^.^.. หนีห่าว สยามฟิชชิ่งดอทคอม....^.^: SiamFishing : Thailand Fishing Community
<<<7891011>>>
กระดาน
คห. 383 อ่าน 65,926 โหวต 103
^.^.. หนีห่าว สยามฟิชชิ่งดอทคอม....^.^
คห.251: 1 ต.ค. 53, 08:13

อยากไปนำเด้ อ้ายโตโต้.ตตตตตตตตตตตตตตตตต
คห.252: 1 ต.ค. 53, 08:20
+รอชมครับน้าโตโต้ 
คห.253: 1 ต.ค. 53, 08:29
คห.254: 1 ต.ค. 53, 08:31
หนีห่าวขอรับน้าโตโต้
ดูภาพแล้วเหมือนได้นั่งเครื่องบินไปด้วยจริงๆ
คห.255: 1 ต.ค. 53, 08:33
ไปด้วยครับบบ
คห.256: 1 ต.ค. 53, 08:36
++++ตามมาหนาวด้วยคนจ๊ะ 
tang001(2 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.257: 1 ต.ค. 53, 08:39
neenan(999 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.258: 1 ต.ค. 53, 08:47
+
คห.259: 1 ต.ค. 53, 09:00
ELastiCz(141 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.260: 1 ต.ค. 53, 09:01
ตามชมด้วยจ๊ะ
คห.261: 1 ต.ค. 53, 09:22
fridaynoop(11111 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.262: 1 ต.ค. 53, 09:26
หวัดดีจ้าน้าโตโต้.....ทริปสวยๆขาวๆ  ชอบๆๆๆๆ  ขอตามเป็นลูกทัวร์ด้วยคนคร้าบบบบบบบบบบบบ+

BIG ONE(569 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.263: 1 ต.ค. 53, 09:28
....มีต่ออีกป่าว ครับ กำลังมันเลย

คห.264: 1 ต.ค. 53, 09:36
++++สนุกจริงๆๆงานนี้
phayao(4105 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.265: 1 ต.ค. 53, 09:40

ดูสนุก  ชมเพลินจริงๆครับน้าโต้  จัดมาอีกเรื่อยๆเลยครับ ชอบๆๆๆ 
คห.266: 1 ต.ค. 53, 09:43
+ ครับน้าโต้...อย่าพึ่งหยุด..กำลังมันส์...ต่อเลยครับบบ
คห.267: 1 ต.ค. 53, 09:45
+
acs10842(18 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.268: 1 ต.ค. 53, 09:47
น้าแกตื่นยังก็ไม่รู้ มารอน้าโตโต้ตั้งแต่สายๆเลยครับ   
dewfish(633 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offlineใบดำ
คห.269: 1 ต.ค. 53, 09:58
คห.270: 1 ต.ค. 53, 10:12
หนีห่าวกันอีกรอบ   วันนี้เป็นวันชาต
หนีห่าวกันอีกรอบ  วันนี้เป็นวันชาติจีนครับ  ทักทายรวมๆไปก่อนนะครับ แถมเกร็ดความรู้เรื่องวันชาติจีนให้นิดหน่อยด้วยครับ


1 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันชาติจีน 
คห.271: 1 ต.ค. 53, 10:12
หวัดดีคร้าบบ น้าโตโต้......................
คห.272: 1 ต.ค. 53, 10:14
วันชาติจีน 

       คำว่า “กั๋วชิ่ง(国
วันชาติจีน

      คำว่า “กั๋วชิ่ง&#65288;&#22269;&#24198;&#65289;” ในภาษาจีนหมายถึง กิจกรรมเฉลิมฉลองการสถาปนาประเทศ ปรากฏครั้งแรกในยุคราชวงศ์จิ้นตะวันตก &#65288;&#35199;&#26187;&#65289; ทั้งนี้ สามารถสืบค้นได้จากผลงานประพันธ์ของลู่จี &#65288;&#38470;&#26426;&#65289; นักประพันธ์ที่มีชีวิตอยู่ในยุคดังกล่าว อย่างไรก็ดี การเฉลิมฉลองวันชาติที่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่ กลับไม่ได้มีความสลักสำคัญเท่ากับวันพระราชสมภพ &#65288;&#35806;&#36784;&#65289; และวันขึ้นครองราชย์&#65288;&#30331;&#20301;&#65289; ของกษัตริย์แต่อย่างใด (ในสมัยราชวงศ์ชิงถึงกับขนานนามวันพระราชสมภพว่าเป็น “เทศกาลหมื่นปี” &#19975;&#23681;&#33410;) ดังนั้น ชาวจีนโบราณจึงรวมเรียกวันที่กษัตริย์เสด็จขึ้นครองราชย์และวันพระราชสมภพว่าเป็น “วันชาติจีน” ขณะที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน &#65288;&#20013;&#21326;&#20154;&#27665;&#20849;&#21644;&#22269;&#65289; กลับยึดเอาวันสถาปนาประเทศเป็นวันชาติโดยถือเอาวันที่ 1 เดือนตุลาคมของทุกปี

      ก่อนที่จะมีการกำหนดวันดังกล่าวให้เป็นวันชาติจีนใหม่ ทางคณะรัฐบาลยุคนั้นซึ่งนำโดยประธานาธิบดีเหมาเจ๋อตง      &#65288;&#27611;&#27901;&#19996;&#65289; ได้เตรียมการหลายอย่างเพื่อการนี้ จึงเป็นที่มาของสัญลักษณ์ธงประจำชาติ พิธีการชักธงขึ้นสู่ยอดเสาที่ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณหน้าจัตุรัสเทียนอันเหมิน &#65288;&#22825;&#23433;&#38376;&#24191;&#22330;&#65289; ตลอดจนเพลงชาติและพิธีกรรมต่างๆ ที่ผู้นำจีนใหม่ทุกยุคทุกสมัยล้วนปฏิบัติสืบต่อกันเป็นธรรมเนียม
pound(955 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.273: 1 ต.ค. 53, 10:19
++
คห.274: 1 ต.ค. 53, 10:24
เริ่มจากวันที่ 6–8 เดือนมกราคม ปี ค.ศ. 19
เริ่มจากวันที่ 6–8 เดือนมกราคม ปี ค.ศ. 1949 คณะรัฐบาลกลางร่วมประชุมกันที่เนินเขาซีป๋อ ตำบลผิงซานมณฑลเหอเป่ย  การประชุมในครั้งนั้นมีผู้เสนอญัตติให้มีแถลงการณ์สถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนขึ้นอย่างเป็นทางการ และมีการจัดตั้งรัฐบาลกลางเพื่อร่วมร่างนโยบายบริหารประเทศ นำไปสู่การเปิดประชุมวิสามัญครั้งแรกของคณะบริหารประเทศ ณ กรุงปักกิ่งระหว่างวันที่ 21–29 เดือนกันยายนปีเดียวกัน จากนั้น จึงมีการกำหนดร่างกฎหมายของคณะรัฐบาลให้มีการกำหนดเมืองหลวงของประเทศ ธงประจำชาติ เพลงชาติ ตลอดจนการเริ่มใช้ศักราชจีนใหม่โดยที่ประชุมลงมติให้เหมาเจ๋อตงเป็นผู้นำรัฐบาล และมีจูเต๋อ หลิวเซ่าฉี ซ่งชิ่งหลิง หลี่จี้เซิน จางหลัน และเกากั่งเหวย ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานาธิบดี พร้อมกันนี้ยังมีการเลือกคณะกรรมการบริหารประเทศจำนวน 180 คน

      ทั้งนี้ กว่าที่จะมีการกำหนดใช้ธง 5 ดาวบนพื้นสีแดงดังในปัจจุบัน ทางคณะกรรมการได้เคยประกาศให้ประชาชนทั่วไปส่งผลงานการออกแบบธงชาติจีนตามความคิดของตนโดยไม่มีการกำหนดข้อจำกัดใดๆ ทั้งสิ้น ผลปรากฏว่า เมื่อคณะกรรมการพิจารณาจากผลงานที่เข้ารอบแล้ว ต่างลงความเห็นว่า ธงชาติรูปที่มีด้ามเคียวและขวานบนดาวดวงใหญ่ 1 ดวงกับดาวดวงเล็กอีก 4 ดวงถือว่าเหมาะสมที่สุด แต่เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกับธงชาติของประเทศสหภาพโซเวียต ในยุคนั้นซึ่งอาจทำให้คนทั่วไปเกิดความสับสน ยิ่งไปกว่านั้น ในฐานะที่เป็นประเทศเอกราช ธงชาติจึงจำเป็นต้องมีความเป็นเอกเทศ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้รูปแบบของธงดังกล่าวไม่ผ่านการเห็นชอบจากคณะผู้จัดทำ แต่หลังจากที่เผิงกวงหาน ผู้รับผิดชอบเรื่องการออกแบบธงรายงานต่อประธานเหมาฯ แล้ว ท่านกลับไม่เห็นชอบกับรูปแบบธงชนิดอื่นๆ ที่ผ่านเข้ารอบ เว้นแต่รูปแบบของธงผืนข้างต้น และเสนอให้ลบภาพเคียวและขวานออก จึงเหลือเป็นธงที่มีดาว 5 ดวงบนพื้นสีแดง จากนั้นก็เปลี่ยนมาเรียกเป็น “ธง 5 ดาวบนพื้นแดง”
คห.275: 1 ต.ค. 53, 10:27
 ขณะที่ “เพลงมาร์ชทหารหาญ” หรือเพลงช
ขณะที่ “เพลงมาร์ชทหารหาญ” หรือเพลงชาติของจีนปรากฏครั้งแรกในปี ค.ศ. 1935 โดยมีเถียนฮั่น เป็นผู้ประพันธ์เนื้อร้องและเนี่ยเอ่อ เป็นผู้ประพันธ์ทำนองเพลง เดิมทีใช้เป็นเพลงนำภาพยนตร์เรื่อง “เฟิง อวิ๋นเอ๋อร์หนี่ว์” ซึ่งบรรยายเกี่ยวกับเหตุการณ์หลังวันที่ 18 กันยายน เมื่อลัทธิจักรวรรดินิยมญี่ปุ่นเข้ายึดครองมณฑลเฮยหลงเจียง มณฑลจี๋หลิน  และมณฑลเหลียวหนิง  อำนาจอธิปไตยของประเทศตะวันตกอยู่ในภาวะหน้าสิ่วหน้าขวาน หลังจากที่เถียนฮั่นเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้เสร็จ กลับถูกทางรัฐบาลจับกุม แต่เนื่องจากเนี่ยเอ่อมีความมานะจึงทำทุกวิถีทางเพื่อผลักดันให้ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวออกฉาย หลังจากนั้นไม่นาน เพลงปลุกใจบทนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อต้านการรุกรานจากต่างชาติหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นช่วงเหตุการณ์โค่นล้มเจียงไคเช็ก และการต่อสู้เพื่ออธิปไตยของกองทัพปลดแอก จนสามารถสถาปนาเป็นประเทศเอกราชที่ปกครองภายใต้ระบบสังคมนิยมในที่สุด

      จวบจนปัจจุบัน ต้นเสาที่ใช้ในการเชิญธงชาติจีนขึ้นสู่ยอดบริเวณจัตุรัสเทียนอันเหมินนั้นผ่านการบูรณะเพิ่มเติมเพียงครั้งเดียว กล่าวคือ เสาต้นเดิมที่เหมาเจ๋อตงเป็นผู้เชิญธงขึ้นสู่ยอดเสาเป็นครั้งแรกในวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1949 นั้น มีความสูงเพียง 22 เมตร ต่อมาในวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1991 มีการซ่อมแซมเพิ่มเติม โดยเพิ่มความสูงขึ้นเป็น 32.6 เมตร เหตุที่มีการซ่อมแซมเพิ่มเติมนั้นเกิดจากปัจจัยหลัก 2 ประการ คือ เสาต้นเดิมผ่านการใช้งานนานนับ 42 ปี จึงเกิดการสึกกร่อน ขณะเดียวกัน ช่วงเวลานั้น มีกลุ่มสิ่งปลูกสร้างที่มีความโอ่อ่าและสูงตระหง่านอย่างหอประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติจีน พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ และหอรำลึกเหมาเจ๋อตง ที่สร้างขึ้นใหม่บริเวณจัตุรัสแห่งนี้ ส่งผลให้เสาเชิญธงต้นเดิมมีความสูงลดหลั่นจากสิ่งปลูกสร้างอื่นอย่างชัดเจน ไม่เข้ากับสิ่งปลูกสร้างสมัยใหม่เหล่านี้ เสาต้นใหม่ที่ผ่านการบูรณะสามารถแบ่งเป็น 3 ชั้น เริ่มจากการการปูหยกขาวที่มีความสูง 80 เซนติเมตร ล้อมรอบโคนเสาชั้นใน มีทางเดินเข้าออกด้านซ้ายและขวาที่มีความกว้างขนาด 2 เมตร ชั้นกลางปูด้วยหินลวดลายสีแดงล้อมบริเวณโคนเสาธงโดยรอบ มีความกว้าง 2 เมตรกว่า การใช้สีแดงเพื่อสื่อความหมายถึง “เลือดรักชาติของประชาชนชาวจีน” ชั้นนอกสุดเป็นพื้นสีเขียวที่มีความกว้าง 5 เมตร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเกียรติภูมิแห่งมาตุภูมิ บริเวณทั้งสี่ด้านของแท่นเสาธงจะล้อมรั้วที่ทำด้วยทองเหลือง 56 อัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการร่วมมือร่วมใจของชาวจีนทั้ง 56 ชนชาติ ภายใต้ธงแดง 5 ดาวผืนนี้



ขอบคุณข้อมูล จาก http://blog.eduzones.com/olce/10320 
<<<7891011>>>
siamfishing.com © 2024