้ พวกเรารู้สึกดีใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้นำเสนอผลงานจากรูปแบบหนึ่งของวิธีการตกปลาด้วยเหยื่อปลอม ต่อเพื่อนนักตกปลาทุกท่าน บนหน้าเว็บไซต์อันทรงคุณค่า  Siamfishing.com ที่เปรียบเสมือนเวทีการแสดงที่ยิ่งใหญ่ ให้เพื่อนนักตกปลาได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันบอกเล่าเรื่องราว แบ่งปันความสุข และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ด้วยมิตรภาพและการให้เกียรติซึ่งกันและกัน

พวกเราไม่ใช่กลุ่มนักตกปลาที่มีจุดประสงค์ในการแสวงหาืชื่อเสียง ดำเนินธุรกิจ หรือมุ่งหวังผลสำเร็จในการแข่งขัน หากแต่พวกเราเป็นเพียงกลุ่มนักตกปลาเล็ก ๆ ที่มีความผูกพันกัน มีภูมิลำเนาใกล้เคียงกัน ชอบความรื่นรมย์จากกิจกรรมตกปลาในลักษณะเดียวกัน ทำให้พวกเราเกาะกลุ่มรวมตัวกันเดินตามความฝันบนเส้นทางการตกปลามาเป็นเวลานานพอสมควร ซึ่งก็คงคล้ายคลึงกับเพื่อนนักตกปลาทุกท่าน

ในโอกาสพิเศษ จึงขออนุญาตนำเสนอก้าวย่างของพวกเรา Mr.SHARK Fishing Gang ฝากเป็นสิ่งจารึก ณ เว็บไซต์ที่มีความผูกพันต่อพวกเราแห่งนี้ ไว้เป็นความภาคภูมิใจของพวกเราสืบไป


ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม และขออภัยหากกระทู้นี้รบกวนท่านที่อาจไม่รู้สึกสนใจ


(Texas Rig เป็นเพียงวิธีการเข้าสายหน้าเกี่ยวเหยื่อยางวิธีหนึ่ง การสร้างแอ็คชั่นให้เหยื่ออยู่ที่ความถนัด ความชำนาญ และความชอบของแต่ละบุคคล เยาวชนควรให้คำแนะนำแก่ผู้ปกครอง)

Tight the line, man !!!! 


MrSHARK(2963 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.1: 28 พ.ย. 52, 17:24
 :smile:

We are Mr.SHARK


We are Mr.SHARK
MrSHARK(2963 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.2: 28 พ.ย. 52, 17:25
 :smile:

ประมาณปี 2538

Mr.SHARK  เริ่มต้นขึ้นจาก


ประมาณปี 2538

Mr.SHARK  เริ่มต้นขึ้นจากเพื่อนสนิทคู่นึง  นายวรสิทธิ์ (ศรีบูรพา)  นายหนู (MR.TEXAS)  ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กัน มีความรักในการตกปลาเหมือนกัน วันหยุด วันว่าง ก็ชวนกันออกตกปลาตามหมายธรรมชาติต่าง ๆ  สองคนถืออุปกรณ์เดินนับไม้หมอนรถไฟไปตกปลาด้วยกันก็เคย  โบกรถไปตกปลาก็เคย  เข้าหมายดิบ ๆ แล้วดึกดื่นยังหารถกลับบ้านไม่ได้ก็เคย

เช่นเดียวกันกับผู้เริ่มต้นทั้งหลาย ยุคนั้นนิตยสารที่เกี่ยวกับการตกปลาย่อมเป็นที่สนใจของนักตกปลา และนิตยสารที่นายศรีบูรพาติดตามเป็นประจำทุกฉบับจนกองเต็มบ้านคือ "โลกกว้างกลางแจ้ง"  เฉกเช่นเด็กหนุ่มไฟแรงทั้งหลาย ภาพปลาทะเลตัวโต ๆ ในนิตยสาร ฉุดดึงความฝันของทั้งสองออกไปไกลสุดกู่ วาดหวังสู่ท้องทะเลกว้าง และหมายมั่นการประมือกับราชาแห่งท้องทะเล  "ฉลาม"

นายศรีบูรพา กับ นายหนู เริ่มเก็บหอมรอมริบเพื่อให้ได้อุปกรณ์ที่มีศักยภาพเพียงพอกับการลงเรือออกทะเล ยุคนั้น รอก BG 90 ถูกเรียกเข้าประจำการเป็นชุดแรก  และไม่กี่ทริปออกการออกทะเลต่อมา นายศรีบูรพาก็ประสบความสำเร็จตามความฝัน ด้วยฉลามหูดำ น้ำหนักประมาณ 35 กิโลกรัม ที่ย่านแหลมรังนก 

ด้วยความที่ติดตามนิตยสารโลกกว้างกลางแจ้งมานาน นายศรีบูรพา เริ่มรู้สึกไม่อยากเก็บความอิ่มเอม ภูมิใจ ไว้คนเดียว เรื่องราวของฉลามตัวนั้นจึงถูกถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือ และส่งไปให้ บก. นิตยสารฯ พิจารณา และได้รับความกรุณาจาก บก.นิตยสารฯ ลงตีพิมพ์ให้

นามปากกาที่ นายศรีบูรพา เริ่มต้นส่งเรื่องราวไปเผยแพร่ครั้งนั้นคือ  "Mr.SHARK"
คห.3: 28 พ.ย. 52, 17:25
ความเห็นนี้ได้ถูกซ่อนไว้โดยเจ้าของกระทู้
MrSHARK(2963 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.4: 28 พ.ย. 52, 17:26
 :smile:

ต่อมาไม่นาน นายศรีบูรพา กับ นาย


ต่อมาไม่นาน นายศรีบูรพา กับ นายหนู เริ่มลงเรือออกทะเลเป็นจริงเป็นจัง อุปกรณ์คู่มือถูกพัฒนาขึ้น ความจัดเจน ประสบการณ์เริ่มมีมากขึ้น เรื่องราวต่าง ๆ ถูกส่งไปเผยแพร่ในนิตยสารโลกกว้างกลางแจ้งประปราย

ก้าวแรกสู่การแข่งขัน  ด้วยแม็ทช์ที่ท้าทาย

การแข่งขันตกปลาที่ "สายบุรี" ปี 2540

การแข่งขันตกปลาที่ อ. สายบุรี จ. ปัตตานี ในยุคนั้น เป็นที่กล่าวขวัญถึงทั้งในด้านความหฤโหด และความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรปลา  เรือที่ใช้แข่งขันส่วนใหญ่เป็นเรือกอและของชาวประมงพื้นบ้านที่ผู้จัดแข่งขันขอความร่วมมือ ผลพลอยได้คือการส่งเสริมการท่องเที่ยว เผยแพร่ชื่อเสียงของแหล่งปลา  ทางด้านของนักตกปลาว่ากันว่า ใครที่ผ่านการแข่งขันที่สายบุรีได้  สามารถแข่งขันตกปลาทะเลได้ทั่วประเทศไทย

นายศรีบูรพา กับ นายหนู ร่วมกับผู้อาวุโสอีกท่านหนึ่งคือ พี่อโณทัย เข้าร่วมการแ่ข่งขันในครั้งนั้น ถึงแม้่จะไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องรางวัล แต่การประมือกับฝูงปลาอีโต้มอญฝูงใหญ่ในครั้งนั้น ก็สร้างความประทับใจให้ทั้งสอง เป็นที่จดจำและกล่าวขานกันในกลุ่มมาจนถึงทุกวันนี้ 
คห.5: 28 พ.ย. 52, 17:26
ความเห็นนี้ได้ถูกซ่อนไว้โดยเจ้าของกระทู้
MrSHARK(2963 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.6: 28 พ.ย. 52, 17:26
 :smile:

ส่วนตัวผมได้มีโอกาสลงเรือตกปล


ส่วนตัวผมได้มีโอกาสลงเรือตกปลาออกทะเลครั้งแรกเมื่ออายุประมาณ 15 ปี ก่อนหน้านั้นก็เหมือนเด็กผู้ชายทั่วไป ธงเบ็ดปลาช่อน ใช้คันไม้ไผ่ตกปลาหมอ ไปตามเรื่องตามราว เมื่อครั้งลงเรือครั้งแรก ในยุคนั้น ชื่อ "บางเสร่" ไม่ไ้ด้แฝงความหมายใด ๆ ให้ึลึกซึ้งหรือสร้างความตื่นเต้นให้ผมเมื่อมีโอกาสได้ติดสอยห้อยตามคุณอาซึ่งมีอาชีพเป็นไกด์นำเที่ยว ไปกับเพื่อนฝรั่งของคุณอาบอกว่าจะลงเรือไปตกฉลามกัน เวลานั้นสำหรับผมแล้ว ทุกอย่างคือครั้งแรกไปหมด รอกฝาดำขนาด 9/0 ประกอบคันเบ็ดไฟเบอร์ด้ามไม้เนื้อแข็งมีไกด์โรลเลอร์ขนาดใหญ่ ตอนนั้นผมคิดว่าเป็นอุปกรณ์เกี่ยวกับเสาธงเรือ ไม่รู้ว่าเป็นอุปกรณ์ตกปลา แต่ที่สุดของความตื่นตาที่เล่นเอาขนหัวลุกซู่ หัวใจแทบหยุดเต้นก็เมื่อ ยามที่เพื่อนฝรั่งร่างยักษ์ของอาอัดเอา "ตะเพียนทอง" หรือฉลามเสือขนาดร้อยกว่ากิโลขึ้นมาหมุนตัวใส่เกลียวเป็นนักยิมนาสติกอยู่ข้างเรือ

"I am the real sea king,  I'm SHARK"

ยามเมื่อผมสบตากับมันที่ข้างเรือ ผมเชื่อว่ามันพูดเช่นนั้น

กัปตันหายเข้าไปในเก๋งเรือแล้วกลับออกมาพร้อมคีมอันเขื่องในมือ ทีแรกผมนึกว่ากัปตันจะถอนฟันฉลามแจกผู้ร่วมทริป แต่ผิดถนัด บ่วงเชือกถูกคล้องเข้าที่หัวบริเวณใต้ครีบหู ลูกเรือช่วยกันดึงจนหัวฉลามพ้นน้ำ วินาทีต่อมาคีมในมือกัปตันก็ได้ทำหน้าที่ของมัน แล้ว Sea King ก็ได้กลับบ้าน

นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมการ Release เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นฉลามเสือใหญ่เป็น ๆ เป็นครั้งแรกที่ได้รู้ว่า คนเราไม่ได้ตกปลาเพื่อกินอย่างเดียว


ผมเริ่มจับคันเบ็ดตกปลาแบบเป็นเรื่องเป็นเรื่องราวจริงจังประมาณปี 2527 ด้วยแรงจูงใจจากนิตยสาร "ชีวิตกลางแจ้ง" ตำนานแห่งนิตยสารลูกผู้ชายผู้ชมชอบป่าเขาลำเนาไพรและท้องทะเลในยุคนั้น แต่ด้วยความที่ "ไม่รู้" และไม่มี "โอกาส"  การตกปลาของผมจึงเป็นแค่ส่วนประกอบของการโบกรถเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน ๆ แต่ด้วยความที่เป็นคนที่สนใจเรื่องการตกปลาเพียงคนเดียว จึงเหมือนโดดเดี่ยว  เกาะ พี.พี.  แสมสาร  บางเสร่ อ่าวอุดม คุ้งวิมาน ในยุคนั้นบุกตะลุยกันทะลุปรุโปร่ง แต่ไม่เคยได้สัมผัสกับ "เกมฟิช"  แต่ส่วนลึกของจิตใจก็เหมือนกัน คือคาดหวังกับการสร้างตำนานส่วนตัว บ่อยครั้งที่ยืนริมฝั่ง ทอดสายตาออกสู่ทะเลกว้าง อยากรู้ว่าถ้าถือคันอัดปลากระโทง มันจะหนักขนาดไหน ด้วยข้อจำกัดที่ทำได้คือ ทุกวันหยุดก็ถืออุปกรณ์ ขึ้นรถเมล์สาย 20 ไปคนเดียว มุ่งหน้าสู่คลองนาเกลือ ป้อมพระจุลจอมเกล้า ไปตกปลาดุกทะเล

จนเมื่อใกล้เรียนจบ ผมก็วางมือจากการตกปลาไป

สิบกว่าปี หลังจากวางมือ ผมก็ได้รู้จัก นายศรีบูรพา เริ่มจากการ  "ตบตี"

ผม กับ นายศรีบูรพา ไม่ใช่เกย์

แต่เป็นการแข่งขันวอลเลย์บอลในหน่วยงานเดียวกัน จากการฟาดฟันเอาเป็นตายในการแข่งขันกีฬา จนมาเป็นเพื่อนกัน และผมมารู้ทีหลังว่า นายศรีบูรพา "ตกปลา"  และผมก็ "ชอบตกปลา"  ทริปรับน้องก็เกิดขึ้น โดย นายศรีบูรพา กับ นายหนู พาผมลงเรือไปตกปลากดทะเล ที่ปากคลองที่ไปลงอ่าวไทย ย่านบางขุนเทียน  ด้วยความที่ผมทำงานที่เกี่ยวข้องกับเอกสารและการพิสูจน์อักษร นายศรีบูรพา จึงแนะนำให้ผมทดลองเขียนบทความส่งให้นิตยสารโลกกว้างกลางแจ้งบ้าง ทริปปลากดทะเลทริปนั้นจึงถูกส่งไป

นายศรีบูรพา กับ นายหนู เห็นพ้องต้องกันว่าผมผ่านการทดสอบ ให้เข้าร่วมกลุ่มด้วยกัน

Mr.SHARK  กับ SHARK ที่ผมเห็นการตกปลาครั้งแรก จึงถูกผสานเข้าด้วยกัน

สิงหาคม  2542 บทความ "ข้าฯ กลับมาแล้ว"  ถูกตีพิมพ์ในนามปากกา "Mr.SHARK"



คห.7: 28 พ.ย. 52, 17:27
ความเห็นนี้ได้ถูกซ่อนไว้โดยเจ้าของกระทู้
MrSHARK(2963 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.8: 28 พ.ย. 52, 17:27
 :smile:

แฟน ๆ นิตยสารโลกกว้างกลางแจ้งย


แฟน ๆ นิตยสารโลกกว้างกลางแจ้งยุคนั้น ถ้าไม่รู้จักคอลัมน์ "โลกของแร้งเฒ่า" และไม่รู้จัก "ป๋าจ๋า" แสดงว่าไม่ใช่แฟนตัวจริง  คอลัมน์ของ แร้งเฒ่า หรือ เฮียถัง ติดอันดับคอลัมน์ยอดนิยมลำดับต้น ๆ ของนิตยสาร ด้วยสำนวนการเขียนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ชวนติดตาม อ่านแล้วจินตนาการตามได้ราวร่วมไปกับทริปนั้น ๆ ด้วยจริง ๆ  สอดแทรกด้วยมุขขำัขันลึกซึ้ง และที่เหนืออื่นใดคือ การสอดแทรกให้ผู้อ่านได้เข้าถึงแก่นแท้ของการตกปลา เฮียถัง กับ ป๋าจ๋า เฒ่าทะเลผู้ทรนงแห่ง ช่องแสมสาร สร้างตำนานทริปแล้วทริปเล่าให้นักตกปลารุ่นหลังได้สัมผัสผ่านตัวหนังสือ และเกิดอาการหมายมั่นปั้นมือมุ่งหวังโลดแล่นสู่ท้องทะเล

ผมใช้เวลาและความพยายามพอสมควรในการแนะนำตัว และฝากตัวเป็นลูกศิษย์เฮียถัง เพื่อขอเรียนรู้วิชาจากการเพียงรู้จักผ่านข้อเขียนบทความ และเมื่อเฮียถังให้การยอมรับ ผมพบว่า ความเป็นคนทรนง ตรงไปตรงมา ใจนักเลง  และความเป็นตัวอย่าง ที่สมัยนี้คงจะเรียกว่า "ไอดอล" ของท่าน ไม่ได้ต่างไปจากเพียงการรู้จักผ่านบทความข้อเขีียนของท่านเลย

น่าเสียดายที่วันนี้ท่านจากไปแล้ว 



สิ่งที่เป็นความภาคภูมิใจ คือ วันที่ผมรับเสื้อทีม "Albatross"  จากมือเฮียถัง  และอนุญาตให้เ็ป็นส่วนหนึ่งของ Albatross ตำนานทีมนักตกปลาตัวจริง (The Real Angler) ที่ยิ่งใหญ่ทีมหนึ่ง

ยามเมื่อผมร่วมออกทริปกับเพื่อน ๆ  ผมคือ Mr.SHARK  แต่ทริปไหนไปกับเฮียถัง หรือเฮียถังไปด้วย ผมคือ Albatross



เฮียถังมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ซึ่งผมถือว่าเป็นเพียงศิษย์ปลายแถวคนหนึ่งเท่านั้น ข้อเขียนที่เอ่ยอ้างถึงท่าน เป็นความรู้สึกส่วนตัวระหว่างผมกับท่านอย่างแท้จริง
คห.9: 28 พ.ย. 52, 17:27
ความเห็นนี้ได้ถูกซ่อนไว้โดยเจ้าของกระทู้
คห.10: 28 พ.ย. 52, 17:28
หวัดดีครับ  Mr.shark  มีรูปเฮียถังด้วย
MrSHARK(2963 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.11: 28 พ.ย. 52, 17:29
 :smile:

หวัดดีครับ น้าเฒ่า  คิดถึงครับ  :s


หวัดดีครับ น้าเฒ่า  คิดถึงครับ 


ตำนานที่ยืนยงครับ 
MrSHARK(2963 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.12: 28 พ.ย. 52, 17:30
 :smile:

Mr.SHARK ในยุคนั้น เค็มมาก ๆ เพราะลงเ


Mr.SHARK ในยุคนั้น เค็มมาก ๆ เพราะลงเรือออกทะเลกันอย่างเดียว  ต่อเมื่อเวลาผ่านมาสักพัก พวกเราเริ่มมองการตกปลาตามบ่อตกปลาว่าก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ีน่าสนใจ  ในขณะนั้นพวกเราคิดกันเองว่า บ่อตกปลาน่าจะเป็นแหล่งซ้อมมือ ไว้รับมือกับปลาใหญ่ ๆ ที่อาจเจอในทะเล ด้วยความที่มีปลาสวายใหญ่ ๆ ไปจนถึงปลาบึก และด้วยความที่ใกล้บ้าน บ่อ "เงาน้ำ" จึงเป็นที่สถิตของพวกเราในยุคนั้นแทบทุกวันเสาร์ที่  ซุ้ม b3

MrSHARK(2963 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.13: 28 พ.ย. 52, 17:31
 :smile:

2544

ด้่วยความที่มีโอกาสได้ใช้ Inte


2544

ด้่วยความที่มีโอกาสได้ใช้ Internet มากที่สุดในกลุ่ม จาก Search engine ของ sanook.com ผมพบเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการตกปลาที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน www.Siamfishing.com  กับการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับสมาชิกซึ่งยังไม่มากนักในขณะนั้น ผมกลับไปบอกเพื่อน ๆ ในกลุ่มว่า "พวกเราเป็นกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้นในวงการตกปลา" "เราเป็นเพียงกบในกะลา"มีอะไรที่เราต้องเรียนรู้สั่งสมอีกมากมายนัก

กับ webmaster ที่ผมได้มีโอกาสพบปะทำความรู้จัก ผมได้รับรู้ถึงตัวตน แนวคิด และอุดมการณ์ที่แท้จริงในการทำเว็บไซต์ ซึ่งผมขออนุญาตไม่กล่าวถึงมากนัก แต่การรับรู้นั้น ทำให้พวกเราคงสถานภาพการเป็นสมาชิกของ siamfishing มาจนถึงทุกวันนี้


คห.14: 28 พ.ย. 52, 17:32
ความเห็นนี้ได้ถูกซ่อนไว้โดยเจ้าของกระทู้
MrSHARK(2963 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.15: 28 พ.ย. 52, 17:32
 :smile:
คห.16: 28 พ.ย. 52, 17:33
ความเห็นนี้ได้ถูกซ่อนไว้โดยเจ้าของกระทู้
MrSHARK(2963 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.17: 28 พ.ย. 52, 17:33
 :smile:

อายครูไม่รู้วิชา

ปรมาจารย์อีก


อายครูไม่รู้วิชา

ปรมาจารย์อีกหนึ่งท่านที่ผมฝากตัวเป็นศิษย์คือ  "พี่ติ่ง แสมสาร" ถึงแม้พี่ติ่งจะ Wellknown (มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก) อยู่ในนิตยสารอีกฉบับหนึ่งคือ "แสมสารไม่มีลาก่อน" แต่ด้วยความสนใจในแนวทาง "Catch & Release" และด้วยแนวคิดของตัวเองที่เห็นว่าในเส้นทางของกิจกรรมเดียวกันไม่เห็นมีความจำเป็นต้องแบ่งแยก ในบ่อตกปลาไม่เห็นบ่อไหนขึงเชือกเป็นเลน (Lane) เป็นลู่ ให้เฉพาะคนนั้นคนนี้ต้องตีให้ตรงช่อง ในทะเลก็ไม่มีข้อจำกัดว่า กองนี้ หมายนี้ คนนี้เข้าได้ คนนั้นเข้าไม่ได้

พี่ติ่งชอบเล่นของหนัก ๆ ปลาใหญ่ ๆ ตรงใจพวกเราที่สุด แต่ของที่พี่ติ่งพาไปเจอ มักทำให้ผมแทบเป็นลมเสมอมา

ผมประทับใจกับภาพนี้ที่มีโอกาสได้อยู่ตรงกลางระหว่างผู้ยิ่งใหญ่สองท่าน  เสื้อ Albatross ตัวนี้ เฮียถังใส่ออกทริปเป็นประำจำ ทวีคุณค่าจากสาปเหงื่อและคาวปลา  วันนั้นในงานสังสรรค์ของ Siamfishing ที่บ่อร่มเกล้า พี่ติ่งเป็นผู้ประมูลได้ไปครอบครอง


"ฯลฯ
ความหมายก็คือ รักจะตกปลาแล้วอย่าิ่อิ่มตัวง่าย ๆ ทำใจเป็นครั้งแรกเสมอ วันแรกที่จับคันเบ็ดแล้วรู้สึกยังไง ได้ยินเสียงรอกของตัวเองครั้งแรกแล้วเป็นยังไง ถ้าออกตกปลาทุกครั้งแล้วมันรู้สึกว่าตื่นเต้นเหมือนครั้งแรกเสมอ ผมว่าดีออกนะ แต่ถ้าเป็นโปรฯ เป็นเซียนแล้วไม่มีข้อผิดพลาด ลงเบ็ดเปล่า ๆ ไม่ต้องเกี่ยวเหยื่อแล้วมีปลาฉวย ผมก็คงดิ้นรนอยากเป็นโปรฯ กะเขาเหมือนกัน
ฯลฯ
ในความคิดของผม โปรฯ หรือเซียนจึงหมายถึงนักตกปลาที่ไม่หยุดนิ่ง เสาะหาแนวทาง ความรู้ ทดลองสิ่งใหม่ ๆ แล้วบันทึีกหรือถ่ายทอดสู่วงการเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ไม่ใช่เป็นโปรฯ แล้ววางมาดนิ่ง เงียบขรึม อมภูมิ รู้มากแต่ไม่อยากเล่า รู้คนเดียวทำคนเดียว อย่างนี้โปเกครับ
แทบทุกค่ำคืนในห้องสนทนาของ Siamfishing.com ผมได้มุมมอง แนวคิด หลักการ และลิงค์ทีเด็ด อะไรต่อมิอะไรที่เป็นอาหารสมองจากเพื่อน ๆ อย่างสม่ำเสมอ พี่น้ำหวาน (พี่ติ่ง แสมสาร) เป็นบุคคลหนึ่งที่ผมถือว่าโชคดีที่ได้รู้จักพูดคุย ซึมซับเก็บเกี่ยวเอาความรู้ปนความฮามาจากพี่น้ำหวานมากมาย ทั้งในรูปแบบลักตื่นและลักหลับ จากที่เคยรู้จักพี่น้ำหวาน (พี่ติ่งฯ) เพียงด้านเดียวจากหน้านิตยสารด้วยสโลแกนเตะหู "ผู้ซับน้ำตาให้นักตกปลา" แรกทีเดียวผมนึกว่าพี่แกมีกิจการกระดาษทิชชู่ แล้วมาลงโฆษณาในนิตยสารในวงการตกปลา มารู้ทีหลังว่าฉายาพี่เค้าหมายถึงความรู้ความชำนาญในการซ่อมแซมอุปกรณ์ต่างหาก เป็นที่พักพิงของนักตกปลายามที่อุปกรณ์คู่มือมีอันต้องชำรุดบกพร่องจากสาเหตุต่าง ๆ ถ้าถึงมือพี่น้ำหวานเมื่อไหร่ พี่น้ำหวานก็จะพยายามหาทางซ่อมแซมให้ใช้งานได้ตามปกติ ใกล้เคียงหรือคืนสู่สภาพเดิม ที่ต้องทึ่งไม่ใช่การสำรองอะไหล่จากอุปกรณ์ที่เสียหายซ่อมไม่ได้แล้วที่พี่เค้ารับซื้อไว้ แต่เป็นความพยายามในการซ่อมแซมฟื้นฟูและดูแลอุปกรณ์ต่าง ๆ ของลูกค้า ราวกับเป็นของ ๆ พี่น้ำหวานเองก็ไม่ปาน"

"บางเสร่ ไ่ม่สิ้นปลาดี"  ฟิชแอนด์เกมส์. Mr.SHARK, มิถุนายน 2546.



คห.18: 28 พ.ย. 52, 17:34
ความเห็นนี้ได้ถูกซ่อนไว้โดยเจ้าของกระทู้
MrSHARK(2963 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.19: 28 พ.ย. 52, 17:34
 :smile:

"ใส่พาน"

หนึ่งในทริปประทับใจท


"ใส่พาน"

หนึ่งในทริปประทับใจทริปหนึ่ง หลังจากที่ นายศรีบูรพา สึกจากการบวชทดแทนพระคุณบุพการี

คห.20: 28 พ.ย. 52, 17:34
ความเห็นนี้ได้ถูกซ่อนไว้โดยเจ้าของกระทู้
MrSHARK(2963 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.21: 28 พ.ย. 52, 17:35
 :smile:

"ฯลฯ
ถ้าหากว่าท่า Over Head เป็นท่ามา


"ฯลฯ
ถ้าหากว่าท่า Over Head เป็นท่ามาตรฐานสำหรับนักตกปลาทั่วไปแล้วล่ะก็ กัปตันมดของเราฉีกตำราอย่างสิ้นเชิง เพราะแกเ่ล่นยืนบนกราบเรือ ถือปลายคันลงต่ำ แล้วย่อตัวส่งหมึกเป็นออกจากหว่างขาตัวเองไป ซึ่งผมเรียกท่านี้ว่า "Under Egg"

เท่าที่รู้ไอ้รอก PENN ตัวนี้มันตีสายได้อยู่แล้ว แถมมีระบบแม่เหล็กหน่วงซะด้วย แต่ไม่คิดว่ามันจะแม่นปานนี้ หมึกเป็นเจ้ากรรมตัวนั้นตกลงปากเจ้ากระโทงอย่างพอดิบพอดี ที่มันต้องทำคือพลิกตัวเล็กน้อยแล้วบรรจงอ้าปากอมเหยื่อแล้วกลืนลงไปเท่านั้น อย่างนี้ไม่เรียก "ใส่พาน" ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกยังไง

ฯลฯ

นับเวลาจากปลาติดเบ็ดจนได้ตัวรวม 2 ชั่วโมง 15 นาที ดูเหมือนเป็นเวลาที่ยาวนานเกินไปสำหรับสาย 20 ปอนด์ แต่งองค์ประกอบหลาย ๆ ประการ เช่น ปริมาณสายน้อย Leader ที่เป็นสายเอ็น การตั้ง Drag ไว้อ่อน ๆ เพื่อป้องกันความผิดพลาด ระยะทางที่ติดตามจากจุดเริ่มต้นประมาณ 6 กิโลเมตร ทำให้ปลาเหนื่อยและบอบช้ำมาก และอีกเหตุผลที่ว่าเป็น "กระโทงร่ม" ตัวแรกในชีวิตการตกปลาของนายวอ (ศรีบูรพา) จึงเห็นพ้องต้องกันให้เกี่ยวปลาขึ้นเรือ"

"ใส่พาน" โลกกว้างกลางแจ้ง. Mr.SHARK, กุมภาพันธ์ 2543.
คห.22: 28 พ.ย. 52, 17:35
ความเห็นนี้ได้ถูกซ่อนไว้โดยเจ้าของกระทู้
MrSHARK(2963 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.23: 28 พ.ย. 52, 17:35
 :smile:

ชื่อปลา : กระโทงร่ม (Sailfish)

น้ำหนัก


ชื่อปลา : กระโทงร่ม (Sailfish)

น้ำหนัก : ประมาณ 40 - 45 กิโลกรัม

อุปกรณ์ : คันเบ็ด (จำไม่ได้)  รอก Penn Magpower 980

สาย : 20 lb.

เวลาสู้ปลา : 2 ชั่วโมง 15 นาที

ผู้ตก : วรสิทธิ์  (ศรีบูรพา)
คห.24: 28 พ.ย. 52, 17:36
ความเห็นนี้ได้ถูกซ่อนไว้โดยเจ้าของกระทู้
MrSHARK(2963 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.25: 28 พ.ย. 52, 17:36
 :smile:

เมื่อสมาชิกของ Siamfishing.com ทวีจำนวนม


เมื่อสมาชิกของ Siamfishing.com ทวีจำนวนมากขึ้น เริ่มมีการจัด Meeting กันในครั้งแรก ๆ

ช่วงนั้นพวกเรายังคงลงเืรือออกทะเลกันเป็นประจำ ด้วยความที่ในกลุ่มมีจำนวนคนมากพอสมควร แต่ละทริปจึงต้องใช้เรือใหญ่ ๆ  และบางครั้งเรือก็ใหญ่มากเพียงพอที่จะัรับคนเพิ่มได้อีก

โครงการ "พาน้องล่องทะเล" โดย Mr.SHARK จึงเกิดขึ้น โดยเปิดโอกาสให้สมาชิกของ Siamfishing.com ที่เป็นเยาวชนที่ใฝ่ฝันอยากจะลงเรือไปตกปลาทะเลซึ่งได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองเป็นลายลักษณ์อักษร ร่วมทริปไปกับพวกเราครั้งละไม่เกิน 2 คน โครงการนี้ทำให้ไม่กี่ครั้งก็มีอันต้องเลิกราไป เพราะเราคิดแต่เพียงการสานฝันให้เยาวชน แต่ความรับผิดชอบในด้านความปลอดภัยมันสูงมากกว่านั้น ถ้าลูกหลานเค้าเป็นอะไรไป มันคงไม่คุ้มและวุ่นวายแน่ ๆ

12345>>>
siamfishing.com © 2024