Xx รบกวนน้าๆที่เป็นทนาย ปรีกษาหน่อยคะ ด่วนมาก xX: SiamFishing : Thailand Fishing Community
<123
กระดาน
คห. 60 อ่าน 6,603 โหวต 8
Xx รบกวนน้าๆที่เป็นทนาย ปรีกษาหน่อยคะ ด่วนมาก xX
คห.51: 5 ธ.ค. 53, 01:05
เรื่องนี้ เป็นเรื่องขายฝาก
ตามกฎหมายแล้ว การทำสัญญาขายฝาก กรรมสิทธิ์ในที่ดินจะโอนไปยังผู้ซื้อฝาก (เจ้าหนี้) ทันที โดยมีเงื่อนไขเพียงว่า ผู้ขายฝากมีสิทธิ์ไถ่ทรัพย์คืน โดยนำเงินไปชำระให้แก่เจ้าหนี้ภายในกำหนดเวลาตามสัญญาเท่านั้น หากครบกำหนดแล้วผู้ขายไม่ไถ่ กรรมสิทธิ์ในทรัพย์ (ที่ดิน) ก็ตกเป็นของผู้ซื้อฝากโดยสมบูรณ์ ดังนั้น กรณีนี้ผู้ที่จะต้องฟ้องดำเนินคดี (หากตกลงกันไม่ได้) คือ พ่อเพื่อนน้า โดยต้องฟ้องเพิกถอนสัญญาขายฝาก ซึ่งเป็นเรื่องยากตามที่ผมให้ความเห็นมาข้างต้น

การจะเพิกถอนนิติกรรมการขายฝาก ฝ่ายพ่อเพื่อนน้า ต้องนำพยานหลักฐานเข้านำสืบให้ศาลเชื่อได้ว่าพ่อเพื่อนน้าไม่มีเจตนาทำสัญญาขายฝาก ที่ทำไปเพราะโดนเจ้าหนี้หลอกให้ทำโดยเจ้าหนี้บอกว่าจะทำสัญญาจำนอง นอกจากนี้เจ้าพนักงานที่ดินก็ไม่ได้อธิบายให้พ่อน้าฟังเกี่ยวกับการทำนิติกรรมดังกล่าว พ่อเพื่อนน้าอ่านหนังสือไม่ออกจึงไม่ทราบว่านิติกรรมที่ทำเป็นสัญญาขายฝาก

นอกจากนี้ ในส่วนมูลหนี้ ฝ่ายน้าต้องมีพยานบุคคลหรือพยานเอกสาร รวมทั้งพยานแวดล้อมอื่นๆ มานำสืบให้ศาลเชื่อได้ว่า พ่อเพื่อนน้าเป็นหนี้เจ้าหนี้เพียง 90,000 บาท ไม่ใช่ 400,000 บาท ที่เป็น 400,000 เพราะเจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยเกินอัตราเข้าไป มูลหนี้จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่สามารถบังคับได้

ข้อแนะนำเบื้องต้น ผมว่า ฝ่ายเพื่อนน้าควรเจรจาพูดคุยกับเจ้าหนี้ก่อน โดยเอาเรื่องจริงในส่วนหนี้สินมาคุยกับเจ้าหนี้ว่า เป็นหนี้เพียง 90,000 ทำไมถึงเป็น 400,000 ให้เขาอธิบายให้ฟัง ในการไปคุยควรอัดเสียงการเจรจาไว้ด้วย เผื่อใช้เป็นหลักฐานได้ หากเขารับว่าเป็นหนี้จริง 90,000 แต่เขาคิดดอกเบี้ยเพิ่มเนื่องจากไม่ได้จ่ายมานานดอกทบต้นต้นทบดอกจึงเป็น 400,000 บาท  หรือมิเช่นนั้น ก็ลองคุยต่อลองยอดหนี้กันดู เพราะเรากู้เขาจริง 90,000 บาท และไม่ได้จ่ายมานาน ใจเขาใจเรา การให้กู้เขาก็ต้องคิดดอกเบี้ยเป็นธรรมดา คงต้องให้เขาบ้าง แต่หากเขาคิดเกินไปก็ต่อลองและขอผ่อนดู หากตกลงกันได้ก็ให้ทนายทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันให้เรียบร้อย

แต่หากตกลงกันไม่ได้ และประสงค์จะเอาที่ดินไว้ ฝ่ายเพื่อนน้าต้องไปฟ้องเจ้าหนี้ต่อศาล และวัดดวงเอา แต่อย่างไรก็ดีแม้จะมีการฟ้องศาลแล้ว พ่อเพื่อนน้าและเจ้าหนี้ ก็สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยกันที่ศาลได้อีก โดยศาลจะมีคนกลางเข้ามาไกล่เกลี่ยเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายพูดคุยตกลงกัน โดยผู้ไกล่เกลี่ยของศาลจะช่อยหาทางออกให้ทั้งสองฝ่ายเพื่อให้ตกลงกันได้ โดยต่างฝ่ายต่างพอใจ หากตกลงกันไม่ได้อีก ก็ต้องดำเนินคดีกันต่อไป

ที่ให้คำแนะนำมานี้ คงเป็นแนวทางให้น้าได้เห็นและคงเป็นประโยชน์แก่น้าไม่มากก็น้อย อย่างน้อยก็มีแนวทางให้น้าในการตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไร

แต่อย่างไรผมก็เอาใจช่วย ขอให้จบกันได้ หากมีการฟ้องร้องกันก็ขอให้พ่อเพื่อนน้าชนะคดีนะครับ
คห.52: 5 ธ.ค. 53, 01:38

  กรรมมีจริงครับ คนพวกนี้ไม่ได้ตายดีซักคน

ขอให้ได้ที่คืนไวไวครับ   


เป็นผมก้อหมดแม็คครับอย่างมากหก้อแค่พันเดียวแล้วจบ
คห.53: 5 ธ.ค. 53, 07:57
เอาใจช่วยครับ ขอให้ได้ที่คืน
คห.54: 5 ธ.ค. 53, 08:02
เอาใจช่วยครับ 
syndrome(383 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.55: 5 ธ.ค. 53, 11:52
หมดแม็ก...เหมือนกันครับ .....โดยเฉพาะ3จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยแล้ว... ง่ายมากครับ 

    เป็นกำลังใจให้ครับ 
XsteaM(1031 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.56: 6 ธ.ค. 53, 20:54
ต้องขอขอบคุณน้าๆ ทุกท่านมากครับ  หวังว่า ช่วงที่ผมไม่ได้อยู่ (ไปออกทริป)

เพื่อนผมคงได้เข้ามาอ่านแล้ว และ ได้แง่หลายๆแง่ ไปแล้วบ้างครับ

อ้อ  ว่าแต่ว่า  น้าอาราเร่ครับ  เพื่อนผมโทรไปหายังครับ 
arare(573 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.57: 9 ธ.ค. 53, 07:49
อ้างถึง: XsteaM posted: 06-12-2553, 20:54:43

ต้องขอขอบคุณน้าๆ ทุกท่านมากครับ  หวังว่า ช่วงที่ผมไม่ได้อยู่ (ไปออกทริป)

เพื่อนผมคงได้เข้ามาอ่านแล้ว และ ได้แง่หลายๆแง่ ไปแล้วบ้างครับ

อ้อ  ว่าแต่ว่า  น้าอาราเร่ครับ  เพื่อนผมโทรไปหายังครับ 



ยางเรยย..... คับ เป็นห่วงยู่เหมือนกาน 
mr.x(104 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.58: 9 ธ.ค. 53, 15:50
ศาลจะพิจารณาจากหลักฐานกับความชอบทำครับ หากสิ่งที่เกิดขึ้นเบี่ยงเบนไปในทางไม่ชอบทำจงใจหลอกลวงเอารัดเอาเปรียบแม้แต่นิดเดียวก็ผ่านไปไม่ได้หรอกครับ ข้อกฏหมายเป็นแค่หลักการณ์ครับ หมายงั้นเค้ายังต้องมีเครื่องจับเท็จทำไม ขึ้นศาลจริงๆ จะมีอะไรอีกเยอะที่เค้าเอามาพิจารณา ทนายเก่งๆ ก็สำคัญครับ ต้องมี คดีลักษณะนี้เค้าทำกันทั่วบ้านทั่วเมือง ศาลเค้าเบื่อแล้วเปิดมาก็รู้แล้วมันก็คดีต้มตุ๋นเหมือนเดิม  สมัยนี้ชั่วๆ มันเยอะครับแผนการมันก็กอปปี้กันมาทั้งนั้นเหมือนกันไปหมด ถ้าเราไม่ผิดก็ชนะชัว เอาใจช่วยครับ
คห.59: 10 ธ.ค. 53, 00:57
อ้างถึง: mr.x posted: 09-12-2553, 15:50:56

ถ้าเราไม่ผิดก็ชนะชัว


มันไม่มีอะไรชัวร์หลอกครับ คนตัดสินคน ไม่ใช่ตราชั่ง  ยกตัวอย่าง หมู 1 กิโล หากเอาไปชั่งในตราชั่งที่เที่ยงตรง อย่างไร ก็ 1 กิโล แต่หากให้คนใช้สมอง ความนึกคิดในการชั่ง แต่ละคนกะน้ำหนักไม่เท่ากันหลอกครับ บางคนบอก ครึ่งโล บางคนบอกโลครึ่ง หรือบางคนอาจบอก 1 โลตามความเป็นจริง

ทนายความที่ว่าความทำคดีมานานจะรู้กันดีว่าไม่มีอะไรชัวร์ 100% หากพูดกันแบบตรงไปตรงมาไม่หลอกลวงหรือต้มลูกความ เพราะเราไม่ใช่คนตัดสินจะบอกว่าชนะชัวร์คงไม่ได้ มันต้องว่ากันที่พยานหลักฐาน ที่พูดมานี้ผมไม่ได้ไม่เชื่อมันในกระบวนยุติธรรมของเรานะครับ ผมยังมีความเชื่อมั่นอยู่ แต่เท่าที่ดูพ่อเพื่อนน้าเขาเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เพราะคดีแพ่งศาลจะพิจารณาจากน้ำหนักของพยานเอกสาร มากกว่าพยานบุคคล ยกเว้นเอกสารนั้นปลอม เพราะคนสามารถพูดโกหกได้ วันนี้พูดอย่าง อีกวันอาจพูดอีกอย่าง แต่เอกสารหากไม่มีการแก้ไข หรือมีความพิรุธ ศาลจะเชื่อเอกสารก่อน เพราะข้อความเป็นอย่างไรก็อย่างนั้น ผ่านการเวลาไปเท่าไร ข้อความมันก็ไม่เปลี่ยนแปลงเหมือนคำพูดของคน ทั้งพฤติการณ์แห่งคดีพ่อเพื่อนน้าเขาเป็นหนี้เจ้าหนี้จริง (แต่จำนวนหนี้ไม่ตรงกับที่เจ้าหนี้ไปทำสัญญา) และไปทำสัญญาขายฝากกับเขาจริง ผมจึงดูแล้วเรื่องนี้เสียเปรียบเขาครับ

อย่างไรผมก็ยังเอาใจช่วยเสมอนะครับ อยากปรึกษาอะไรผมในเรื่องกฎหมาย ผมยินดีนะครับ
XsteaM(1031 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.60: 11 ธ.ค. 53, 01:26
ขอบคุณมากครับ

ตอนนี้ก็เป็นห่วงเพื่อนผมอยู่เหมือนกันครับ

เงียบหายไปเลย แต่ เค้าคงเปิดมาอ่าน คำแนะนำน้าๆทุกท่านแล้วนำไปเป็นแนวทางบ้างครับ

แล้วไง รอผมกลับจากหาอากาศหนาวให้ตัวเองเสร็จ

จะโทรไปสอบถามดูว่าเป็นอย่างไรบ้างแล้วจะมารายงานให้ทราบครับ

ขอบคุณน้าๆทุกท่านครับ  เพื่อนผมก็คงคิดอย่างนั้นเช่นกัน (แต่ไม่กล้าแสดงตัว) 
<123
ทำการ login ก่อนส่งความเห็น
siamfishing.com © 2024