"วัดเท่าไรก้อไม่ติด": SiamFishing : Thailand Fishing Community

"วัดเท่าไรก้อไม่ติด"

รินคัม(282

)

ตั้ง: 6 ก.พ. 50, 12:46

ความเดิมจากตอนที่แล้วที่ผมเขียนไว้คือเรื่องของการจูนทุ่นให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หวังว่าเพื่อนนักตกปลาได้ลองนำไปใช้หรือประยุคใช้กัน มาในตอนนี้ ผมอยากจะมาพูดเกี่ยวกับปัญหาที่ทั้งนักตกปลาเกล็ดมือใหม่ที่จะต้องเจอ คือ การวัดว่าว หมายถึงทุ่นมีการขยับหลายที เน้นๆ ขึ้นๆ ลงๆ หรือดีไม่ดีก้อจมหายไปลงเลยแต่ เมื่อวัดคันเบ็ดแล้วกลับไม่ติดปลา น่าแปลกใจใช่มั๊ยล่ะครับ ??? จริงๆแล้วถ้ามามองถึงสาเหตุที่วัดแล้วไม่ติดปลา อาจจะแบ่งได้หลายสาเหตุ เช่น

จังหว่ะไม่ทัน เพราะการตกสะปิ๋วนั้นใช้ช่วงเวลาชิงไหวชิงพริบกันเสี้ยววินาที ฉนั้นการศึกษาพฤติกรรมการกินอาหารของปลา จะช่วยเพื่อนนักตกปลาได้ในข้อนี้อย่างมากเพราะถ้าเรารู้พฤติกรรมการกินอาหารของปลาแต่ละชนิด จะทำให้เราอ่านทุ่นได้ออกว่าปลากำลังทำอะไรกับเหยื่อเรา ฉนั้นในส่วนนี้อยากแนะนำมือใหม่ พยายามศึกษาในส่วนนี้ไว้เยอะๆนะครับ ว่าการกินเหยื่อของปลาแต่ละชนิด จะสื่ออาการของทุ่นออกมาอย่างไร แล้วเวลาเราออกไปตกปลา เมื่อมีปลาเข้ามาตอมเหยื่อ และทุ่นสื่ออาการออกมา ลองคิดไว้ในใจเลยว่า เมื่อปลาติดเบ็ดแล้วเรานำตัวขึ้นมานั้นเป็นปลาอะไร ถูกต้องอย่างที่เราคิดไว้หรือเปล่า ยกตัวอย่างนะครับ

เช่นปลายี่สกเมื่อปลายี่สก อมเหยื่อเข้าปากแล้วจะยกหัวขึ้นเพราะธรรมชาติปลายี่สก เวลาหาอาหารจะทิ่มหัวลง แต่ไม่ได้ทิ่มแบบ Vertical นะครับ มันจะปักหัวลงเป็นมุมไม่เกิน 45 องศา เมื่อมันเจอเหยื่อที่ถูกปากแล้วอมเข้าปากมันก้อจะยกหัวขึ้นแล้วว่ายต่อไป ช่วงที่ยกหัวขึ้นนี้ ทุ่นก้อจะถอน ฉนั้นแน่นอนครับวัดได้เลย แต่ไม่ใช่ว่า ทุ่นถอนจะเป็นปลายี่สกเสมอไป ปลาตะเพียน ที่ไม่ใช่ไซส์เด็กๆ ก้อถอนเหมือนกันเพราะพฤติกรรมการกินอาหารของ ปลาตะเพียนจะปักหัวลงเหมือนปลายี่สก เมื่อปลาตะเพียนคาบเหยื่อเข้าปากแล้วยกหัวขึ้นทุ่นก้อจะถอนเหมือนกัน แต่ความแตกต่าง ของปลายี่สกและปลาตะเพียนคือช่วงที่ปลาเข้ามาตอดเหยื่อ ปลายี่สกจะอม แล้วพ่น อยู่อย่างนี้ จนเหยื่อสามารถอมเข้าปากได้มันถึงจะอมแล้วยกหัวขึ้น ฉนั้น ทุ่น จะมีการขยับขึ้นลง เป็นจังหว่ะเนิบๆ ยาวๆ แต่ปลาตะเพียน จะมีลักษณะ ทุ่นตอกแรงๆ สั้นๆ 2-3 ครั้ง เมื่อถูกปากปลาตะเพียนจะคาบเหยื่อและยกหัวขึ้นทันที อันนี้แค่เป็นตัวอย่างคร่าวๆนะครับลองหมั่นสังเกตุและศึกษาดู

คห.จก.

Jewmen2000(83

)

คห.1: 6 ก.พ. 50, 12:51

เก็บข้อมูลดีๆ อีกตามเคยคับ
ขอบคุณครับน้าริมคับ

รินคัม(282

)

คห.2: 6 ก.พ. 50, 12:51

ปลาเล็กกวนเหยื่อ บางทีจุดที่เรานั่งมีปลาเล็กอาศัยอยู่เยอะ ยิ่งเป็นจำพวกปลานิลแล้วล่ะก้อเหยื่อไม่ทันลงถึงพื้น ก้อเข้ามารุมเหยื่อกันแล้ว ยิ่งถ้าตกด้วยขนมปังบีบเบ็ดเฉยๆ อย่างนี้หมดสิทธิ์ลุ้นปลาใหญ่แน่ๆเลยครับ อาการของทุ่นถ้ามีปลาเล็กมารุมตอดเหยื่อ คือทุ่นจะ ขยับไม่เป็นจังหว่ะครับ เดี่ยวขึ้น เดี๋ยวลง บางทีทุ่นมีอาการ ทุ่นเดิน ช้าๆด้วย แต่วัดแล้วก้อไม่ค่อยติดปลา อย่าเพิ่งท้อย้ายที่ซะก่อนนะครับ ถ้ามีปลาเล็กก้อต้องมีปลาใหญ่อยู่ด้วยแน่นอน นอนโปรยเศษขนมปังฝุ่นซัก1กำมือ บริเวณที่ตกแล้ว ปั้นเหยื่อให้เม็ดเล็กลงกว่าเดิมดูนะครับ เศษขนมปังฝุ่นพอที่ช่วยดึงฝูงปลาเกล็กขึ้นมาไม่ลงไปกวนเหยื่อข้างล่างได้ เพราะโดยปกติแล้วลูกปลาเล็กๆจะพวกปลานิลมักจะไม่ค่อยไปว่ายหากินอยู่บริเวณหน้าดินซักเท่าไรครับ หรือถ้าอยากจะสนุกกับปลานิลเล็กๆพวกนี้แนะนำให้เปลี่ยนเป็นเบ็ดเบอร์เล็ก แล้วใช้ขนมปังขาวบีบเบ็ดแค่นี้ ก้อพอที่จะเก็บสแปร์กับปลาเล็กๆได้ไม่ยาก

พฤติกรรมอีกอย่างนึงของปลานิลขนาดใหญ่ หมายถึง ขนาด เกือบกิโลหรือเกิน1กิโลกรัมขึ้นไป พวกนี้จะฉลาดครับ คิดว่าเพื่อนนักตกปลาหลายๆท่านคงเจอ คืออาการทุ่น ขยับขึ้นลง ช้าๆ และมีอาการกระตุกสั้นๆ แต่พอวัดแล้วก้อไม่ติดปลา เท่าที่ผมสังเกตุดูคือปลานิลพวกนี้เมื่อเจอเหยื่อปุ๊บมันจะไม่คาบไม่ตอดเหยื่อครับ แต่มันจะใช้ส่วนครีบอก หรือส่วนหาง ไถหรือบดเหยื่อเบาๆให้เหยื่อแตกออกแล้วค่อยเก็บกินเศษเหยื่อที่แตก พวกนี้มักจะไม่ค่อยคาบเหยื่อทั้งก้อน ฉนั้นแล้วถ้าเกิดว่าทุ่นมีอาการดังกล่าวแล้ววัดว่าวอยู่บ่อยๆ ลองออกแรงวัดคันเบ็ดให้แรงกว่าเดิม แล้ววัดขึ้น แนวตรงๆ (เท่าที่จะทำได้)ดูนะครับ ส่วนใหญ่แล้วไม่เกี่ยว ใต้คางลงมาก้อบริเวณ ครีบท้องค่อนไปทางหาง อาจจะดูนอกเกมส์เล็กน้อยนะครับ แต่ก้อสามารถจัดการกับปลาเคี่ยวๆพวกนี้ได้

ฉนั้นแล้วการตกสะปิ๋วเนี่ยะอย่าใจร้อนเกินไปนะครับ ใจเย็นๆรอจังหว่ะที่เหมาะสมสักนิดนึง ช่วงเวลานี้ผมคือว่าป็น ช่วง climax ของการตกสะปิ๋วเลยทีเดียว