ขออนุญาติแนะนำน้าๆ เกี่ยวกับเครื่องช็อตไฟฟ้าหน่อยครับ: SiamFishing : Thailand Fishing Community
กระดาน
คห. 7 อ่าน 7,937
ขออนุญาติแนะนำน้าๆ เกี่ยวกับเครื่องช็อตไฟฟ้าหน่อยครับ
OkER(19 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ตั้ง: 23 ก.พ. 52, 15:30
ผมจำได้ว่าได้เคยเตือนน้าท่านหนึ่งซื้อได้นำเครื่องช็อตไฟฟ้ามาเปิดประมูลและผมก็ได้เตือนน้าคนนั้นไปว่า

"การขายเครื่องช็อตไฟฟ้านั้นผิดกฎหมายนะครับ"

โดยถึงแม้ว่าทางกฎหมายไทยในปัจจุบันจะมีช่องว่างทางกฎหมายเกี่ยวกับเครื่องช็อตไฟฟ้าแต่ผมก็คิดว่าการมีไว้ในครอบครองไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามก็ไม่สมเหตุสมผลทั้งสิ้น

ซึ่งที่ผมเตือนไปนั้นก็เพราะความหวังดีโดยไม่อยากให้เกิดเหตุสลด ดังข่าวที่ผมได้่นำมา post ไว้นะครับ และอีกหลายๆ เหตุการณ์ที่ใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าเป็นเครื่องมือในการข่มขืนผู้หญิง

และผมก็ได้นำข้อความที่ผมอ่านเจอด้านล่างมาให้น้าๆ ทุกท่านได้ดูกัน เพื่อเป็นความรู้เพิ่มเติมนะครับ

ตร.คุม2คนงานโหดทำแผนฆ่านายจ้าง

วันที่ : 13 กรกฎาคม 2550

จากเหตุการณ์ที่ นางวาสนา แซ่ตั้ง อายุ 47 ปี เจ้าของร้านขายวัสดุก่อสร้าง หจก.ศรีสาธิต ในซอยวชิระธรรมสาธิต 57 สุขุมวิท 101/1 แขวงบางจาก เขตพระโขนง ถูก นายปาย อายุ 23 ปี ชาวกะเหรี่ยง กับนายจรินทร์ หรืออ๊อด พันธ์ศิริ อายุ 20 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี สองลูกจ้างทมิฬทำร้ายร่างกายจนซี่โครงหัก ใช้เชือกรัดคอจนเสียชีวิต ก่อนจะใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตตามร่างกายและอวัยวะเพศทิ้งศพไว้ในร้านชิงเอาเงินสด 40,000 บาท หลบหนีไป เมื่อตอนค่ำวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา พอวันรุ่งขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง และ กก.สส.บก.น.5 ติดตามจับกุมตัวลูกจ้างทั้งสองคนได้ ยอมรับสารภาพหมดเปลือก สำหรับนายปาย กะเหรี่ยงทมิฬ ยังเคยก่อเหตุฆ่าเพื่อนคนงานตายในท้องที่ สภ.ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เมื่อปีที่แล้วด้วย ตามที่เสนอข่าวให้ทราบนั้น

ต่อมา เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 ก.ค. พ.ต.ท.สุชัย พุ่มไพศาลชัย รอง ผกก. สส.สน.พระโขนง พร้อมด้วย พ.ต.ท.ไพรินทร์ รัตนประทีป พงส.(สบ3) เจ้าของคดี และกำลังตำรวจจำนวนหนึ่งได้ควบคุมตัว นายจรินทร์ หรืออ๊อด พันธ์ศิริ กับนายปาย สองผู้ต้องหาฆ่าชิงทรัพย์ นางวาสนา แซ่ตั้ง นายจ้าง ไปยื่นคำร้องฝากขังผู้ต้องหาผลัดแรกต่อศาลจังหวัดพระโขนงเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค. ถึงวันที่ 23 ก.ค. 50 พร้อมกับคัดค้านการขอประกันตัวของผู้ต้องหา และขออนุญาตนำผู้ต้องหากลับไปควบคุมตัวที่ สน.พระ โขนง เพื่อนำตัวไปทำแผนประทุษกรรมประกอบคำรับสารภาพ และสอบสวนปากคำเพิ่มเติม ศาลสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตตามคำร้องของพนักงานสอบสวน

จากนั้นตอนบ่ายวันเดียวกัน พ.ต.อ. ประสาท ไชยศิริ ผกก.สน.พระโขนง พ.ต.ท.สุชัย รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ไพรินทร์ พงส.(สบ3) เจ้าของคดี พร้อมด้วยกำลังตำรวจ 50 นาย ได้ควบคุมตัวนายจรินทร์ กับนายปาย สองผู้ต้องหาทมิฬ เดินทางไปทำแผนประทุษกรรมประกอบคำรับสารภาพที่ หจก.ศรีสาธิต เลขที่ 875/1 ซอยวชิระธรรมสาธิต 57 สุขุมวิท 101/1 ที่เกิดเหตุ โดยมี น.ส.ปรีดาภรณ์ แซ่ตั้ง อายุ 18 ปี กับ ด.ช.เจษฎาภรณ์ แซ่ตั้ง อายุ 14 ปี ลูกสาวและลูกชายของนางวาสนา รวมทั้งประชาชนเกือบ 100 คน พากันมาดูการทำแผนฯของผู้ต้องหาด้วย

การทำแผนฯเริ่มตั้งแต่ นายปาย กับนายจรินทร์ นั่งกินเหล้ากันที่ห้องพักคนงานหลัง หจก.ศรีสาธิต จุดที่ 2 นายปาย ผู้ต้องหานำเสื้อผ้าเปื้อนเลือดที่ใส่ก่อเหตุไปทิ้งถังขยะใกล้ๆห้องพัก และจุดที่ 3 ตอนที่ผู้ต้องหาทั้งสองลอบเข้าไปทำร้ายนางวาสนา ขณะนั่งทำงานอยู่ในร้านจนเสียชีวิต ใช้เวลาในการทำแผนฯ 30 นาที หลังทำแผนฯเสร็จแล้ว น.ส.ปรีดาภรณ์ พร้อมกับญาติ ๆ และไทยมุงที่มาดู ต่างตะโกนสาปแช่งและพยายามจะเข้ารุมประชาทัณฑ์ทำร้ายผู้ต้องหาทั้งสองตลอดเวลา โดยเฉพาะ น.ส.ปรีดาภรณ์ ลูกสาวผู้ตายที่ร่ำไห้ตลอด เวลา ถึงกับตะโกนด้วยความแค้นว่า ตำรวจน่าจะปล่อยให้ฆาตกรทั้งสองโดนรุมประชาทัณฑ์จนตายถึงจะสาสมกัน ถึงโดนประหารชีวิตก็ไม่คุ้มเท่าที่ทำกับแม่ตน เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องคอยกันไม่ให้ผู้ต้องหาถูกทำร้าย ก่อนที่จะนำตัวผู้ต้องหากลับไปควบคุมที่ สน.พระโขนง อย่างทุลักทุเล

พ.ต.อ.ประสาท ผกก.สน.พระโขนง เปิดเผยว่า พนักงานจะเร่งสอบสวนปากคำผู้ต้องหาให้เสร็จโดยเร็ว พร้อมกับรอผลการตรวจสอบประวัติอาชญากรจาก ทว. ผลตรวจทางวิทยาศาสตร์ และผลการตรวจลายนิ้วมือจาก พฐ. ที่ต้องนำมาประกอบสำนวน คาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์ จะสามารถสรุปสำนวนการสอบสวนส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสองได้

ด้าน พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวถึงเรื่องเครื่องช็อตไฟฟ้าว่า ปัจจุบันมีการสั่งเข้ามาขายกันอย่างแพร่หลาย โดยเครื่องช็อตไฟฟ้านี้ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ทำอันตรายต่อร่างกายและชีวิตคนเพียงอย่างเดียวไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ โดยสามารถแปลงกระแสไฟฟ้าได้สูงตั้งแต่ 10,000-300,000 โวลต์ ถึงกับทำให้คนเสียชีวิตได้ จึงมีอานุภาพการทำลายชีวิตสูงเท่ากับอาวุธปืน แต่ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายควบคุมเครื่องช็อตไฟฟ้าเหมือนกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน ที่ห้ามมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองถ้าไม่ได้รับอนุญาต ทำให้ผู้ครอบครองเครื่องช็อตไฟฟ้าไม่มีความผิด ทำให้พวกมิจฉาชีพหรือคนร้ายนำมาใช้ในการก่อเหตุชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์

รวมทั้งนำไปใช้กับสตรีทำให้หมดแรงขัดขืนเพื่อข่มขืนได้ง่ายขึ้น ถือว่าเป็นอันตรายมาก แต่เมื่อถูกจับได้มีความผิดแค่พกพาอาวุธไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร มีโทษปรับพียง 100 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 เท่านั้น ดังนั้นจึงเห็นว่าควรจะมีกฎหมายควบคุมเครื่องช็อตไฟฟ้าเช่นเดียวกับอาวุธปืน โดยห้ามมีไว้ในครอบครอง หรือห้ามนำมาจำหน่าย เว้นแต่จะได้รับอนุญาต และกำหนดให้มีบทลงโทษให้เท่ากับการพกพาหรือมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง

โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยการเพิ่มเติมเครื่องช็อตไฟฟ้าไว้ใน พ.ร.บ.อาวุธปืนด้วย จะสามารถป้องกันพวกมิจฉาชีพหรือคนร้ายนำไปก่อเหตุได้มากขึ้น
MONOPOLY(690 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.1: 23 ก.พ. 52, 20:15
แล้วแต่ความคิดครับ แต่ผมว่าผู้หญิงมีไว้ติดกระเป๋าก็ดีเหมือนกันนะครับ ไว้คอยป้องกันตัว ไม่เหมือนปืน ราคาก็แพง พกพาในวงจำกัด ใบอนุญาติก็ขอยาก ไม่เหมือนเครื่องช็อตฯ ราคาถูก พกพาง่าย ใช้ไม่ยาก ของอย่างนี้มันมีทั้งคุณและโทษ ต้องใช้อย่างระมัดระวังและมีสติ 
คห.2: 23 ก.พ. 52, 20:25
จากเหตุฆาตกรรมโหดนางวาสนา แซ่ตั้ง อายุ 47 ปี เจ้าของร้านค้าวัสดุก่อสร้าง หจก.ศรีสาธิต โดยฆาตกรอำมหิตใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าจี้ตามร่างกายและอวัยวะเพศ ส่วนลำคอใช้เชือกรัดแน่น ต่อมาตำรวจสืบสวนจับกุมมือสังหารได้ 2 คน คือนายจรินทร์ หรืออ๊อด พันธ์ศิริ อายุ 20 ปี และนายปาย อายุ 23 ปี ชาวกะเหรี่ยง 2 ลูกจ้างจอมโหดพร้อมของกลางเครื่องช็อตไฟฟ้าที่ใช้ก่อคดี

ความคืบหน้า เวลา 09.00 น. วันที่ 12 ก.ค. พ.ต.ท. ไพรินทร์ รัตนประทีป พงส. (สบ 3) สน.พระโขนง ได้คุมตัวนายจรินทร์และนายปาย 2 ฆาตกรสังหารนายจ้าง เจ้าของร้านวัสดุก่อสร้าง ไปขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรก ที่ศาล จังหวัดพระโขนง

เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น จากนั้นรับตัวกลับไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังร้านวัสดุก่อสร้าง หจก.ศรีสาธิต เลขที่ 875/1 ซอยวชิรธรรมสาธิต 57 ถนนสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. ที่เกิดเหตุ

ท่ามกลางญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตและประชาชนที่ทราบข่าวไปมุงดูหน้าฆาตกรพร้อมสาปแช่งเป็นจำนวนมาก จนเจ้าหน้าที่ต้องใช้กำลังสายตรวจกว่า 50 นาย ควบคุมป้องกันเหตุร้าย เพื่อความปลอดภัยไม่ให้ผู้ต้องหา ถูกรุมประชาทัณฑ์

จุดแรกให้ทั้งคู่ชี้จุดนั่งดื่มเหล้ากันบริเวณหน้าห้องพักคนงานหลังร้านเกิดเหตุ จุดที่ 2 ทั้งคู่แอบเข้าไปลักทรัพย์ภายในร้าน แล้วพบผู้ตายกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน จึงช่วยกันรุมทำร้าย โดยนายปายเข้าไปชกต่อยแล้วใช้เชือกรัดคอ ส่วนนายอ๊อดจับถอดกางเกง จากนั้นใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าจี้ช็อตที่หน้าอกและอวัยวะเพศ เพื่อเบี่ยงเบนคดี

ว่า ถูกขืนใจจนกระทั่งนายจ้างเสียชีวิต เสร็จแล้วรื้อค้นทรัพย์สินมีค่าได้เงินสดไปประมาณ 4 หมื่นบาท ก่อนพากันหลบหนีไป โดยใช้เวลาทำแผนประมาณครึ่งชั่วโมง ในขณะที่ญาติของผู้ตายทนเห็นความป่าเถื่อนไม่ไหว คว้าไม้จะเข้าฟาดผู้ต้องหา เดือดร้อนตำรวจเกรงว่าจะควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ รีบนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถกลับ สน.ทันที

ในวันเดียวกัน พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวถึงการนำเครื่องช็อตไฟฟ้าเข้ามาจำหน่ายอย่างแพร่หลาย ขณะนี้ว่า เครื่องช็อตไฟฟ้าถือเป็นเครื่องมือที่ผลิตขึ้นมาโดยสามารถแปลงกระแสไฟฟ้าให้มีกำลังสูงตั้งแต่ 100,000-300,000 โวลต์ ถึงขนาดสามารถทำลายชีวิตมนุษย์ได้เมื่อผ่านเข้าไปในร่างกาย  จึงมีอานุภาพการทำลายชีวิตสูงเท่ากับอาวุธปืน 

ซึ่งมี พ.ร.บ.อาวุธปืนควบคุม ถ้ามีไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย แต่เครื่องช็อตไฟฟ้า หากมีไว้ในครอบครองถือว่ายังไม่เป็นความผิด เพราะไม่มีกฎหมายควบคุม สำหรับเครื่องช็อตไฟฟ้าที่สร้างขึ้นมาวางจำหน่ายนั้น วัตถุประสงค์ก็เพื่อใช้เป็นอันตรายต่อร่างกายและชีวิตของมนุษย์เพียงอย่างเดียว

โดยไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ไม่เหมือนกับมีด ที่อาจไปใช้อย่างอื่น เช่น ปอกผลไม้ เป็นต้น การนำเครื่องช็อตไฟฟ้ามาวางจำหน่ายก็เพื่อให้ผู้ซื้อซื้อไปใช้ป้องกันตัวเท่านั้น โดยเฉพาะในหมู่สตรีที่นิยมนำติดตัวไปป้องกันตัวเวลากลับบ้านดึกๆ หรือเดินไปในที่เปลี่ยวคนเดียว 

พล.ต.ท.จงรักกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม มีบุคคลบางกลุ่ม โดยเฉพาะพวกมิจฉาชีพหรือคนร้ายซื้อเครื่องช็อตไฟฟ้าเพื่อนำไปใช้ในการประทุษร้ายผู้อื่น เช่น ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ พวกนี้ถือว่าอันตรายมาก แต่มาตรการทางกฎหมาย ก็คงมีเพียงการจับกุมในความผิดฐานพกพาอาวุธไปในทางสาธารณะ

โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร มีโทษปรับ เพียง 100 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 เท่านั้น ดังนั้น หากสังคมเห็นว่าเครื่องช็อตไฟฟ้าเป็นวัตถุที่เป็นอันตรายต่อชีวิตและร่างกาย ก็สมควรมีการควบคุม โดยการบัญญัติไว้ในกฎหมาย ห้ามพกพาไปในที่ต่างๆ หรือห้ามมีไว้ในครอบครองหรือห้ามจำหน่าย เว้นแต่จะได้รับอนุญาต

รวมทั้งให้มีการกำหนดโทษให้ใกล้เคียงกับการพกพาอาวุธปืน หรือการมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง โดยการเพิ่มเติมเครื่องช็อตไฟฟ้าไว้ใน พ.ร.บ. อาวุธปืน ก็จะสามารถป้องกันพวกมิจฉาชีพ หรือคนร้ายที่จะนำไปก่อเหตุในการทำร้ายผู้อื่นหรือประทุษร้ายต่อทรัพย์



ที่มา ก๊อบจากเวบบอร์ดสนทนาภาษาปืน 2007




จากบทความนี้รู้สึก มันจะยังไม่ถือเป็นอาวุธ ที่ต้องควบคุมนะครับ และผมเชื่อว่าคนที่นำมา และคนที่ประมูลล จุดประสงค์เพื่อนำไปใช้ในทางที่ถูกครับ ที่บ้านผมยังมีสองตัวเลยติดรถไว้ครับ
saosin(2706 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.3: 23 ก.พ. 52, 22:20
bennyabu(245 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.4: 23 ก.พ. 52, 23:22
คห.5: 24 ก.พ. 52, 10:21
OkER(19 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.6: 24 ก.พ. 52, 20:12
อืมม จากบทความข้างต้นที่ น้าเซ บาสเตียนฯ เอามา post ซึ่งเป็นข่าวเดียวกันนะครับ

ผมก็เห็นด้วยครับที่ว่าการที่เราพกพาเครื่องช็อตไฟฟ้านั้น ถ้าเป็นการพกด้วยความบริสุทธิ์ใจ

โดยที่ไม่ได้มีเจตนามุ่งร้ายต่อผู้อื่น แต่มีไว้เพื่อป้องกันตัวนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ผิด

มันก็เหมือนพกอาวูธปืนละครับ ถ้าคนที่พกมีเจตนาไม่ดีก็จะเป็นอันตรายอย่างมากสำหรับบุคคลอื่นที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นสิทธิของผู้ขายละครับ ผมไม่มีสิทธิไปห้ามหรอกครับ 
bamboo(15 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offlineใบเหลือง
คห.7: 28 ก.พ. 52, 22:26
ทำการ login ก่อนส่งความเห็น
siamfishing.com © 2024