กระดาน
รีวิว
ตลาด
ประมูล
เปิดท้าย
เรือ
แหล่งตกปลา
ร้านค้า
ค้นหาข้อมูล
Login
สมัคร
28 พ.ย. 67
มหากาพย์แม่น้ำเพชร ซีซั่น 3 ... แม่ปะดลยอดมงกุฎแห่งความมันส์: SiamFishing : Thailand Fishing Community
<
1
2
3
4
5
>
>>
กระดาน
คห. 274 อ่าน 37,697 โหวต 47
มหากาพย์แม่น้ำเพชร ซีซั่น 3 ... แม่ปะดลยอดมงกุฎแห่งความมันส์
RMUT
(265
)
คห.26: 27 ต.ค. 53, 23:08
และแล้วก็ถึงคิวผมออกแสดง หลังจากมีดเล่มน้อยสร้างปาฎิหารเกิดขึ้นกลางป่า
ไม้มะฝ่อขอนนั้นขาดกลางออกจากกัน หน้าที่ของผมก็คือขึ้นไปขย่มให้จมลงน้ำเพื่อให้เรือขับผ่านไปได้
......เสียงหัวเราะขำกระจายปนเสียงเฮ เมื่อขอนขวางทางด้านผมพังลงน้ำทันทีแค่ผมขย่มไปแค่สามที
ขบวนการผจญภัยเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งพร้อมรอยยิ้ม
RMUT
(265
)
คห.27: 27 ต.ค. 53, 23:08
พรุ่งนี้มาเดินทางต่อกันใหม่ครับ
RMUT
(265
)
1
คห.28: 4 พ.ย. 53, 20:39
เย็นวันแรกคณะทัวร์ลำบากของพวกเรายึดได้ร่องห้วยเก่าๆริมหน้าผา ปากทางเข้ารกบดบังไปด้วยเถาวัลย์ไม้เลื้อยและกออ้อ
มันเป็นทางสามแพร่งพอดิบพอดี พวกเราขนเสบียงและข้าวของยังชีพเข้ายึดเป้าหมายอย่างรวดเร็ว
สายฝนยังคงโปรยปรายยังไม่ยอมหยุด ความรีบเร่งแข่งกับแสงสว่างที่โรยราไปอย่างรวดเร็ว
กองไฟถูกก่อขึ้นอย่างว่องไว ผ้าหลังคาขึงพาดผ่านยึดไว้กับต้นตะเคียนทั้งสี่ด้าน
ผมเปิดเหล้าไว้เจ้าที่เจ้าทาง เยื้องออกไปทางด้านทิศตะวันออก กองไฟถูกก่ออยู่ใต้ผืนผ้าใบผืนใหญ่เพื่อกันน้ำค้างและสายฝน
กองไฟถูกก่อขึ้นสองกอง ก่อบนเนินเตี้ยๆข้างร่องห้วยใกล้ๆกับแคมป์ และ ก่อขึ้นในร่องห้วย แถมด้วยขึงเปล
และผ้าใบขวางร่องห้วยอีกต่างหาก
RMUT
(265
)
คห.29: 4 พ.ย. 53, 20:42
บรรยกาศเงียบเหงาวังเวงมืดมิดอย่ารวดเร็ว เพียงแค่ครึ่งชั่วโมงที่เรามาถึงทุกๆอย่างรอบด้านก็มืดมิดสนิทใจ
โชคดีที่ชุดนี้แต่ละคนเป็นงานกันทั้งนั้น ไม้ฟืนอย่างดีที่พี่ชลรื้อเอามาจากแคมป์ของพวกลากหวายถูกฟันซอยเป็นลูกไม้
แจกจ่ายออกมาให้ก่อฟืนกันอย่างว่องไว ยิ่งได้อ๊อกเทนจากน้ำมันเบนซิน ยิ่งติดเร็วขึ้นเป็นเท่าตัว
ผมช่วยพี่โจทำกับข้าว พวกเด็กๆช่วยกางเต็นท์ตั้งแคมป์ กางผ้าใบ สุดแล้วแต่ใครจะหยิบจะฉวยช่วยงานอะไรกันได้ก็ทำกันไป
ทุกอย่างแข่งกับเวลาแข่งกับความหิว ความเหนื่อยล้า ความอ่อนเพลีย ชั่วระยะเวลาไม่นาน
ข้าวก็สุกหอมกรุ่นเต็มหม้อ มื้อเย็นวันแรกพวกเรามี ไก่ย่าง ไข่เจียว ใส้กรอกทอด ประทังความหิว
กับข้าวง่ายๆปรุงแบบลวกๆมันช่างอร่อยเสียเหลือเกิน
หลังจากกินข้าวกันตายผ่านไปพวกเรามานั่งล้อมวงกินเหล้ากันอย่างออกรส
โปรแกรมวันพรุ่งนี้ถูกตั้งขึ้นโดยเป้าหมายที่แท้จริงแล้วพวกเราจะต้องไปพัก
ตั้งแคมป์ที่ "ห้วยแห้ง" แต่ไอ้เจ้าขอนไม้เจ้ากรรมทำเราเสียเวลาจนทำให้พวกเราไปกันไม่ถึง
RMUT
(265
)
คห.30: 4 พ.ย. 53, 20:45
บรรยกาศรอบๆที่พักคืนนี้มันผิดแปลกแตกต่างไปกับที่ๆผมนอนตั้งแคมป์เวลาที่เที่ยวป่า
อากาศข้นหนักของใบไม้ทับถมกันในร่องห้วย เห็ดราที่ขึ้นทำให้พวกเราหายใจกันไม่สดวกนัก
คืนนี้ป่าทั้งป่าเงียบสนิท ไม่มีเสี่ยงจักจั่นเรไรลองไน หรือเสียงสัตว์จตุบาท ทวิบาท
ชนิดใดกล้ำกลายเข้ามาในรัศมีที่เราพอจะได้ยินเสียงเลย "อาถรรพ์" ของป่าลึก ที่นักผจญภัยเมืองกรุงอย่างผมไม่เคยพบ
เหมือนมันมีอะไรมาบีบคั้นหัวใจและประสาทสัมผัสบางส่วนเอาไว้ คงมีแต่เสียงน้ำค้างร่วงหล่นลงบนหลังคาผ้าใบ
คงมีแต่เสียงน้ำไหลเซาะแก่งหินเท่านั้น จะหาฟังสรรพสำเสียงเสียงธรรมชาติแบบปกติไม่ได้เลย
ผมมองแหงนหน้าสูงขึ้นไปมองหาหมู่ดาวก็หาไม่ได้ ดงตะเคียนขึ้นสูงแผ่ขยายบดบังดวงดาราเสียหมด
RMUT
(265
)
คห.31: 4 พ.ย. 53, 20:48
ตะเกียงเจ้าพายุของกำนันต้อคงเป็นเพียงแสงสว่างแสงหลักดวงเดียวของแคมป์ยาจก ของเราคืนนี้
มันให้แสงสว่างได้ดีในรัศมีแคมป์ของเรา ผมมองออกไปในรอบๆแคมป์รอบๆด้าน
สำรวจดูทางหนีทีไล่ก่อนที่จะหลับนอนตามคำสอนที่ได้ร่ำได้เรียนมา
ทิศเหนือเป็นทางน้ำ ทิศตะวันออกเป็นเนินเตี้ยๆลาดลงสู่แก่งน้ำ
ทิศตะวันตกเป็นหน้าผาหินสูงชันแหงนคอตั้งบ่า ทิศใต้เป็นป่ารกชัฎลาดขึ้นที่สูง
เต็นท์เรากางอยู่บนด้านทิศตะวันออก ผมพอที่จะคำนวนภูมิประเทศและทางออกฉุกเฉินได้บ้าง
สิ่งที่เราจะต้องระวังตัวกันขีดสุดคือ น้ำป่าหลาก วันนี้ทั้งวันฝนตกหนักมากตกๆหยุดๆ น้ำในลำน้ำเริ่มขุ่น
ก่อนนอนพี่โจชวนลงไปที่จอดเรือ พวกเราข่วยกันเอาหินทำระยะของน้ำเอาไว้
ก้อนแรกตั้งเอาไว้ที่ชายน้ำ
ก้อนที่สองขยับขึ้นมาอีกสองศอก
ก้อนที่สามขยับขึ้นมาอีกหนึ่งวา
ที่ทำอย่างนี้เพื่อที่เวลาตื่นขึ้นมากลางคืนจะได้สำรวจและคำนวนปรมาณน้ำได้ทัน
พี่โจบอกว่าถ้าหากน้ำขึ้นมาเกินหินก้อนที่สอง พวกเรามีเวลาเก็บของเตรียมตัวหนีน้ำได้ทันเวลา คืนนี้คงต้องตื่นมาดูน้ำกันทั้งคืน
RMUT
(265
)
คห.32: 4 พ.ย. 53, 20:50
พี่ทิด พี่หนุ่ม และพี่แจ๊คหลังจากที่ดวดเหล้ากันเต็มคราบก็ชวนกันออกไปส่องไฟจับกบ
หวังว่าจะหามาเป็นเสบียงอาหารเพิ่มให้กับคณะเดินทาง มืดก็มืด หนาวก็หนาว น้ำก็แรง ใจยังเกินร้อยออกไปลุยกันต่อ
เสียงคุยในแคมป์เริ่มสร่างซาลงไปหลังจากคณะเดินทาง
ตัวกลั่น ตัวต้ม ตัวกรอง ตัวหมัก ดื่มเหล้ากันอย่างเต็มที่ความง่วงและความเพลีย ความเมาเข้ามาเยือน
เสียงคุยเริ่มห่างหายออกไป พวกเด็กๆเข้าเต็นท์ไปนอนแล้ว กำนันต้อเข้ายึดเปลของผมนอนเงียบเสียงไปนานแล้ว
พี่ชลเข้านอนในเต็นท์ของพี่นัย คงเหลือ ผม พี่โจ พี่นัย นั่งสุมไฟใส่ฟืนคุยฆ่าเวลารอพวกที่ไปจับกบกลับมา
เราสามคนพูดถึงเรื่องบรรยกาศรอบๆแคมป์ในคืนนี้ และก็การผูกเปลนอนขวางร่องห้วยของเจ้ามืด
แถมก่อไฟบนน้ำอีก ว่าเป็นการวางที่วางทางที่ผิดหลัก
RMUT
(265
)
คห.33: 4 พ.ย. 53, 20:52
ผมทนรอพวกจับกบไม่ไหวขอตัวเข้ามานอนก่อนก็ร่วมๆเที่ยงคืนจะได้แล้ว
ตะเกียงเจ้าพายุเริ่มแดงอ่อนแสงกำลังเคลิ้มๆหลับ เสียงพี่โจบอกว่าพวกจับกบกลับมาแล้ว
ผมหมดกังวลห่วงเพื่อน สำรวมจิตใจแล้วก็หลับลงไปในระยะเวลาไม่นานกว่าน้ำค้างจะหยดลงมาสู่พื้นดิน
คืนนั้นทั้งคืน ผมนอนหลับสบายโดยไม่มีอะไรแพ้วพานเลย .....
RMUT
(265
)
คห.34: 4 พ.ย. 53, 20:55
อาหารมื้อเช้าวันนี้พวกเรามีไก่ย่างเอามาฉีกรวนเค็ม กุนเชียงทอด ไข่เจียว มาม่าต้ม
กินตุนเอาแรงไว้เผชิญโชคกับความยากลำบากกันต่อไป ระหว่างอาหารมื้อเช้ามีคำถามที่ไม่น่าจะได้ยินคำถามนี้เลย
"เมื่อคืน เสียงใครร้อง" พี่นัย ถามขึ้นเป็นคนแรก
" กูก็ได้ยิน ผมก็ได้ยิน ข้าก็ได้ยิน" แทบทุกคนได้ยินกันหมด
ทุกคนลงความเห็นกันว่าดังมาจากทางด้านเต็นท์ผม แต่ก็แปลกในเต็นท์ผม เล็ก บุญเหงิบ ผม พี่โจ ต่างไม่มีใครได้ยินเสียง
แต่ทุกคนที่นอนด้านนอก ลงความเห็นว่าได้ยินเสียงหมด
" กูได้ยินแน่นอน หูไม่ฝาดหูไม่ผิด" พี่นัยยังยืนยัน ว่าเมื่อคืนต้องมีคนร้อง
" มันร้องแบบวิ่งหนี หรือ สู้อะไรอยู่ " พี่ชลสำทับมาอีกที
" เอาไว้ถึงบ้านแล้วค่อยเล่า" พี่โจ ตัดบทสั้นๆทิ้งไว้แต่ปมปริศนาให้สงสัยไว้แค่นั้น
ทีนี้เป็นคิวน้องมืดบ้าง
" พี่ๆ เมื่อคืน ผมว่าผมโดนแน่ๆเลย " น้องมืดพูดน้ำเสียงจริงจัง
" ผมนอนเคลิ้มๆเห็นเด็กผู้ชายมันวิ่งลอดใต้เปล วิ่งลอดไปลอดมา ผมหลับๆตื่นๆ มันวิ่งลอดไม่พอ
มันมาโยกเปลผมอีก ตื่นมาดูเปลก็ไม่ไหว พอหลับตาจะนอนมันมาอีกแล้ว
จนทนไม่ไหวด่ามัน.......มึงจะมาแกว่งทำไม มันถึงจะไป .....
" ผม พี่นัย พี่โจ " หันหน้ามามองกันทันที ก่อนผมนอนก็มองเห็นอาการไอ้มืดมันนอนกระสับกระส่ายยังไงพิกล
แต่พวกเราก็ไมได้คิดอะไรเพราะเตือนเอาไว้แล้ว
" ดีนะที่มึงยังเจอเป็นเด็ก ถ้าเจอแบบโตๆแล้วไล่ก็ไม่ไปจะทำยังไง ทะลึ่งนัก ไปนอนขวางร่องห้วย
ก่อไฟบนน้ำ ขวางทางสามแพร่ง อะไรที่ห้ามแม่งทำหมด ถ้าไม่โดนก้ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว" พี่โจ บ่นออกมา ท่าทางไม่สบายใจ
RMUT
(265
)
คห.35: 4 พ.ย. 53, 20:58
มาถึงนี่แล้วยังไงก็ไม่มีถอยยังไงก็ศิษย์มีครูกันแทบทุกคน เชื่อว่ายังไงก็สามารถจะเอาตัวรอดกันได้
แม้ว่าจะวัยรุ่นกันอยู่ก็ตาม อำนาจลี้ลับอาถรรพ์ของป่าลึก จะมาอยู่เหนือจิตใจแห่งการเดินทางเป็นไม่ได้ .....
ยังไงก็ต้องไปต่อ เพราะผมไม่ยอมนอนที่ห้วยนี้เป็นคืนที่สองเป็นแน่แท้
ปล่อยให้เรื่องราวของเมื่อคืนยังคงสะกิดหัวใจของทุกๆคนเข้าไว้ ก้มหน้าก้มตาลุยกันต่อไป
RMUT
(265
)
คห.36: 4 พ.ย. 53, 21:00
พวกเราเร่งรีบกินข้าวเก็บข้าวของในแคมป์ให้เรียบร้อย ผมลงไปวิดน้ำเรือ
เมื่อคืนเรือทุกลำเอาเครื่องขึ้นบกหมดเพราะว่าเรือทุกลำแตกรั่วกันหมด
เรือผมหนักสุดจมไปทั้งลำต้องกู้ขึ้นมาวิดน้ำปะเรือกันหน่อย
เรือเจ้ามืดที่ว่าไม่รั่วๆ เรือมันไม่รั่วจริงๆเรือมันแตกรอยใหญ่มาก ขนาดต้องเอาข้าวสารห่อผ้าอุดแล้วตีไม้ทับอีกที
กว่าจะเก็บข้าวของออกจากที่พักได้ก็ปาไปสิบโมง เวลามันช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน การเดินทางที่แสนโหดร้ายเริ่มขึ้นอีกครั้ง
RMUT
(265
)
คห.37: 4 พ.ย. 53, 21:02
เสียงเรือดังลั่นไปทั้งราวป่า เครื่องยนต์ฮออนด้าดังสะท้านขุนเขา.......ปัง ....ปัง .....ปัง
เสียงท่อไอเสียระเบิดแสนไพเราะเสนาะหู วันนี้น้ำหนักในเรือเบาขึ้นมามากทำให้การเดินทางของพวกเราไปได้เร็วขึ้นเยอะ
แต่ก็มีอุปสรรค์หลายๆทางมาเป็นขวากหนามให้พวกเราได้ตื่นเต้นสนุกสนานกันตลอด ระยะทาง
ใบพัดเรือที่ใช้กันมาอย่างหนักหน่วงเริ่มสั่นคลอน เริ่มบิ่นไปตามความไกลของระยะทาง
บางลำใบพัดหัก ใบหลุด กลางแก่ง ระหว่างโค้ง ต้องโดดลงน้ำจูงเรือเข้าฝั่งก่อนที่เรือจะขวางน้ำ
บางลำต้องเสียเวลางม เพราะเหลือใบเดียว เนื่องจากเมื่อว่าเปลี่ยนใบสำรองไปแล้ว
RMUT
(265
)
คห.38: 4 พ.ย. 53, 21:04
เรือผมไม่เสียใบจักรเลยสักใบตลอดขาขึ้นเมื่อวาน เรือพี่แจ๊คเปลียนไปแล้วสองใบ ต้องมาขอใบสำรองใบที่สามจากเรือลำผม
พี่โจก็ดันให้ไป ลืมไปคิดว่าเรือลำตัวเองมีใบสำรองมาอีก ระหว่างจอดพักครื่องพวกเด็กๆประกอบคันเบ็ดพายเรือตีตามแก่ง
วาดฝันปลาล่าเหยื่อตัวสวยที่พวกเค้าหวังกันเอาไว้ แต่แล้วก็เหมือนถูกผมหลอกมาเที่ยว ระยะเวลาเกือบๆชั่วโมง
ไม่มีปลาตัวใดมาฉวยเหยื่อเลย แต่กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้จิตใจห่อเหี่ยวลงแต่อย่างใด
พวกเด็กๆบอกว่าการเดินทางครั้งนี้ตกปลาเป็นของแถม มาถึงตรงนี้ความสนุกมันมากล้นเกินแล้ว
ผมได้ยินคำนี้ก็ดีใจ พวกเด็กๆเก็บเบ็ดติดเครื่องเรือมุ่งหน้าเดินทางกันต่อ
RMUT
(265
)
คห.39: 4 พ.ย. 53, 21:06
หนทางช่างยาวไกล ไม่รู้กี่พันแก่ง กี่หมื่นโค้ง ที่พี่โจและพี่ทิดช่วยกันพยุงเรือไม้ลำน้อยลำนี้รอดผ่านมาได้
เหมือนผมกำลังท้ายทายธรรมชาติ ท้าทายพระเจ้า ดั้นด้นเข้าไปในดินแดนที่ไม่น่าจะย่างกรายเข้าไป
แต่ในความเป็นจริงก็น้อยคนนักที่เดินทางขึ้นมาไกลจนถึงที่นี้
จุดหมายของเราตอนนี้คือ ห้วยแห้ง .....
หากมีเวลาเดินทางเหลือ จะเดินทางต่อไปตั้งแคมป์ที่ห้วยเต่าดำ หรือ ยาวไปไกลจนห้วยสีเสียดก็เป็นได้ .......
RMUT
(265
)
คห.40: 4 พ.ย. 53, 21:08
เรือไม้โกโรโกโสของผมกำลังเร่งเครื่องเต็มเหยียดหวังจะทวนน้ำเลี้ยวโค้งหักศอกให้พ้นตอตะเคียนจมน้ำตอนี้ให้ได้
พี่โจเสื้อหัวเรือเข้าซ้ายเบียดตลิ่ง ยกหางดันเข้าหวังจะให้เข้าโค้งเบียตอให้ได้ แต่แล้วภาพที่ผมต้องจำไปอีกนาน
ใบพัดเรือยกอยู่กลางอกกาศกำลังเลี้ยงรอบเครื่องรอบจัดอย่างเต็มที่ ผมมองเห็นภาพเดียวกับพี่โจในเสี้ยววินาทีนั้น
ใบพัดหลุดออกจากหาง หมุนควงตัดเถาวัลย์ลอยเข้าป่าไปในทันที มันกระดอนหินตกลงน้ำเห็นคาตา
ดั่งงูโดนตีขนดหาง เรือลำผมไม่มีหางเสือหัวเรือเบนเข้าหาตอทันทีที่เรือหมดกำลังจากเครื่อง
ท้ายกำลังจะงัดกับหินเรือจะขวางน้ำกลางลำ พี่ทิดโดดลงน้ำตูม เอาตีนยันตอตะเคียนเอาหลังยันเรือ
แยกเขี้ยวออกด้วยความเจ็บปวด พี่โจโดดลงเรือทางด้านท้ายยึดท้ายเรือให้สู้น้ำไว้ไม่ให้ขวาง ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
พี่ทิดกลับตัวจูงหัวเรือแปะตลิ่งได้ทันท่วงที แล้วผมช่วยอะไร ผมนั่งวิดน้ำเรือเหงื่อแตกต่อสถานะการณ์ที่รวดเร็วไม่กี่วินาที
RMUT
(265
)
คห.41: 4 พ.ย. 53, 21:09
พวกเราสามคนช่วยกันงมหาใบจักรเรืออยู่นานสองนาน สุดท้ายก็หาไม่เจอไม่มีใบสำรอง
ไม่รู้ต้องไปอีกไกลแค่ไหนกว่าจะถึงที่พักกว่าจะเจอเพื่อน เราสามคนกลายเป็นเรือลำสุดท้ายที่ซวยที่สุด
แต่หวังว่าคงจะอีกไม่นานเพื่อนคงจะผิดสังเกตุวิ่งลงมาตาม เราสามคนต้องช่วยกันลากเรือทวนน้ำขึ้นแก่ง
ขึ้นวังกันอย่างทุลักทุเล น้ำเย็นไหลแรง เชี้ยวกราก พี่ทิดลากหัว ผมลากกลาง พี่โจลากหาง
กว่าจะผ่านไปแต่ละแก่งเล่นซะน้ำลายเหนียว พอถึงวังน้ำลึกพี่ทิดขึ้นหัวเรือพายไป ผมเกาะกลางลำเรือลอยตัวตามไป
พี่โจคร่อมท้ายเรือ เอาตีนพุ้ยน้ำช่วยประคับประคองกันไป " เหนื่อยแสนสาหัส " แต่พวกเราสามคนก็ยังยิ้มได้
RMUT
(265
)
คห.42: 4 พ.ย. 53, 21:11
พอถึงแก่งตื้นเราสามคนลงเรือลากไปตามจุดที่นัดไว้ ไอ้แก่งนี้มันมหาโหดเสียเหลือเกิน ทางน้ำไหลประมาณ สี่แมตร
เบียดแคบเหลือเมตรกว่า แก่งสูงชัน แถมมีไม้ล้มขวางทางอีก พวกเราจูงกันลากกันเลือดตาแทบกระเด็น
เรี่ยวแรงปานไหนถูกเค้นออกมาจนสุด พี่ทิดหัวเรือแรงหมดเป็นคนแรก ลอยกระเด็นตามน้ำมากระแทกผม
แกหลุดลงร่องน้ำไหลแรงจับต้นไม้ยึดเข้าฝั่งไว้ได้ ผมหลุดออกจากเรือเป็นคนที่สองเพราะสิ้นแรงเต็มที หลุดมาปะทะพี่โจเต็มๆ
ผมจับกอตะใคร้น้ำ หรือดงหนามก็ช่างมัน ลากตัวเองขึ้นฝั่งไว้ก่อน หันมามองพี่โจ ที่กำลังคับขันกำลังดันท้ายเรือ
ประคองให้หัวเรือไม่ขวางกลางน้ำอย่างสุด ชีวิต ผมมองเห็นแกแยกเขี้ยวฟันขาวอย่างคนใจสู้
พี่ทิดที่ประคองตัวได้ก่อน ไว้ทายาทกระโดดจับหัวเรือได้ทันเวลา ผมกลับเข้าประจำตำแหน่งอีกครั้ง พวกเราช่วยกันลากไป
RMUT
(265
)
คห.43: 4 พ.ย. 53, 21:14
ความเหนื่อยไม่ต้องพูด แทบจะไม่มีเสียงออกมาจากลำคอ ผมยกแกลลอนเหล้ากรอกใส่ปากเสียสามสี่อึก
ให้ร่างกายร้อนวูบวาบดังเดิมก่อนที่ตะคริวจะกินขาเพราะความหนาวเย็นและออก แรงมาก
อีกด่านที่เราจะต้องเจอคือ ยกเรือข้ามขอนไม้ อันนี้ไม่ยาก แต่โค ต ร จะเหนื่อย
เสียงพี่โจด่าพวกที่ไม่ยอมลงมาตามขโมงโฉงเฉง ยกเรือข้ามขอนมาได้สักพัก
ก็ได้ยินเสียงเพื่อนกู่เรียกโหวกเหวก .......และแล้วก็มาถึง "ห้วยแห้ง" เป็นเวลา 13.00 พอดิบพอดี ........
RMUT
(265
)
คห.44: 4 พ.ย. 53, 21:15
เราขับเรือลอดซุ้มไม้มาตลอดทั้งสองวัน เส้นทางของการผจญภัยโดยแท้ ........
เถาวลัย์เกี่ยวหงายท้อไปไม่รู้กี่ที โดนหนามบาดหมือบาดหน้าไม่รู้เท่าไร
ไหนจะมดกัดอีก ........โหดมากมาย ...... มันส์แท้ ...
RMUT
(265
)
คห.45: 4 พ.ย. 53, 21:15
มาขึ้นแก่งที่นี่ ............ลืมแม่น้ำเพชรไปได้เลย ............... สุดยอด ...แห่งความดิบ ......
RMUT
(265
)
คห.46: 4 พ.ย. 53, 21:16
RMUT
(265
)
คห.47: 4 พ.ย. 53, 21:16
RMUT
(265
)
คห.48: 4 พ.ย. 53, 21:16
RMUT
(265
)
คห.49: 4 พ.ย. 53, 21:17
แก่งนี้แวะตีกันสักพัก .............กว่าจะมาถึงแก่งนี้ได้ .......... หนามล่อไปทั้งตัว .....
RMUT
(265
)
คห.50: 4 พ.ย. 53, 21:17
<
1
2
3
4
5
>
>>
siamfishing.com © 2024