เรื่องของ สภาพอากาศกับการหากินของปลา

การจะดูสภาพอากาศว่าปลาจะออกหากินแบบไหน ในสภาพอากาศอย่างไรนั้น ตามตำรา วิทยาศาสตร์นั้น ความกดอากาศหรือน้ำหนักของอากาศเราจะใช้ บารอมิเตอร์ นั้นมีหน่วยวัดเป็น มิลลิเมตรปรอท แต่เราออกตกปลาแต่ละครั้งคงไม่มีใครลงทุนพก บารอมิเตอร์ หรอกนะครับ แต่นักตกปลาใช้การแหงนหน้าดูเมฆบนท้องฟ้า สำหรับลักษณะเมฆที่ผมจะบอกต่อไปนี้ผมขอใช้ตัวเลขแทนละกันนะครับ จะแบ่งสภาพอากาศออกเป็น 6 แบบนะครับมาเริ่มเลยดีกว่าครับ
สภาพอากาศแบบที่ 1 สภาพอากาศแบบนี้ความกดอากาศจะสูงหรือสูงมากครับ นั่นหมายความว่า ท้องฟ้าจะไม่มีเมฆเลย เรามองไปบนท้องฟ้า จะเห็นแต่ แสงแดด และท้องฟ้าแค่นั้นแหละครับ ปลาในสภาพอากาศแบบนี้จะหากินอยู่ตามหน้าดิน หรือหลบซ่อนอยู่ร่มเงาต่างๆ ความกระตือรือร้นในการล่าเหยื่อก็จะต่ำ  ส่วนการใช้เหยื่อปลา ก็ควรใช้เหยื่อปลอมที่ตัวเล็กๆ เคลื่อนไหวช้าๆ เล็งไปตามร่มเงา หรือ ในระดับน้ำลึกไปเลย ครับ

สภาพอากาศแบบที่ 2 ความกดอากาศแบบที่2ก็จะสูงแต่สูงรองลงมาจากแบบที่ 1 คือเมื่อเราแหงนหน้ามองท้องฟ้า ก็จะเห็นท้องฟ้าเป็นสีฟ้าเหมือนเดิมนะแหละครับ แต่จะเริ่มมีเมฆบางๆ ปลาในลักษณะอากาศแบบนี้ก็จะหลบๆซ่อนๆ อยู่ตามร่มเง่า ไม่ก็ในที่น้ำลึกเหมือนกับแบบที่ 1 แหละครับ แต่ คราวนี้ปลาจะตื่นตัวในการหาอาหารมากขึ้น ยอมที่จะมางับเหยื่อที่ลากห่างจากที่หลบซ่อนมากขึ้น เหยื่อที่แนะนำให้ใช้ก็เช่น เหยื่อที่เป็นพวกโลหะ แวววาว เช่น สปินเนอร์เบท สปูน แต่การลากเหยื่อยังคงลากในความเร็วต่ำอยู่นะครับ

สภาพอากาศแบบที่ 3 ลักษณะนี้ เมื่อท่านนักตกปลาแหงนหน้าไปมองเมฆ เมฆจะเยอะครับ แต่ไม่ถึงกับครึ้มนะครับ แสงแดดยังคงส่องลงมาอย่างปกติ ซึ่งจะเหมือนแบบ 2แบบแรกแหละครับ คือ สภาวะปกติ นะแหละครับ การออกหากินของปลาก็จะเป็นปกติไมมีอะไรพิเศษ ส่วนการใช้เหยื่อก็แล้วแต่ครับ แล้วแต่โชค สรุปก็คือสภาพอากาศแบบนี้ จะไม่มีผลใดๆกับการหากินของปลา

สภาพอากาศแบบที่ 4 สภาพอากาศลักษณะนี้ บนท้องฟ้าก็จะเต็มไปด้วย เมฆเกาะตัวเป็นก้อนใหญ่ๆ แสงอาทิตย์ถูกบดบังบ้างเป็นช่วงๆ จากก้อนเมฆที่ลอยไปลอยมา พฤตติกรรมของปลาในสภาพอากาศลักษณะนี้ก็จะ เริ่มมีความก้าวร้าวหรือกระตือรือร้นมากขึ้นครับ จะขยับตัวมาในระดับน้ำตื้นๆ บริเวณที่เป็นร่มเงาก็จะ ดุดันมากขึ้น เห 
ยื่อที่แนะนำให้ใช้ เป็นเหยื่อทำงานในระดับความลึกกลางจนถึงเหยื่อผิวน้ำ สีสันต้องคัดแบบแสบตานิดนึง ความเร็วลากเหยื่อก็ต้องไว เพราะปลาล่าเหยื่อจะตื่นตัวมากขึ้นนั่นเอง

สภาพอากาศแบบที 5 จะเป็นแบบครึ้มฟ้าครึ้มฝน เมฆจะลอบตัวมาบังแสงอาทิตย์ พฤตติกรรมก็จะออกแนวก้าวร้าวขึ้นมา มากกว่าแบบที่ 4 จะเริ่มเข้าบริเวณน้ำตื้นมากขึ้น ออกห่างจากบริเวณที่เป็นร่มเง่าอย่างสิ้นเชิง เหยื่อที่ใช้ก็สีสันสะดุดตา ความเร็วในการลากเหยื่อก็มากขึ้นเพื่อนเป็นการยั่วยุปลาให้พุ่งเข้ามางับเหยื่อด้วยความโกรธมากกว่ากัดเป็นอาหาร

สภาพอากาศแบบที่ 6 สภาพแบบนี้ไม่ต้องมองอะไรหรอกครับ เพราะฝนจะเริ่มลงแล้วครับ หลบเถอะหลบเข้าร่มก่อน ปลาก็เหมือนกัน ปลาก็จะกลับมาอยู่ในระดับน้ำลึก การล่าเหยื่อก็จะเป็นแบบที่ 1 เลยครับ พอฝนหยุดตกแหละครับ สภาพอากาศก็จะกลับมาเป็นแบบที่ 5 ซึ่งดีที่สุดสำหรับการตกปลา
ก็สำหรับนักปลานะครับ ก็ลองเอาไปสังเกตดูครับกับการตกปลาของท่านนักตกปลาทั้งหลาย ว่าจริงเท็จประการใด 

สำหรับบทความนี้ กระผมก็ไม่ได้มาอวดเก่งอะไรหรอกนะครับ แค่มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน สำหรับผู้ที่รู้หรือรับทราบมาก่อนแล้วคงไม่ว่าอะไรนะครับ

บทความฉบับนี้กระผมได้อ่านจาก นิตยสารหนังสือตกปลา  เย่อกับปลา นะครับ ไม่แน่ใครอ่านบทความนี้ใช้อาจจะทำให้ท่านเป็นเซียนตกปลาไปโดยปริยายเลยก็ได้นะครับ อิอิ ใครจะไปรู้

ครับอะไรที่คิดว่าเป็นประโยชน์ท่านๆพี่ๆนักตกปลาก็ลองปรับเอามาใช้กับเทคนิคของท่านดู อยู่ที่ท่านๆพี่ๆ นักตกปลาเองที่จะเรียนรู้และทำความเข้าใจ



รักเคารพและเรียนรู้ธรรมชาติ
By Taptawan  ป่า

สำหรับฟิชชิ่งปาร์คผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับ แต่ผมเคยไปตกปลากับน้าผมก็ตกหน้าดินเนี่ยแหละ ก็น้าแกก็เล่าให้ผมฟังเหมือนกันว่า หลังฝนหยุดตกปลาใหญ่ก็มักจะเข้า เหมือนกันคับ แล้วน้าท่านๆอื่นๆละ คิดว่ายังไง ครับ

ผมว่า ผมเอาลงผิดที่ซะละ ที่จริงมันต้องเอาลงที่บทความและเทคนิคใช่มั้ยครับ