เท็กซัสตอน 2 มาเปิดกล่องดูกำลังพลกันบ้าง
ตัวนี้เป็นหนอนยางแบบมาตรฐาน ยาว 6 นิ้ว
หนอนยางตัวนี้สีดำทึบ หางสีเหลืองใส
เหยื่อทึบๆ จะเหมาะกับสภาพน้ำขุ่นมากกว่าน้ำใส
หนอนยางหางงอแบบนี้ใช้ได้กับสภาพใต้น้ำทั่วๆไป
ไม่เฉพาะเจาะจงครับ

มาดูภาพที่ส่วนหัวกัน
เหยื่อตัวนี้ใช้ตัวเบ็ดสำหรับเกี่ยวหนอนยาง ( J-bent)
ใช้เบอร์ 3/0 เกี่ยวแบบฝังเข้าไปในเหยื่อจนเกือบทะลุ
เกี่ยวแบบนี้ช่วยลดโอกาสไม่ให้เบ็ดไปเกี่ยวกับตอหรือ
อุปสรรคใต้น้ำ แต่เวลาปลางับเหยื่อแล้วต้องวัดแรงๆ หน่อย
ให้เบ็ดทะลุหนอนยางออกมา
สีเขียวๆ ที่เห็นตรงตัวเบ็ดนั่นเป็นยางรัดมัดตัวเบ็ด
แล้วดันไปตรงนั้นเพื่อล๊อคไม่ให้เหยื่อเลื่อนหลุดจากเบ็ด
ในกรณีที่วัดไม่ติด
การเกี่ยวเหยื่อต้องเกี่ยวตามแนวตะเข็บของหนอนยาง
นะครับ จะช่วยให้เกี่ยวเหยื่อได้ตรง ช่วยลดอาการสายตีเกลียว
เหยื่อตัวนี้มีพิเศษนิดนึงคือ ถ้าดูจากรูป จะมีหลุมอยู่
หลุมพวกนี้ไว้กักอากาศ เวลาเหยื่อ drop ลงไปกระแทก
หน้าดินฟองอากาศจะผุดออกมาจากตัวเหยื่อ
ช่วยเรียกความสนใจจากปลาได้มากขึ้น

ส่วนหางที่พิมพ์ยี่ห้อ Mister Twister ไว้

เวลาเหยื่อ drop หรือ กรอเหยื่อกลับ
หางก็จะสั่นระริกเรียกร้องความสนใจจากปลาด้วย

ส่วนเวลา juggle เหยื่อใต้น้ำก็มีแอ๊คชั่นเหมือน
หนอนยางทั่วๆ ไปนั่นแหละครับ

ข้อสังเกตอย่างนึงคือ หนอนยาง ออกแบบมาใช้กับการ
ตกปลาแบส (bass) ซึ่งจะกินเหยื่อโดยการสูบเหยื่อเข้าไป
เพื่อให้เหยื่อไปบาดกับกระดูกคมๆ ในคอ (เหมือนกระสูบ)
จนเหยื่อตายแล้วกลืนเข้าไป ดังนั้นปลาจะฮุบเหยื่อที่หัวแล้วกลืน

แต่ปลาช่อนเป็นปลามีฟันคม ใช้ฟันฆ่าเหยื่อด้วยการงับ
บางทีมันก็งับกลางตัว วิธีตกก็คืออาจจะต้องเกี่ยวเหยื่อ
มาทางกลางตัวหน่อย หรือถ้ากลัวเหยื่อเสียแอ๊คชั่น
เวลาปลางับเหยื่อต้องส่งสายหรือเตือนปลาให้กลืนเหยื่อ
ก่อนแล้วค่อยวัดเบ็ดครับ

แล้วติดตามตอนต่อไป

ขออภัย พิมพ์ผิดพลาดนิดหน่อยครับ

ประโยค "แต่ปลาช่อนเป็นปลามีฟันค" นี่ไม่เกี่ยวนะครับ

เราใช้หัวจิ๊กเกี่ยวหนอนยางแบบเท็กซัสได้ด้วยนะครับ
ตัวนี้ตอนแรกมันก็เหมือนตัวข้างบนนั่นแหละ
แต่เพราะมันเป็นหลุมฟองอากาศ ใช้ไปมากๆ
ก็เลยยับเยินไปหมด เลยตัดส่วนหัวทิ้งเหลือ
ส่วนหางยาวซัก 3 นิ้วไว้ใช้ตกได้อีก
ประหยัด คุ้ม