• นักเรียน ป.5 เมืองกรุงเก่า เดินขอรับเงินบริจาค เอาเป็นค่าถ่ายเลือดให้แม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว หนูน้อยเผยอยากเรียนสูงๆ จะได้มีเงินรักษาแม่ให้หาย
  เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 ตุล่าคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า  มีเด็กนักเรียน  ร.ร.วัดกลางปากกราย หมู่ 13 ต.ปากกราน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เดินเรี่ยไรเงินเพื่อนำไปช่วยเหลือแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว จึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อไปถึงโรงเรียน พบ ด.ช.จักรี หรือหวาน อินพาเพียร อายุ 11 ปี บ้านอยู่เลขที่ 4/3 หมู่ 11 ต.ปากกราน นักเรียนชั้น ป.5 กำลังเดินเรี่ยไรเงินอยู่ตามห้องเรียน โดย ด.ช.จักรี เดินถือป่ายเขียนว่า "ช่วยบริจาคเงิน เพื่อช่วยเหลือถ่ายเลือดให้แม่ของผมด้วยครับ"
  นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนของ ด.ช.จักรี คือ ด.ช.อานัส เลขะพันธ์ อายุ 11 ปี หัวหน้าชั้น ป.5 คอยเดินถือพานใส่เงิน โดยทั้งสองเดินไปตามห้องเรียนต่างๆ เมื่อเข้าไปในห้องก็จะพูดขอความเห็นใจด้วยน้ำตา เพื่อให้เพื่อนนักเรียนและครูได้ช่วยเหลือแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ซึ่งต้องถ่ายเลือดเป็นประจำ ทำให้ครู อาจารย์และเพื่อนนักเรียนถึงกับน้ำตาซึม และได้รับบริจาคเป็นเงินพอที่จะให้แม่ถ่ายเลือดได้
  ด.ช.จักรี กล่าวว่า แม่ป่วยเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดขาวเป็นเวลานานกว่า 3 ปีแล้ว แต่เนื่องจากครอบครัวยากจนมาก จึงไม่สามารถที่จะหาเงินมารักษาได้ ตนไม่รู้ว่าจะไปทำอะไร จึงตัดสินใจมาเดินขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ และครูในโรงเรียน เพื่อเก็บเงินไปให้แม่ถ่ายเลือดที่ รพ.พระนครศรีอยุธยา เดือนละ 1-2 ครั้ง ต้องใช้เงินเดือนละ 1,500 บาท ซึ่งเลือดมีราคาถุงละ 750 บาท
  "ผมอยากที่จะเรียนไปให้สูงๆ เพื่อที่จะหาเงินมาเป็นค่าถ่ายเลือดให้แม่ เพื่อจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไปนานๆ ตอนนี้หากทำอะไรช่วยแม่ได้ทุกอย่างก็จะทำ  เพื่อให้มีเงินมาช่วยแม่ ส่วนเงินที่มาบริจาคนั้น ครูได้พาไปเปิดบัญชีแล้วที่ธนาคารออมสิน สาขาเจ้าพรหม เลขบัญชี เผื่อเรียก 10-0415-20-047418-1 เป็นชื่อของผม"
  นายนิกูล อ่อนละมูล ผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าวว่า เรื่องนี้นับเป็นเรื่องที่น่าสลดใจอย่างมาก เนื่องจากครอบครัวของ ด.ช.จักรี ยากจนมาก พ่อก็มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ไม่ค่อยมีรายได้ ส่วนแม่เมื่อป่วยเช่นนี้ก็ทำงานไม่ได้ ทุกสัปดาห์ ด.ช.จักรี ก็จะมาเดินเรี่ยไรเงิน ซึ่งครูก็ช่วยอยู่เป็นประจำ ส่วนเรื่องอาหารการกินนั้น ทางโรงเรียนมีอาหารกลางวันเลี้ยง และยังให้เงินส่วนตัวแก่ ด.ช.จักรี เป็นค่าขนมด้วย แต่ละวัน ด.ช.จักรี ต้องตื่นเช้าเพื่อเดินมาโรงเรียน ระยะทางกว่า 2 กม. เป็นเรื่องที่อยากให้ประชาชนได้ช่วยเหลือกัน เพื่อเป็นการเอาบุญ
  ด้านนางสมพร มารดา ด.ช.จักรี กล่าวว่า มีลูกสองคน ด.ช.จักรี เป็นลูกคนโต คนเล็กยังเรียนอนุบาลอยู่ พอตนเจ็บป่วยก็ไม่สามารถทำงานได้ โรคนี้ต้องใช้เงินมากในการถ่ายเลือดอย่างต่อเนื่อง บางเดือนไม่มีเงินก็ไม่สามารถถ่ายได้ ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย เดินไม่ไหว ตัวเหลืองซีด ซึ่งหากไม่ถ่ายเลือดเลย ก็จะมีอาการวูบไป หากมีคนช่วยเหลือก็นับเป็นบุญของตนที่ทำให้ได้มีชีวิตอยู่และเลี้ยงลูกต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง

อ้างอิงจาก : หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2550 หน้า 15

ตัวเนื้อข่าว ยุ้ย พิมพ์เอง ลอกมา ค่ะ

ถึงจะทำบุญกับพระเป็นพันรูป หรือสร้างวัดใหญ่โตแค่ไหน...
ก็ไม่สามารถเทียบเท่ากับการดูแลบุพการีในช่วงเวลาที่ท่านยังมีชีวิตอยู่หรอกครับ...ผมนับถือเด็กคนนี้จริงๆ

เหนด้วยครับ

นี้หละครับชีวิต  ยังไม่ตายก็ต้องสู้กันต่อไป
เป็นกำลังใจให้ครับ  สู้ สู้ สู้ ครับ
(คิดถึงจัง)

ธนาคารออมสิน สาขาเจ้าพรหม เลขบัญชี เผื่อเรียก 10-0415-20-047418-1 เป็นชื่อของผม"
ไม่เสียทีที่เกิดเป็นคนอยุธยา เมื่อเช้านี้โอนไปจำนวนนึงแล้วครับ
เข้าใจเลยครับเพราะตอนนี้คุณพ่อก็แย่ลงเหมือนกัน

ซึ่งอ่ะ มากๆ ด้วย

ร่วมด้วยช่วยกันครับ

ผมว่ามันน่าจะมีอะไรซักอย่างที่เราชาวสยามน่าจะช่วยได้นะคับ
เงินแค่1500เองฟังดูเหมือนเยอะนะคับแต่น้าๆลองคิดดูซิว่าเวลาน้าไปซื้อของหรือรอกตามร้านน้าควักกระเป๋าออกมากี่พันยกตัวอย่างเช่นรอกนีแวลผมคิดว่าน้าๆหลายคนต้องมีแล้วราคาเท่าหร่ที่ผมพูดนะคับผมไม่ไช่ญาติหรือรู้จักเด็กคนนี้หรือแม้แต่จะเคยเห็นหน้าฟังแล้วดูผมเวอนะคับแต่มันก็ไม่เหนือบ่ากว่าแรงไม่ใช่หรอคับที่เราชาวสยามจะช่วยเหลือ
    รบกวนผู้ใหญ่พิจารณาด้วยคับ ถ้าเห็นไม่เหมาะสมรบได้เลยคับ
    รบกวนน้า*ยุ้ย*หรือผู้ที่ตามข่าวแจ้งความเคลื่อนไหวด้วยคับ
  อยากช่วยคับ

เจริญแน่ๆคับ เด็กคนนี้ รู้จักความกตัญญูต่อบุพการีตั้งแต่เยาว์วัย นับถือๆ

สร้างกองทุนสยามฟิชชิ่ง แล้วบริจาคช่วยเหลือเดือนละ1500คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงนะครับ ผมว่าคนละบาทต่อเดือนต่อคนก็สามารถมีส่วนร่วมช่วยเหลือครอบครัวนี้ได้แล้ว เพียงแต่จะมีใครอาสาตัวขึ้นมารับผิดชอบเท่านั้น ขอบคุณนู๋ยุ้ยที่ช่วยแจ้งข่าวนี้ให้พวกเรารับทราบครับ

  บางครั้งที่ทำอะไร...ที่เรา รู้สึก ว่า สิ้นเปลืองเกินความจำเป็น เราแค่อาจจะลดความสิ้นเปลืองนี้ลงนิดนึง อาจจะไม่ทั้งหมด เพราะ นี่ ก็ คือ ความสุขของเราเอง แต่เรา แค่ลดลง เพื่อ นำ ความสุขส่วนนี้ ไปมอบ ให้ กับ คนอื่นบ้าง ก็ เท่านั้นเอง...

  อย่างเรื่องของน้องจักรี ค่าใช้จ่ายเดือนละ 1500 ที่ต้องรักษาคุณแม่  สิ่งที่ทำได้ บางครั้ง เราอาจจะไม่สามารถช่วยเหลือน้องเค้าได้ทั้งหมด  แต่แค่ในบางครั้งเท่านั้น ที่เรา นึกถึงน้องเค้า แล้ว เรา พอจะมี ไม่ต้องทีละ เยอะๆ หรอกค่ะ บางครั้ง 100-200 ก็ เติม ความสุข ความหวัง ให้น้องจักรี และให้ต่อชีวิตคุณแม่ได้แล้ว

  การทำบุญ ด้วย การต่อชีวิตคน.......

  ที่จริงแล้ว คนที่ลำบากยากแค้น ก็ไม่ได้อยู่ไกลตัวเรามากนักหรอกค่ะ  ลองมองไปรอบๆตัว ก็จะมีให้เห็นเรื่อยๆ  เมื่อเห็นแล้ว ทีนี้ ก็ อยู่ ที่ใจละค่ะ ว่าเราจะทำอะไรให้เค้าได้บ้าง  ช่วยอะไรไม่ได้  แค่ยิ้มให้กำลังใจกัน มันก็ไม่มากไป ใช่มั๊ยค่ะ




โย้วๆ

ปล.คิดถึงพี่ฮิม เหมือนกันค่ะ มาพัทยาเจอกันนะคะ

สุดยอดครับ น้องจักรีต้องเจริญแน่นอนครับ

ขอให้เจริญเจริญเถอะพ่อคุณเอยพี่ขอช่วยอีกแรงแม้มันจะน้อยนิดแต่อย่างไรคนยุธยาด้วยกันก็ไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว(หมดกับค่าตกปลาแต่ละอาทิตย์มากกว่านี้)

ตั้งกองทุนเลยคับ
ดันๆช่วยน้องคนละไม่ถึงร้อย
คิดซะว่าเสียเงินซื้อตัวเบ็ดแล้วกันนะพี่น้องคราบๆๆ

คนไปไหนหมดเนี้ยกระทู้นี้เรืองดีๆทำไมไม่รู้จักอ่านกัน
ครับสงสารเด็กมันหน่อยเถอะคราบ

เอาด้วยคน

ผมนับถือเด็กคนนี้จริงๆ

เห็นด้วย ครับ
ป้ายุ้ย เป็นคนต้นเรือง ขอให้ดำเนินการเป็นตัวแทน นะครับ สำหรับการรวบรวมทุนทรัพย์ ในการรับบริจาค ครั้งนี้
อีกครั้ง เห็นด้วย ครับ สำหรับการตั้งกองทุน คิดมานานแล้ว แต่มันเป็นเรื่องใหญ่ จริงอยู่การเริ่มต้น มันอาจจะเล็ก แต่เมื่อมีการบริจาค มีการสมทบทุน นานๆเข้า มันจะใหญ่โต และมากขึ้น กลุ่มบุคคลที่จะเข้ามาบริหารกองทุนนี้ จะลำบาก ลองดูครับ ลองคิดกันดีๆ ผมเห็นว่ามีประโยชน์ ครับ

ดันครับ แหมป้ายุ้ยมาทั้งที่
ร่วมด้วยช่วยด้วยคน

ผมเห็นด้วยกันน้าniab-romkloa นะครับ เอาเป็นแบบจริงจัง ใครที่อยู่ใกล้น้องพอจะไปมาสะดวก จะเป็นธุระได้มั๊ยครับ ผมคิดว่าคนละบาท พวกเราชาว SFC ไม่เดือดร้อนแน่นอนครับ ข้อความ

เห็นด้วยกับ ทุกความเห็นที่ควรจัดตั้งกองทุนน่ะครับ ว่าแต่คนดำเนินการ อยากให้มีคนอาสาน่ะครับ