ในเรื่องบางเรื่อง  ที่อยู่นอกเหนือกติกา  กฎเกณท์แห่งคำว่า  ทฤษฎี    ..    หากใครบางคน ลองศึกษา  ค้นคว้า  พยายามหาคำตอบด้วยใจที่เปิดกว้าง....ยิ้มแย้มแจ่มใส....และเปิดใจรับในสิ่งใหม่  ไม่ยึดติด.....และในบางแง่มุม  ท่านอาจจะได้เจอคำตอบ...ปรากฎการณ์... เหนือคำว่า ถ่ายภาพ  ที่คุณเคยรู้จัก...... 

อย่าเพิ่งคิดว่า  เป็นไปไม่ได้..เพราะเพียงแค่  คุณทำไม่เป็น......  แต่จงคิดว่า  มันเป็นไปได้ด้วยการทำงานแบบไหน... ....  แล้วไม่นาน  คำว่า  ความสำเร็จ  จะมาเยือน.......




ภาพนี้  ถูกถ่ายขึ้นบน กติกาของธรรมชาติ......โดยใช้หลักการของแสงสะท้อนสองส่วน  ที่มาหักล้างกัน  จนทำให้เกิดช่องว่าง หรือ มิติของแสง.....ทำให้เกิดการมอง ทะลุ วัตถุ.....ซึ่ง นางแบบในภาพ ใส่ชุดด้านในสีดำ......    .

เงื่อนไขของภาพนี้  คือ  ต้องถ่ายให้คนมองเหมือนทะลุในด้านล่าง  เก็บริมไล้  ยืดเม็ดน้ำให้ยาว  และเม็ดน้ำเม็ดสุดท้ายต้องตั้งอยู่บนนิ้ว.....ในจังหวะที่น้ำโค้งม้วนตัวลงพื้น... 

ภาพนี้ คือฟายดิบ ต้นฉบับ  .......คับ    ในบางครั้ง  การถ่ายภาพ  ไม่จำเป็นต้องแต่งหน้า  ทำผม  มีเพียงแค่ เศษผ้าผืนเดียว  แต่คุณมีจินตนาการ  ก็สามารถสร้างสรรงานได้คับ..

อีกสักภาพคับ......ภาพนี้ เป็นการถ่ายตามเส้นแสง เพื่อละลายไว้บาล้าน  ก็เป็นอย่างที่เราๆ ท่านๆรู้กันอ่ะคับ....หากเราใช้ไว้บาล้านย้อมภาพ  เราก็คงได้ ฟ้าทั้งภาพ  หรือ เหลือง ทั้งภาพ..แต่หากเราเข้าใจเรื่องlighting อย่างถ่องแท้แล้ว  เราก็สามารถ สร้างสรรรงานแปลกๆใหม่ๆได้โดยไม่ยากเลย......      การถ่ายภาพนี้  เป็นการวางแสงบนภาพ แบบ ดีฟิว  ไม่ใช่แบบ ไดเร็ก  และต้องถ่ายตามเส้นแสง  เพื่อให้เกิด กาเดี๊ยนของแสง  เพื่อไล่น้ำหนัก ของไล้ติ้ง    จาก  สว่างมาก ไปหาสว่างน้อย....  เพื่อเอาแสง ไปกัดสีของ ไว้บาล้านคับ..

าพต้นฉบับจากRAW FILE คับ

การเข้าใจเรื่องหลักการของแสง  เราสามารถเรียนรู้ได้ว่า  ฝุ่นเม็ดเล็กๆเมื่อมาโดนกำแสงแล้วเราสามารถ ถ่ายให้เห็นเป็นลำๆได้...

มาตอบให้ครับ.....การถ่ายภาพให้ได้ผลงานที่มองดูแล้วแปลกตานั้น  ต้องมาจาก คนถ่าย...กล้อง....และหัดเป็นคนช่างคิด ช่างสังเกตุครับ.. ..หากการถ่ายภาพในหนึ่งวัน  เราใช้โหมดวัดแสงโหมดเดียวทั้งวัน  หรือ ตั้งค่าเซตติ้งกล้องค่าเดียวถ่ายทุกภาพ....  คุณก็จะได้เอ้าพุด แค่จากการที่คุณวัดแสง เพียงอย่างเดียว...  : ภาพที่คุณถามมานั้น  เกิดจากการ ปรับตั้งกล้องโดยเร่งความคมขึ้นไป  แล้วไปลดค่าคอนทรัสลง  ปรับไว้บาล้านชิปตามโทนที่อยากได้  และสุดท้าย  เราต้องไปลดค่าsatลงเพื่อให้โทนออกมาซีดหน่อย....วัดแสงให้เกิดการไล่โทนของส่วนสว่างให้ดีๆ  คุมเส้นฝนให้ได้อย่างที่ใจนึกไว้.....เพียงเท่านี้  คุณก็จะได้ภาพ ที่ดูแปลกตา มองแล้ว ไม่เหมือนใครครับ..และภาพทั้งหมดที่เราถ่ายนั้น สมควรที่จะได้ฟายจากหลังกล้องมาแล้ว80เปอร์เซนตร์  และอาจจะไปปรับแต่งต่ออีก20เปอร์เซนตร์ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร..นอกจากนี้แล้ว    การถ่ายพอทเทรต..หากเราเพียงแค่เอานางแบบมายืนยิ้ม  หรือ ชูสองนิ้ว...หรือเลือกแต่นางแบบที่สวย  การถ่ายภาพ จะเจอทางตัน และจะเกิดการพัฒนายากครับ....    เพราะหน้าที่ของช่างภาพทุกคน คือ  ต้องถ่ายคนขี้เหร่ให้สวยครับป๋ม....

ในบางครั้ง  ก่อนถ่ายภาพ  หากเราแค่มองผ่านๆ หรือกวาดสายตาแบบคร่าวๆ  เราก้อาจจะไม่เห็นสิ่งสวยงาม บางสิ่งที่แอบซ่อนอยู่.....    มันอาจจะเป็นเพียง ข้างทาง ที่มีแต่ขยะ  พื้นที่รกรุงรัง  หาความสวยงามไม่เจอ.....  ลองหัดใหม่  กับการมอง    มองแบบไตร่ตรอง  คิด  วิเคราะห์    เจาะเฉพาะส่วน  ทำตาเราให้เป็นมุมกล้องตลอดเวลา  คุณอาจจะได้ภาพ ที่เกินความคาดหมายก็เป็นได้......


อย่างเช่น ภาพโลเคชั่น ที่หลายคนผ่านไปมา  มีช่างภาพนับร้อยนับพัน....เดินข้ามไปอย่างไม่ใยดี..... 

แต่หากเรามองให้ออก  ว่ามันทำอะไรให้เราได้บ้าง.....  คุณอาจจะได้ภาพ ที่แสนวิเศษ  เกินความคาดหมายก็อาจเป็นได้.... :003: :003:


ดังภาพที่เห็นนี้....เพียงแค่เราใช้หลักถ่ายภาพพื้นฐานธรรมดา  วางเดปให้พอเหมาะพอเจาะ  เบรคเดป ให้ได้พอดีกับตัวแบบแค่ปลายขอบผิว เลือกโหมดวัดแสง ที่ไม่ทำให้เกิดคอนทราส ของlighttingสูงเกินไป  กำหนดจุดที่จะวางแสงให้เป็นกลาง  เซตกล้องให้เป็นโสวคอนทราส เพื่อสร้างอารมณ์ให้กับภาพ เพิ่มเม็ดน๊อย เพื่อสร้างให้ฉากหลัง มองดูขุ่น อีกทั้งยังไปเสริมmoodและtoneและไปบังช่องแสงฉากหลัง ที่อาจจะมากวนภาพได้ ให้ดูเย็นตาขึ้น  กำหนดคอมโพสให้แบบ ด้วยอารมณ์ที่สอดคล้อง    แล้วย่อตัวลงสักนิด..ใส่จิตวิญญาณในการถ่ายภาพลงไป....ลืมกฎเกฏท์ กติกา  ไปชั่วขณะ....มองงานถ่ายภาพ ให้เหลือเพียงแค่ คำว่า  ศิลป    ......คุณก็อาจจะได้ภาพ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์  ความมีชีวิต  จังหวะ    หรือ ที่เรามักจะเรียกกันว่า......ภาพถ่ายมีชีวิต...DRAMATIC  PHOTO

ในบางเวลากลางสายฝน หากเราเรียนรู็ว่า  มุมตกกะทบของแสงสามารถ  ทำให้ภาพที่ออกมานั้น เห็นเมื่อฝนหรือไม่  ได้แบบไม่ยาก  เพียงแค่เราหลบ  หรือ หามุมตกกะทบของแสง ที่จะไปทำการสะท้อนกับฝนเพื่อสร้างมุมกะทบ  ฝนเม็ดน้ำฝนเท่านั้น

การเลือกนางแบบเพื่อถ่ายอะไรบางอย่าง  บางครั้งเราต้องมีความเข้าใจว่า  ต้องการถ่ายเพื่อวัตถุประสงค์ อะไร แบบไหน  ยกตัวอย่างเช่น  เราต้องการงานแสงยามเย็น เพื่อเก็บริมไล้  แฮร์ไลด์  เราอาจจะต้องเลือกนางแบบที่มีลักษณะเส้นผมที่ไม่ตรง  หรือมีการโกรกผมมาบ้างเพื่อสร้างโทนของผมได้ง่าย  มากกว่าแบบที่ผมตรงและดำสนิท

จังหวะ    ของการลั่นชัตเตอร์และมุมกล้อง  สามารถสร้างการมองภาพเพื่อหลอกตาคนดูได้  หากเรามีความเข้าใจและมีวิธีคิดที่ถูกต้อง    อย่างภาพที่เห็น  คนดูภาพจะรู้สึกว่า  แบบกำลังจะเอื้อมมือไปจับต้องเสาหิน    แต่อันที่จริงแล้ว  เสาหินและนางแบบอยู่ห่างกัน3เมตร  โดยนางแบบอยู่หน้าเสาหินมาไกลพอสมควร  เพียงแค่อาศัยมุมกล้องในการถ่ายภาพเพื่อสร้างมิติ  ของการมอง โดยการไล่ เดป  ออกเป็นสามส่วน  เพื่อให้ภาพเกิดมิติ

หลายต่อหลายคน    กำลังสับสนว่า  ภาพแบบไหนชัดตื้นดี  ภาพแบบไหนชัดลึกดี    มีข้อคิดง่ายๆครับ...  หากฉากหลังที่เรานำมาร่วมในภาพนั้นดูโดดเด่น  และสามารถสร้างความแปลกตา  และเสริมให้ภาพดูมีน้ำหนักมากขึ้น    แต่ที่สำคัญ เมื่อนำมาประกอบแล้วภาพต้องไม่รกหรือแย่ลง  และไม่ทอนคอมโพสของตัวแบบให้ด้อยลง  แต่หากว่าเรานำฉากหลังมาร่วมแล้ว    ทำให้แบบดูด้อยลงไป  เราก็อาจจะหาเรื่องอื่นๆมาส่งให้แบบดูแรง และน่าสนใจมากขึ้น  เช่นแสง  เป็นต้น

เรื่องราวของการถ่ายภาพ  ยังมีอะไรอีกมาย  ที่ให้ค้นหา  มุมตกกะทบของแสง  มุมสะท้อน  มุมสเปคตรัม  หรือเรื่องราวอื่นๆ  เราจะได้เจอมันได้โดยไม่ยากหากเราละทิ้งกฎเกฎท์ซะบ้างแล้วเอาคำว่า ศิลป มานำหน้า

การเปลี่ยนเวลาจากความเป็นจริงด้วยการใช้กล้องควบคุม เป็นสิ่งที่ช่างภาพจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทำให้ได้  เพราะในบางครั้ง เราๆท่านๆ ไม่มีเวลาเพียงพอที่จะไปนั่งคอยแสงให้มืดค่ำ ดังในภาพ  ถ่ายเวลาบ่ายสามโมงเย็น  แต่เราต้องคุมโทนให้ออกมาเกือบเย็นเป็นต้น

เส้นของแสง มีใครเคยนึกถึงคำๆนี้บ้าง......การถ่ายภาพตามเส้นของแสงคืออะไร..... หากใครสามารถเข้าใจหลักการการถ่ายตามเส้นแสงได้ คุณก็จะสามารถสร้างงานได้.... แบบที่ใครก็คาดไม่ถึง....


   

 

กะ ติ กา    คืออะไร  สำหรับตัวผมเอง มักจะเอามาใช้เมื่อคราวจำเป็น    openspace  ต้องให้คนหันหน้า ไปทางที่ว่างของภาพ    เพื่อถ่วงคอมโพส  แต่ผมกลับมองว่าในบางครั้ง  กติกา ก็มีไว้เพื่อถูกลืมไปบางขณะ    และ งัดเอาคำว่า  ศิลปออกมาใช้ซะบ้าง  เพื่อสร้างภาพถ่าย บนคำ ว่า  โดน  ก็พอ
หันหน้าหาขอบภาพ  ผิดแบบเต็มๆ  .....แต่ผมถ่ายภาพนี้  เพียงแค่  คำว่า .........โดน......ครับผม...


สุดท้ายนี้ อยากบอกว่า คิดถึงทุกคนครับ....เลยไม่ได้แวะเวียนเข้ามา  แต่ไม่เคยลืมบ้านหลังนี้ครับผม...

ขอบคุณสำหรับเสียงทุกๆเสียง....ที่ให้คำ ติชมครับ....บ้านหลังนี้ ถึงจะไม่ได้แวะเวียนมาบ่อยนัก ก็ยังคงอบอุ่นเสมอ.....  หากเพื่อนๆสนใจ  ในการถ่ายภาพ dmamatic แบบนี้  เอาไว้จะหาเวลา เปิดอบรมให้ฟรีๆครับ..ถือว่าเป็นการขอบคุณ บ้านหลังนี้ ที่ผมเริ่มต้นหัดถ่ายภาพอย่างจริงจังเมื่อสี่ ห้า ปีก่อน...(ส่วนค่าแบบทุกคนหารกันล่ะกันเน้อ)  เอ้า  พี่เล็กว่าไง...หาสถานที่มา

ปล...อยากไปตกปลาจัง...หุหุ...