ภาพนี้เป็นภาพที่ ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดภาพถ่ายที่แปดริ้ว  ในห้วข้อ "ภาพใหม่ ใสสด งดงาม นามแปดริ้ว" ครับ

      ชื่อผู้ถ่าย  นายสหรัตน์  สราญวัฒน์  ครับ

      ปัจจุบัน ภาพยังโชว์อยู่ที่ ระเบียงภาพของภาพถ่ายแปดริ้ว ครับ 

          ในฐานะที่เป็นกรรมการและเป็นตัวแทนของเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ขอแสดงความขอบคุณที่ เพื่อน ๆ สมาชิกได้ให้ความสนใจในการประกวดภาพครั้งนี้ครับ 

พยายามจะจัดมาให้ ชม กันวันละภาพครับ 

ตามนี้ครับ น้ายุทธ ระยอง  และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

          ภาพนี้ ถ้าดูกันแบบผิวเผิน หลายท่านก็คงคลางแคลงใจว่า ทำไม เรื่องที่พี่เล็กพูดบ่อย ๆ เรื่อง
      - กฏ 3 ส่วน ภาพนี้ก็ไม่ได้เพราะ เส้นแบ่งขอบฟ้าอยู่กลางภาพ
        - เรื่องจุดตัดเก้าช่อง  ภาพนี้ก็ไม่ได้ เพราะว่า ซัปเจ็ค (โบสถ์) อยู่ซะกลางภาพ

          ***ในเมื่อ สองเรื่อง ไม่ได้ แล้ว ทำไมภาพนี้ถึงได้รับรางวัล ***

          พี่เล็กพูดเสมอว่า  -ภาพถ่ายไม่มีถูกผิด  มีสวยกับไม่สวย  และ สวยกับไม่สวยนั้นใครมอง-  ภาพถ่ายจึงไม่มีกฏเกณฑ์ที่ตายตัว 
         
          อันดับแรกต้องถามก่อนว่า ภาพนี้สวยหรือเปล่า  คงได้คำตอบจากส่วนใหญ่ว่า  """ สวยมาก ""

            ทีนี้มาดูว่า  ที่สวยมาก สวยอย่างไร 

            ภาพนี้ ตีโจทย์แตก กับคำว่า "ภาพใหม่ ใสสด งดงาม นามแปดริ้ว"  การตัดสินภาพถ่าย ก็ต้องดู หัวข้อ และหัวใจของการประกวดภาพ    ภาพนี้เป็น ภาพโบสถ์วัดโสธรฯ  ซึ่งหลาย ๆ ท่านก็คงทราบดีว่า เป็นคู่บ้านคู่เมืองแปดริ้ว  หลายท่านรู้จักแปดริ้ว ก็เพราะ วัดโสธรฯ  แต่ก็ไม่ใช่ว่า คนที่ถ่ายโบสถ์มาจะได้รางวัลใหญ่  แต่ภาพนี้ ได้เพราะสวยจริง ๆ    โปรดสังเกตุกรอบภาพด้านบน มีใบไม้และกิ่งไม้ล้อมโบสถ์ด้านบนไว้อย่างสวยงามลงตัว ในภาษาภาพถ่ายเรียกว่า  "เฟรมมิ่ง" เหมือนกิ่งไม้ใบไม้นั้นเป็น เฟรมให้กับโบสถ์อีกทีหนึ่ง  กิ่งไม้และใบไม้ มีสีดำ  (ซิลลูเอท  ที่น้าเต่าตั้งกระทู้ ภาพซิลลูเอทขึ้นมา หลายท่านคงจำได้  ในภาพเขาเอา ซิลลูเอทของใบไม้มาเป็นส่วนหนึ่งของภาพนี้ครับ) ซึ่งเกิดจากการวัดแสงที่แม่นยำ  ทำให้ ขับสีสัน และความสง่างามของโบสถ์ขึ้นมา โดยที่คนมองภาพ ไม่ทันได้รู้ตัวด้วยซ้ำ

        ลำดับต่อไป  ภาพเงาสะท้อนน้ำ (ภาษาที่ใช้เรียกภาพถ่าย เรียกว่า รีเฟลกเตอร์  ผิดถูกอย่างไรขอโทษครับ  ไม่เก่ง อังกฤษจริง ๆ แหะแหะ )ที่เป็นไฟสีสันสวยงาม ล้อกับโบสถ์ที่แสนสง่าด้านบน ทำให้พื้นน้ำด้านล่าง มีชีวิตชีวาขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด  และนี่ก็เป็นคำตอบว่า  ทำไมภาพนี้ เส้นแบ่งขอบฟ้าถึงต้องอยู่กลางภาพ

          หน้ากล้องที่แคบ ๆ ส่งผลให้ ดวงไฟเกิดประกายแฉก ทำให้ ดวงไฟดูเด่นชัดสวยงาม

            ผู้ถ่ายภาพนี้ ต้องเฝ้าคอย และหาจังหวะให้พื้นน้ำ เรียบสนิท 


            จะเห็นได้ว่า  ทั้งหมดที่พี่เล็กบอกมา  ก็คงยังเป็น เรื่องของกฏเกณฑ์ การถ่ายภาพอยู่ดี    ไม่ว่าจะเป็น  เฟรมมิ่ง  หรือ รีเฟลกเตอร์  แต่อาจจะเป็นบทที่หลายคนยังไม่ทราบ  แต่พอทราบแล้ว คงร้อง  ""อ๋อ""  ไปตาม ๆ กัน  ภาพถ่ายที่สวยงาม  อย่างไรก็ยังอยู่ในกฏ  ไม่อย่างใด ก็อย่างหนึ่ง หรือว่า หลาย ๆ อย่างรวมกัน  ครับ


            เมื่อวันที่ไปลงเรือตกปลากับ น้าเต่า โทรฟี่ ได้เห็น โป๊ะฝั่งตรงข้ามโบสถ์  ยังบอกน้าเต่าว่า  มุมนี้ถ่ายภาพโบสถ์คงได้ภาพที่สวยงาม  แต่ เราอยู่กันในเรือโคลงเคลง ไม่สามารถถ่ายภาพนี้ได้เด็ดขาด  ถ้าจะได้ภาพต้องขึ้นถ่ายบนโป๊ะ และน้ำต้องนิ่งจริง ๆ เพื่อไม่ให้ โป๊ะโยกจนกล้องไหว

              แค่หลับตานึกภาพก็รู้ว่า ผู้ที่ถ่ายภาพนี้ใช้ความพยายามมากแค่ไหน  สวยสมราคาจริง ๆ ครับ  สำหรับ รางวัลชนะเลิศ