มองไปทางฝั่งตรงข้ามแนวเขตจะตัดไปตรงกับ บ้านสามหลังของทางเขื่อนพอดี

ชี้ชัดแนะแนวได้ชัดเจนขอรับ...น้าโม่ง....เยี่ยมครับ

ซ้ายมือเข้าไปจะเป็นหน้าบานประตูน้ำและสถานที่ท่องเที่ยวของเขื่อนครับ ซึ่งเป็นเขตแนวอนุรักษ์ทั้งแนวครับ 

พี่มานัสชี้ให้ดูแนวตรงของทางฝั่งหน่วยครับ

เส้นแบ่งจะยิงตรงขนานกับสันเขื่อนมาทางบ้านสามหลังเลยครับ เป็นระยะ 1300 เมตรพอดี

พี่มานัสขับเรือพาเข้าไปดูระยะสันเขื่อนครับ

เข้ามาระยะสันเขื่อนก็จะเห็นรถไฟพานักท่องเที่ยวชมเขื่อนป่าสักครับ

ตามไปดู ครับ 

วิ่งกลับมาทางหน่วยฯแล้วครับ

จากจุดนี้เราจะมองเห็นต้นครางแบ่งเขตได้ง่ายๆเลยครับ

วิ่งเรือจะกลับเข้าหน่วย หันไปมองต้นครางแนวแบ่งเขต ยิ่งเห็นชัดเจน

กลับเข้าหน่วยฯก่อนครับ เดี๋ยวผมจะพาเดินไปถ่ายรูปชี้เขตทางบกบ้างครับ

สวัสดีครับน้าโม่ง  ตามชมตามเชียร์ต่อครับน้า

เชียร์ครับ บ่อน้ำทุกแห่งในประเทศเราควรมีเขตอนุรักษ์ครับ ผมคนนึงละที่ไม่ชอบข่ายเลยจริงๆ เอาเปรียบปลาเกินเหตุ

ก่อนออกจากประตูของหน่วยฯก็ต้องผ่านเรืออนุสรณ์รำลึกถึง นายมนตรี หมอนทอง ตำแหน่งช่างเครื่องจักรยนต์ชั้น 1 ซึ่งเรือลำนี้เป็นของผู้ต้องหาที่ยิงนายมนตรี หมอนทองเสียชีวิต ขณะปฏิบัติหน้าที่รื้อถอนเครื่องมือโพงพางของเจ้าของเรือ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2544 เวลา 11.00 น
ขอไว้อาลัยให้คุณ มนตรี หมอนทอง ที่เสียชีวตขณะปฏิบัติหน้าที่ด้วยครับ

ชัดเจนแจ่มแจ้งค๊าบน้าโม่ง

นี่คือสะพานแรกที่เมื่อกี้มองเห็นจากทางเรือครับ ตรงนี้ที่ราวสะพานเขียนไว้อย่างชัดเจนเลยครับว่าเขตอนุรักษ์สัตว์น้ำ ห้ามทำการประมง

เวิ้งนี้แหล่ะครับที่มีคนมาลักลอบตกปลากัน เจ้าหน้าที่ของหน่วยต้องออกมาจับกันประจำ

ป้ายที่ปักไว้ว่าเป็นเขตอนุรักษ์ก็จะเป็นแบบนี้แหล่ะครับ พวกที่เข้ามาลักลอบจับปลาในเขตก็จะฝากข้อความอะไรต่อมิอะไรไว้ แถมพยายามทำลายป้ายด้วยสิ

เดินมาเกือบสุดเขตแนวอนุรักษ์ฯหันกลับไปถ่ายรูปทางสันเขื่อน

พวกมือบอนพวกนี้ จับได้ต้องตัดมือ 

ข้างหน้านี่ยังเป็นเขตแนวอนุรักษ์ครับ

ผมสงสัยอยู่อย่างหนึ่งครับน้าโม่ง

ตาม พรบ.ประมง 2490 นั้น จะกำหนดช่วงเวลาห้ามทำการประมง ในช่วงฤดูปลาวางไข่ ไว้ 3 เดือน

อ้างอิง>>>  http://www.kodmhai.com/m4/m4-1/H71/H-71.htm

นั่นหมายความว่า ในช่วงเวลา 3 เดือนนี้ ห้ามทำประมง ด้วยเครื่องมือที่กฏหมายกำหนดไว้ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ปลาได้ขยายพันธุ์

ดังนั้น การที่เจ้าหน้าที่จะรับผิดชอบ เฉพาะในเขตอนุรักษ์ ถูกต้องหรือไม่?

ผมคิดว่ากฏหมายนี้ ระบุ ถึงการห้ามทำประมงด้วยเครื่องมือ ที่ได้เขียนไว้ในกฏหมาย ครอบคลุมทั้งพื้นที่ซะมากกว่า

การที่จะไป กวดขันกันเฉพาะในแนวเขตอนุรักษ์นั้น ก็ดูจะเหมือนเปล่าประโยชน์จริงๆ

เพราะพื้นที่เขตอนุรักษ์ ที่ได้เห็นจากภาพในกระทู้ เป็นพื้นที่ จากบริเวณแนวสันเขื่อน

ในความเป็นจริงของการสืบพันธุ์ หรือ ขยายพันธุ์ของปลา  มักจะขึ้นไปวางไข่ที่ต้นน้ำ ซึ่งอยู่นอกพื้นที่อนุรักษ์

ดังนั้น หากไม่มีการกวดขัน การทำประมง ในพื้นที่ต้นน้ำ(ต้นเขื่อน) โอกาสที่ปลาจะได้ ขยายพันธุ์ ต่อไปก็มีน้อย



เรื่องนี้มันยากครับ เราเข้าไปวุ่นวายมาก ชาวบ้านหาปลา ก็จะพลอย โกรธและเกลียดเรา

แต่แท้ที่จริง คนตกปลาเองแทบไม่ได้อะไรจากแหล่งน้ำเลย เมื่อเทียบมูลค่าการลงทุนระหว่าง ทริพตกปลาทั้งหมด กับ ปริมาณปลาที่ได้

สิ่งที่เราได้กลับมาจริงๆ คงคงเป็นเพียงความสุขทางจิตใจ ก็เท่านั้น

การกระทำใดๆ ที่หวังให้เกิดการักษาเผ่าพันธูของปลา ในแหล่งน้ำ ประโยชน์ ที่แท้จริงก็จะตกอยู่กับคนหาปลาในพื้นที่นั่นเอง

ละเว้น การจับปลาด้วยเครื่องมือ ตามที่ระบุไว้ในกฏหมาย ปีละ 3 เดือน ก็จะมีปลาให้พวกเค้าได้จับต่อไปอย่างยั่งยืน

ดีกว่าละโมบในวันนี้ แล้วไม่เหลืออะไรเลยในวันข้างหน้า





iiws

ตรงแนวต้นครางนี่แหล่ะครับสุดแนวเขตอนุรักษ์ฯแล้ว เพื่อนๆที่จะมาตกปลาฝั่งนี้ก็สังเกตุต้นคราง กับแท่นปูนให้ดีน่ะครับ หรือง่ายๆเดินเข้าไปแล้วเจอคอกวัวคอกสุดท้ายอ่ะครับ แสดงว่าอยู่นอกเขตแล้ว
หรือยังไม่แน่ใจก็โทรสอบถามได้จากเบอร์ของเจ้าหน้าที่หน่วยฯเลยครับ
คุณ อาคม ดำแดง หัวหน้าหน่วยป้องกันปละปราบปรามฯ เบอร์โทร 086-4151181
คุณ สุธี เทียมเพ็ง นายท้ายเรือหน่วยฯ เยอร์โทร 087-0087063
คุณ มานัส พรหมจาก กลาสีเรือหน่วยฯ เบอร์โทร 082-4956489

ทางเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและปราบปราม ยินดีที่จะให้ข้อมูลทุกๆท่านครับ

เยี่ยมครับน้าโม่ง 

ปล.อยากไปหาของที่ป่าสัก อีกอะคร๊าบน้าโม่ง