ถึงน้าที่ขับรถทุกท่าน: SiamFishing : Thailand Fishing Community
กระดาน
คห. 20 อ่าน 3,187 โหวต 6
ถึงน้าที่ขับรถทุกท่าน
aonsa(107 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ตั้ง: 16 ม.ค. 52, 08:36
ถึงน้าที่ขับรถทุกท่าน
ผมได้รับ อีเมล์จาเพื่อนเห็นว่าอาจเป็นประโยชน์กับน้าๆที่ขับรถจึงของอนุญาติน้าเว็บและน้าๆทุกท่าน

ข้อความีดังนี้

หน้าตาใบสั่ง โดยกล้องไฮเทคค้าบ..บ
เริ่มแล้ว! กล้องไฮเทค จับผิด 30 แยกทั่วกรุง ฝ่าไฟแดง-ปรับถึงบ้าน

โครงการกล้องไฮเทคถูกทดลองใช้ครั้งแรก วันที่ 30 ธันวาคม
ภายใต้การดูแล
ของพล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. (ดูแลจราจร) ผู้เป็นต้นคิดโครงการนี้
การทำงานของ
เครื่องตรวจจับจะมี 2 ส่วนด้วยกัน คือ
ระบบจับภาพผู้กระทำผิดซึ่งเป็นการทำงานของกล้องดิจิตอล และ
ระบบศูนย์ควบคุมที่ทำหน้าที่นำภาพที่จับได้มาประมวลผล
การทำงานจะเป็นไปตามขั้นตอน คือ ถ่ายภาพ
การกระทำผิดในรูปแบบแฟ้มข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
พร้อมบันทึกรายละเอียดไว้ชัดเจน
หลังจากนั้นระบบจะ
ส่งภาพผ่านระบบสื่อสารโครงข่ายแบบ ADSL ไปยังศูนย์ควบคุมกลาง
ทำการเปรียบเทียบข้อมูลยาน
พาหนะที่กระทำผิด พร้อมตรวจสอบความชัดเจนของภาพอีกครั้ง
ก่อนพิจารณาพิมพ์ใบสั่งจัดส่งไปทาง
ไปรษณีย์เพื่อเรียกชำระค่าปรับ
ในชั้นนี้มีการติดตั้งกล้องดิจิตอลทั่วกทม.แล้ว 30 จุด คือ

1.แยกรัชดาฯ-ลาดพร้าว
2.แยกบ้านม้า
3.แยกคลองตัน
4.แยกอโศกเพชร
5.แยกวิทยุ-เพลินจิต
6.แยกซังฮี้
7.แยกพญาไท
8.แยกโชคชัย 4
9.แยกนิด้า
10.แยกอุรุพงษ์
11.แยกประดิพัทธ์
12.แยกรัชดาฯ-พระราม 4
13.แยกลำสาลี
14.แยกบ้านแขก
15.แยกบางพลัด
16.แยกนรินทร
17.แยกราชประสงค์
18.แยกอโศกสุขุมวิท
19.แยกสาทร
20.แยกตากสิน
21.แยกโพธิ์แก้ว
22.แยกพัฒนาการ-ตัดรามฯ 24
23.แยกร่มเกล้า
24.แยกศุลกากร
25.แยกเหม่งจ๋าย
26.แยกท่าพระ
27.แยกประเวศ
28.แยกอังรีดูนังต์
29.แยกประชานุกูล
30. แยกบางโพ

โดยกล้องดังกล่าวแบ่งการทำงานออกเป็น 3 ส่วน คือ
1.ตัวกล้อง
2.ตัวเซ็นเซอร์
3.ตัวคอมพิวเตอร์ประเมินผล
เมื่อไฟแดงทำงาน ตัวเซ็นเซอร์ทำงาน
มีการฝ่าไฟแดงออกไปกล้องจะถ่ายภาพจากนั้นจะ
ประมวลผลด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่โคนเสาซึ่งเป็นกล่องเหล็ก
ตัวคอมพิวเตอร์ก็จะส่งข้อมูลมาที่ศูนย์สั่ง
การและควบคุมจราจร (บก.02) มาขึ้นที่จอมอนิเตอร์ใน บก.02
โดยเครื่องจะอ่านอัตโนมัติว่าเป็นรถ
ของใคร ซึ่งทางกองบัญชาการตำรวจจราจร
ได้เชื่อมต่อเครือข่ายกับกรมการขนส่งที่ศูนย์รัตนาธิเบศร์
เพื่อบอกสีรถ ยี่ห้อรถ ชื่อเจ้าของรถ
เมื่อได้รายละเอียดจึงพิจารณาพิมพ์หมายหรือใบสั่งต่อไป

โดยผู้ทำผิดกฎจราจรจะถูกกล้องบันทึกภาพไว้
เมื่อหลักฐานครบถ้วนเจ้าหน้าที่จะแนบหมาย
เรียกส่งไปถึงบ้าน ซึ่งภาพที่ส่งไปจะมี 3 ภาพ คือ ภาพก่อนการกระทำความผิด
ภาพขณะกระทำความผิด
และภาพเฉพาะทะเบียนรถ โดยในภาพจะปรากฏชื่อสถานที่ วันเวลากระทำความผิดความเร็วของรถ
เห็นทั้งตัวรถและไฟสัญญาณ โดยจะส่งให้ภายใน 7 วัน หลังกระทำความผิด
โดยเจ้าของจะต้องมาชำระ ค่าปรับตามที่กำหนดไว้ในหมาย
นอกจากเสียค่าปรับแล้วยังมีการตัดแต้มคะแนนอีกด้วย
ใครที่ทำผิดกฎจราจรแล้วถูกจดหมายใบสั่ง
จะต้องมาชำระค่าปรับตามจุดเปรียบเทียบปรับที่
จัดไว้ คือ จุดเปรียบเทียบปรับกรมการขนส่งทางบกจตุจักร
จุดเปรียบเทียบปรับกรมการขนส่งทางบกบางนา

จุดเปรียบเทียบปรับกรมการขนส่งทางบกตลิ่งชัน
จุดเปรียบเทียบปรับกรมการขนส่งทางบกบางขุน
เทียน สน.คู่ขนานลอยฟ้า สน.ใต้ทางด่วนพระราม 4 สน.ตู้กำแพงเพชร สน.วิภาวดีจุดเปรียบเทียบ
ปรับ(บก.จร.เก่า) ภายใน 7 วัน
อัตราโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000
สำหรับรถคันแรกที่ทำผิดประเดิมกล้องไฮเทค ถูกบันทึกภาพไว้ได้ตอนตี
4
วันที่ 30
ธันวาคม บริเวณแยกอโศกสุขุมวิท ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตคลองเตย
เป็นรถยนต์หมายเลข
ทะเบียน ทร-59 กทม. ซึ่งเป็นรถยนต์แท็กซี่ ของสหกรณ์แท็กซี่รวมมิตร เลขที่
1296/67-68
ถ.กรุงเทพ-นนทบุรี แขวงและเขตบางซื่อ กทม.

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายร้อยรายที่ถูกกล้องจับบันทึกไว้
ใครเป็นใครต้องลุ้นกันตอนรับจด
หมาย!!?

โครงการระบบตรวจจับสัญญาณไฟจราจร
เป็นหนึ่งในการช่วยลดปัญหาการให้ผู้ขับขี่มีวินัย
ไม่ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร ทางกองบัญชาการตำรวจจราจร
จึงได้ทดลองนำกล้องระบบตรวจจับผู้ฝ่าฝืน
สัญญาณไฟจราจรมาใช้ แค่ช่วงทดลองก็พบว่าในแต่ละคืนมีคนทำผิดกฎจราจรกว่า 2
พันราย เพราะกลางคืนไม่มีตำรวจอยู่กลางสี่แยก
ซึ่งกลายเป็นช่องว่างทำให้คนไม่เคารพกฎหมายทำผิดกฎจราจรและอาจเกิด

อุบัติเหตุขึ้นได้ เมื่อมีการติดตั้งกล้องอิเล็กทรอนิกส์ช่วยจับผู้กระทำผิด
ก็จะเป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่และลดการเกิดอุบัติเหตุได้

นอกจากนี้
อุปกรณ์ดังกล่าวยังลดความขัดแย้งระหว่างผู้ใช้รถใช้ถนนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เพราะการทำผิดจะถูกบันทึกไว้เป็นภาพถ่ายที่เห็นชัดเจน
โดยทางบก.จร.จะส่งหมายเรียกให้มาชำระค่าปรับ
แต่ถ้าหากไม่มาก็จะทำเรื่องไปยังกองทะเบียนเพื่ออายัดการต่อทะเบียนทันที
ซึ่งการติดตั้งกล้อง
เหล่านี้หากมีหลายๆ แยก ก็จะเป็นการดี อย่างน้อยก็จะทำให้ผู้ขับขี่เกรงกลัว
แม้ไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำ
แยก ซึ่งประโยชน์สูงสุดในการมีเครื่องตรวจจับชิ้นนี้ คือ
ลดการสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้รถใช้
ถนนเอง และยังเป็นการลดกำลังพลเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จะได้แบ่งไปตรวจตราความเรียบร้อยด้านอื่นแทน"

พล.ต.ต.ภาณุ กล่าว

ถ้าผู้ใช้รถใช้ถนนมีวินัยไม่ทำผิดกฎจราจร
ก็คงไม่ต้องสิ้นงบไปกับอุปกรณ์เหล่านี้!!
ทำการ login ก่อนส่งความเห็น
siamfishing.com © 2025