ผมได้ออกตกปลาที่เขื่อนอุบลรัตน์ด้วยเรือของตัวเองเมื่อเดือนตุลาคม 2552 จำได้ว่า ทริปแรกไปถึงเขื่อนประมาณบ่าย 3 โมง กะว่าจะทดลองวิ่งดู แต่ก็ติดคันเบ็ดไปด้วย มีเวลาตีเหยื่อประมาณ 1 ชั่วโมง ไม่มีปลากัดสักครั้งเดียว ทริปถัดมา ผมวางแผนอย่างดี เอาเรือไปลงฝั่งตรงข้ามเลยบริเวณที่เรียกกันว่าพัทยาสอง ไปอีกหลายสิบกิโล แต่ก็ไม่ได้ปลาแม้แต่ตัวเดียว จนกระทั้งทริปที่สาม หลังใช้เวลาตีไปตามหมายที่คิดว่าจะมีตัวไปค่อนวัน จนเห็นเรือชาวบ้านที่กำลังเก็บเบ็ดราวอยู่ จึงเข้าไปสอบถาม ได้ความว่า ถ้าจะตกกระสูบก็ต้องไปตกตามแหน(สาหร่าย) ตามแนวหิน

บ่ายวันนั้นผมก็ได้ปลากระสูบจุดตัวแรกจากการตีสปูนเข้าไปชิดตลิ่งที่เป็นหิน เมื่อไกด์เรือไปเรื่อย ผมก็เริ่มเห็นว่าพื้นน้ำซึ่งห่างจากฝั่งประมาณ 15 เมตร มีแนวสาหร่ายทอดตัวยาวไปตลอด ผมเปลี่ยนมาตีเข้าชิดแนวสาหร่ายที่สามารถเห็นได้ที่ผิวน้ำ  ตีไม่กี่ไม้ก็ได้ตัวมาเรื่อยๆ จากนั้นผมก็ลองเปลี่ยนมาใช้ป๊อปเปอร์ 3 ดี ซึ่งก็ได้เป็นอย่างดี

อีกหลายทริปถัดมา ผมทดลองใช้เหยื่อผิวน้ำอีกหลายตัว ที่ได้ผลดีมากคือ Lucky Craft Sammy 65 และ Megabass Slide Sinker อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่สนุกกับการชาร์จเหยื่อผิวน้ำของกระสูบจุด รวมทั้งกระสูบขีดที่มีหลงมาบ้าง ผมก็เริ่มสังเกตเห็นว่า ระดับน้ำในเขื่อนลดลงเรื่อยๆ ทุก ครั้งที่มา และแนวสาหร่ายที่เคยเขียวสดอยู่ใต้น้ำ กลับกลายเป็นสาหร่ายสีคล้ำพ้นน้ำขึ้นมา ปลาเริ่มชาร์จเหยื่อน้อยครั้งลง ผมได้สอบถามกับคุณลุงในหมู่บ้านที่เอาเรือไปลง แกบอกว่าสาหร่ายมันแก่ ต้องรอให้มันหลุดและงอกใหม่ ปลาถึงจะกินดี

พอเข้ามกราคม 2553 ผมสังเกตเห็นน้ำยังคงลดต่อเนื่อง แต่สาหร่ายบางจุดที่เคยเห็นโผล่พ้นน้ำได้หายไป จากเดิมที่เคยไกด์ดีปลาตามแนวสาหร่ายไปได้เรื่อยๆ ตอนนี้ผมต้องไกด์เข้าตีชิดตลิ่งแทน เพราะไม่มีแนวสาหร่ายให้ตี นอกจากนี้ผมยังพบว่า น้ำที่เคยใสกลับขุ่นเขียวในบางช่วง และช่วงที่น้ำขุ่น ปลาก็จะชาร์จน้อยครั้งลง

จากที่เคยดีใจว่ารู้วีธีตกกระสูบที่เขื่อนอุบลรัตน์แล้ว จู่ๆ ปลาก็กัดน้อยลงไปซะเฉยๆ แนวสาหร่ายที่เคยใช้เป็นหมาย กลับทยอยตายไป แนวตลิ่งที่เคยตีได้ตัว กับกลายเป็นตลิ่งที่ว่างเปล่า น้ำที่เคยใส กลับกลายไปขุ่นเขียว หรือว่าน้ำเสียเพราะสาหร่ายตายเป็นสาเหตุ หรือว่าเป็นเพราะอากาศที่เย็นจัด ทำให้ปลาไม่ค่อยกินเหยื่อ หรือว่าต้องคอยสาหร่ายงอกใหม่ หรือว่าต้องขับหาหมายใหม่ที่สาหร่ายยังไม่ตาย เขื่อนอุบลรัตน์กว้างใหญ่ขนาดนี้ น่าจะมีหมายอีกเยอะ ผมจำได้ว่า ลูกน้องพูดกับผมหลายครั้ง "น่าจะลองเอาเรือไปลงที่ใหม่"

ผมมีความเชื่อว่าปลากระสูบจุดมันไม่ได้ว่ายไปใหนไกล เมื่อสาหร่ายล้มไปทำให้ที่อยู่เดิมมันไม่มี มันก็ต้องหาที่อยู่ใหม่ที่ไม่ไกลจากเดินนัก มันไม่น่าจะว่ายข้ามเขื่อน หรือว่ายไปในแนวน้ำลึก ซึ่งไม่มีสาหร่ายใต้น้ำอันที่เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำขนาดเล็กที่เป็นอาหารตามธรรมชาติของปลากระสูบจุด ผมตัดสินใจที่ไม่หาหมายใหม่ แต่จะหาวิธีใหม่ ลูกน้องผมก็ยังใช้เหยื่อผิวน้ำตีชิดตลิ่งและตีตามแนวสาหร่ายที่เหลืออยู่ไม่กี่จุด จะมีเพียงผมที่ทำไปตามความเชื่อ  และเพื่อไม่ให้หยุดกลางคัน มีอยู่ทริปหนึ่งตอนปลายเดือนมกราคม ผมตัดสินใจไม่ใช้เหยื่อผิวน้ำ จำได้ว่าวันนั้น ตลอดช่วงเช้าปลาชาร์จแต่ปอบเปอร์ เมื่อปลาชาร์จผิวน้ำ เสียงตูมผสมกับเสียงหัวเราะของลูกน้องกัดกร่อนความมุ่งมั่นให้เหลือน้อยลงไปทุกขณะ ผมยังฝืนตีเหยื่อดำต่อไป เวลากว่าครึ่งผมหมดไปกับการกรอเก็บเหยื่อ เพราะเหยื่อตายจากการเกี่ยวสาหร่ายที่จมอยู่ใต้น้ำ  เวลาล่วงเลยไปช่วงบ่ายก่อนที่จะกลับ ผมยังคงตีเหยื่อดำขนาดเล็ก Lucky Craft Bevy Shad  ลงไปตามแนวที่เคยมีสาหร่ายบริเวณท้ายเรือ ระดับความลึก 8 ฟุต หน้าจอบอกว่ายังมีเศษสาหร่ายหลงเหลืออยู่ ไม่รู้เป็นไม้ที่เท่าไหร่ ทั้งอ่อนแรง ทั้งอ่อนใจ แล้วก็มีแรงกระตุกถี่ๆ ส่งมาตามสาย "โดนแล้ว" ในที่สุดผมก็ได้ปลากระสูบจากแนวสาหร่ายที่มองไม่เห็นแล้ว

แม้ผมจะได้ปลากระสูบจากเหยื่อดำ ตามแนวสาหร่ายใต้น้ำที่ดูจาก Depth Finder แล้ว แต่การตีเหยื่อดำยังคงเป็นเรื่องยากสำหรับผมอยู่พักใหญ่  ผมยังพบว่า การไกด์เรือไปตามเส้นทางเดิมซึ่งเหมาะกับการเหยื่อผิวน้ำตามแนวตลิ่ง ส่วนใหญ่จะไม่เหมาะกับตีเหยื่อดำ รวมทั้งการเสียเวลาไปกับการกรอเหยื่อกับมา เพื่อดึงเอาสาหร่ายออก

หลายทริปผ่านไป ผมเริ่มเรียนรู้ที่จะวิธีการตีเหยื่อดำมากขึ้นตามลำดับ ซึ่งรายละเอียดเรื่องการตีเหยื่อดำนั้นมีมาก แต่หลักๆ คือ ต้องรู้ว่าเหยื่อตัวนั้นดำลึกลงเท่าไหร่ เลือกเหยื่อให้เหมาะกับระดับความลึกที่อ่านได้ ให้เลือกเหยื่อที่ดำลึกพอที่จะเกี่ยวยอดสาหร่ายเป็นบางช่วง แต่อย่าลึกไปกว่านั้น เขียนข้อมูล ความยาว น้ำหนัก และความลึก ที่ท้องเหยื่อที่ยังไม่คุ้น รวมทั้งการใส่แว่นตา POLARIZED เพื่อช่วยในการมองพื้นที่ใต้น้ำบริเวณที่จะตี

ผมเล่าเรื่องมาตั้งแต่ต้น ก็เพื่อให้ผู้อ่านได้ทราบว่า ถึงที่สุดแล้ว Depth Finder ก็เป็นเพียงเครื่องมือช่วยอ่านสภาพใต้น้ำ ผมต้องพิจารณาว่า สภาพเช่นนี้เหมาะกับการเป็นที่อยู่ของปลากระสูบจุดหรือไม่ หากเชื่อว่าเหมาะ สิ่งที่ต้องมีอีกอย่างคือ ทักษะการตีเหยื่อปลอมที่เหมาะสมกับสภาพใต้น้ำที่พบ หากจะพูดกันอย่างถึงที่สุด ทักษะหรือเทคนิคการตกปลาที่ผมมี รวมทั้งขีดจำกัดของอุปกรณ์ตกปลาที่มี ก็เป็นตัวกำหนดเช่นกันว่าผมจะใช้ Depth Finder หาหมายลักษณะใหน

วิธีค้นหาหมายด้วย Depth Finder
1. หมายใกล้ฝั่ง ผมใช้วิธีขับหรือไกด์เรือเข้าหาฝั่งและอ่านระดับความลึกไปเรื่อยๆ บริเวณที่ลาดระดับความลึกจะค่อยๆ เปลี่ยนหากฝั่งเป็นแนวเขา ความลึกจะเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว
2. หมายนอกฝั่งที่พบโดยบังเอิญ ในระหว่างการย้ายหมายผมจะมอง Depth Finder อยู่ตลอด หมายลักษณนี้จะสังเกตุได้จากการเปลี่ยนความลึกอย่างรวดเร็ว จากระดับ 30 ฟุต ก็ลดมาเป็น 20 ฟุต 15 ฟุต 

หมายแนวสาหร่ายลึกประมาณ 6 ฟุต
แนวฝั่งส่วนใหญ่ของเขื่อนอุบลรัตน์จะเป็นที่ตื้น บางครั้งห่างฝั่งเป็น 100 เมตร ระดับน้ำยังลึกไม่กี่ฟุต อย่างไรก็ตามบางจุดห่างจากฝั่งหลายร้อยเมตร กลับเป็นดอนน้ำตื้นลึกไม่กี่ฟุตก็เคยพบ  เดิมที่หมายลักษณะนี้ผมจะตีชิดแนวสาหร่ายหรือหญ้าที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อผมหันมาใช้ Depth Finder ค้นหาแนวสาหร่ายน้ำตื้นที่มองไม่เห็นสาหร่ายด้วยตา หมายแนวสาหร่ายน้ำตื้นก็ถูกพบเพิ่มขึ้นอีกมากมาย

Rapala Rattlin เหยื่อในตระกูล Lipless Crankbait ที่เหมาะมากกับการตีในที่ลาดตื้นเช่นนี้

spinnerbait ขนาดเล็ก ตีทิ้งจนรู้สึกว่าหยุดอยู่บนยอดสาหร่าย แล้วค่อยๆ ลากมา

เหลี่ยม เหยื่อภูมิปัญญาท้องถิ่นก็เหมาะกับหมายเช่นนี้

เหยื่อผิวน้ำอย่าง Popper 3D ก็อยู่ในระยะที่ปลาขึ้นมาชาร์จ

เหยื่อดำตื้นประเภท Crank Bait และ Jerk Bait ก็ใช้ได้ผลดี ในรูป เป็นเหยื่อ Lucky Craft B'Freeze 65SP ดำประมาณ 2-3 ฟุต

หมายแนวสาหร่ายที่ความลึก 6-12 ฟุต
ที่ความลึกระดับนี้ การสังเกตุหมายด้วยลักษณะบนผิวน้ำ แทบเป็นไปไม่ได้เลย บางจุดห่างจากฝั่งไม่กี่เมตร และในบางจุดก็อยู่ห่างฝั่งหลายร้อยเมตร ในสองสามทริปแรกผมใช้เวลาหลายชั่วโมง ตีเหยื่อดำบริเวณนี้แต่ไม่ค่อยได้ตัว เกือบจะถอดใจไปแล้วเหมือนกัน แต่สภาพพื้นน้ำที่มีสาหร่ายเช่นนี้ ยังไงก็น่าจะมีกระสูบจุดอาศัยอยู่

หมายนี้เป็นตัวอย่างของตลิ่งที่ค่อนข้างลาดชั่นของเขื่อนอุบลรัตน์ ที่ใต้ท้องเรือลึก 11.6 ฟุต มีแนวสาหร่ายที่ค่อนข้างต่ำ

หมายลักษณะนี้ ผมเคยได้ปลาจากเหยื่อดำลึกของ Ever Green รุ่น Spin-Move Shad หลายครั้ง ส่วนเหยื่อในรูปด้านบนเป็นเหยื่อ Jerk Bait ของ Lucky Craft รุ่น Pointer 65SP Long Bill ผมคิดว่าตัวนี้น่าจะดำลึกลงไปประมาณ 6 ฟุต

ที่ความลึกใต้ท้องเรือ 11.2 ฟุต ตีขนานไปกับแนวฝั่ง ก็ยังได้ตัว

ตัวนี้ได้จาก Lucky Craft B'Freeze 65SP Long Bill สังเกตุที่จอจะเห็นว่า แม้น้ำจะลึก 11.9 ฟุต แต่ปลาที่ปรากฎอยู่ในจอ จะอยู่เหนือแนวสาหร่ายขึ้นมาอีก ความลึกระดับนี้ ผมมักจะเห็นปลาส่วนใหญ่อยู่สูงจากสาหร่ายขึ้นมาประมาณ  1-3 ฟุต ผมคิดว่านี่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ B'Freez หรือ Pointer Long Bill ใช้งานได้ผลดี

ตั้งใจจะลงให้จบ คงต้องขอพักไว้แค่นี้ก่อนครับ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาทักทายครับ

หมายกองหิน
บางจุดของเขื่อนอุบลรัตน์ จะมีหินที่จมน้ำอยู่ ผมเคยเข้าใจว่ามันไม่ลึกเท่าไหร่ การตีเหยื่อผิวน้ำในหมายลักษณะนี้ ส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีปลาชาร์จ ยิ่งเป็นหินอยู่ห่างฝั่ง  ผมไม่เคยได้ปลาเลย จนกระทั้งมีอยู่ทริปหนึ่ง ผมสังเกตุเห็นว่า หินใกล้ตลิ่งมีระดับความลึกที่ต่างกันอย่างมาก บางบริเวณระดับน้ำข้างหินลึกเพียงเมตรเดียว ในขณะที่บางบริเวณ หินที่เห็น เป็นเพียงยอดของหินขนาดใหญ่ที่ทอดตัวลึกไปใต้ระดับน้ำมากกว่า 10 ฟุต ดังนั้นหมายลักษณะนี้ ผมต้องอ่านค่าความลึกจาก Depth Finder ก่อนที่จะเลือกเหยื่อดำลึกในระดับที่เหมาะสม ในรูปเป็น Pointer 65SP Long Bill ดำลึกประมาณ 6 ฟุต

หมายตลิ่งที่ชั่นหรือเป็นแนวหน้าผา
ลักษณะของหมายนี้ บริเวณตลิ่งจะเป็นหินขนาดใหญ่ ในบางจุดต้องเรียกว่าเป็นแนวผาหินถึงจะถูก เราอาจสามารถสังเกตุได้บ้างจากความลาดชั้นที่เริ่มบนฝั่ง อย่างไรก็ตามในบางกรณีก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ฝั่งที่ชันแต่ระดับน้ำตื่นไม่เกิน 5 ฟุตก็มี และก็มีบางจุดที่ดูจะไม่ชัน ผมไกด์เรืออยู่ในระยะห่างที่ตีชิดตลิ่งได้ ระดับน้ำกลับลึกมากกว่า 20 ฟุต กลายหมายแนวผาใต้น้ำที่มองไม่เห็น ลักษณะหมายเช่นนี้ผมจะตีเข้าไปหาตลิ่ง เหยื่อจะดำไล่ระดับความลึกลงมา โดยสังเกตุได้จากความรู้สึกได้ถึงแรงกระทบของลิ้นเหยื่อกับแนวหินเป็นช่วงๆ ลักษณะแนวหินเช่นนี้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยหนึ่งของกระสูบจุด และกระสูบขีด

เหยื่ออีกตัวที่ผมคิดว่าเหมาะกับการตีไล่ไปตามแนวหินคือ Ever Green Combat Crank Mini MR เป็นเหยื่อดำลึกประมาณ 5 ฟุต เหยื่อมีความยาว 4.4 เซ็นต์ น้ำหนัก 5.5 กรัม แต่ด้วยระบบการถ่ายน้ำหนักของลูกปืนทำให้เหยื่อตัวนี้ตีได้ระยะดีมาก เป็นเหยื่อที่เหมาะกับการตีเคาะไปตามแนวหิน น่าเสียดายที่ไม่รุ่นนี้ไม่มี Deep Runner

หมายอื่นๆ ที่รอการค้นพบ หรือรอการพบวิธีตก
แนวทางที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเพียงแนวทางเบื้องต้นที่ผมใช้ได้ผล แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันมีอยู่แค่นี้ ยังมีลักษณะพื้นที่ใต้น้ำอีกหลายแบบที่มักจะถูกกล่าวถึงบทความ หนังสือตกปลาของต่างประเทศ รวมทั้งใน Youtube เช่น บริเวณร่องแม่น้ำเก่าก่อนทำเขื่อน สิ่งปลูกสร้างก่อนน้ำท่วน บริเวณแนวตอไม้ใต้น้ำ บริเวณขอบแนวสาหร่าย เป็นต้น  ฝรั่งจะเรียก Depth Finder แตกต่างกันไป ทั้ง Sonar, Sounder, Fish Finder, Electronic แม้จะข้อมูลจะมีอยู่น้อย เมื่อเทียบกับข้อมูลเทคนิคการตกปลาอย่างอื่น แต่ก็จะมีแทรกอยู่เสมอ สำหรับท่านที่จะเริ่มต้นที่ใช้ ผมแนะนำให้ศึกษาลักษณะการอยู่อาศัยของปลาที่จะเราตก สังเกตุพื้นที่ใต้น้ำทุกครั้งที่ได้ปลา รวมทั้งการเลือกใช้เทคนิคให้เหมาะสมสภาพใต้น้ำ บริเวณไม่เคยได้ตัว อาจกลายเป็นหมายใหม่ก็ได้หากค้นพบวิธีที่จะตกที่เหมาะสม


ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาทักทายครับ