เคยอ่านพบว่าสีของสายเอ็นเปลี่ยนไปตามความลึกของทะเล แล้วก็เคยดำน้ำลงไปดู (ตื้นๆ แบบสกินไดว์) ก็เห็นว่าสีของสายหม่นลง เมื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเลยทราบว่าน้ำทะเลดูดกลืนแสงสีแดงไว้ ทำให้ทะเลเป็นสีฟ้าอมน้ำเงิน และยิ่งลึกก็จะยิ่งสีน้ำเงินเข้ม ดังนั้นของที่เป็นสีโทนแดงเมื่ออยู่ในน้ำลึกๆ จะกลายเป็นสีดำ (กลางวัน เกิน 40 เมตรขึ้นไปหรือกลางคืน แค่สุดแสงไฟ)
ด้วยเหตุผลที่ว่ามา เพื่อนๆ จะเห็นว่า ปลาล่าเหยื่อที่อยู่ในทะเลลึกๆ เช่นปลาเก๋า ปลากะพงแดง จึงมักมีสีส้ม แดง และน้ำตาล

..ถ้าจำไม่ผิดมีอยู่คืนหนึ่งผมนอนอยู่ที่โรงแรมต่างหวัด ตอนดึกๆ ได้ดูสารคดีเกี่ยวกับชีวิตสัตว์ เขาเอาเรื่องปลาหมึกกระดองมาให้ดู ในสารคดีนั้นดูเหมือนว่าปลาหมึกจะเห็นภาพเป็นขาวดำครับ แต่เรื่องนี้ผมไม่ยืนยัน
..เกี่ยวกับเรื่องสีของเหยื่อ และการมองเห็นของปลาเป็นเรื่องที่ยังค้นคว้ากันไม่จบ และความเชื่อของคนก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประสบการณ์อย่างที่น้า XX เขาว่านั่นแหละครับ
.. ผมเคยเรียนทางการถ่ายภาพมา เคยถ่ายภาพและล้างอัดภาพขาวดำ จากทฤษฎีของภาพขาวดำ เราน่าจะสามารถอธิบายเกี่ยวกับเรื่องสีของเหยื่อว่า ถ้าปลาเห็นภาพเป็นขาวดำ  ปลาจะเห็นเหยื่อปลั๊กสีส้มลายขาว กับสีเขียวลายขาว และสีฟ้าลายขาว ไม่ต่างกัน คือเห็นเป็นลายเทาๆ คาดขาวแทบเหมือนกัน ในวันที่ฟ้าสีหม่น แต่ถ้าวันที่ฟ้าใส เพื่อนๆ เชื่อไหมครับ เหยื่อสีส้มในน้ำจะดูลายเข้มพร้อยขึ้นมากว่าตัวอื่นทันที
.. ย้อนกลับไปที่ทฤษฎีปลาหมึกเห็นภาพเป็นขาวดำ ถ้าเป็นเช่นนั้น โยหมึกสีส้มมันจะเห็นเป็นสีเทา และมันอาจจะชอบสีเทาที่อ่อนสว่างในระดับของโทนสีส้มมากกว่าสีอื่นๆ เนื่องจากแสงไฟไดน์หมึกเป็นแสงทังเสตนที่สีอมส้ม ทำให้ตัวโยหมึกสีส้มดูขาวหรือนวลกว่าโยหมึกสีเขียว หรือ สีฟ้า ที่เมื่ออยู่กับแสงทังเสตนซึ่งอมส้ม เมื่อหมึกมองเห็นในลักษณะภาพขาวดำ โยหมึกสีฟ้าและเขียวจะเป็นสีเข้มกว่าสีส้มมากครับ
...... คงเป็นแค่สมมุติฐาน ของผมประกอบกับข้อมูลที่มี คงไม่ใช่คำตอบที่แน่นอนเรื่องโยตัวเก่ง หรือเหยื่อสำหรับอันดามันหรอกนะครับ....
... ส่วนเรื่องเอ็นใสที่น้าชาลีสนใจ ถ้าสมมุติฐานของผมน่าสนใจ น้าชาลีลองดูรูปข้างบน เส้นที่สาม เส้นนั้นน่าจะคล้ายกับเอ็นใสที่สุดครับ