กระดาน
รีวิว
ตลาด
ประมูล
เปิดท้าย
เรือ
แหล่งตกปลา
ร้านค้า
ค้นหาข้อมูล
Login
สมัคร
27 พ.ย. 67
ความล้มเหลวที่ซ้ำซากกับความฝันกะพงอีสาน..ขออีกครั้งสุดท้าย: SiamFishing : Thailand Fishing Community
กระดาน
คห. 128 อ่าน 29,648
ความล้มเหลวที่ซ้ำซากกับความฝันกะพงอีสาน..ขออีกครั้งสุดท้าย
ซิวอ้าว
(2055
)
1
ตั้ง: 15 ม.ค. 53, 11:34
....หนึ่งปีผ่านไปแล้วอย่างรวดเร็วเหลือเกิน แม้เวลาผ่านไปรวดเร็ว แต่ความคับข้องใจ คาใจ กับบางสิ่งที่ทำยังก้องอยู่ในหัวว่าทำไม ทำไม และทำไม ถึงได้ล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงสามครั้งสามครา กับความฝันแบบของคนอยากฝันแต่ขาดซึ่งแนวทางที่จะทำให้ฝันเป็นจริง เฮ้อ..
เรื่องมันเศร้าครับ เลยต้องตีแผ่เรื่องราว
เพื่อขอแนวทางที่ถูกที่ควรจะทำกับความคิดที่จะเลี้ยงปลากะพงขาวในน้ำจืด
บนที่ราบสูงจังหวัดขอนแก่น จุดประสงค์ไม่ใช่เพื่อการพานิชย์ใดๆไม่ หากเพื่อนันทนาการพักผ่อน ไว้ต้อนรับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ผู้ใหญ่ที่นับถือทั้งหลายที่ชอบการตีเหยื่อปลอมทั้งในสังคมเวปสยามและนอกได้พักผ่อนกันหลังตรากตรำงานมาทั้งสัปดาห์
.....เรื่องทั้งหลายทั้งมวล จุดเริม หรือ สิ่งที่ได้ทำไปและเกิดความล้มเหลวในสิ่งที่ผม "คิดเอง" ว่ามันทำแบบนี้แล้วน่าจะได้ มีดังนี้ครับ
ทุกคห.
ซิวอ้าว
(2055
)
คห.1: 15 ม.ค. 53, 11:39
....ความคิดนี้เริ่มจากพี่ชายคนนี้ พี่ดม หรือน้าเวปนี่เอง มีวันหนึ่งแกพาน้องเอ๊กซ์ลูกชายมาตีปลาช่อนที่บ่อ แล้วคำถามหนึ่งก็ออกมาจากน้าเวปว่า "น้าซิวอ้าวทำไมไม่ลองเลี้ยงปลากะพง" เป็นคำถามที่ตอนนั้นผมได้ถามแกกลับว่า "ปลากะพงมันเลี้ยงที่น้ำจืดแบบนี้ได้เหรอน้าเวป" ซึ่งคำตอบที่น้าเวปบอกก็คือว่า ได้ มีคนเลี้ยงกันแล้ว......จากคำถามนี้ผมจึงเก็บเอามาคิดเงียบๆโดยไม่บอกใคร แม้แต่กับภรรยาที่บ้าน
ซิวอ้าว
(2055
)
คห.2: 15 ม.ค. 53, 11:44
....ความอยากลองแบบบ้าระห่ำจึงเกิดขึ้นเงียบๆอย่างที่คนในครอบครัวไม่รู้เลยสักคน ผมได้เข้าไปหาข้อมูลในเวปไซด์ที่มีข้อมูลการเลี้ยงปลากะพงในน้ำจืด แต่ต้องบอกว่า มีหลายอย่างในสิ่งที่จะต้องคำนึงถึงแต่ผมกลับมองข้ามไป สิ่งแรกที่ทำตามความคิดตัวเองคือเอาน้ำจากบ่อไปตรวจวัดระดับอ๊อกซิเจน ผลคืออยู่ในเกณฑ์ที่ "พอได้" กับสภาพน้ำในบ่อเก่า
ซิวอ้าว
(2055
)
คห.3: 15 ม.ค. 53, 11:50
สวัสดีครับน้านัท ไม่รู้จะออกมาท่าไหนเหมือนกันครับ มีโอกาสอีกแค่ครั้งเดียวครับ
..........................................................................................................................
...ด้วยความคิดแบบ "ตื้นๆ" ผมคิดไปเองว่าขนาดปลายี่สกที่แสนจะบอบบางเมื่อเอาขึ้นน้ำ ยังอยู่ได้จนตัวขนาดนี้ ปลากะพงมันก็น่าจะอยู่ได้เหมือนกัน เพราะบ่อนี้ลูกปลานิลมีเป็นอาหารมันอยู่แล้วก็น่าจะอยู่ได้
ปล.น้องเอ๊กซ์ลูกชายน้าเวปสอยยี่สกขึ้นมาครั้งมาเยี่ยมครานั้น
ซิวอ้าว
(2055
)
คห.4: 15 ม.ค. 53, 12:04
...อย่างไม่รอช้า ผมโทรไปยังเจ้าของบ่อเลี้ยงปลากะพงแห่งหนึ่งที่ท่าสะอ้าน แปดริ้ว นัดแนะกันเรียบร้อยแล้วก็ติดต่อเพื่อนไปเป็นเพื่อน ใช้ถังสี่เหลี่ยมซึ่งเป็นถังใส่ซิลิโคนเหลวมาดัดแปลงลงท้ายรถกะบะพร้อมติดตั้งเครื่องปั่นออ๊กซิเจนเรียบร้อย บึ่งตรงไปแปดริ้ว ตกลงกับเจ้าของบ่อเรียบร้อย ผมตัดสินใจซื้อกะพงขนาด5กิโลกรัม จำนวนทั้งหมดในครั้งแรกไป50ตัว เจ้าของบ่อจัดแจงใช้อวนลากแล้วคัดขนาดให้ ดูดน้ำในบ่อลงถังเรียบร้อย ปลาทุกตัวที่คัดให้มา เปรียวทุกตัวไม่มีอาการเฉาใดๆทั้งสิ้น หลังจากนั้นเดินทางออกจากบ่อแปดริ้วตอนเกือบ2ทุ่ม มุ่งตรงกลับขอนแก่นใช้เส้นทางสาย304เส้นทางขึ้นเขาเข้าโคราช โดยตลอดทางปั่นอ๊อกฯตลอด.....อนิจจา! แค่ถึงโคราช จอดตรวจสภาพปลาที่ปั๊มน้ำมัน พบกว่าครึ่งว่ายตะแคงข้าง เกิดอะไรขึ้น? อ๊อกฯไม่ทำงานหรือป่าว? ผลคือไม่ใช่ ยังทำงานปกติ แต่เกิดอะไรขึ้น? สุดท้ายตัดสินใจเสี่ยงเดินทางกลับขอนแก่นให้เร็วที่สุด ผมกับเพื่อนมาถึงขอนแก่นเกือบตี3 รีบเข้าบ่อพักปลาให้ปรับตัวกับน้ำใหม่ ปรากฎว่าตายไป37ตัวในถัง เหลือรอดปล่อยลงบ่อแบบสภาพไม่ค่อยดีอีก13 ตัวเท่านั้น
ซิวอ้าว
(2055
)
คห.5: 15 ม.ค. 53, 12:11
....จากนั้นอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา ทั้ง13ตัวที่ร่อแร่อยู่แล้วก็โชด์ตัวให้เห็นอย่างครบทุก13ตัว ลอยตายในบ่อแบบไม่เหลือแม้แต่ตัวเดียว ความล้มเหลวครั้งแรกตัวผมเองสรุปเองว่ามันตายเพราะการใช้อวนจับที่บ่อตอนแรก อาจทำให้ปลาช้ำโดยที่เราไม่รู้ตัว ประจวบกับระยะทางขึ้นเขาอาจเพิ่มการกระแทกกระทั้นให้ปลายิ่งช้ำเข้าไปอีก...ผมคิดอย่างนั้น
ซิวอ้าว
(2055
)
คห.6: 15 ม.ค. 53, 12:37
....และอีกอย่างที่เดาคิดเอา ผมคิดไปว่าในบ่อเก่ามันมีปลาที่น่าจะเป็นศัตรูหรือกวนกันและกัน ผมเดาคิดว่าน่าจะเป็นเจ้านี่ด้วย และคงมีอีกหลายพันธุ์ที่ไม่เกื้อหนุนกัน
ซิวอ้าว
(2055
)
คห.7: 15 ม.ค. 53, 12:54
ครั้งที่สองผมตัดสินใจเปลี่ยนบ่อ เพราะคิดว่าบ่อแรกมีศรัตรูเยอะเหลือเกิน ในครั้งที่สองผมกลับไปยังบ่อเดิมที่แปดริ้ว คราวนี้มีคนแนะนำว่าให้ใช้เบ็ดตกเอา อย่าเอาอวนลาก ผมสั่งปลากับเจ้าของบ่อให้ตกเอาไว้ให้ และไปถึงก็พากันกับเพื่อนช่วยกันตก คราวนี้ได้ตัวคละขนาดมารวมทั้งหมด38ตัว กับวิธีการบรรทุกแบบเดิมครับแต่เปลี่ยนเส้นทางไม่ขึ้นเขา ออกแปดริ้วเข้ามอเตอร์เวย์ทะลุออกมาใช้เส้นทางมิตรภาพ ระยะทางไกลกว่าเดิมอีกกว่า200กิโล แต่เพิ่มความเร็วในการขับขี่เวลาที่ออกมาจึงไม่ต่างกับเส้นขึ้นเขา ผลที่ได้น่ายินดีไม่มีปลาตายขณะเดินทาง ทั้ง38ตัวลงบ่อใหม่ครบถ้วน เหมือนจะนิ่งนอนใจอยู่ได้สักพัก พอช่วงน้ำหลากระดับน้ำเพิ่มขึ้นท่วมหญ้าในบ่อ ไม่นานหญ้าเน่าเพียงนิดเดียว นิดเดียวจริงๆครับ....กะพงตายยกฝูง เกลี้ยง! ไม่เหลือแม้แต่ตัวเดียว
......กลับมาทบทวน มันพลาดตรงไหน ผิดตรงไหน สะเพร่าจุดไหน..ปรึกษาผู้รู้ดู เขายืนยันว่า ระดับของความเป็นกรดด่างของน้ำระหว่างบ่อที่เลี้ยงจำหน่ายที่แปดริ้ว กับบ่อของผมมันต่างกันราวฟ้ากับเหว อุณหภูมิของน้ำไม่ได้ บ่อไม่มีการระบายน้ำออก ปลาที่เอามาเลี้ยงเป็นปลาที่โตแล้วมาเปลี่ยนสภาพน้ำมันก็ไม่กินอาหาร ฯลฯ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นฟังแล้วมันก็ท้อเลยครับ จากที่ลองผิดลองถูกมาสรุปคือ ผิดทั้งหมด บทสุดท้ายปรึกษาเจ้าของบ่อที่สมุทรสาคร แนะนำให้ผมล้างบ่อ ตากบ่อ เลี้ยงจากตัวเล็กๆ อย่าลัดเอาตัวใหญ่มาเลี้ยง..........งานใหญ่จึงเข้ามาหลังจากนี้ครับ
ซิวอ้าว
(2055
)
คห.8: 15 ม.ค. 53, 12:59
...ครั้งสุดท้ายครับกับกะพงรีแลกซ์ ผมตัดสินใจเลือกบ่อที่ดูโล่งที่สุด ขนาดไม่ใหญ่สำหรับลูกกะพงสัก500ตัว เริ่มต้นสูบน้ำออกเป็นอันดับแรก
ซิวอ้าว
(2055
)
คห.9: 15 ม.ค. 53, 13:01
กับเครื่องสูบที่ไม่ต้องอะไรมากครับ รถไถนาเดินตามจากพี่น้องชาวบ้านนี่แหล่ะมาช่วยสูบให้
ซิวอ้าว
(2055
)
คห.10: 15 ม.ค. 53, 13:03
จากเช้าอีกวันจนถึงเช้าอีกวัน สูบกันอยู่วันเต็มๆครับ ระดับน้ำถึงได้ลดลง
ซิวอ้าว
(2055
)
คห.11: 15 ม.ค. 53, 13:05
ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าเครื่องทั้งเก่าและกำลังแค่นี้จะสูบน้ำหมดบ่อได้
ซิวอ้าว
(2055
)
คห.12: 15 ม.ค. 53, 13:09
...หลังจากสารภาพกับภรรยาแล้ว หล่อนก็เข้าใจในสิ่งที่ทำ สำหรับครั้งสุดท้ายที่จะลองดู เธอก็พาลูกมาสังเกตุการและให้กำลังใจถึงขอบบ่อ
ซิวอ้าว
(2055
)
คห.13: 15 ม.ค. 53, 13:12
...เห็นผู้ช่วยงานหิ้วถังเดี๋ยวปีนขึ้นปีนลงบ่อหลายต่อหลายรอบ ไปดูเสียหน่อยว่าไปเอาอะไรมาจากบ่อ
ซิวอ้าว
(2055
)
คห.14: 15 ม.ค. 53, 13:17
...เป็นเจ้านี่นี่เอง จากบ่อนี้เก็บกวาดมาได้เฉพาะปลาช่อนก็เกือบๆ200ตัว โดยเฉพาะไซด์ขนาดนี้ ถือว่าเป็นผลพลอยได้จากช่วงน้ำหลากที่ปลาช่อนธรรมชาติมาอยู่ในบ่อ นอกจากปลาช่อนแล้วก็มีกระสูบ บู่ นวลจันทร์ ยี่สก นิล ตะเพียน หมอ เปคู รวมๆน้ำหนักน่าจะเกิน300โล จากการคาดเดาจากสายตา งานนี้ก็แจกจ่ายชาวบ้าน ผู้ช่วย แบ่งกันไปกินตามวิถีของคนอีสานครับ ไม่ขาย มีแต่แบ่งปัน
ซิวอ้าว
(2055
)
คห.15: 15 ม.ค. 53, 13:20
หลังจากที่เครื่องสูบน้ำ สูบต่อไปไม่ได้แล้วเนื่องจากเหลือน้ำติดก้นบ่อ ผู้ช่วยก็ใช้อวนเล็กลากเอากุ้งฝอยขึ้นมา มันเยอะเสียจนไม่น่าเชื่อ อาหารปลาชั้นดีทีเดียว
ซิวอ้าว
(2055
)
คห.16: 15 ม.ค. 53, 13:24
ผู้ช่วยสองคน งุ้ดๆคัดปลาปล่อยลงบ่อใหญ่ที่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งปลาตัวไหนตัวใหญ่มากๆ อย่างช่อนขนาด5โลขึ้นนี่แจกไปไม่มีคนเอาครับ ชาวบ้านบอกไม่ใหญ่เกินไม่กล้าทำกิน เลยต้องคัดปล่อยลงบ่อใหญ่ไว้ซ้อมมือไปก่อน
ซิวอ้าว
(2055
)
คห.17: 15 ม.ค. 53, 13:27
เข้าไปดูใกล้ๆเห็นมีปลากองเล็กๆกองอยู่ คาดว่าคงเป็นอาหารเช้าของผู้ช่วยทั้งสอง
.....หลังจากที่เก็บกวาดบ่อแล้วก็คงจะเป็นขั้นตอนของการตากบ่อครับ ซึ่งมันยุ่งยากพอสมควร
ซิวอ้าว
(2055
)
คห.18: 15 ม.ค. 53, 13:35
...การกวาดบ่อ เตรียมบ่อ ได้รับคำแนะนำมาหลากหลายสูตรเหมือนกันครับ เช่นว่าต้องกำจัดปลาที่มันสามารถมุดโคลนอยู่ได้ เจ้านั่นคือปลาช่อนนั่นเองครับ เจ้านี่เขาว่ามันกินลูกปลากะพง แล้วข้อเสียของปลากะพงเขาก็ว่ามันไม่รู้จักหนีครับ อันนี้ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่
ซิวอ้าว
(2055
)
คห.19: 15 ม.ค. 53, 13:38
...หลังจากที่ตากบ่อจนแห้งดีแล้ว มีคนแนะนำให้ปรับสภาพดิน ให้โรยเกลือบ้าง จากนั้นให้ปล่อยไว้อีก อันนี้ผมฟังเขามาทั้งหมดครับสำหรับการเตรียมบ่อกะพง
ซิวอ้าว
(2055
)
คห.20: 15 ม.ค. 53, 13:43
....บางสูตรว่าสูบน้ำออกจนขอดก้นแล้วลงด้วยโล่ติ๊น ทิ้งให้แห้งแล้วมาไถขอบบ่อขึ้น แล้วปรับความเป็นกรดด่างทิ้งไว้1เดือน จากนั้นปล่อยน้ำเข้ามาจนได้ระดับ ปล่อยไว้1อาทิตย์แล้วสูบทิ้งอีกรอบถึงจะใช้งานได้.....แค่เตรียมบ่อก็หลายขั้นตอนเหมือนกันครับ ค่อยว่ากันทีละขั้นๆ ลองถูกอย่างเดียวแล้วครับ เพราะลองผิดไม่ได้อีกแล้วคราวนี้
ซิวอ้าว
(2055
)
คห.21: 15 ม.ค. 53, 13:57
....ขั้นตอนการสูบน้ำก็เป็นอันเสร็จแล้วครับ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตากบ่อ1เดือนครับ
.............................................................................................................................................
มีคำถามขอคำชี้แนะน้าๆทุกท่านที่พอจะแนะนำผมบ้าง จักขอบพระคุณอย่างยิ่งครับ ดังนี้ครับ
1.พันธุ์ปลากะพงขนาดที่เป็นลูกปลา นอกจากโซนภาคกลางและตะวันออกซึ่งเรารู้ๆกันอยู่แล้วว่ามีเลี้ยงขายกันแพร่หลาย ผมอยากขอข้อมูลครับว่าในเขตภาคอีสานมีที่ไหน บ่อไหนเพาะลูกปลาจำหน่ายบ้างไหมครับ เพราะถ้ามีผมสามารถลดเวลาการขนส่งและลดอัตราการช้ำของปลาลงได้มากหากเทียบกับระยะทางจากภาคกลางหรือภาคตะวันออกสู่อีสาน
2.เราจะรู้ได้อย่างไรครับ หรือสังเกตุอย่างไรว่าลูกปลาที่เราได้มาไม่ใช่ลูกปลาที่เขาเรียกว่า "หางปลา" ครับ เพราะเห็นหลายๆท่านบอกว่าถ้าไปโดนลูกปลาที่เป็นหางปลามาเลี้ยงยังไงก็ไม่โต อันนี้ผิดถูกเป็นอย่างไรครับ
3.ปลาน้ำจืดจำพวกปลาล่าเนื้อ ชนิดไหนที่เราต้องกักกัน หรือไม่ให้มีในบ่อครับ
.......เอา3ข้อนี้ก่อนครับ ปัญหาอื่นๆยังคิดไม่ออก เจอปัญหาจริงๆเมื่อไหร่จะนำมาขอคำแนะนำเป็นข้อๆไปครับ
.............................................................................................................................
ปล.กะพงที่จะลองเลี้ยงไม่ใช่เพื่อการพานิชย์ใดๆครับ แต่ลองเลี้ยงเพื่อเรียนรู้และเพื่อเป็นการพักผ่อนใจเท่านั้นเองครับ หากลองเลี้ยงแล้วปลายังอยู่รอดในจำนวนที่น่าพอใจ ตัวผมยินดีต้อนรับน้าๆทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมเยือนด้วยความเต็มใจครับผม
ท้ายนี้...ขอขอบพระคุณกำลังใจ คอมเม้นท์ คำแนะนำ ของน้าๆทุกท่านทุกความเห็น ซึ่งเป็นกำลังใจและคำแนะนำอันมีค่ายิ่ง และขอขอบคุณน้าเวปผู้ยิงคำถามจุดประการให้ต่อมระห่ำของผมทำงานมา ณ ที่นี้ครับ จากใจ...ซิวอ้าว
ซิวอ้าว
(2055
)
คห.22: 15 ม.ค. 53, 14:02
....ฝากพิกัด GPS ไว้ให้ครับหากแวะมาขอนแก่น หากผมอยู่แวะมาเยี่ยมเยือนแลกเปลี่ยนความรู้ หรือแนะนำได้ครับ ช่วงที่อยู่ขอนแก่นคือเสาร์-อาทิตย์ครับ ส่วนจันทร์-ศุกร์ ทำงานที่ปราจีนบุรีครับ....ขอบคุณครับ
ซิวอ้าว
(2055
)
คห.23: 25 ม.ค. 53, 10:21
เซ็งอย่างแรงเลยครับพี่น้อง
สูบน้ำตากบ่อได้แค่สัปดาห์เดียว อากาศภาคอีสานวิปริตกันใหญ่แล้วครับ นี่มันหน้าหนาวแท้ๆ แต่ฝนตกหนัก หนักขนาดได้น้ำในบ่อที่สูบออกหนึ่งในสี่ส่วน ตอนนี้ต้องรอดูสถานการณ์ฝนฟ้าสักพักครับถึงจะสูบออกเป็นรอบที่สอง ตอนนี้ขอนแก่นฝนตกแทบทุกวัน
ปล.ขอบพระคุณทุกคำแนะนำที่มีค่าต่อผมเป็นอย่างยิ่งครับ การนับหนึ่งใหม่สำหรับสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน แม้จะยากแต่ได้คำแนะนำดีดีแบบนี้ก็พอมีแนวทางให้ไปแล้วล่ะครับ ขอบพระคุณน้าๆทุกท่านอีกครั้งครับ
ทำการ login ก่อนส่งความเห็น
siamfishing.com © 2024