ปากบารา 49 หรรษาตกปลา เริงร่าเล่นน้ำ (1): SiamFishing : Thailand Fishing Community
กระดาน
คห. 22 อ่าน 25,549
ปากบารา 49 หรรษาตกปลา เริงร่าเล่นน้ำ (1)
ตั้ง: 22 ธ.ค. 49, 17:39
ปากบารา 49 หรรษาตกปลา เริงร่าเล่นน้ำ (1)
ภาพที่ 1 ภาพเกาะเขางวงหรือเกาะงวง  คนท้องถิ่นเรียก ยีหนัน เกาะขนาดเล็กๆ คล้ายช้างยืนจุ่มงวงลงไปในน้ำ ยามอาทิตย์ใกล้ลับฝั่ง

30 พ.ย 49

18:20 น. ผมออกเดินทางจาก กทม. ด้วยรถทัวร์ของทรัพย์ไพศาลจากสายใต้ เป็นรถสายเดียวที่ไปถึง อำเภอละงู จังหวัดสตูล ผมลงรถที่ตลาดเทศบาลกำแพง มีน้องวัยรุ่น 4-5 คน ลงรถที่นี่ด้วย ท่าทางกำลังจะไปเกาะตะรุเตา จริงๆแล้วเราต้องนั่งรถโดยสารไปที่ท่าเรือปากบาราอีก 1 ต่อ น้องๆต้องขึ้นเรือที่ท่าเรือเฟอรี่ที่นั่นเพื่อไปตะรุเตา แต่ยังเช้าเกินไป  ผมก็เลยกะจะเถลไถลในตลาด กินกาแฟ ขนม ตามแบบชาวบ้านแถวนั้น

ซุ้มประตูทางเข้าเทศบาลแขวนป้ายไว้ว่า เทศบาลกำแพง เมืองน่าอยู่ ประตูสู่ตะรุเตา เดินผ่านพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านละงู ซึ่งเปิดแต่เช้า แต่ไม่ได้หรูหราหรือใหญ่โตอะไรครับ เป็นห้องสองคูหา อยู่ติดกับศูนย์ส่งเสริมการท่องเที่ยวและศิลปวัฒนธรรม ซึ่งก็เงียบเหงาพอกันทั้งสองแห่ง ขณะที่กำลังอ่านโน่น ดูนี่ก็มีเสียงเรียกเข้ามือถือ เป็นเพื่อนของเพื่อนผม ชื่อ ช่างรินทร์ ซึ่งเคยออกทริปตกปลาด้วยกัน รินทร์โทรมาถามผมว่าอยู่ที่ไหนแล้ว จะมารับไปบ้านก่อน แล้วจะไปไหนค่อยว่ากันอีกที ให้มอเตอร์ไซค์ไว้ใช้ 1 คัน

ถึงบ้านช่างรินทร์ก็เจอกับเจ้าโอ๋ ลูกน้องของเพื่อนผมอีกที งานนี้ก็เลยได้คนขี่มอเตอร์ไซค์ให้ผมซ้อนท้ายดูเมือง เป้าหมายแรกคือ ร้านกาแฟในตลาดสด สั่งกาแฟร้อนมากินคนละถ้วย ผมกินขนมอีก 3-4 ชิ้น เป็นขนมต้ม ขนมชั้น ที่ร้านกาแฟเขาจะจัดวางไว้ ใครกินเท่าไรก็จ่ายเท่านั้น รวมแล้วมือนั้นผมและเจ้าโอ๋ กินกันไปไม่ถึง 30 บาท เป็นการกินแบบเดียวกับชาวบ้านร้านถิ่นเขากินเขาอยู่กัน

เห็นเป็นร้านกาแฟในตลาด แต่มีเสน่ห์น่านั่งตรงที่เขาจะมีคติพจน์ คำคม ภาพวาด แม้ไม่สวยงามนัก แต่ก็ได้บรรยากาศ เขาพูดถึงเรื่อง พ่อ เรื่องค่าของเงิน เรื่องการไม่ควรดูหมิ่นคน นั่งจิบกาแฟไป ไล่อ่านที่ผนัง เพลินและได้มุมมองของชีวิตดีนะครับ

คติพจน์ บทร่ายสาระของชีวิตเหล่านี้ แทรกธรรมะบ้าง ตีแผ่ความจริงบางด้านของชีวิตและสังคมบ้าง แขวนไว้ตามต้นไม้ ตามผนัง อ่านแล้วจะมากจะน้อยก็ทำให้เราได้นิ่ง คิด ตรึกตรอง

แวะเข้าตลาดสด ผมได้ส้มเขียวหวาน 2 กิโลกรัม หลังจากนั้นจึงตรงไปบ้านเพื่อน ซึ่งต้องนั่งท้ายมอเตอร์ไซค์อีก 10 กิโลเมตร สองข้างทางสู่ปากบารา เขียวขจีแบบที่เคย ไปได้สักครึ่งทาง ด้านซ้ายมือ เห็นทิวเขา ทางขวามือ จะเห็นทะเล ก่อนถึงท่าเรือปากบารา จะเป็นทางเข้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ซึ่งมีสิ่งก่อสร้าง ร้านอาหาร ผมไม่ได้แวะเข้าไป ใครผ่านแถวนี้ลองแวะดูได้ครับ โดยมากเป็นสิ่งปลูกสร้างฝีมือมนุษย์แต่ทำได้สวยงามดี 
คห.1: 22 ธ.ค. 49, 17:43
 [b]ภาพที่ 2 เสน่ห์ของทะเลปากบารา-สตูล[/
ภาพที่ 2 เสน่ห์ของทะเลปากบารา-สตูล เพียงแค่นั่งเรือออกจากปากน้ำปากบาราก็จะพบกับเกาะทั้งใหญ่น้อย เรียงราย แต่ละเกาะมีประวัติ ความเป็นมาที่น่าสนใจ

ราวบ่าย 2 โมงก็ได้เวลารวมพลเตรียมขนย้ายสัมภาระลงเรือ แทนที่จะมีเพียง 4—5 คน แบบที่คาดหมายไว้ทีแรก ทริปนี้มีคนมากถึง 8 คน คือ เพื่อนผมและพี่ชาย พี่สาว 4 คน ช่างรินทร์ , ดีน สองคนนี้เป็นเพื่อนกัน ออกเรือตกปลาประจำ เพราะมีเรือตกปลาขนาดเล็กเอง เจ้าโอ๋ เจ้าโบ้ หนุ่มจากมหาสารคามที่มาลงเรือไกลถึงสตูล และในทริปนี้ ก็สร้างความครื้นเครงให้กับเพื่อนร่วมทริปถ้วนหน้า

วันนี้ท่าเรือปากบารา คนไม่พลุกพล่านนัก ผมดูค่าเรือเฟอร์รี่ (เรือเมล์) และค่าธรรมเนียมในการขึ้นเกาะตะรุเตาแล้ว แพงอย่างน่าตกใจ คือ เรือไปตะรุเตา ไปกลับ 500 บาท และค่าธรรมเนียม 80 บาท ทั้งๆที่ตะรุเตาไม่ถือเป็นเกาะที่ไกลจากฝั่งนัก

เรือทะเลดำ ออกจากฝั่งก่อน 3 โมงเย็นเล็กน้อย แล่นออกจากท่าเรือปากบารา ผ่านไปยังเกาะเขาใหญ่ และถึงเกาะงวงภายในเวลาสัก 40 นาที เพราะอยู่ห่างจากฝั่งไม่ไกลนัก แล้วไต๋เรือก็ทอดสมอ รอเวลาเปิดไฟไดน์หมึก พี่ชายของเพื่อนผม ช่างรินทร์ เจ้าโอ๋ จัดแจงผูกเบ็ดตกปลาเล็กๆไว้เป็นอาหารเย็น เริ่มต้นด้วยความสนุกสนานกันทั่ว ยกเว้นผมที่ยังไม่ได้เริ่มตกปลา ได้แต่เริ่มถ่ายรูปไปพลางๆ ดูเหมือนผมจะตั้งใจกับการถ่ายรูปมากกว่าการตกปลา

กะจำนวนคร่าวๆ ทริปนี้มีคนตกปลาอย่างน้อย 4 คน ถ้าผมไม่เมาเรือก็คงมีแรงช่วยตกได้บ้าง รวมๆแล้ว เราน่าจะได้ปลากันไม่น้อย คงพอได้กินปลาทะเลสดๆกัน
คห.2: 22 ธ.ค. 49, 17:46
[b]ภาพที่ 3 [/b] เกาะเขางวง หรือเกาะยีหนั
ภาพที่ 3 เกาะเขางวง หรือเกาะยีหนัน เกาะขนาดเล็ก รูปทรงเหมือนช้าง หมายแรกที่เรือจอดทอดสมอให้ชมความงามของทะเล

เกาะเขางวง หรือเกาะงวงนั้นอยู่เลยไปจากเกาะเขาใหญ่เพียงเล็กน้อย เกาะเขาใหญ่นี่มีชื่อเสียงในด้านความสวยงามของโครงสร้างหินงอก หินย้อย ที่งอกยื่นมาเป็นเพิง ให้เหมือนถ้ำลอด จะพายเรือเล็กๆ ลอดไปดูความสวยงามก็ได้ ชั้นหินแต่ละชั้นก็เรียงตัวกันอย่างสวยงาม แปลกตา

ส่วนเกาะเขางวงนั้นมีลักษณะคล้ายๆ ตัวช้าง โดยงวงช้างจะยื่นลงน้ำ ปากบารา -ทะเลของสตูลดีตรงนี้ล่ะครับ เพียงแค่นั่งเรือออกจากปากน้ำปากบาราก็จะพบกับเกาะใหญ่น้อย เรียงราย แต่ละเกาะมีประวัติ ความเป็นมา ถ้าหากได้ไปกับคนท้องถิ่นที่มีความรู้เรื่องเหล่านี้จะน่าสนใจอย่างยิ่ง

ตะวันไม่ทันลับขอบฟ้าดี ผมก็รู้สึกง่วงนอน อาจจะเพราะได้นอนแต่บนรถทั้งคืน ซึ่งไม่ค่อยสะดวกนัก หรือเพราะยากันเมาเรือที่กินเข้าไปก่อนเรือออกจากท่าก็ได้ ขณะที่กลิ่นทอดปลา ทำกับข้าวโชยมาจากกระทะ ผมก็ปีนขึ้นไปนอนบนดาดฟ้าเรือ และม่อยหลับไปในเวลารวดเร็ว แม้ใครต่อใครจะเวียนมาเรียกไปกินข้าวก็ไม่ได้ลงไป ครับ รวมถึงไม่ได้ลงไปร่วมตกหมึก ไม่ได้ลงไปร่วมดูเขาครอบหมึก
คห.3: 22 ธ.ค. 49, 17:50
[b]ภาพที่ 4 [/b]ภาพชั้นหินของเกาะเขาใหญ่
ภาพที่ 4 ภาพชั้นหินของเกาะเขาใหญ่ ด้านล่างจะเป็นชะง่อนหิน ในลักษณะเชิงผา-ถ้ำ พายเรือเล็กๆลัดเลาะไปชมความสวยงามได้ครับ

รู้สึกตัวอีกที 4 ทุ่มกว่า เจ้าโอ๋ขึ้นมานอนข้างๆ ช่างรินทร์บอกให้ผมนอนขวางเรือแทน เพราะจะนอนกันได้หลายคนมากขึ้น ผมถามเจ้าโอ๋ว่า เรือจะออกแล้วหรือ? ได้หมึกพอแล้วหรือ? เจ้าโอ๋ว่าได้เยอะแยะแล้ว ผมรู้สึกว่าคลื่นลมสงบ เพราะเรือแล่นเรียบ ไม่โคลงเคลง ไม่ปะทะคลื่น

เพื่อนร่วมทริป 4 คน ขึ้นมานอนข้างๆผม ปล่อยให้เก๋งชั้นล่างเป็นของครอบครัวเจ้าของทริป

จริงๆแล้ว ผมหมายตาที่นอนบนดาดฟ้าเรือมาตั้งแต่ตัดสินใจลงเรือแล้ว เมื่อก่อนเรือทะเลดำนั้น เก๋งชั้นบนเปิดโล่ง ผมเคยนอน 3 คืน แม้ว่าจะนอนตากน้ำค้าง แต่ยังจำได้ถึงดาวกระจ่างฟ้า งามตา ปีนี้เรือทะเลดำต่อเติมเพิ่ม เก๋งชั้นบนมีหลังคาคลุมครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งด้านท้ายเรือค่อยปล่อยโล่ง ส่วนที่คลุมหลังคา ถ้านอนตามขวางเรือก็นอนกันได้ 4-5 คน

ลงเรือตกปลา ต้องทำใจเรื่องที่กิน ที่นอน ที่ขับถ่าย ไว้ก่อนเลย แต่ถ้าคิดอีกที ชีวิตคนเราอาจจะไม่ต้องการอะไรที่มันมากเกินไปกว่านี้ก็ได้ คนเราที่มีความต้องการกันมากๆนั้น เพราะว่าได้เห็นสิ่งที่ดีกว่า ที่สวยงามกว่า เราก็เลยต้องการ เลยอยากได้ มันกลายเป็นการล่อตาล่อใจ สุดท้ายเราก็ฮุบเหยื่อ เป็นเรื่องปกติอย่างยิ่งทีเดียว
คห.4: 22 ธ.ค. 49, 17:53
[b]ภาพที่ 5 [/b] แสงแรกยามเช้า ของทะเลสตู
ภาพที่ 5 แสงแรกยามเช้า ของทะเลสตูล ภาพนี้ถ่าย กลางทะเล แถบเกาะอาดัง หลีเป๊ะ

1 ธ.ค 49
เกือบตี 2 ผมนอนหลับเต็มอิ่ม จึงลุกมาที่ดาดฟ้าท้ายเรือส่วนที่ไม่คลุมหลังคา เดือนค่อนเสี้ยวเฉียงองศาลงต่ำ ดาวไถลอยเรียงกลางฟ้า มองไปรอบๆ เห็นเรือปั่นไฟไดน์หมึก ลอยลำระยะไกลใกล้ คละกันไป เรือทะเลดำยังคงแล่นเดินหน้าสู่กลางทะเล ผ่านเลยระยะเส้นของเรือที่จอดปั่นไฟเหล่านั้นลำแล้วลำเล่า จนกระทั่งเห็นเรือบางตา ผมคิดว่าคงไปถึงหมาย 8 ไมล์ ,กระรังลูกแก้ว ซึ่งเป็นหมายกลางทะเลที่ไกลสุดที่เรือตกปลาไทยจะออกไปตกปลาได้

บรรยากาศแบบนี้เงียบและเหงาในหัวใจลึกๆ มองดาวบนฟ้า มองผิวน้ำที่สะท้อนแสงไฟจากเรือ มองเดือนค่อนเสี้ยวค้างฟ้า โดยเฉพาะในคืนที่ทะเลสงบเช่นนี้ ผมละสายตาผ่านจากกลุ่มดาวโน้น สู่ดาวนี้ เรือทะเลดำเปิดไฟนำทางสีฟ้าม่วงไว้เพียงดวงเดียวบนเสากระโดง ความมืดรอบข้างขับให้ดาวกระจ่าง หรือเพียงหันหน้าไปให้พ้นจากรัศมีแสงไฟ ก็จะมีแต่ความมืด

จนราวๆ ตี 4 เพื่อนผมจึงปีนขึ้นมาทางบันไดท้ายเรือ แล้วบอกว่าไต๋บังหลาดจะพาไปตกปลาแถวหมายเกาะอาดัง หลีเป๊ะ ถ้าไปไกลถึง 8 ไมล์นั้น ต้องแล่นเรืออีก 4 ชั่วโมง แล้วก็ไม่ค่อยจะได้ปลา ไต๋จึงตัดสินใจไม่พาไป

จึงเป็นผมที่เข้าใจผิดไปเองว่าเรือกำลังมุ่งหน้าสู่หมายกระรังลูกแก้ว
คห.5: 22 ธ.ค. 49, 17:58
[b]ภาพที่ 6[/b] ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นที่เกา
ภาพที่ 6 ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นที่เกาะอาดัง ทะเลราบเรียบ นอกจากเกาะที่ช่วยบังลมไว้ ยังเป็นวันที่ไม่มีคลื่นลมด้วย

พอถึงหมาย เพื่อนผมและช่างรินทร์เตรียมลงสายเพื่อหวังปลาใหญ่เช้ามืดกันก่อน ผมเองก็ยังอิดออดรอรี ดูทีท่าก่อนว่าใครจะได้ปลาอะไรขึ้นมาบ้าง จะได้เลือกการตกที่เหมาะสม แต่กว่าเรือจะทอดสมอเรียบร้อย แสงเงินแสงทองก็จับขอบฟ้า เพื่อนผม ,ช่างรินทร์ ลงสายเบ็ดกันที่ท้ายเรือ ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดสำหรับการตกปลา ดีนและโบ้ยึดตำแหน่งหัวเรือ ซึ่งเป็นตำแหน่งปราบเซียน เพราะถ้าโดนคลื่น คลื่นก็โยกสาหัสสากรรจ์ โอกาสสายพันเบ็ดคันอื่นก็สูง ผม มองหาตำแหน่งว่างแถวกลางลำเรือ ก่อนจะให้ช่างรินทร์เกี่ยวหมึกเป็นเพื่อเป็นเหยื่อลงหน้าดิน 1 คัน แล้วปักคันไว้กับกระบอกปักคัน
คห.6: 22 ธ.ค. 49, 17:59
[b]ภาพที่ 7 [/b]ศิลปินคนนี้ ก่อนนอนก็บรร
ภาพที่ 7 ศิลปินคนนี้ ก่อนนอนก็บรรเลงกีตาร์กล่อมนักตกปลา ครั้นยามเช้าตื่นขึ้นมา ก็พร้อมจะบรรเลงต่อ ไล่แล้วก็ยังไม่เลิก


ครั้งนี้ นอกจากจำนวนคนลงเรือที่มากกว่าที่คาดไว้ วงตกปลาเป็นต้องครื้นเครงขึ้นอีก เพราะโอ๋เอากีตาร์ตัวใหม่ลงเรือมาด้วย และผลัดกันเล่นกับโบ้ ตั้งแต่หัวค่ำ นานๆทีครับ ที่การลงเรือตกปลาจะมีเรื่องครื้นเครงแบบนี้ เสียงกีตาร์ เสียงร้องเพลง เพื่อชีวิตบ้าง ลูกทุ่งบ้าง วัยรุ่นบ้าง สนุกไปอีกแบบ ถึงตอนนี้ ผมคิดสนุกๆ นี่ผมไม่ได้มาตกปลาอย่างเดียวแล้ว แต่เป็นการมาพักผ่อน เพลิดเพลิน เพราะใครใคร่เล่นกีตาร์ ร้องเพลง ก็เล่นไป ใครใคร่ตกปลาก็ตกกันไป หรือจะชื่นชมธรรมชาติ มองริ้วคลื่น ดูเรือที่แล่นไปมา อย่างที่ผมทำ ก็ย่อมทำได้

ผมใช้เวลาว่างจากการดูภาพในกล้อง เมื่อคืนได้หมึกมากพอสมควร แถมบรรยากาศการตกหมึกก็สนุก พี่สาวของเพื่อนนั้นชอบใจที่ตกหมึกตัวโตได้หลายตัว
คห.7: 22 ธ.ค. 49, 18:00
[b]ภาพที่ 8 [/b] เพื่อนผมจัดการลอยสายเพื
ภาพที่ 8 เพื่อนผมจัดการลอยสายเพื่อตกปลาล่าเหยื่อจำพวกอินทรี สาก ช่างรินทร์เตรียมลูกโป่งมาด้วย การลอยสายของพวกเราจึงเป็นการลอยสายแบบแฟนซีมีสีสัน ปกติเราใช้โฟมหรือขวดน้ำพลาสติกลอยสายกัน

เช้าๆแบบนี้ ยังไม่เห็นใครได้ปลาอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ผมก็เลยหันไปสนใจการถ่ายภาพ มองเหลี่ยมเขา ดูเงาของเกาะที่ทอดลงมาในน้ำ ดูริ้วคลื่นที่ไล้ตามแรงลมพัด ในเวลาที่ไม่เมาเรือเช่นนี้ กับภาพเหล่านี้ ผมถือเป็นการได้พักผ่อนอย่างเยี่ยมทีเดียว บรรยากาศแบบนี้ไม่ใช่จะหากันได้ง่ายๆ

จนแสงทองงามจับตา ผมอยากได้ภาพสวยๆจึงบอกคนเรือให้ช่วยปิดไฟแสงสว่างที่ติดตั้งไว้บนแขนกว้านไม้ไผ่ เป็นเวลาเดียวกับคนเรือก็ต้องการปิดไฟและดับเครื่องเรือ ปล่อยพวกเราลอยเรืออยู่ในความเงียบ ลมพัดมาพอหนาว ผมตามเก็บภาพทิวทัศน์ ภาพเพื่อนๆที่กำลังตกปลา ท่ามกลางเสียงหยอกล้อของเพื่อนร่วมทริป ทุกคนได้ปลาขึ้นมากันทั่วหน้า มากบ้างน้อยบ้าง แล้วแต่วิธีการตก เว้นแต่ผมคนเดียว เบ็ดที่ลงไว้ไม่มีปลาตัวไหนมากินเหยื่อ เพื่อนจึงล้อว่า เที่ยวนี้ทำบาปไม่ขึ้นหรือ
คห.8: 22 ธ.ค. 49, 18:04
[b] ภาพที่ 9 [/b] บังฟูดี จุมโพ่เรือ ทะเลด
ภาพที่ 9 บังฟูดี จุมโพ่เรือ ทะเลดำ กำลังเตรียมทำข้าวต้มมื้อเช้าให้กับพวกเรา

อาหารมื้อเช้าเป็นข้าวต้มหมึกสดที่ขึ้นมาจากทะเลเมื่อคืน พ่อครัวปรุงรสกลมกล่อม แม้จะมีซอส 2-3 อย่างให้เลือกเติม สำหรับผมก็แทบไม่มีความจำเป็นต้องเติม เว้นไว้แต่จะเหยาะพริกไทยลงไปหน่อย

หลังจากนั้นไต๋ก็ย้ายเรือสู่หมายกลางทะเล มีเรือตกปลา ทอดสมออยู่ 5-6 ลำทีเดียว เพราะว่าเป็นหมายตกปลาเช้ายอดนิยม ผมประสบความสำเร็จกับปลาหางแข็ง 4-5 ตัว ปลานี้ ทำปลาเค็ม หรือปลาสดเผาก็อร่อย 4-5 ตัวที่ว่านั้น ผมตกอยู่พักใหญ่ทีเดียวกว่าจะได้ แต่ไต๋เรือตกเพียงครั้งเดียว ได้ถึง 5 ตัวพร้อมกัน แต่ในที่สุด เมื่อเรือหลายลำอยู่ใกล้ๆกัน ก็เกิดการชุลมุน เรือจะเกยกัน ไต๋จึงตัดสินใจแยกตัวออกไป ปลาที่เราตกได้เช้านี้ เรียกว่า ปลาจาน หมายถึงปลาชนิดตัวขนาดฝ่ามือ หรือใหญ่ไม่เกินจาน กับคันเบ็ดเล็กๆ จะตกได้ความรู้สึกมากเวลาปลาติดเบ็ด

พอสัก 11 โมง แดดเริ่มร้อนขึ้น จนกระทั่งเฉพาะพื้นกระดานเรือที่โดนแดดนั้น ร้อนจนเหยียบแล้วต้องรีบยกฝ่าเท้าทันทีทีเดียว
คห.9: 22 ธ.ค. 49, 18:07
[b] ภาพที่ 10 [/b]บรรยากาศตะวันลับฟ้า กลาง
ภาพที่ 10 บรรยากาศตะวันลับฟ้า กลางทะเล แถวเกาะหินงาม สตูล ในวันที่คลื่นลมสงบ ทะเลสะท้อนสีตะวัน และสีทองของท้องฟ้า

มื้อกลางวันมื้อนี้ พ่อครัวทำอาหารหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแกงส้ม ไข่ทอด ผัดปลา หลังจากไม่เมาเรือ ผมค่อยวางใจ ถึงกับย่ามใจ กินข้าวมากขึ้น จนเกินพิกัดอิ่ม อย่างไรก็ตาม เพื่อนยังถามว่ามีอาการเมาเรือหรือยัง?? ทั้งนี้เพราะเหตุว่า ผมนั้นเมาเรือง่ายและเมื่อเมาแล้วก็มีอาการหนัก เพื่อนเข้าใจผมดี หลังจากออกทริปตกปลากันมาหลายทริป พอเสร็จจากมื้อกลางวัน หลายคนหลบร้อนเข้าเก๋งเรือ บ้างก็คุยกันเรื่องสัพเพเหระ ช่วงเวลานี้มักเป็นห้วงเวลาที่คนตกปลาได้คุยกันในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการตกปลา ผมจัดการเอาปลาสดลงหมักลงถังน้ำแข็ง ร้อนๆแบบนี้ นึกอยากเล่นน้ำทะเล เมื่อเช้าได้ยินเพื่อนบอกว่าอาจจะได้ไปเกาะหินงาม ให้ลงเล่นน้ำกัน ผมก็สองใจ คือ ถ้าให้ตกปลาก็ได้ ถ้าจะเล่นน้ำก็พร้อม เพราะผมมีกางเกงว่ายน้ำ และแว่นตาว่ายน้ำติดกระเป๋ามาด้วย

คห.10: 22 ธ.ค. 49, 18:11
[b] ภาพที่ 11 [/b] บังหลาด ได๋เรือทะเลดำ เป
ภาพที่ 11 บังหลาด ได๋เรือทะเลดำ เป็นคนที่มีฝีมือในการพาแขกตกปลา และการตกปลาก็เก่ง ในภาพ ใช้เบ็ดโสก โสกปลาหางแข็ง ครั้งเดียว 5 ตัว

หมายเหตุ -- เนื่องจากทริปนี้ผมเปลี่ยนวิธีการในการนำเสนอใหม่ ทุกท่านจะไม่ค่อยเห็นภาพปลาที่ตกได้ (ซึ่งก็ได้ไม่เยอะ) จะไม่เห็นภาพปลารวม (ซึ่งก็ไม่มากนัก) เอาเป็นทริปกึ่งท่องเที่ยวแล้วกันครับ

อยากพูดถึงกิจกรรมกลางแจ้งประเภทออกตกปลาทะเลในด้านที่ตรากตรำบ้าง เราออกมากับเรือตกปลาแบบนี้ เขามีหลังคากันแดด ถ้าเป็นเรือตกปลาของชาวบ้าน ลำเล็กๆ จะต้องนั่งตากแดดทั้งวัน ใส่เสื้อแขนยาว หมวก แล้วก็ทนร้อนไปทั้งวัน กว่าจะได้ปลามาขายเลี้ยงลูกเมีย บางทีเจอกับคลื่นหนักๆก็ต้องทน เรือลำเล็ก คนเรือต้องทรหด ที่พวกเราเผชิญอาจจะแค่เศษเสี้ยวของพวกเขาเท่านั้นเอง
Rachi(293 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offlineใบแดง
คห.11: 22 ธ.ค. 49, 18:12
คห.12: 22 ธ.ค. 49, 18:14
[b]ภาพที่ 12 [/b] สนุกสนาน ในชั่วโมงที่ปลา
ภาพที่ 12 สนุกสนาน ในชั่วโมงที่ปลากินเบ็ดดี ทุกๆคนมีภาระในการตกปลา แต่ก็เต็มไปด้วยความสนุก ปลาที่ได้ คือ อาหารมื้อต่อไปของเรา

เสียงเพลงลูกทุ่งจากวิทยุสร้างความเพลิดเพลินหู ห้วงเวลาหลังบ่าย หนังท้องตึง หนังตาหย่อน เสียงเพลงขับกล่อม ลมพัดโกรกเข้าเก๋งเรือ แม้ปลาไม่กินเหยื่อ ก็ไม่มีใครเดือดร้อน เพราะคนลงเรือเองก็เหนื่อยล้า ได้เวลาพักบ้าง

บ่ายแก่ๆ ไต๋ติดเครื่องเรือ สั่งถอนสมอ แล้วออกเรือ ผมนึกว่าจะได้ไปเล่นน้ำที่เกาะหินงามซึ่งเห็นอยู่ไม่ไกล แต่ก็ได้แค่หวังเงียบๆ คนเดียว อากาศอบอ้าวแบบนี้ ได้อาบน้ำทะเล แล้วปิดท้ายด้วยการอาบน้ำจืดเย็นๆ บอกไม่ถูกหรอกครับมันดีอย่างไร (แต่ถ้าหากเล่นกลางวันแดดเปรี้ยงๆ คงได้เป็นหวัดบ้างล่ะ)
kalakaloa(1067 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.13: 22 ธ.ค. 49, 18:16
น้าผิวววววววววววว
คห.14: 22 ธ.ค. 49, 18:17
[b] ภาพที่ 13 [/b] ผมตกได้ปลาแพะ ปลาแพะ แม้
ภาพที่ 13 ผมตกได้ปลาแพะ ปลาแพะ แม้ว่าเนื้อจะอร่อย แต่ฟังแล้ว ทำกินลำบาก เพราะต้องเผาไฟอย่างเดียว ถึงจะลอกเกร็ดออก ปลาแพะมาเป็นฝูง และรุมทึ้งเหยื่ออย่างตะกละ

แต่คิดยังไม่ทันจบดี ไต๋ก็สั่งคนเรือให้ทอดสมออีกรอบ พร้อมทั้งบอกว่า รอตกปลาหน้าค่ำกันตรงนี้ (หน้าค่ำ คือ ก่อนค่ำ ช่วงเย็น) ซึ่งเป็นยอดหินใต้น้ำพอดี ปลาตะมะ (ปลาหมูสีฟ้า) พอมีตัว ผมเองก็ไม่ได้รู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้เล่นน้ำ แต่ผูกสายเบ็ดโสกเกี่ยวหมึกตายหั่นเป็นชิ้นลงไปในน้ำ สักพักก็ได้ปลาเหลืองขึ้นมาสองสามตัว ปลาสีกุน (ทางใต้เรียก เซ็กล่า) อีก 1 ตัว เริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากนั้นไต๋ก็ได้ปลาแพะขึ้นมา 1 ตัว ผมมองโฉมรูป แล้วคิดว่า เนื้ออร่อย ไต๋ก็ยืนยันว่านี่เป็นปลาเนื้ออร่อย แม้ว่าหน้าตาจะขี้เหร่ และเขี้ยวน่ากลัว หลังจากนั้น รอบคันเรือจึงถูกปลาแพะถล่มกันถ้วนหน้า หย่อนเป็นกิน ให้สนุกสนาน แต่เสียงเฮจะดังมาก ถ้าหากใครได้ปลาเนื้อดีอย่าง ดอกแดง หรือเก๋าขนาดฝ่ามือขึ้นมา ซึ่งนานๆ จะได้ขึ้นมาสักตัว

แม้ว่าจะสาละวนกับการตกปลา แต่ผมก็เก็บภาพทิวทัศน์ตะวันลับฝั่งทะเล โชคไม่ดี ตอนนี้ จุดที่เราจอดเรือ อยู่ในตำแหน่งที่ทิวทัศน์ไม่สวยนักสำหรับการถ่ายภาพ ผมถ่ายภาพไว้ได้ 3-4 เฟรม สลับกับภาพการตกปลา
คห.15: 22 ธ.ค. 49, 18:21
[b] ภาพที่ 14 [/b] พี่ชายของเพื่อนผมกับปลา
ภาพที่ 14 พี่ชายของเพื่อนผมกับปลาผมนาง ปลาตระกูลกระมง รสชาติอร่อย จะแกงส้ม หรือต้มยำก็ได้ พี่ชายคนนี้ตกปลาอึดที่สุดในทริป

พอเริ่มมืด ฝูงปลาแพะหายตัวไป ปลาตะมะขนาดเล็กเข้ามากินเหยื่อ ตะมะหรือหมูสีนี่เขานิยมทำอาหารกันครับ ในตลาดก็มีขาย มักจะวางไว้รวมกับปลากะพงแสม คนไทย คนมาเลย์ นิยมกินกันมาก หลายคนลงสายโสกเหยื่อหมึก เพื่อนผมหวังปลาใหญ่ จึงใช้เหยื่อหมึกเป็นทั้งตัวลงสายที่ท้ายเรือเช่นเดิม

ในด้านของจุมโพ่ เย็นนี้ ผมเห็นเขาเลือกได้ปลามงตาแดง ปลาเหลืองไปเตรียมทำกับข้าว ปลามงนั้นเอาไปต้มยำ ส่วนปลาเหลืองขอดเกล็ด เตรียมทอด ใครสักคนพูดว่าไม่มีปลาอะไรเนื้ออร่อยเท่าปลาวัวทอด คันที่ผมตกอยู่ก็มีปลามาฉวย คะเนขนาดเป็นปลาขนาดใหญ่กว่าปกติสำหรับคันเล็กๆที่ผมใช้ พอได้ตัวขึ้นมาก็ปรากฏว่าเป็นปลาวัวขนาดใหญ่ ผมปลดเบ็ดแล้วเอาไปส่งให้จุมโพ่ลอกหนัง เตรียมทอดสดๆ
คห.16: 22 ธ.ค. 49, 18:23
[b] ภาพที่ 15 [/b]ผมกับปลาวัว ปลาวัวขนาดให
ภาพที่ 15 ผมกับปลาวัว ปลาวัวขนาดใหญ่ทีเดียว ปกติปลาวัวมาเป็นฝูงเช่นกัน แต่ทริปนี้ ผมตกขึ้นมาได้เพียงตัวเดียว ปลานี้ เนื้อทอดกินอร่อยไม่แพ้ปลาอื่น

หลังอาหารค่ำ ผม เพื่อน ช่างรินทร์ คุยกันด้วยเรื่องสัพเพเหระ ความหวังของพวกเราอยู่ที่คืนนี้ น้ำเริ่มไหลแรงขึ้น เป็นห้วงเวลาการล่าเหยื่อของปลาใหญ่ แต่ผมรู้สึกคล้ายจะเริ่มมีอาการเมาเรือแล้ว แสงไฟจากหลอดบนกว้านไม้ไผ่ที่สะท้อนลงน้ำผ่านระลอกคลื่นนี้ผมไม่ชอบเลยจริงๆ จึงขอยากันเมาคลื่นจากเพื่อน แล้วปีนขึ้นไปนอนบนเก๋งดาดฟ้าเรือเช่นเดิม ปล่อยให้คนอื่นตกปลากันต่อไป

แม้ว่าจะไม่ถึงกับเมาเรือ แต่ผมก็ยังไม่หักโหมกับการตกปลา คลื่นลมอาจจะโหมหนักกว่านี้ผมควรหลบไปนอนก่อน ในตอนที่ยังไม่เมาเรือ การนอนบนเรือที่โยกคลอนเป็นความเพลิดเพลินไม่ถึงกับรำคาญทนไม่ได้ คืนนี้ ฝันถึงบ้าน ฝันถึงญาติบางคน ในความฝันนั้นชัดเจน ไม่เลอะเลือน และไม่ฝันร้าย แสดงว่าผมนอนหลับสนิท และไม่ได้เมาเรืออย่างที่คาดไว้
คห.17: 22 ธ.ค. 49, 18:25
[b]ภาพที่ 16 [/b] อาหารมื้อเย็นที่อร่อยบน
ภาพที่ 16 อาหารมื้อเย็นที่อร่อยบนเรือ ต้มยำ ผักบุ้งผัด ปลาทอด และข้าวสวยร้อนๆ

ทริปนี้ ผมถ่ายภาพมากค่อนข้างมาก แล้วก็เล่าเรื่องราวแบบเชิงท่องเที่ยวมากกว่าตกปลา อ่านมากๆ เดี๋ยวล้า เริ่มกระทู้ใหม่ดีกว่าครับ


ตอนที่ 2 คลิกอ่านได้เลยครับ
luzifer(3326 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.18: 22 ธ.ค. 49, 18:35
คิดถึงสตูลจังเลย 
คห.19: 22 ธ.ค. 49, 19:55
คห.20: 22 ธ.ค. 49, 20:23
trophy(4982 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.21: 22 ธ.ค. 49, 21:47
บรรยายได้อารมณ์ดีครับ
ohm_2j(28 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.22: 22 ธ.ค. 49, 22:11
ปลาวัวย่างซีอิ๊วญี่ปุ่น อร่อยมักส์ๆ
ทำการ login ก่อนส่งความเห็น
siamfishing.com © 2024