สัตว์ทะเล ที่เป็น อันตรายที่พบในน่านน้ำไทย: SiamFishing : Thailand Fishing Community
12>
กระดาน
คห. 85 อ่าน 101,126 โหวต 24
สัตว์ทะเล ที่เป็น อันตรายที่พบในน่านน้ำไทย
ตั้ง: 6 ก.ค. 52, 18:59
สัตว์ทะเล ที่เป็น อันตรายที่พบในน่านน้ำไทย
สัตว์ทะเล ที่เป็น อันตรายที่พบในน่านน้ำไทย
คห.1: 6 ก.ค. 52, 19:01
กุ้งมังกร (Lobster)
กุ้งมังกรหรือกุ้งหัว
กุ้งมังกร (Lobster)
กุ้งมังกรหรือกุ้งหัวโขนหรือกุ้งหนามเป็นกุ้งทะเลขนาดใหญ่ มักพบอาศัยอยู่ตามแนวปะการัง เปลือกที่คลุมหัวและอกมีลักษณะแข็งและมีหนามกระจัดกระจายทั่วไป โดยเฉพาะบริเวณฐานหนวด มีหนามยาวและแข็งหากจับกุ้งชนิดนี้โดยไม่ระมัดระวัง ก็อาจถูกหนามแทงจนเกิดบาดแผลได้
คห.2: 6 ก.ค. 52, 19:03
ปู (Crabs)
                       ปูเป็นครัสเตเซียนที่
ปู (Crabs)
                      ปูเป็นครัสเตเซียนที่วิวัฒนาการจากกุ้ง โดยมีส่วนท้องลดขนาดลงและพับอยู่ใต้อกปูมีขาเดิน 5 คู่ คู่แรกเปลี่ยนแปลงไปเป็นก้านหนีบใช้ในการจับเหยื่อและป้องกันตัว ปูส่วนใหญ่มีก้ามแข็งแรง สามารถใช้หนีบศัตรูให้บาดเจ็บได้ โดยเฉพาะปูทะเล ปูม้า และปูใบ้ขนาดใหญ่ การจับปูเหล่านี้จึงต้องระมัดระวังโดยเฉพาะปูที่ยังมีชีวิตและถูกแก้มัดออกแล้ว ตลอดจนปูใบ้ที่มีเปลือกแข็งแรง ก้ามแข็งแรงมาก เมื่อหนีบแล้วจะไม่ยอมปล่อยง่าย ๆ อย่างไรก็ตาม อันตรายจากปูหนีบนั้นยังไม่ร้ายแรงเท่ากับการรับประทานปูมีพิษ เช่นเดียวกับแมงดาไฟ ซึ่งอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ ตัวอย่างปูมีพิษได้แก่ ปูใบ้แดง (Artergatis intergerrinus) ปูใบ้ลาย (Lophozozymus pictor) เป็นต้น
คห.3: 6 ก.ค. 52, 19:05
ปูใบ้หลังเต่า  ครับ อันนี้ก็อันตราย
ปูใบ้หลังเต่า  ครับ อันนี้ก็อันตราย นะครับ
คห.4: 6 ก.ค. 52, 19:06
ดาวหนาม (Clown-of-thorn Sea Star)
                       ดาวหนามหร
ดาวหนาม (Clown-of-thorn Sea Star)
                      ดาวหนามหรือดาวมงกุฎหนามเป็นดาวทะเลชนิดหนึ่งที่มีแขนงจำนวนมาก ตามผิวลำตัวมีหนามยาวประมาณ 1 นิ้ว อาศัยอยู่ตามแนวปะการังโดยกินโพลิปปะการังเป็นอาหาร นอกจากผลกระทบต่อระบบนิเวศในแนวปะการังแล้วดาวหนามยังเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยวและชาวประมงที่ดำน้ำอยู่บริเวณปะการังด้วย เพราะหากเหยียบลงไปบนตัวดาวหนามแล้วจะทำให้เกิดบาดแผลได้รับความเจ็บปวด
คห.5: 6 ก.ค. 52, 19:07
แมงดาทะเล (Horse-shoe Crab)
แมงดาทะเลเป็นสัตว
แมงดาทะเล (Horse-shoe Crab)
แมงดาทะเลเป็นสัตว์ทะเลโบราณที่ยังคงเหลืออยู่ในโลกปัจจุบันเพียง 4 ชนิด และมีอยู่ 2 ชนิดที่พบในทะเลไทย คือ แมงดาจานหรือแมงดาหางเหลี่ยม (Tachypleus gigas) และแมงดาถ้วยหรือแมงดาหางกลม (Carcinoscorpiu srotundicauda) ทั้งสองชนิดมีความเป็นอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน โดยแมงดาจานอาศัยอยู่ตามพื้นทะเล วางไข่ตามริมชายฝั่งที่เป็นดินทราย ส่วนแมงดาถ้วยอาศัยอยู่ตามพื้นทะเลที่เป็นดินโคลนและลำคลองในป่าชายเลน เท่าที่มีรายงานในประเทศไทย เฉพาะแมงดาหางกลมเท่านั้นที่อาจเป็นพิษ และเรียกชื่อแมงดาที่เป็นพิษนี้ว่า แมงดาไฟหรือเหรา (อ่านว่า เห-รา) จนบางครั้งทำให้เข้าใจสับสนว่า เหรา เป็นแมงดาชนิดที่สามจากคำบอกเล่ามักอธิบายถึงลักษณะของเหราว่าตามลำตัวมีขนยาวที่นักอนุกรมวิธานได้ศึกษาแน่ชัดแล้วว่า แมงดาไฟ หรือ เหรา ก็คือแมงดาหางกลมบางตัวนั่นเอง แต่การเป็นพิษนั้นจะเกิดเฉพาะช่วงเดือนธันวาคม-มีนาคม เหตุที่แมงดาถ้วยมีพิษเป็นบางช่วงนี้ สันนิษฐานได้ว่าช่วงเวลาดังกล่าวอาจมีการเจริญแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็วจนเกิดการสะพรั่งของแพลงค์ตอนบางชนิดในกลุ่มไดโนแฟลกเจลเลต เช่น (Gonyoulax catenella) ที่สร้างสารพิษแล้วแพลงค์ตอนชนิดดังกล่าวถูกกินโดยหอยหรือหนอนซึ่งเป็นสัตว์หน้าดิน เมื่อพิษเข้ามาสะสมในหอยหรือหนอนแล้วถูกกินโดยแมงดาทะเล พิษจึงสะสมอยู่ในเนื้อและไข่ของแมงดาถ้วย เมื่อคนรับประทานแมงดาถ้วยตัวที่มีสารพิษสะสมอยู่ จึงทำให้เกิดเป็นพิษขึ้นมาได้ แม้ว่าไข่หรือเนื้อที่รับประทานจะได้ปรุงให้สุกแล้วก็ตาม และหากเหยียบย้ำโดนหางของแมงดาทะเลจะทำให้ได้รับบาดเจ็บจากการโดนตำ
คห.6: 6 ก.ค. 52, 19:09
เม่นทะเล (Sea Urchin)
                       เม่นทะเลเป็น
เม่นทะเล (Sea Urchin)
                      เม่นทะเลเป็นสัตว์มีหนวดตามผิวลำตัวเช่นเดียวกับดาวทะเล แต่เม่นทะเลมีหนามยาวจำนวนมาก ชนิดที่พบค่อนข้างชุกชุมในแนวปะการังของชายฝั่งทะเลไทยคือเม่นดำหนามยาว (Diadema setosum) มีหนามขนาดยาวอยู่รอบตัว การท่องเที่ยวเดินใต้ทะเลในบริเวณที่มีเม่นทะเล คลื่นอาจซัดให้โยนตัวไปเหยียบย่ำเม่นทะเลได้ หนามของเม่นทะเลมักหักเปราะฝังอยู่ในผิวหนัง ซึ่งไม่สามารถบ่งออกได้อย่างหนามเล็กๆหรือหนามจากพืช การแก้ไขเมื่อถูกหนามเม่นตำคือการทุบอย่างเบาๆ เพื่อให้หนามเม่นแตกเป็นชิ้นขนาดเล็ก ร่างกายจะสร้างสารออกมาย่อยสลายหนามของเม่นได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม เม่นทะเลบางชนิดมีต่อมน้ำพิษเมื่อถูกหนามเม่นตำแล้ว น้ำพิษยังอาจเข้าสู่ร่างกายทำให้เกิดอาการอักเสบ บวมแดง เจ็บปวดและเป็นไข้ได้ นอกจากหนามที่แหลมคมแล้ว เม่นยังมีโครงสร้างพิเศษที่เรียกว่า เพดดิเซลลาเรีย (pedicellariae) กระจัดกระจายแทรกอยู่ระหว่างหนาม ตรงปลายมักมี 3 แฉกคล้ายคีม ซึ่งทำหน้าที่เก็บเศษอินทรีย์และจุลินทรีย์ออกจากผิวลำตัวในหนามเม่นบางชนิดเพดดิเซลลาเรียมีต่อมน้ำพิษอยู่ด้วย อันตรายจากเม่นทะเลจึงไม่มีเฉพาะหนามเพียงอย่างเดียว
คห.7: 6 ก.ค. 52, 19:12
พวกที่กัดได้ (Snapper) ได้แก่ งูทะเล(Sea snake) ปลาไหลมอเล่ย์ (Moray eel) ปลาฉลาม (Sharks) ปลาหมึกยักษ์ที่เรียกว่า Blue-ringe Octopus) เป็นต้น ซึ่งพิษมีผลต่อระบบประสาทอยู่ในต่อมน้ำลายทำให้ผู้ที่ถูกกัดมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ช็อค และอาจทำให้เสียชีวิตได้ เพื่อให้เข้าใจและตระหนักถึงอันตรายที่อาจได้รับจากสัตว์ทะเล ตัวอย่างสัตว์ทะเลชนิดต่าง ๆ พร้อมอธิบายถึงอันตรายที่จะได้รับ ดังนี้
คห.8: 6 ก.ค. 52, 19:13
งูทะเล (Sea Snakes)
                       งูทะเลมีลักษณะ
งูทะเล (Sea Snakes)
                      งูทะเลมีลักษณะแตกต่างจากงูบกคือลำตัวส่วนท้ายแบนทางด้านข้างจนถึงปลายหางมีลักษณะคล้ายใบพาย เพื่อใช้สำหรับว่ายน้ำ งูทะเลทุกชนิดมีพิษอยู่ที่เขี้ยวในปาก บางชนิดว่ายน้ำเหมืออย่างปลา และบางชนิดอาจขึ้นมาวางไข่บนชายฝั่งเช่นเดียวกับเต่าทะเล พิษของงูทะเลมีอันตรายร้ายแรงมาก แม้จะถูกนำขึ้นมาบนบกแล้วก็ไม่ควรใช้มือจับ การเดินไปตามแนวปะการังควรใส่รองเท้ายางหุ้มข้อ รวมทั้งงูที่ตายแล้วก็ต้องระมัดระวังพิษจากเขี้ยวที่ยังสามารถออกฤทธิ์ได้ น้ำพิษจากงูทะเลมีผลโดยตรงต่อระบบกล้ามเนื้อ ปัสสาวะของผู้ป่วยจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ภายในเวลา 3-5 ชั่วโมง เนื่องจากเม็ดสีถูกปล่อยออกมาจากเซลล์กล้ามเนื้อที่ถูกทำลาย ระบบหายใจขัด หรือการทำงานของหัวใจล้มเหลว  ( งูทะเล มีมากมายหลายชนิดครับ เพื่อนๆ )
คห.9: 6 ก.ค. 52, 19:14
ปลาไหลมอเล่ย์ (Morey Eel)  
                       ปลาทะเล
ปลาไหลมอเล่ย์ (Morey Eel) 
                      ปลาทะเลในแนวปะการังหลายชนิดเป็นสัตว์กินเนื้อ และมีฟันแหลมคม โดยเฉพาะปลาไหลมอเล่ย์ซึ่งซ่อนตัวอยู่ตามโพรงหินปะการังและโผล่หัวออกมาเฝ้าระวังเหยื่อหรือศัตรู หากนักท่องเที่ยวว่ายน้ำผ่านบริเวณที่ปลาอาศัยอยู่ ปลาก็อาจพุ่งตัวออกมาฉกกัดคล้ายงูได้ แม้ว่าปลาไหลมอเล่ย์จะไม่มีเขี้ยวพิษอย่างงูทะเล แต่เมือกในปากของปลาก็มีพิษอ่อนๆ
คห.10: 6 ก.ค. 52, 19:16
ฉลาม (Sharks)
                       ปลาฉลามเป็นปลาที่ค
ฉลาม (Sharks)
                      ปลาฉลามเป็นปลาที่คนโดยทั่วไปเข้าใจว่าเป็นสัตว์ดุร้าย หรือเป็นปลากินคน ความจริงแล้วปลาฉลามเป็นสัตว์กินเนื้อพวกหนึ่ง ซึ่งมีฟันแหลมคมไว้ล่าเหยื่อเป็นอาหารแต่ก็มีบ่อยครั้งที่ปลาฉลามขนาดใหญ่อาจเข้าจู่โจมกัดนักประดาน้ำหรือผู้คนที่เล่นน้ำอยู่ตามชายหาดซึ่งเป็นโดยธรรมชาติของปลา การหลีกเลี่ยงอันตรายจากการถูกปลาฉลามกัดจึงควรป้องกันไว้ก่อน เช่น ไม่ว่ายน้ำแยกตามลำพัง หรือทำให้ฉลามได้รับความตื้นตกใจ เช่น กลุ่มของฉลามหูดำ ซึ่งพบได้ทั่วไปในน่านน้ำไทย
คห.11: 6 ก.ค. 52, 19:24
หมึก (Cephalopod)
                       หมึกเป็นมอลลัสพว
หมึก (Cephalopod)
                      หมึกเป็นมอลลัสพวกหนึ่งที่มีวิวัฒนาการสูงกว่าหอยโดยสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว สามารถไล่ล่าสัตว์อื่นกินได้ ลำตัวไม่มีเปลือกหนวดของหมึกสายมี 8 เส้น ซึ่งเปลี่ยนแปลงมาจากเท้าของหอย ภายในปากของหมึกมีขากรรไกรแข็งซึ่งใช้ขบกัดเหยื่อ ดังนั้นการจับหมึกด้วยมือขณะที่หมึกยังมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมึกสาย สามารถกัดทำให้บาดเจ็บได้ ยิ่งไปกว่านั้นหมึกสายบางชนิด เช่น หมึกสายวงน้ำเงิน (Hapalochlaena naculosa) ซึ่งอาศัยอยู่ตามแนวปะการัง มีต่อมน้ำพิษที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
คห.12: 6 ก.ค. 52, 19:27
แม่เพรียง (Clam Worm)
                       แม่เพรียงเป็
แม่เพรียง (Clam Worm)
                      แม่เพรียงเป็นหนอนปล้องที่มีลำตัวเรียวยาว บางชนิดอาจยาวถึง 2 เมตร อาศัยอยู่ตามแนวปะการังใต้ซอกหินหรือบางชนิดอยู่ตามป่าชายเลน บริเวณส่วนหัวของแม่เพรียงมีปากและขากรรไกรลักษณะคล้ายเขี้ยวอยู่ในปาก ซึ่งใช้สำหรับฆ่าเหยื่อหรือคาบจับอาหาร แม่เพรียงจึงอาจใช้เขี้ยวกัดทำให้ได้รับบาดเจ็บ ปวด เช่นเดียวกับผึ้งต่อย แม้โอกาสจะถูกกัดมีน้อยมากก็ตาม
คห.13: 6 ก.ค. 52, 19:29
พรมทะเล หรือซูแอนทิด (Zoanthid)
                       พร
พรมทะเล หรือซูแอนทิด (Zoanthid)
                      พรมทะเลเป็นสัตว์จำพวกดอกไม้ทะเลขนาดเล็ก หนวดมีขนาดสั้น ลำตัวมักเป็นท่อนยาว และอาศัยอยู่รวมกันเป็นโคโลนี โดยมีส่วนฐานเชื่อมต่อถึงกันได้ ตามปกติพรมทะเลไม่มีพิษในแง่การสัมผัสเพราะนีมาโตซีสมีพิษอ่อนมาก แต่มีพรมทะเลบางชนิดของสกุล Palythoa มีสารพิษที่ชื่อว่าพาลิทอกซิน (palytoxin) ซึ่งมีฤทธิ์ต่อระบบหัวใจ สารชนิดนี้นับเป็นสารที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในสัตว์ทะเลยิ่งกว่าพิษจากปลาปักเป้า ในฮาวายนำมาใช้เป็นยาพิษอาบปลายธนูด้วย ดังนั้นการที่นักท่องเที่ยวอยู่ในบริเวณที่มีพรมทะเลอาศัยอยู่จำนวนมากจึงไม่ปลอดภัย
คห.14: 7 ก.ค. 52, 09:53
ทากทะเล (Sea Sliug)
                       ทากทะเลเป็นสัต
ทากทะเล (Sea Sliug)
                      ทากทะเลเป็นสัตว์จำพวกหอยกาบเดี่ยวที่ไม่มีเปลือก ลักษณะอ่อนนุ่มและมักมีช่อเหงือกยื่นพ้นลำตัวเพื่อหายใจ ทากทะเลส่วนใหญ่อาศัยอยู่ตามแนวปะการังหรือพื้นทะเลบริเวณที่มีสาหร่ายและฟองน้ำชุกชุม ส่วนใหญ่มักมีสีสันสวยงาม การที่ทากทะเลไม่มีเปลือกหุ้มลำตัวนี้เองจึงทำให้มีการปรับตัวโดยการสร้างเมือกพิษออกมาเป็นอันตรายต่อสัตว์ที่อยู่ใกล้เคียง หรือบางชนิดปล่อยสารสีม่วงออกมาเพื่อการพรางตัว ทำให้ศัตรูตกใจ..
คห.15: 7 ก.ค. 52, 10:05
หอยเต้าปูน (Cone Shell)
                       หอยเต้าปูน
หอยเต้าปูน (Cone Shell)
                      หอยเต้าปูนเป็นหอยกาบเดี่ยวพวกหนึ่งที่ล่าสัตว์อื่นจับกินเป็นอาหาร ลักษณะเปลือกเป็นรูปกรวยคล้ายถ้วยไอศกรีมโคน (cone) ส่วนใหญ่มีเปลือกหนา ด้านหน้าของลำตัวมีไซฟอนยื่นออกไปยาว และมีงวงยื่นอยู่ทางด้านใต้ของไซฟอนด้วย ตรงปลายงวงของหอยเตาปูนนี้เองมีฟันแหลมคล้ายลูกธนู ซึ่งหอยใช้แทงเพื่อฆ่าเหยื่อ หอยเต้าปูนบางชนิดมีต่อมน้ำพิษร้ายแรง เท่าที่มีรายงานในต่างประเทศมีไม่น้อยกว่า 10 ชนิดที่เคยต่อยคนทำให้เสียชีวิตมาแล้ว
                      หอยเต้าปูนมีพิษที่พบในน่านน้ำไทยมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน ชนิดที่พบได้บ่อย เช่น หอยเต้าปูนลายผ้า (Cone textile) หอยเต้าปูนลายแผนที่ (Conus geographus) หอยเต้าปูนลายหินอ่อน (Conus marmoreus) หอยเต้าปูนจักพรรดิ์ (Conus iperialis)
คห.16: 7 ก.ค. 52, 10:06
ปลากระเบนไฟฟ้า (Electric ray)
                       ปลากระ
ปลากระเบนไฟฟ้า (Electric ray)
                      ปลากระเบนไฟฟ้ามีลำตัวแบนค่อนข้างกลม มีอวัยวะผลิตกระแสไฟฟ้าประกอบด้วยเซลล์รูปหกเหลี่ยมเรียงซ้อนกันเป็นกลุ่ม ตั้งอยู่ทางด้านข้างของตาถัดไปทางครีบอก ภายในมีสารเป็นเมือกคล้ายวุ้น ทำหน้าที่เป็นตัวผลิตกระแสไฟฟ้าโดยด้านบนเป็นขั้วบวก ด้านล่างเป็นขั้วลบ กระแสไฟฟ้าจะวิ่งจากด้านล่างขึ้นไปด้านบนโดยอยู่ในการควบคุมของสมอง การช็อตหรือการปล่อยกระแสไฟฟ้าเกิดขึ้นเมื่อได้รับการกระตุ้นหรือการถูกรบกวน ซึ่งปลาจะใช้เพื่อการล่าเหยื่อหรือทำร้ายศัตรู ดังนั้นหากไปเหยียบโดนปลากระเบนไฟฟ้าที่หมกตัวอยู่ กระแสไฟฟ้าที่ปล่อยออกมามักมีกำลังไฟฟ้าประมาณ 40-100 โวลท์ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการชาได้
คห.17: 7 ก.ค. 52, 10:11
นอกจากนี้ยังมีสิ่งมีชีวิตบางชนิดที่ทำให้เกิดอาการเจ็บปวด แสบคัน คล้ายกับแตนทะเลกัด ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจเป็นกลุ่มของสัตว์ทะเลขนาดเล็กกลุ่มแตนทะเล แต่ยังไม่มีรายงานระบุแน่ชัดว่าเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดใด ดังนั้นจึงควรทำการศึกษาวิจัยให้ทราบถึงชนิดและความเป็นพิษของสิ่งมีชีวิตกลุ่มนี้ต่อไป
คห.18: 7 ก.ค. 52, 10:18
ฟองน้ำ (Sponge)
ฟองน้ำ (Sponge)
คห.19: 7 ก.ค. 52, 10:21
ปะการังไฟ (Fire coral
ปะการังไฟมีลักษณะคล
ปะการังไฟ (Fire coral
ปะการังไฟมีลักษณะคล้ายกับปะการัง แต่เป็นสัตว์แตกต่างกัน ปะการังไฟเป็นญาติของดอกไม้ทะเล และแมงกะพรุน มีเข็มพิษรุนแรง หากโดนเข้าไปจะเจ็บปวดมาก

          ปะการังไฟไม่มีสาหร่ายอยู่ในเนื้อเยื่อ จึงไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้ พวกเขาจับแพลงก์ตอนจากน้ำกินเป็นอาหาร

          พวกเราควรจดจำลักษณะปะการังไฟ และพยายามหลีกเลี่ยงอย่าเข้าไปใกล้พวกเขา เพราะมีพิษที่รุนแรง แต่ถ้าโดนเข้าไป สามารถรักษาได้โดยใช้น้ำส้มสายชูราดแผล เพื่อหยุดการทำงานของเข็มพิษ
คห.20: 7 ก.ค. 52, 10:36
ดอกไม้ทะเล (Sea anemone)
ความสวยของดอกไม้ทะ
ดอกไม้ทะเล (Sea anemone)
ความสวยของดอกไม้ทะเล ใครจะรู้ ว่ามันก็มีพิษด้วย แต่ ปลาที่อาศัยอยู่กับดอกไม้ทะเลนั้น ต่างอยู่กันอย่างสันติ
เอื้อประโยชน์แก่กันปลาจึงไม่ได้รับพิษ จากดอกไม้ทะเลแต่ มุนษย์เราๆท่านๆนี่ซิ คงหนีไม่พ้นถูกพิษของดอกไม้ทะเล
บางชนิดทำให้เกิดเป็นผื่นแดง บางชนิด คัน อันนี้ก็ พึงระวังไว้ เมื่อเวลาไปดำน้ำ นะครับ
คห.21: 7 ก.ค. 52, 10:42
ดาวขนนก (Feather star) 
เป็นสัตว์ในกลุ่มเดีย
ดาวขนนก (Feather star)
เป็นสัตว์ในกลุ่มเดียวกับดาวทะเล มันว่ายน้ำได้ด้วยนะ แต่ไม่เคยเห็นเหมือนกัน คงดูหยุกหยุยน่าดู
ความทรงจำเกี่ยวกับดาวขนนกมีไม่มากครับ รู้แต่ว่าสีสันล่อตาล่อใจ เจอทีไร ถ่ายมาทุกที
เคยเจอดาวขนนกลอยตามน้ำมาติดเว็ทสูทด้วยนะ ขึ้นมาบนเรือแล้วยังติดหนึบ ต้องมาค่อยๆนั่งแกะแล้วโยนกลับลงน้ำไป
คห.22: 7 ก.ค. 52, 10:54
ปลาขี้ตังเบ็ดฟ้า วงศ์ปลานี้ ( Family Acanthurida
ปลาขี้ตังเบ็ดฟ้า วงศ์ปลานี้ ( Family Acanthuridae)
ปลาขี้ตั้งเบ็ดเป็นปลาที่ทำหน้าที่ควบคุมปริฒาณสาหร่ายในเเนวปะการังหลายชนิดกินสาหร่ายทั้งสาหร่ายเคลือบและสาหร่ายขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเป็นต้น รูปร่างของปลาวงศ์นี้ ส่วนใหญ่แล้วเป็นแบบยาวและแบนด้านข้างแต่ลักษณะโดดเด่นคือ  หนามบริเวณโคนหาง(Scalpel)  ซึ่งเป็นลักษณะเด่นที่ใช้จำแนกในระดับกลุ่มและเป็นที่มาของชื่อวงศ์ปลา ชนิดนี้
คห.23: 7 ก.ค. 52, 11:01
ส่วนสัตว์ทะเลชนิดอื่นๆ ที่ได้กล่าว
ส่วนสัตว์ทะเลชนิดอื่นๆ ที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นนั้นสามารถทำให้เกิดอันตรายได้ถ้าหากนักท่องเที่ยวไปพบและทำให้มันตกใจ และสัตว์ทะเลบางชนิดอาจพบได้เฉพาะบางช่วงเท่านั้น เช่น แมงกะพรุน เป็นต้น เวลาเจออยู่ตามชาดหาดก็ อย่าไปเล่นมันนะครับ
คห.24: 7 ก.ค. 52, 11:09
สัตว์ทะเลที่เป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยวบริเวณเกาะล้าน และเกาะสาก จังหวัดชลบุรี
          การท่องเที่ยวประเภทเดินใต้ทะเล นักท่องเที่ยวสามารถได้รับอันตรายจากสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ง่ายกว่าการท่องเที่ยวประเภทอื่นๆ สำหรับพื้นที่บริเวณเกาะล้าน และเกาะสาก สามารถพบสัตว์ทะเลชนิดเด่นได้หลายชนิด ที่สามารถทำให้เกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยวประเภทเดินใต้ทะเลได้ เช่น
                  - ฟองน้ำ (Sponge)
                  - ปะการัง (Coral)
                  - ดอกไม้ทะเล (Sea anemone)
                  - พรมทะเล (Zoanthid)
                  - เม่นทะเล (Sea urchin)
          ส่วนสัตว์ทะเลชนิดอื่นๆ ที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นนั้นสามารถทำให้เกิดอันตรายได้ถ้าหากนักท่องเที่ยวไปพบและทำให้มันตกใจ และสัตว์ทะเลบางชนิดอาจพบได้เฉพาะบางช่วงเท่านั้น เช่น แมงกะพรุน เป็นต้น
คห.25: 7 ก.ค. 52, 11:15
ผักบุ้งทะเลเป็นพืชที่มีเถาเลื้อย ล
ผักบุ้งทะเลเป็นพืชที่มีเถาเลื้อย ลำต้นทอดไปตามยาวบนพื้นดิน ใบเป็นรูปหัวใจ ปลายเว้าเข้าหากัน ใบมีลักษณะหนา ดอกเหมือนดอกผักบุ้งมีผลเล็กกลม
อันนี้ ไม่อันตราย แต่เป็น ยาดีนะครับ ..............อ่านสักนิด...
ใบผักบุ้งมีใบผักบุ้งทะเลมีน้ำมันหอมระเหย (Essential oil) มีกรดอินทรีย์ และมีสารอื่นๆ
มีฤทธิ์แก้อาการแพ้ พบว่ามีฤทธิ์ต่อต้านฮีสตามินและยับยั้งพิษของแมลงกะพรุนได้

การใช้ผักบุ้งทะเลรักษาอาการแพ้ อักเสบ แมลงสัตว์กัดต่อย  (โดยเฉพาะพิษของแมงกะพรุน)
ทำได้โดยการเอาใบและเถาผักบุ้งทะเลมา 1 กำมือ 
ล้างให้สะอาดแล้วเอาไปโขลกจนละเอียด
คั้นเอาน้ำทาในบริเวณที่เกิดอาการบวมแดงบ่อยๆ
ทาวันละ 2-3 ครั้ง เช้า กลางวันและเย็นจนอาการหาย
12>
siamfishing.com © 2024