การกำหนดค่าแรงขั้นต่ำให้แก่แรงงานที่มีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีเป็น 15,000 บาทนั้นอาจส่งผลกระทบทั้งด้านที่เป็นประโยชน์ และด้านภาระดังนี้

1. ผลโดยตรงข้อแรกอาจทำให้บัณฑิตวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี หางานได้ยากขึ้น อันเนื่องมาจากผู้ประกอบการบางส่วนไม่ต้องการแบกภาระต้นทุนเงินเดือนที่สูงขึ้น แต่ในขณะเดียวกันตัวบัณฑิตเองจะได้รับประโยชน์โดยตรงคือบัณฑิตที่มีคุณภาพ ที่จะได้ค่าแรงที่สูงขึ้น และได้ทำงานที่ใช้ทักษะความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมามากขึ้น

2. เป็นผลมาจากข้อ 1. ซึ่งทำให้เป็นการเพิ่มต้น​ทุนให้แก่ผู้ประ​กอบการขนาดเล็ก ถึงกลาง โดยส่วนตัวถือว่​าไม่จริงน่าจะส่งผลกระทบมากนัก เพราะหากต้องการ​แรงงานที่มีคุณภ​าพจริงคุณก็ควรล​งทุน ผู้ประกอบการไม่ควรเอาเปรียบบัณฑิตจบใหม่ เพราะบัณฑิตเขาก็ต​้องลงทุนตั้งมาก​กว่าจะจบ ถ้าต้องการของดี​ ต้องลงทุน ไม่เช่นนั้นก็ควรไป​จ้างแรงงานที่มี​วุฒิการศึกษาระด​ับรองลงมาที่มีฝ​ีมือแทน ปวส. ปวช. ก็มีความรู้ แต่หางานไม่ได้เ​พราะนายจ้างให้ป​ริญญาตรีมาแย่งง​านอาชีวะเนี่ยแห​ละ

3. เป็นการสร้างงาน​ให้แก่ผู้ที่จบก​ารศึกษาระดับปวช​. และ ปวส. ซึ่งจะนำไปสู่กา​รพัฒนาการศึกษาร​ะดับอาชีวะศึกษา​มากขึ้น ลดภาระงบประมาณด​้านการศึกษาของป​ระเทศลงได้มาก เพราะการลงทุนกา​รศึกษาในระดับมห​าวิทยาลัยใช้งบป​ระมาณที่สูงกว่า

4. บัณฑิตระดับปริญ​ญาตรีจะได้รับงา​นที่สมกับฐานะคว​ามรู้มากขึ้นอัน​เนื่องมาจากค่าจ​้างที่สูงขึ้น ย่อมทำให้ผู้ประ​กอบการนายจ้างมอ​บหมายงานที่เหมา​ะสมกับค่าจ้างอย​่างแน่นอน ก็หมายถึงบัณฑิต​จะไม่ต้องทำงานต​่ำกว่าระดับความ​รู้เช่นเมื่อก่อ​น (การทำงานต่ำกว่​าระดับความรู้ถื​อเป็นการว่างงาน​แฝงทางเศรษฐศาสต​ร์อย่างหนึ่ง) เพราะงานที่ต่ำก​ว่าระดับความรู้​เหล่านี้จะมีผู้​ที่มีระดับความร​ู้ระดับปวช. หรือปวส. เข้ามารองรับ

5. เมื่อเกิดการคัด​เลือกแรงงานระดั​บบัณฑิตที่สูงขึ​้น ตามหลักการแข่งข​ันแล้ว สถาบันการศึกษาท​ี่ผลิตบัณฑิตต่า​งๆ ย่อมต้องพัฒนาหล​ักสูตร และตัวบัณฑตให้ม​ีคุณภาพสูงขึ้น เพื่อรองรับมาตร​ฐานของตลาดแรงงา​น และการแข่งขันที​่มาจาก ปวช. และปวส. อันเป็นผลดีต่อร​ะบบการศึกษาไทย (มั้ง… แต่จะส่งไปถึงนิ​สิต นักศึกษาได้หรือ​ไม่ ไม่แน่ใจ เพราะเท่าที่เห็​นหลังๆ รู้สึกผิดหวังกั​บบัณฑิตปริญญาตร​ี และเหล่านิสิตนั​กศึกษาหลายคนเหล​ือเกิน ไม่อยากเหมาสถาบ​ัน)

6. เมื่อต้นทุนค่าจ้างแรงงานระดับปริญญาตรีสูงขึ้น จะทำให้ความต้องการแรงงานระดับ ปวช. ปวส. มาทดแทน ทำให้เกิดการขยายการผลิตผู้ที่จบการศึกษาระดับ ปวช. ปวส. มากขึ้น เกิดการแข่งขันในการพัฒนาการศึกษาเพื่อรองรับตลาดแรงงานระดับ ปวช. ปวส. มากขึ้น เช่นเดียวกับข้อ 5 ซึ่งอาจทำให้ปัญหาสังคมต่างๆ ที่เกิดจากนักศึกษาระดับ ปวช. ปวส. น้อยลง เพราะการศึกษามีเป้าหมายมากขึ้น ไม่ใช่เพียงเรียนเพราะไม่มีโอกาสศึกษาในวะดับสามัญศึกษาเท่านั้น แต่เป็นการศึกษาสายอาชีพ เพื่อที่จะจบออกไปประหอบอาชีพอย่างแท้จริง

ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่สันนิษฐานว่าอาจเกิดขึ้นหากนโยบายค่าแรงสำหรับบัณฑิตระดับปริญญาตรี 15,000 บาทประสบความสำเร็จโดยไม่มีปัจจัยภายนอกมากระทบ

ข้อดีข้อเสียมันมีทุกนโยบาย ขึ้นอยู่กับการรู้ทันนโยบายและการปรับตัวของผู้ได้รับผลกระทบถ้าปรับตัวได้ก่อนก็อาจจะได้ประโยชน์มหาศาลหรืออย่างน้อยก็หาทางหนีทีไล่ได้แต่ถ้าไม่ปรับตัวคงลำบากแน่ๆ


เรื่องของแพงมันก็แพงอยู่แล้ว อย่าลืมนะครับว่าทุกวันนี้คนเงินเดือนแสน กับคนเงินเดือน6พันซื้อแฟ้บ น้ำตาลทราย. ข้าวสารราคาเดียวกัน มานานแสนนานแล้ว

+++++

ดีที่คิด  คิดแล้วอาจจะทำ    ดีกว่าไม่คิดไม่คิดแล้วมันก็ไม่มีทางทำ .................  สาธุๆ

ค่าแรงแพงขึ้น  สินค้าทุกอย่างก็ปรับขึ้นตามไปด้วย 

ค่าแรงเพิ่ม ต้นทุน เท่าเดิม ทำไมแม่ค้าใจร้ายจังเนอะ T_T

ถามข้อนึงสงสัย

ถ้าค่าแรงขึ้น ของก็ขึ้น ผมซิตาย ผมนิสิต นักศึกษา ไม่ได้เงินขึ้นไปด้วยนิ

แค่ตอนนี้ก็จะไม่พอกินและ แต่ละอาทิต ขึ้นมาละตาย

แค้นี้กินมื้อนึง 50 รวมน้ำ พวกบอกเด่วก็ขึ้นอีกค่าแรงขั้นต่ำขึ้น

ไม่อยากจะพูดครับ

ขอโนคอมเม้นท์ดีกว่า

ค่าแรงขึ้น พม่าก็มาทำงานเยอะขึ้น คนไทยก็ตกงานเพิ่มขึ้น 

เห็นด้วยกับข้อความเงินเดือนแสนซื้อหมูราคาเดียวกันกับคนเก็บของขาย

สมัยผมเรียน หนังสือที่ พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง ก็ อาศัยข้าววัดปลูกศรัธา  นั้นแหละครับกว่าจะจบได้  บ้านยากจนก็ต้องทำใจ อิอิอิ  แต่จบแล้วมีงานทำ ก็สงสารน้องๆที่เรียนอยู่ ถ้าไม่คิดไรมาก ก็อาศัยข้าวก้นบาตร ก็โอเคนะครับ

ความคิดนี้น่าสน 

ไอ้การจ้างงานผู้ที่จบใหม่15000 นั้น ผมว่ามีผลกระทบมากๆเลยครับ และที่สำคัญกระทบต่อผู้ที่จบใหม่โดยตรงเลยแหละ โดยเฉพาะนักศึกษาที่จบจากราชภัฏทั่วประเทศ ผู้ประกอบการคงไม่จ้างง่ายๆแน่ เขาคงรับผู้ที่มีประสบการณ์การทำงานมาอันดับแรกแน่นอน เพราะคนพวกนี้รู้งาน ค่าจ้างถูกกว่ามาก เพราะผู้ที่จบใหม่ๆไปทำงานตอนแรกๆก็คือ เด็กใหม่ ชั่วโมงบินน้อย แต่กินเงินเดือนสูง มันไม่คุ้มกัน ผมคนนึงจบจากราชภัฏ เด็กจากสถาบันดังๆคงแย่งงานหมดแน่  เรื่องของคุณภาพไม่หนีกันเท่าไหร่หรอก พอเข้าองค์กรแล้วทุกคนจะทำงานคล้ายๆกันหมดแหละการอบรมการสอนงานจะช่วยทำให้ทุกคนทำงานเหมือนๆกัน  ถ้าหากคุณเป็นนายจ้างคุณจะจ้างคนจบใหม่ทำอะไรไม่เป็น  หรือ  จ้างคนทำงานเป็นแต่เงินเดือนถูกกว่ามาก ใจเขาใจเราครับ กลัวแต่น้องๆจะตกงาน โดยเฉพาะเด็กบ้านนอก ลูกคนจน ไม่มีเส้น ไม่มีสาย
ค่าแรงขั้นต่ำขึ้นได้ก็ดี แต่กลัวต่างด้าวอย่าง เขมรกะพม่าจะล้นเมืองแค่ทุกวันนี้ก็แย่แล้วเมื่อก่อนเคยเห็นรถขนคนไปก่อสร้างคนไทยล้วน เดี๋ยวนี้อย่าหาเลย พม่ากะเขมรทั้งนั้น คนไทยไปไหนหมด 

ผลกระทบที่เห็นๆตอนนี้คือ ราคาของแพงขึ้นหลายอย่าง
แล้วครับ

เรื่องจบต่างสถาบัน สามารถ แก้ไขได้ด้วยตัวเด็กเองนะครับ

ผมก็จบ สถาบันเอกชน แห่งนึง แต่สมัยเรียนผมก็ แข่งโน้นแข่งนี่เก็บ portfolio มาตลอด

เวลาจบมา เงินเดือน start สูงกว่าปกติ 3-4 เท่า

ปัจจุบันหลังจากจบมา 5 ปี ผมเงินเดือนมากว่า เพื่อนๆที่จบมารุ่นเดียวกันเป็นสิบเท่าแล้ว

คนเราต่างความคิดต่างเหตุผล
การที่คนจะขึ้นรถเมล์สายกรุงเทพ หาดใหญ่ ใช่ว่าเขาจะไปหาดใหญ่กันทุกคน บางคนก็ต่อรถไป สะเดา บ้างก็ลงที่สงขลา
บางคนก็ไม่ได้อยากไป แต่สถานการณ์บางอย่างบังคับให้ต้องเดินทาง
บางคนเงินเต็มกระเป๋า ไปไหนก็ได้ บางคนจะเดินออกจากบ้านไปปากซอยซื้อนมให้ลูก ยังไม่มีค่าวิน
สังคมไทยต้องการให้คนมีกิน มีใช้กันทุกคน ช่องว่างระหว่างรายได้ คนมี คนจน ยังสูงมาก
ที่ที่ผมเรียนจบมา มีแต่หลักสูตรเกี่ยวกับการช่วยเหลือเกษตรกร ใครมีโอกาสทำได้ก็ทำ บางคนก็ไปเป็นเซล บ้างก็ธุรกิจส่วนตัว
โอกาสดีหน่อยก็ได้งานดีๆเงินสูงๆ เพื่อนสนิทผมก่อนเรียนก็ทำนาจบแล้วไปทำนาอีก มีแต่คนหัวเราะเยาะ ผมบอกไปว่า
การที่เราจะนำความรู้ที่ใครก็ตามสอนเรามานั้น เราจะต้องพิสูจน์ว่าทำได้ก่อน ศึกษาสภาพที่แท้จริงของเกษตรกร ปัญหาต่างๆ
แล้วพัฒนาตัวเองให้มีความรู้ มีวิชา มากขึ้น จนเห็นว่ามีความพร้อมดีแล้ว จึงจะไปช่วยคนอื่นได้ แล้วตอนนี้มันก็ขายข้าวส่งตัวเองเรียนต่อ
ผมอยากให้คนไทย คิดถึงคนอื่นก่อนคิดถึงตัวเอง กลับมามีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่อย่างเดิม แบบชุมชน siamfishing แห่งนี้ ไม่ว่านโยบายใคร พรรคไหน ถ้าทำเพื่อผลประโยชน์คนไทยและประเทศชาติมากที่สุด ผมพร้อมที่จะสนับสนุนด้วยเพราะเหตุผลนั้น

ตอนนี้ก็ทำได้แค่เป็นนักวิจัย ด้าน postharvest เร่งสร้างผลงานให้สำเร็จให้ชาวสวนชาวไร่
เงินเดือน 8000 แต่ดีที่ได้ทำงานเพื่อเกษตรกร

ไม่ต้องพูดถึง ป.ตรี ได้เงินเดือนสตาร์ท 15000 หรอกครับ
เอาแค่ที่พูดเอาไว้ ค่าแรงขั้นต่ำ วันละ 300 ตอนนี้ คนงานที่ผมจ้างมาตัดหญ้า ปลูกข้าวโพด ในร่องสวนยาง ร้องจะเอาวันละ 300 แล้ว..
ก่อนหน้านี้ ให้วันละ 150-200 กลางวัน มีกับข้าวให้2 อย่าง (เขาห่อข้าวมากินเอง) อาทิตย์ที่แล้ว ให้มาตัดหญ้า 2 คน บอกว่า ถ้าให้ 200 จะไม่ทำ..
ผมก็เลยไม่จ้าง....จะดูซิว่า ถ้าร้องจะเอาวันละ 300 อีก ใครจะจ้างมาทำงาน....
หมายเหตุ..
เช้ากว่าจะมาสวน ปาเข้าไป 8-8โมงครึ่ง
มาถึงกว่าจะลงมือทำงาน นั่งสูบบุหรี่ กิน เครื่องดื่มชูกำลัง(บางคนมีถอน) นั่งโม้กันอีกพักนึง  กว่าจะทำงานได้ ก็ 9โมง..
พักเที่ยงตรงเป๊ะ...
ถ้าวันไหน งานเสร็จเร็ว(ประมาณ บ่าย3-4โมง) กลับบ้านเฉยเลย..หรือถ้าให้ทำต่ออีกหน่อย เลิกเลทไปนิด(ประมาณ 17.30 น.) ก็ขอ M100ฝาหลวม( 40ดีกรี) .......
ที่เด็ดสุดคือ....วันพระ -มีงานบุญ  "บ่เฮ็ดเวียก"(ไม่ทำงาน) ป้าดดดดดดดด.....อันนี้ผมเจอมาเองตอนวันเข้าพรรษา ทีแรก แม่ยายเล่าให้ฟัง ก็ยังไม่เชื่อ..
ไปหาคนงานมา จะให้ขุดดิน ฝังท่อน้ำที่พาดข้ามถนน ไป เจอ 4 คน  นั่งอยู่ที่ร้านค้า พี่แกพูดเหมือนกันหมด ว่า  " มื้อบุญจังซี่ เขาบ่เฮ็ดเวียกดอกครับ หัวหน้า"..
..................เอ๋อไปเลยผม......... ก็เลยพูดกับเขาว่า "ดีเนาะ มื้อบุญ บ่เฮ็ดเวียก แล่วหมู่เจ้า ซิกินเข่าบ่ คั่นว่ามีบุญจังซี่ต่อกันไป อาทิตย์นึง เจ้าซิเฮ้ดจังได๋ บ่หาเงินซื้อเข่ากินติ "....
.ปรากฏว่า ..เงียบกริปทั้งวง...ตอบไม่ได้ซักกะคน..

เพราะมันต่างคนต่างความเห็น....หรือต่างคนต่างเหตุผล....ขึ้นก็ดีไม่ขึ้นก็ว่าดี....บางคนก็ว่ามีหรือบางคนก็ว่าไม่มีผลกระทบ...หรืออาจจะว่ามีผลกระทบน้อย...บางคนก็ว่ามีผลกระทบเยอะ...บางท่านก็ไม่น่าจะขึ้น...บางท่านก็บอกขึ้นๆๆมาเถอะ....

อย่างส่วนตัวผมมีความเห็นว่า...เงินเดือนขั้นตำ่  15000 สำหรับวุติปริญญาตรีผมว่าก็ดีนะ....อัตราการแข่งขันต่างๆๆก็สูงขึ้น....ทั้งในเรื่องหลักสูตรการศึกษา....เป้าหมายของการศึกษา...สถาบันต่างๆๆจะต้องเกิดการแข่งขันกันเพิ่มมากขึ้น....ทำให้ยกระดับของสถาบันด้วย....เพราะถ้าไม่เก่งจริงโอกาสที่จะได้งานก็น้อยลง....อาจจะมีผลกระทบในเรื่องการตกงานของนักศึกษาจบใหม่เพราะถ้าเค้าจ้างเราไว้สูงนั่นแสดงว่าคุณต้องเก่งจริง....ผมมั่นใจว่าแรงงานระดับอุดมศึกษายังมีความสำคัญอยู่มาก...เพราะฉะนั้นเงินเดือนขั้นต่ำ  15000 บาท จะสามารถยกระดับคุณภาพของนักศึกษาได้อย่างแน่นอน......

อย่างเงินค่าจ้างขั้นต่ำวันล่ะ 300 บาท....นี้อาจจะมีผลกระทบอย่างมากกับผู้ประกอบการรายย่อย....เพราะถ้าขึ้นได้จริงๆๆ.....ผมว่ามีผลกระทบพอสมควร.....ผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวพอสมควร...และอาจจะคนตกงานเยอะขึ้นเพราะผู้ประกอบการบางรายต้องยกเลิกกิจการไป...ในส่วนของหน่วยงานราชการนั้นผมว่าจะมีผลกระทบกับลูกจ้างชั่วคราว....เพราะบางหน่วยงานเค้าจะมีงบประมาณที่สามารถจ่ายได้ไม่เกิน 40 เปอร์เซ็นต์ ของเงินงบประมาณประจำปี(อันนี้ผมยังไม่แน่ใจเท่าไร)....เพราะถ้าต้องจ่ายเงินเกินงบประมาณ.....อาจจะต้องเลิกจ้างลูกจ้างชั่วคราวไป......เพราะถ้าไม่เลิกจ้างลูกจ้างชั่วคราวจะต้องไปยกเลิกกฏหมายของวงเงินงบประมาณประจำปี....ซึ่งก็ยุ่งยากเพราะสมควร

ผมทำงานมาถึงจุดนี้ก็เพื่อเก็บเงิน ซื้อที่ กลับไปเลี้ยงวัวแถวบ้านที่เพชรบุรีเหมือนกันนะครับ

ผมไม่กระทบครับ...เพราะเงินเดือนเดือนแรกของผมที่ทำงาน ก็ 19500 แล้ว.........อย่าไปยุงมากครับการเมืองไทย

ปวดหัว มันแบ่งพรรคแบ่งพวก....คนที่โดนเต็มๆก็พวกเราประชาชนครับ......พวกผู้มีอิทธิพลมันเยอ.... เมืองไทย

ทุกวันนี้ต่างชาติมาลงทุนในเมืองไทย เพราะอะไรหรือครับ
เพราะ ค่าแรงถูก ฝีมือดี ถ้าค่าแรงแพงขึ้น เขาก็ย้ายฐานไปที่อื่น
แล้วคนที่ทำโรงงานจะตกงาน จำนวนมากเท่าไหร่ครับ
บางกลุ่ม ไม่ขอขึ้นค่าแรงแต่ขอให้มีงานทำครับ......
วันละ 300 แต่ไม่มีงานทำ.......จบ

น้าเห็นใจครับ

++