ลูกค้ามาส่งข่าวให้ฟังว่าตอนนี้ ปลาชะโดเข้ามาจับคู่แล้วผสมพันธ์
แต่ละตัวไม่ต่ำว่า 5 กก. เป็นอย่างน้อย  และเข้าทุกที่ที่มีหญ้าและ แนวสาหร่าย..ซึ่งเป็นที่หน้าแปลกมากเมื่อ2 ปีที่แล้วกลับไม่มีเจ้าพวกนี้ออกมาให้เห็นเลย

วันที่ไปเป็นเวลา 17.00 น. เราเริ่มเดินทางเข้าไปที่หมาย ไปถึงหมาย
ประมาณ 17.30 น. เมื่อไปถึงเราก็เก็บภาพของหมายไว้...

ลืมบอกไปครับ..ปลาเริ่มเข้ามาและเริ่มตกได้ตัว เริ่มวันที่ 3 ก.ค.48 และได้มาเรื่อยๆ นับจนถึงวันนี้ ไม่ต่ำกว่า 20 ตัว แล้วครับ

และที่สำคัญ มีแต่ตัวใหญ่ๆ ทั้งนั้น....ตัวนี้เป็นตัวแรกที่เราได้เก็บภาพเอาไว้เมื่อ วันพฤหัส ที่ 7 ก.ค เป็นวันแรกที่เราได้ข่าวมาว่าปลาเข้า  นักตกปลาที่นี่จะใช้เหยื่อ กบ และตัวเบ็ดกันสวะ ประมาณเบอร์ 6/0 เป็นส่วนใหญ่ ผูกต่อเบ็ดด้วยสายสลิงอ่อนขนาด 80 ปอนด์ ความยาวของสายสลิงไม่เกิน 6-9 นิ้ว เจ้าตัวนี้ 6.3 กก.

วิธีการตกปลาของคนที่นี่และส่วนมากทางอีสาน จะใช้เหยื่อสดเป็นส่วนมาก
เดินลงไปแช่อยู่ในน้ำประมาณ เอวบางคนก็หน้าอก แล้วยืนเรียงแถวเป็นหน้ากระดานตีซ้ำอยู่ที่เดิมไม่ไปไหนจนกว่าจะได้ตัว..
          ส่วนผมใช้เหยื่อปลอม ของ ADDY ครับแต่ไม่ได้เนื่องจากเรา 1 และเขา 10 และอีกสาเหตุหนึ่งเราไปก็จะค่ำแล้ว หมายนี้ถ้ามีเรือจะสนุกมากเพราะแนวหญ้าสาหร่ายจะขึ้นอยู่กลางน้ำ ระยะห่งประมาณ 40-50 เมตร

สังเกตุดูที่คลื่นน้ำนะครับ วันที่ไปลมแรงและฝนตั้งเค้ามา และสักพักก็ตก
ซึ่งก็แรงมาก และก็ที่สำคัญไม่มีที่หลบฝนครับ

แต่คนพวกนี้..อึด ฝนตกก็ตีเหยื่อต่อ ไม่กลัวฟ้า หรือฝน

ในขณะที่ฝนตกมาอย่างหนัก และ ก็มีนักตกปลา 2 ท่านที่ปลาเข้ากินเหยื่อพร้อมๆกัน แต่อีกคนหนึ่งได้และอีกคนไม่ได้ ปลาพาสายเอ็นไปพันที่ใต้น้ำและก็หลุดไป  เสียดายมากครับที่ไม่ได้เก็บภาพในขณะที่พวกเขาอัดปลาและเย่อปลา แต่เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง..ต่อ  เจ้าตัวนี้ 6.5 กก.

อุปกรณ์และวิธีอัดปลาของคนแถวนี้ จะใช้คันเบ็ดยาวประมาณ 10 ฟุต
และรอกประมาณ บีจี 20 หรือ SX 2000-3000 + สายเอ็น 25- 30 ปอนด์ของไทรลีน ถ้าเป็นสายโหลด ประมาณ 40-50 ปอนด์
และใช้เบ็ดมัสตาร์ดประมาณ 6/0-8/0 ผูกกับสายสลิง อย่างดี 50-80 ปอนด์ เกี่ยวด้วยกบหรือเขียดตัวประมาณ 2-3 นิ้ว เกี่ยวที่ปากและเอาขาหลังมาเกี่ยวด้วย1 ขา  เหมือนเกี่ยวเหยื่อยางทั่วไป อ้อ..เบ็ดต้องกันสวะด้วยนะครับ

เมื่อปลาเข้าชาร์ทเหยื่อเค้าจะเปิดสปูลรอกเพื่อปล่อยสายเอ็นจากหน้ารอกไปประมาณ 2 เมตร หรือนับในใจ 1 ถึง 5 หรือ จนกว่าสายจะหยุดไหลออกจากสปูน แล้วก็ปิดหน้ารอก กรอสายให้ตึงวัดเบ็ดเต็มที่ แล้วถอยหลังวิ่งขึ้นจากน้ำให้เร็วที่สุด หรือถอยหลังแล้วอัดปลาเรื่อยๆ ซึ่งก็หน้าแปลก บางครั้งก็ได้ปลาบางครั้ง คันเบ็ดหัก หรือรอกพัง เพราะว่าอาจจะเกิดจากช่วงที่ปล่อยสายแล้วปลาพาสายเอ็นเข้าไปพันกับตอไม้ หรือ หญ้าซึ่งหญ้าที่นี่หนาและเหนียวมาก...

วันที่ 8 ก.ค  48  เราเดินทางไปถึงหมาย 18.00 น. ที่เดินทางไปช่วงเย็น
เพราะว่าปลาที่นี่จะกินช่วงเช้ามืดและช่วงพลบค่ำ แต่ที่สำคัญผมอยากจะไปบันทึกภาพให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นี่ก็ไปบันทึกมาได้แค่ 2 วันเท่านั้น
คิดว่าจะไปทุกวันสำหรับหมายนี้เพราะเป็นเวิ้งที่สวยมากและที่สำคัญหญ้าขึ้นหนากว่าทุกแห่ง 

เจ้าตัวนี้ตกได้ด้วยท่านนักตกปลาท่านนี้สวนทางกัน เค้ากำลังกลับบ้าน และเรากำลังลงไปที่หมาย ประมาณ 3-4 กก.

เมื่อลงไปถึงหมาย เราต้องจอดรถทิ้งไว้บนถนนแล้วเดินลงไปหมาย ประมาณเกือบ 1 กม. แต่เดินทางสบายครับเพราะว่าเป็นไร่มันสำปะหลัง
เมื่อไปถึงหมายสอบถามพรานเบ็ดเจ้าถิ่นว่าปลากินเบ็ดมั๊ย คำตอบที่ได้...

และคนที่ได้และกลับไปก่อนหน้าก็ไซส์นี้ อีก 3 ตัว  และที่สำคัญนะครับไม่ใช่ที่หมายนี้หมายเดียว ทางอำเภอหนองกุงศรี ลูกค้าก็มาส่งข่าวเหมือนกัน
ว่าชาวบ้านไปลงตุ้ม ได้ไซส์นี้เข้าไปในตุ้มถึง 6 ตัว  และทางอำเภอสหัสขันธ์ ก็แจ้งมา และที่กระชังปลานาขาม คนที่เลี้ยงปลามาบอกว่า ไม่ทราบว่า ปลากดคังมาจากไหน  เพราะเราไม่เคยได้ยินข่าวและไม่เคยมีใครได้มาก่อนเลยเขาใส่เบ็ดราวไว้ใกล้กับกระชังโดยเกี่ยวเหยื่อด้วยปลาตะเพียนแดงหรือที่เรียกว่า ปลาเลียนไฟ ได้คืนละ 3-5 ตัวๆละไม่ต่ำกว่า 10 กก.ขายได้วันนึงไม่ต่ำกว่า 3,000-5,000 บาทเอาไว้พรุ่งนี้เช้าจะไปเก็บภาพมาให้ดูนะครับ  เพราะว่าต้องออกไปก่อนพ่อค้าแม่ค้าที่รับซื้อปลา..
  ..นักตกปลาหลายท่านชวนออกไปตกแต่ผมเองไม่มีเวลา และโอกาสเลย
สำหรับช่วงนี้ท่านสมาชิกมีโอกาสได้เดินทางมาที่นี่ก็แวะสอบถามรายละเอียดทุกอย่างได้นะครับที่...บึก - กาฬสินธุ์ 01-8731441 รับรองครับว่าจะได้หมายเด็ดๆแน่นอน..แล้วคอยติดตามต่อไปนะครับ จะเก็บภาพมาฝากเยอะๆ..น่าเสียดายที่ TAFMA ไม่ได้มาจัดแข่งที่นี่..