เมื่อวานผมไปคุยกับ พนักงานไปรษณีย์ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ชื่อ คุณภัทราวัลย์ เกี่ยวกับปัญหาเรื่องของหาย ได้ความรู้เพิ่มมาครับว่า
- ส่งของเป็นพัสดุ (ธรรมดา) ถ้าหาย ปณท. รับประกันค่าของตามจริง แต่ไม่เกิน 1,000 บาท
- ส่งของเป็นลงทะเบียน ถ้าหาย รับประกันตามจริง ..ไม่เกิน "300 บาท!!!"
- ส่งของเป็น Ems ถ้าหาย รับประกันตามจริง  ไม่เกิน.. 1,000 บาท
- ส่งของเป็นพัสดุ "ประกัน"รับประกันตามจริง  ไม่เกิน.. 5,000 บาท
- ส่งของเป็นEms"ประกัน"รับประกันตามจริง  ไม่เกิน.. 20,000 บาท
  ทั้งนี้ การส่งแต่ละประเภทมีข้อจำกัด เรื่อง น้ำหนักสิ่งของ,ความรวดเร็วในการจัดส่ง แตกต่างกันออกไป เช่น Ems"ประกัน" แม้จะรับประกันในวงเงินที่สูง แต่จำกัดน้ำหนักสิ่งของไม่เกิน 10 กิโลกรัม  ถ้าเกินก็ต้องไปใช้พัสดุ "ประกัน" แทน  เป็นต้น
  ผมเห็นว่า ทั้ง "ผู้ซื้อ" และ "ผู้ขาย" ในหน้าตลาดของเว็บไซท์ SFC ทุกท่านควรตระหนักถึงเรื่องการรับประกัน กรณีการสูญหายด้วย เพราะหากเกิดเหตุขึ้นมาแล้วก็มีแต่เสียหายทั้งคู่  ดังนั้น
- ผู้ขาย ทุกท่าน ควรมีข้อมูลของราคาค่าจัดส่งและการรับประกันของทางไปรษณีย์ เพื่อแนะนำผู้ซื้อ ว่า "การส่งของครั้งนั้น จัดส่งวิธีใด ถึงจะเหมาะสม และได้รับการคุ้มครองจากการประกัน"
- ผู้ซื้อ ควรแสดงเจตนารมณ์ให้ชัดว่าต้องการจัดส่งแบบใด เพราะอาจแยกความรับผิดชอบกันได้ว่า
  ผู้ซื้อชำระค่าจัดส่งและค่าประกัน ครึ่งหนึ่ง  และ
  ผู้ขายชำระค่าประกันอีกครึ่งหนึ่ง 
หากตกลงกันได้แบบนี้ จะมีผลให้ เวลาที่ของหาย ทั้งคู่จะได้มีสิทธิในเงินประกันที่ไปรษณีย์จะคืนให้ โดยไม่มีข้อสงสัย  เพราะหากให้ผู้ซื้อชำระเงินประกันแต่ฝ่ายเดียว ผู้ขายก็ "ไม่น่าจะมีส่วนร่วมในการรับเงินประกันด้วย"
  ที่นี้ลองนึกถึง "ส่งแบบลงทะเบียน" ซึ่งรับประกันตามจริง แต่ไม่เกิน "300 บาท" ดูหน่อยสิครับ  (ซึ่งผู้ซื้อขายที่อยู่ในจังหวัดกรุงเทพฯ ทั้งคู่ นิยมส่งกันมาก เพราะสามารถส่งถึงกัน ด้วยความเร็วแทบจะเท่ากับ Ems) วิธีนี้ ในความเห็นผมคิดว่า คงไม่เหมาะในการส่ง  เพราะทางไปรษณีย์เขาแนะนำว่า "เหมาะสำหรับการส่งจดหมาย หรือพัสดุชิ้นเล็กๆ ที่ไม่มีราคาสูง"
    วงเงินรับประกันคงอธิบายได้ดี  เพราะ แต่ละท่านก็ซื้อของกันราคาอย่างน้อย ก็หนึ่งร้อยบาท (รวมค่าส่ง)อยู่แล้ว แต่พอของหาย 
  "ความเสียหายนั้น มีมูลค่า เป็นสองเท่าเสมอครับ"  เพราะของที่ผู้ขายส่งไป ก็เป็นจำนวนหนึ่ง    และเงินที่ผู้ซื้อชำระไป (ให้ผู้ขาย)ก็อีกจำนวนหนึ่ง
    วงเงินประกันแค่ 300 บาท คงไม่น่าช่วยท่านได้เท่าไหร่

    ผมขอให้ทุกท่านคำนึงถึงเรื่องนี้ ด้วยนะครับ เพราะการปรึกษากันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย เพื่อเลือกการจัดส่งที่เหมาะสมในแต่ละครั้ง จะช่วยทุกท่านได้ เวลาที่ของมันหาย   
            ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันครับ

วันนี้มีสมาชิกท่านหนึ่ง ซื้อสินค้าไปและส่งให้เมื่อวันที่ 29 พ.ค ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้สินค้ายังไม่ถึงมือ สมาชิกท่านนี้เลยได้โทรกลับมาบอกผมและผมก็ได้บอกว่าให้ไปเช็คที่..http://track.thailandpost.co.th/ และผลก็ออกมาว่า สินค้ารับเข้าระบบแล้วเช็คได้อีกทีก็คือปลายทาง ซึ่งโดยปกติแล้วสินค้าจะใช้เวลาเดินทาง 3-5 วัน ก็จะถึงมือผู้รับ ผมจึงรีบโทรไปถามที่ไปรษณีย์กาฬสินธุ์ ซึ่งมีข้อมูลที่น่าสนใจ และ เป็นประโยชน์ สำหรับ ผู้ที่ซื้อสินค้าว่าจะเลือกได้ว่าจะส่ง ในระบบ ลงทะเบียน หรือ EMS....

.....การส่งสินค้าในระบบการส่งแบบ EMS ท่านจะสามารถตรวจสอบได้เลยว่าตอนนี้สินค้าของท่านถึงไหนอยู่ไหน....

....ส่วนการส่งแบบลงทะเบียน ท่านจะรู้ข้อมูลแค่ว่า รับเข้าระบบ และไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าสินค้าของท่านตอนนี้ถึงไหนแล้ว

  และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือระยะเวลาในการส่งสินค้าถึงมือผู้รับก็จะช้า-เร็ว ต่างกัน  ยังงัยก็อยากจะให้สมาชิกลองเลือกหนทางที่จะให้ส่งสินค้าไปถึงมือคนซื้อได้เร็วและก็จะได้ สบายใจทั้งคนซื้อและคนขายครับ....

......ค่าส่งสินค้าในระบบ EMS จะเริ่มต้นอยู่ที่ 37 บาท....

......สำหรับท่านที่ซื้อสินค้ากับผมแล้ว ส่วนใหญ่ถ้าซื้อเหยื่อปลอมในจำนวน 5 ตัวขึ้นไป ผมก็จะบริการส่งแบบ EMS ให้ฟรี และ ถ้าเป็นรอกตกปลา ก็จะส่งให้ฟรีอยู่แล้ว ..

ช่วงนี้แนะนำ.....ในการซื้อขายในกระดานซื้อขายแห่งนี้  ผู้ซื้อรับภาระในส่วนของค่าธรรมเนียมในการโอน  ผู้ขายน่าจะรับภาระในการส่ง....ผมว่าน่าจะดีนะ

.........................สมาชิกว่าดีมั๊ยครับ...................................

ช่วงนี้แนะนำ.....ในการซื้อขายในกระดานซื้อขายแห่งนี้  ผู้ซื้อรับภาระในส่วนของค่าธรรมเนียมในการโอน  ผู้ขายน่าจะรับภาระในการส่ง....ผมว่าน่าจะดีนะ
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ กับน้าบึก

ใช่ครับ น่าสนใจดี 

เห็นด้วยกับน้าบึกครับ คนซื้อจ่าธรรมเนียมการโอน คนขายจ่าค่าขนส่ง เห็นด้วยอย่างยิ่ง

***  ถ้าเห็นว่าไม่เหมาะสม  ลบได้เลยนะคะ ***

การส่งสินค้าทางไปรษณีย์เป็นทางเลือกที่ประหยัดค่ะ  แต่บางครั้งก็ล่าช้า  โดยเฉพาะพื้นที่ที่ค่อนข้างจะกันดาร 
หรือว่าบางพื้นที่ที่ไกลหัว (หัวหน้า)  การจัดส่งจะช้าออกไปอีกค่ะ  ขนาด EMS  บางครั้งเกินกว่า 4 วันด้วยซ้ำ
ไม่นับ  เสาร์อาทิตย์นะคะ  แล้วยิ่งถ้าเป็นจดหมายธรรมดาล่ะก็  บางครั้ง 3 -4 อาทิตย์ค่ะ  เจอมากับตัวเองจริง ๆ
หรือไม่ก็บางที  ก็ไม่นำจ่ายซะเฉย ๆ ก็มี  หรือไม่ก็นำไปไว้ที่บ้านใดบ้านหนึ่ง  ให้นำจ่ายให้  เช่นบ้านผู้ใหญ่บ้าน
ถ้าลองทางเลือกใหม่อย่าง  DPEX  ดูก็เหมือนเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ  เพราะจะมีเจ้าหน้าที่นำส่งให้ถึงมือผู้รับจริง ๆ
โดยที่ราคาก็ไม่แพงมากค่ะ  สามารถตรวจสอบได้ง่าย ๆ ด้วยค่ะ

ฝาก ลิงค์ อันนี้ ไว้หน่อยครับ  เรื่องเดียวกัน

http://www.siamfishing.com/board/view.php?tid=19753

    วงเงินรับประกันคงอธิบายได้ดี  เพราะ แต่ละท่านก็ซื้อของกันราคาอย่างน้อย ก็หนึ่งร้อยบาท (รวมค่าส่ง)อยู่แล้ว แต่พอของหาย 
  "ความเสียหายนั้น มีมูลค่า เป็นสองเท่าเสมอครับ"  เพราะของที่ผู้ขายส่งไป ก็เป็นจำนวนหนึ่ง    และเงินที่ผู้ซื้อชำระไป (ให้ผู้ขาย)ก็อีกจำนวนหนึ่ง
    วงเงินประกันแค่ 300 บาท คงไม่น่าช่วยท่านได้เท่าไหร่


อ่านแล้วไม่เก็ตครับ ทำไมต้องสองเท่า ในเมื่อเงินที่ผู้ซื้อโอนให้ผู้ขายเท่ากับมูลค่าสินค้า เงินประกันที่ได้มาก็ให้ผู้ซื้อคืนไป
มันก็เท่านั้น

เห็นด้วยกับน้าบึกครับ

เห็นด้วยครับ

ตามที่ น้า Miki บอกไว้ว่า "อ่านแล้ว มันไม่เก็ต" จริงๆครับ

ที่เป็นอย่างนั้นเพราะ ที่ผมเขียนว่า
  "ความเสียหายนั้น มีมูลค่า เป็นสองเท่าเสมอ"  มันเป็นการอุปมาอุปมัย ครับ

เพราะเมื่อ "ผู้ขาย" ได้เงินคืนจากไปรษณีย์ ตามที่ได้ทำประกันไว้แล้ว ก็เอาคืนให้กับ "ผู้ซื้อ" ไป มันก็เท่านั้นจริงๆ ครับ  แต่ นั่นเป็นกรณีที่ "ผู้ซื้อ" ยินยอมที่จะรอให้ "ผู้ขาย" ยื่นเรื่องให้ทางไปรษณีย์สอบสวนจนจบกระบวนการ นะครับ (หมายถึง คืนเงิน ตามที่ประกันไว้ เสร็จแล้ว)

  แต่หาก "ผู้ซื้อ" เรียกร้อง ให้คืนเงินมาก่อน ซึ่ง "ผู้ขาย" ที่มีสปิริท ก็จะทำการคืนให้ก่อนอยู่แล้ว หมายความว่า "ผู้ขาย" ก็จะเริ่มเข้าสู่การเรียกร้องกับทางไปรษณีย์ นับตั้งแต่
  - โทรศัพท์กับ เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ ว่า ต้องเตรียมหลักฐานอย่างไร
  - เดินทางไปที่ไปรษณีย์ สาขาที่ได้ส่งของ (ลองนึกดูนะครับว่า ถ้าไม่ใช่สาขา ที่อยู่ใกล้บ้านหรือที่ทำงาน จะเริ่มยุ่งขนาดไหน)
  - รอครับ รอเวลา ให้เจ้าหน้าที่เขาติดต่อมา (อาจจะ 3 สัปดาห์)
  - เมื่อถึงจุดหนึ่ง หากเคราะห์หามยามเซ็ง เขาก็จะโทร.มาบอกว่า ให้ "ผู้ขาย" ไปติดต่อกับ เจ้าหน้าที่ ชื่อนั้นชื่อนี้ ที่สำนักงานใหญ่ แถวๆหลักสี่ (เขาให้ไป ก็ต้องไปครับ เราตกอยู่ในอาณัติเขาแล้วนี่ครับ)
  - เจ้าหน้าที่ สนง.ใหญ่ ก็จะเริ่มสอบถามเรื่องทั้งหมดใหม่ ทั้งที่เราเคยบอกไปหมดแล้วกับ จนท.ที่สาขา เสร็จแล้วก็ให้กลับบ้าน
  - ถ้าโชคดี เขาก็จะติดต่อกลับมาให้ไปรับเงินประกันที่ สนง.สาขา
  - ถ้าโชคดีรองลงมา เขาก็จะให้ไปที่ สนง.ใหญ่อีกครั้ง เพื่อลงบันทึกข้อมูลอีกเล็กน้อย แล้วก็จะให้รับเงินประกันคืนได้แล้วครับ
  แต่  ทั้งหมดที่ต้องทำไปนั้น เพื่อให้ได้เงินค่าสินค้าของ"ผู้ขาย" ที่หายไปกลับคืน  โดยไม่มีค่าชดเชยการเสียเวลา หรือค่าเดินทางใดๆทั้งสิ้นนะครับ
  ทั้งหมดต้องใช้เวลาติดตามประมาณเกือบ 1 เดือน เป็นอย่างเร็วครับ
  ดังนั้น ที่ผมเขียนว่า "ความเสียหายนั้น มีมูลค่า เป็นสองเท่าเสมอ"  จึงเป็นการอุปมาอุปมัย จริงๆครับ

เข้าใจแล้วครับขอบคุณมากครับที่ชี้แจง

ผมซื้อของน้าๆหลายท่านและใช้บริการ EMS. และจะได้รับหมายเลข เพื่อมาตรวจสอบ สนุกดีครับ
ครั้งสุดท้ายซื้อจากน้าที่อยู่ระยอง ผลก็คือ ได้ทราบว่าพัสดุปิดห่อแล้วเตรียมนำส่งมา ศรีราชา จากนั้นนำส่งเข้ากรุงเทพฯ เขตจตุจักร ภายในวันเดียว อีกวันรับของ สบายใจ เพราะผู้ซื้อสามารถตรวจสอบได้เอง ไม่ต้องกวนผู้ขายในเบื้องต้น

ขึ้นอยู่กับผู้ซื้อและผู้ขาย ตกลงอย่างไร กระทู้นี้ได้ความรู้มากครับ

ขอบคุณครับ

เห็นด้วยส่วนหนึ่งกับน้าบึกนะครับ  ผมว่าในบ้านหลังนี้  น่าจะเรียกว่าแบ่งของกันใช้มากกว่าอ่ะครับ  ฉะนั้นผมเลย  เห็นด้วยกับน้าบึกอย่างยิ่ง  ที่ออกค่าใช้จ่ายกันคนละด้าน  แต่ถ้าค่าส่งนั้นมันมีมาก  ในระดับ  1  (เป็นเท่าไหร่ลองนึกดูถึงความเหมาะสมกับทั้ง  2  ฝ่ายนะครับ )  ผมว่าน่าจะมีการเก็บที่แชร์กันอาจจะเก็บครึ่งหนึ่งของค่าส่งตามจริง  เป็นต้น 

โดยทั่วไปแล้ว  ในบ้านหลังนี้  ผู้ซื้อจะต้องทำการโอนค่าใช้จ่ายก่อน  ผู้ส่งจึงจะส่งของให้  เพราะ  ? 
คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้  คงจะมีเหตุผลเดียวคือ  เกรงว่าส่งของแล้ว  ผู้ซื้อจะไม่โอนเงินค่าใช้จ่ายมาให้ 
แต่  ในทางกลับกันล่ะ ผู้ซื้อจะมีวิธีป้องกันตนเองอย่างไร  ? 


ลองช่วยกันคิดดีไหมครับ  ? 
ผู้ซื้อจะมีวิธีการอย่างไรเพื่อให้ปลอดภัยจากการซื้อขายในบ้านหลังนี้


ข้อกำหนดในการขายของในบ้านหลังนี้น่าจะเป็นอย่างไร  ?
การลงขายแต่ล่ะครั้ง  ดำเนินการอย่างไร 
เช่น
การสอบถามรายละเอียด 
การตกลงซื้อขาย  โดยส่วนตัวผมว่าน่าจะมีการตกลงกันหน้าเวปนะครับ  ไม่น่าจะมีการตกลงกันนอกเวป  นั่นหมายความว่า  หากตกลงกันนอกเวปเวลาที่มีปัญหา  ก็ไม่สมควรที่จะนำปัญหานั้นเข้ามาในบ้านหลังนี้  แต่หากเราตกลงกันผ่านทางหน้าเวป  พวกเราที่อยู่ในบ้านหลังนี้ก็จะเห็นว่าผู้ซื้อ-ผู้ขายตกลงกันอย่างไร  เวลาถ้า  เกิดปัญหา  คือฝ่าย1ฝ่ายใดผิดจากข้อตกลงที่ตกลงร่วมกันนั้น  ก็จะมีพยาน  +  หลักฐาน  ครับ  หรือน้าท่านอื่น  เห็นว่างัยครับ 

ขอบคุณครับ
คนบาป
ปล.ความเห็นนี้หากผิดพลาดอย่างไรขออภัยนะครับ 

เห็นด้วยกับน้าบึกเป็นอย่างยิ่ง