[+] อย่ากลัวฝน ถ้าเป็นคนชอบเที่ยว [+]: SiamFishing : Thailand Fishing Community

[+] อย่ากลัวฝน ถ้าเป็นคนชอบเที่ยว [+]

)

คห.76: 13 ก.ย. 52, 22:37

กว่าจะเปลี่ยนเลนส์ได้ ทุลักทะเลมาก

มือนึงถือร่ม มือนึงถือกล้อง จักแร้หนีบเลนส์อีกตัวใต้เสื้อกันฝน
ลำบากไม่แพ้เดินป่าเลยนะเนี่ย

เกงเลก้นโหว่(2222

)

คห.77: 13 ก.ย. 52, 22:40

:laughing: :laughing: :laughing: อ่ะ เปิดเหม่งให้หอมฟ่อ�

อ่ะ เปิดเหม่งให้หอมฟ่อด ๆ เลยค่ะน้ามาด คิดถึง ๆ ๆ ๆ

------------------------------------------------------------------

ขัดตาตรงท่อน้ำข้างน้ำตกสีฟ้า ๆ น่าจะหาอะไรมาทำให้ดูกลมกลืนหน่อย

เกงเลก้นโหว่(2222

)

คห.78: 13 ก.ย. 52, 22:44

ตัดพรวดมาเช้าวันสุดท้ายของค่ายอบรม

บอกลา Rain Forest Resort เพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองพิษณุโลก

เกงเลก้นโหว่(2222

)

คห.79: 13 ก.ย. 52, 22:46

ตามมาเลยค่าน้าเอส_ยโส

-----------------------------------------------

กราบหลวงพ่อกันก่อนค่ะ

เกงเลก้นโหว่(2222

)

คห.80: 13 ก.ย. 52, 22:47

อุ๊ย...เหยื่อ

เกงเลก้นโหว่(2222

)

คห.81: 13 ก.ย. 52, 22:49

น่ากัดจริง ๆ

เกงเลก้นโหว่(2222

)

คห.82: 13 ก.ย. 52, 22:53

จากระเบียงคตข้างวิหาร โจ้เดินตามน้องชายที่จบมาทางด้านโบราณคดี
เป็นคนพาชมวัดและอธิบายส่วนต่าง ๆ ให้ได้รับรู้มากกว่าทุกครั้งที่เคยมา

เกงเลก้นโหว่(2222

)

คห.83: 13 ก.ย. 52, 22:58

ก่อนที่จะเดินไปหน้าวัด ภาพของวิหารและพระปรางค์นี้
น้องวรุณก็เป็นผู้ที่ชี้ให้ถ่าย พร้อมกับอธิบายว่า

"การที่เราได้กราบไหว้พระปรางค์ เท่ากับได้กราบนมัสการพระบรมสารีริกธาตุด้วย"

เกงเลก้นโหว่(2222

)

คห.84: 13 ก.ย. 52, 23:02

น้องยังเล่าต่อว่า

"พระปรางค์นี้สร้างขึ้นมาครอบเจดีย์องค์เดิม โดยดูจากฐานเป็นเจดีย์ทรงดอกบัว"

ผิดพลาดประการใดได้โปรดชี้แนะ เพราะโจ้ก็จำที่น้องอธิบายมาได้ไม่หมดค่ะ

เกงเลก้นโหว่(2222

)

คห.85: 13 ก.ย. 52, 23:04

ดูภาพแล้ว ไอ้โจ้มันจะเอียงขวาไปไหนเนี่ย

---------------------------------------

การเขียนในสมัยรัชการที่ 5 ยังไม่เหมือนปัจจุบัน

เกงเลก้นโหว่(2222

)

คห.86: 13 ก.ย. 52, 23:10

ตามระเบียงคตที่ได้เดินไปพร้อมกับลุงชาตรี อาหมู และน้องวรุณ

ทั้ง 3 แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเต็มที่ คนทีรับประโยชน์ก็คือคนที่ไม่รู้อย่างโจ้ล่ะค่ะ

ทั้งช่องลม, การทำกุฏิพอดีองค์พระ, การวางตำแหน่งลิงถวายรังผึ้งช้างถวายอ้อยพระพุทธเจ้า, ใบเสมา,
วัตถุโบราณต่าง ๆ ที่อยู่บริเวณนั้น เสียดายอีกแล้วที่เวลาน้อยเกินไป ไม่งั้นคงมีอีกหลายเรื่องราวที่โจ้
จะได้รับรู้มากกว่าเดินดูแล้วก็ผ่านเฉย ๆ แน่นอน

เกงเลก้นโหว่(2222

)

คห.87: 13 ก.ย. 52, 23:12

มีสัญญาณจากพี่หวานเจี๊ยบที่เดินมาตามว่าหมดเวลาต้องเดินทางกันต่อ

แม๋.... เสียดายยยย จัง!!

เกงเลก้นโหว่(2222

)

คห.88: 13 ก.ย. 52, 23:14

ไปกันเถอะค่ะ ยังเหลืออีก 1 สถานที่ถ้าวันนั้นพลาดรายการนี้คงต้องเสียดายไปตลอดแน่เลย

เกงเลก้นโหว่(2222

)

คห.89: 13 ก.ย. 52, 23:20

ถึงได้รีบออกจากวัดไงคะน้ามัจฉานุ 555+ มา เรียนรู้รากเหง้าของคำศัพท์ที่ได้ยินบ่อย ๆ ด้วยกันค่ะ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน จ่าทวี ค่ะ

ทีแรกนึกไม่ออกว่าจะมีอะไรนอกจากสินค้าที่ระลึกกลิ่นอดีต

เกงเลก้นโหว่(2222

)

คห.90: 13 ก.ย. 52, 23:25

ไม่เสียค่าเข้าชมค่ะ แนะนำว่าถ้าไปเป็นหมู่คณะจะมีวิทยากรบรรยายให้ฟัง

เกงเลก้นโหว่(2222

)

คห.91: 13 ก.ย. 52, 23:29

จ่าสิบเอกทวี บูรณเขตต์ : ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน จ่าทวี
จ่าสิบ เอกทวี บูรณเขตต์ หรือที่ชาวพิษณุโลกเรียกว่า "ลุงจ่า"
"จ่าทวี" เก็บรวบรวมเครื่องมือเครื่องใช้พื้นบ้านไทยในยุคเก่าก่อน
ไว้เป็นจำนวนมาก สิ่งของเกือบทั้งหมดได้มาจากการซื้อหาแทบทั้งสิ้น
ใช้เวลากว่า ๓๐ ปี ในช่วงชีวิตที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการ

(มีต่อ)

เกงเลก้นโหว่(2222

)

คห.92: 13 ก.ย. 52, 23:32

"ความยากจนและการคลุกคลีช่วยงานด้านช่างศิลป์ ตลอดจนงานอาชีพหลายอย่าง
กับบิดาเป็นพื้นฐานหล่อหลอมให้จ่าสิบเอกทวี มีความผูกพันกับสิ่งของเครื่องใช้
ทุกชิ้นที่พบเห็น ทั้งสิ่งของที่มีความหมายต่อจิตใจอย่างพระพุทธรูป พระบูชาต่าง ๆ
หรือกระทั่งเครื่องมือเครื่องใช้ไม้สอยที่ผู้อื่นไม่ต้องการแล้ว โดยได้รวบรวมขอแบ่งปัน
สะสมทรัพย์ซื้อหามาเรื่อย ๆ"

เกงเลก้นโหว่(2222

)

คห.93: 13 ก.ย. 52, 23:36

ขอบคุณค่ะน้า saintthor

--------------------------------------------

ปรากฏว่าเมื่อมี สิ่งของจำนวนมากๆ ผู้คนที่มาพบหาก็ไม่เข้าใจ บ้างก็ว่า "จ่าทวีเพี้ยน บ้าหอบฟาง
เก็บแต่ของเก่า ถึงขนาดซื้อบ้านใหม่เพื่อใช้เก็บของเก่า" นอกจากนี้คนแวดล้อมใกล้ชิดอย่างมารดา
และภรรยาก็ไม่เห็นด้วย ถึงขนาดมารดาและภรรยาของท่านเคยร้องไห้ด้วยกัน ร้องไห้ด้วยความเสียใจ
ว่าเสียเงิน เสียโอกาสน่าจะนำเงินไปซื้อทองคำ ซื้อที่ดิน และไม่มีประโยชน์ที่นำของเก่าเก็บมาเก็บไว้
อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้เกิดความขัดแย้งรุนแรงอะไร ดังที่ จ่าสิบเอกทวี กล่าวไว้ว่า

"ถึงอย่างไรที่ผมมีวันนี้และสร้างพิพิธภัณฑ์จนเป็นที่ยอมรับได้ ก็เป็นเพราะสมาชิกในครอบครัวพูดจากันได้เข้าใจและให้เกียรติผม"

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.jathawee.com/forum/index.php?topic=935.0

เกงเลก้นโหว่(2222

)

คห.94: 13 ก.ย. 52, 23:41

ขอบคุณค่ะน้า black winds

--------------------------------------------------------------------------------

ตามที่บอกไว้เมื่อไปเป็นหมู่คณะเราจะได้พบกับพี่ปู ลูกสาวคนสุดท้องของลุงจ่า
มาเป็นวิทยากรพาพวกเราชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ต้องบอกเลยว่า...

ถ้าไม่ได้พี่ปูมาบรรยาย โจ้ก็คงจะเหมือนเดิม แค่เดินดู เดินชม แล้วก็ไม่ได้รู้ลึกซึ้งอะไร

เกงเลก้นโหว่(2222

)

คห.95: 13 ก.ย. 52, 23:45

เวลามีน้อยอีกแล้ว จาก 3 เราได้ชมเพียง 1 อาคาร และในอาคารที่ได้เข้าชมมี 20 กว่าจุด
แต่พี่ปูจะพาเราชมแค่ 3 จุด ฟังดูอาจจะน้อยนิด แต่ขอบอกว่า รายละเอียดในแต่ละจุดนั้นมากมายเหลือเกิน

เกงเลก้นโหว่(2222

)

คห.96: 13 ก.ย. 52, 23:49

อ่านที่เจ้าจุกขอไว้ โจ้ก็ขอเคารพด้วยการไม่นำภาพเฉพาะเจาะจงสิ่งของมาลงนะคะ
เนื่องจากเดินชมแล้ว บางจุดมีกระดาษพิมพ์ข้อความขอความเห็นใจโจรชั้นต่ำที่ขโมยของไป
จนต้องเหลือกระดาษแผ่นนั้นมาแปะแทน กลัวจะเป็นการชี้เป้าทางอ้อมให้โจรนรกพวกนั้นค่ะ

เกงเลก้นโหว่(2222

)

คห.97: 14 ก.ย. 52, 00:00

ภาพที่จะนำมาลงก็คงจะเป็นแค่ช่วงที่พวกเราได้ฟังคำบรรยาย อย่างเช่น

เรือนไทย - ขั้นบันได สื่อถึง ขั้นบนสุดพ่อ รองมาแม่ และลูก
เวลาเหยียบขั้นสุดท้ายต้องก้มหัวถือเป็นการเคารพพ่อแม่ไม่ค้ำหัวท่าน
แต่แท้จริงเป็นกุศลโลบายหลอกให้ก้มหัวเพื่อไม่ให้ชนคานที่ยื่นออกมา

กระจาดทำไมต้องทำให้โค้ง - เพราะให้เข้ากับเอวเวลาเดินต้องออกแดะ ๆ
นิดนึงพร้อมทำท่าให้ดู ได้ใจจริง ๆ

กระจาดใบเดียวใส่ของไม่พอ เริ่มทำใหญ่ขึ้นและมีคานหาบรวมถึงสาแหรก
สาแหรก 2 ข้าง จะมีข้างละ 4 เส้นแต่ละข้างจะมี ปู่ย่า พ่อแม่ ลุงป้าอา ลูกหลาน อันนี้เรียกว่า โคดพ่อ
ส่วนอีกข้าง 4 เส้นเช่นกัน จะมี ตายาย พ่อแม่ ลุงป้าน้า ลูกหลาน อันนี้เรียกว่า โคดแม่
(พี่เค้าอธิบายมาแบบนี้จริง ๆ รากศัพท์คำไทยที่ต้องขออนญาตใช้ในที่นี้นะคะ)
เค้าจึงเปรียบเปรยกับคนที่เกิดมามีครบพร้อมพรั่งทั้งโคดพ่อ โคดแม่ว่าเป็น ผู้ดีแปดสาแหรก

เป็นไงคะ เรื่องที่เราได้ยินจนชินแต่ไม่คิดถึงว่ามันจะมีที่มาอย่างไร
แค่นี้ก็น่าติดตามแล้วใช่มั้ยล่ะคะ

เกงเลก้นโหว่(2222

)

คห.98: 14 ก.ย. 52, 00:10

จากจุดแรก ย้ายไปจุดที่สอง เรื่องเกี่ยวกับสัตว์

การดักจับลิง มีวิธีคัดกรองอย่างไรไม่นำลิงที่จับได้แต่เป็นโรคเข้าไปแพร่เชื้อในหมู่บ้าน
จนกระทั่งเชื่อมต่อมาเป็นคำเปรียบเลยที่มีต่อสัตว์ เช่น

หนูติดจั่นมีที่มาอย่างไร นานาวิธีดักหนู ต่อนก ล่อกระรอก รวมถึง อีหัน....

เกงเลก้นโหว่(2222

)

คห.99: 14 ก.ย. 52, 00:16

อีหันคือเครื่องมือชนิดหนึ่งที่จะทำให้คนฆ่างูในสมัยก่อนสบายใจ

โบราณเค้าว่า ตีงูไม่ตายมันจะกลับมาหาเรา ไม่กล้าตีที่หลังเด๋วหลังมันหัก มันจะอาฆาต ฯลฯ
ก็เลยเกิดเครื่องมือชนิดนี้ขึ้นมา อีหัน สานขึ้นมาจากไม้ไผ่ จงใจทำให้มีความคม
เมื่องูเลื้อยเข้ามาติดแล้วมันจะออกไม่ได้ เมื่อตัวมันติดมันก็จะบิดตัวเองหมุน ๆ ทำให้
ไม้ไผ่บาดตัวของมันไส้ขาดตาย... โดยที่คนทำบอกว่า ชั้นไม่ได้ตีนะ ชั้นวางไว้เฉย ๆ
งูเข้ามาติดกับเอง เพราะฉะนั้น ....ฉ๊านนน ม่ายยย บาปปปป

นอกนั้นก็ยังมีเครื่องดักแมลงสาบที่ได้แนวคิดมาจากกรงเต่า และอื่น ๆ อีกมากมายที่เสียดาย
บางส่วนโจ้เองก็หลง ๆ ลืม ๆ แง

เกงเลก้นโหว่(2222

)

คห.100: 14 ก.ย. 52, 00:27

และปิดท้ายด้วยเรื่องของการคลอดลูก

ที่โจ้จำได้นะ พี่ปูเล่าว่า...

สมัยก่อนพื้นบ้าน เค้าจะนำไม้ไผ่ลำที่พอเหมาะมาทำรั้ว ลำที่พอเหมาะก็คือ มือเรากำไปที่หัวลำได้พอดี
แล้วถ้ายังไม่ตัดจะรู้ได้อย่างไรว่ามันพอดี ก็ใช้วิธีกำไปรอบบ้องเช่นกัน ถ้ากำได้พอดีมือนั่นคือ...พอดี

พื้นเรือนสมัยก่อนก็ใช้ไม้ไผ่ทำ ซึ่งสมัยนี้บางที่ก็ยังใช้อยู่ ด้วยการตัดไผ่มาตามความยาวที่ต้องการ
จัดการทุบ ๆ ไม่ให้มันแตกออกจากกัน เพื่อที่มันจะยังคงเป็นแผ่นเราไม่ต้องมานั่งมัดหรือตอกทุกส่วน
ไผ่ที่ทุบแบบนี้เค้าเรียกว่า ฟาก

เวลามีเด็กเกิดใหม่เค้าก็จะวางไว้กับฟาก จึงเป็นที่มาของคำว่า ตกฟาก
แน่นอน... คำว่า เถียงคำไม่ตกฟาก ก็หมายถึงฟากอันนี้ด้วยนี่เอง

จากนั้นก็เดินผ่านอาวุธโบราณชนิดหนึ่งมีมีปลายแหลม และใกล้ ๆ กันมีปลายโง้งเล็ก ๆออกมา
โจ้จำชื่อไม่ได้ แต่ใช้ในการแทงศัตรู รวมถึงสมัยก่อนที่มีโรคระบาดนามว่าอหิวาห์ หรือ ห่ า
เค้าก็จะใช้เครื่องมือนี้จัดการเช่นกัน เป็นที่มาของคำว่า ห่ า ล า ก ไ ส้ นี่เองค่ะ