พื้นฐาน ชิงหลิว: SiamFishing : Thailand Fishing Community
<12
กระดาน
คห. 314 อ่าน 252,439 โหวต 129
พื้นฐาน ชิงหลิว
mok(7679 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.26: 28 ธ.ค. 51, 23:57
หมวก.....บางทีร่มก็ยังเอาไม่อยู่ก็ต้
หมวก.....บางทีร่มก็ยังเอาไม่อยู่ก็ต้องอาศัษหมวกเป็นที่พึ่ง
mok(7679 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.27: 29 ธ.ค. 51, 00:01
ด้ามจับแบบต่างๆๆ.....
สำหรับพื้นฐานเล
ด้ามจับแบบต่างๆๆ.....
สำหรับพื้นฐานเล็กๆน้อยๆๆสำหรับผู้เริ่มต้นน่าจะพอได้เกล็ดเล็กๆๆน้อยๆๆบ้าง
หากน้าๆๆท่านใดเห็นว่ายังขาดข้อมูลพื้นฐานอื่นที่ควรรู้
กรุณาลงเพิ่มเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับผู้เริ่มต้นด้วยก็จะดีมากเลยครับ....
mok(7679 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.28: 29 ธ.ค. 51, 22:58
ผมมีปัญหาถามน้านิดอ่ะครับ  คือผมตั้งทุ่นแบบบาลานท์หน้าดิน (ตั้งจากที่บ้าน)


ไงมาแค่นี้เนี๊ยแต่ไม่เป็นไร....นี่ก็เป็นเรื่องที่เราเจอได้บ่อยๆๆครับ....ผมเดาว่าสาเหตุน่าจะมาจาก....
1. น้ายังร่นทุ่นไม่ถึงระดับผิวน้ำจริงๆๆ เพราะถ้าทุ่นตั้งได้บาลานซ์แล้วเมื่อเพิ่มน้ำหนักเหยื่อตาเบ็ดต้องถ่วงทุ่นจมลงเท่านั้น
เรื่องนี้แก้โดยการร่นลายสต๊อปเปอร์ให้สูงขึ้นครั้งละประมาณสองช่องสีของทุ่นตัวนั้น
2. สายเอ็นอาจพันกับลายสต๊อปเปอร์ทำให้ทุ่นจมลอง...
เรื่องนี้แก้ไขโดยการดูสายเอ็นตรงจุดลายสต๊อปเปอร์ก่อนส่งเหยื่อ
3. พื้นบ่อเป็นหลุม....วิธีตรวจดูคือส่งเหยื่อไปด้านข้างๆๆดูว่าลึกกว่าหรือเปล่า
วิธีแก้ไข ร่นทุ่นขึ้นไปอีก เพื่อที่จะไม่ต้องสนใจว่าดินใต้บ่อจะเท่ากันหรือเปล่า
หวังว่าจะตรงกับที่น้าสงสัยอยู่ครับ
mok(7679 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.29: 29 ธ.ค. 51, 23:00
น้าม๊กครับที่เสียบทุ่นแบบมีลายสต๊อบในตัวหาซื้อได้ที่ไหนครับแนะนำหน่อยครับ


สวัสดีครับน้าเอก....ในกทมผมเคยซื้อที่ร้านฟิชชิ่งโกครับ และร้านที่แม่สาย....ที่อื่นยังไม่เคยเจอครับ
mok(7679 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.30: 7 ต.ค. 52, 20:24
สวัดดีครับน้าผมอยากทราบว่าผมอยากลองเล่นชิงหลิวบางแต่ไม่มีความรู้เลยเลยอยากทราบว่าควรจะเริมต้นยังไงและราคาคันละเท่าไหล่และคันขนาดไหนน้าผู้รูช่สยกรุณาตอบด้วยครับ  ขอบคุณ


สวัสดีครับน้า โทษทีเข้ามาตอบช้ามัวแต่ไปพเนจรอยู่      ตอนที่ผมเริ่มก้อเริ่มจากการลองตั้งทุ่นก่อนครับ เพราะทุ่นคือเครื่องมือสื่อสารอาการที่ปลาเข้าเหยื่อ ถ้าพอมีเวลาลองไปบ่อที่มีน้าๆๆนั่งหลิวอยู่ หลังจากนั้นก็ลองหาซื้อคันระย 3.6 ที่ราคาเบาๆๆมาลองดูก่อนว่าเข้าทางชอบใจจริงๆๆแล้วค่อยมองหาคันที่ดีขึ้น เช่น เบาหรือวัดได้เร็วก็แล้วแต่ชอบแล้วละครับน้า...........
ลองดูขอให้สนุกกับการนั่งจ้องทุ่นเพื่อชิงจังหวะกลางแดดครับ 
mok(7679 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.31: 7 ต.ค. 52, 20:26
สงสัยผมต้องเปลื่ยนมา ลองเล่นหลิวบ้างแล้ว น้าม๊กช่วยสอนผมด้วย  แล้วต้องใช้งบประมาณ เท่าไร่ล่ะน้า  แล้วซื้อได้ที่ไหน  น้า


วัดดีน้าต้น นั่งหลิวมันต้องอดทนถ้าน้าชอบฝึกความอดทนวันหลังเราไปหลิวกัน......


ขอบคุณน้าๆๆทุกท่านที่แวะมาอ่านครับ..................
ดีใจจังที่พอมีประโยชน์บ้าง...............
mok(7679 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.32: 21 ธ.ค. 52, 20:44
ยะ ใช้ขอเดียว หรือสองขอ แบบไหนปลากินดี กินไว ไม่ระแวงกว่ากันครับ เพราะแถวเชียงใหม่ สองขอ เป็นหลักครับ แล้วก็ถ้าเราตั้งทุ่นแบบบาลานซ์กลางน้ำ ทุ่นมันชอบไหลออกซ้าย ออกขวาน้ามีวิธีแก้ไหมครับ หรือมันเป็นของมันอยู่แล้ว ขอบคุณครับน้า   



เรื่องตัวเบ็ดเนี๊ยไม่มีข้อยุติว่าอันไหนดีกว่า..........โดยส่วนตัวแล้วเมื่อตอนเริ่มหลิวผมเองก็ใช้สองเบ็ดเหมือนกัน แต่ที่หลังๆๆเปลี่ยนมาใช้เบ็ดเดียวเพราะผมใช้ทุ่นที่เบามากๆๆถ้าใช้เบ็ดสองตัวต้องเปลี่ยนทุ่นให้เพิ่มแรงยกผมไม่ชอบเลยเปลี่ยนครับ.........แต่ตามที่เคยใช้มาสองเบ็ดก็มีโอกาสเพิ่มขึ้นมากกว่าแน่นอน..........แต่หลังๆมาที่กรุงเทพเห็นแต่ใช้เบ็ดเดียว..........สองเบ็ดก็ไม่แปลกหลอกครับ
ส่วนเรื่องที่ว่าทุ่นมักไหลไปทิศตรงข้ามกับที่กระแสลมพัด ก็อธิบายได้ว่าถ้าบนผิวน้ำลมพัดไปทิศทางเดียวกันตลอดไม่ค่อยเปลี่ยนลมจะพัดผิวหน้าน้ำให้ดันไปเรื่อยๆๆจนน้ำปะทะตลิ่งแล้ว ใต้ผิวน้ำกระแสน้ำจะดันไปทิศตรงข้าม เช่น ลมพัดจากซ้ายไปขวาแต่ใต้น้ำจะดันจากขวามาซ้าย
แต่ถ้าทุ่นไหลโดยไม่มีลมพัด เท่าที่เจอมาคือ ผิวหน้าดินลาดเอียงหรือเป็นหลุมเป็นแอ่งทดสอบโดยการโยนเหยื่อไปทางขวาระดับน้ำไม่เท่า
ถ้าทดสอบแล้วพื้นน่าจะใกล้เคียงกันไม่มีหลุม การที่ทุ่นไหลเอียงๆๆอาจเป็นไปได้ว่ามีปลาจิ้วมาตอดเหยื่อแล้วดุนก้อนเหยื่อไปเรื่อยๆๆ
ถ้ามีปัญหาเรื่องลม.........ผมใช้วิธีใช้ทุ่นดอกใหญ่ๆๆแต่ถ่วงตะกั่วให้ทุ่นจมลงให้บาลานซ์แล้วมช้เหยื่อก้อนเล็กหน่อยที่นี้เมื่อทุ่นดอกใหญ่เช่นเบอร์ 4 หรือ 5  พอส่งทุ่นไปทุ่นจะมีน้ำหนักพอที่ต้านลมได้พอทุ่นลงน้ำตะกั่วที่ถ่วงไว้เยอะจะถ่วงทุ่นให้ตั้งแทบจะทันทีที่นี้ผมใช้เหยื่อก้อนเล็กไม่ใหญ่มากปลาจะเข้าเหยื่อโดยไม่ระแวงและลมที่พัดแรงๆๆจะไม่ทำให้ทุ่นไหลไปมาครับ ..........ลองดูครับน้าลองดู
mok(7679 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.33: 21 ธ.ค. 52, 20:53
ผมขอถามการใช้สายผูกกับคันหลิวด้วยครับ  เช่นหลิวยาวขนาดนี้ควรใช้สายขนาดกี่ปอนด์ แล้วสายควรยาวเท่าไหร่



จริงๆแล้วขนาดของสายเมน(เส้นที่ผูกจากปลายไหมถึงลูกหมุ่น )ขึ้นอยู่กับคันเบ็ดนั้นๆๆเช่นคันที่แข็งมากๆๆเราก็สามารถใช้สายที่ปอน์ดมากขึ้นได้นิดหน่อยแต่ผมไม่เคยใช้เกิน 10 ปอน์ด
ความยาวควรจะผูกสายเท่ากับคันครับ ถ้าสายสั้นกว่าคันจะต้องโค้งมากเกินอาจหักได้ง่าย แต่ถ้า ยาวมากเกินทำให้ตอนช้อนปลายากครับ
ปลาในบ่อที่เราไปตกประจำก็เป็นตัวกำหนดสายเหมือนกัน เช่น ถ้าในบ่อที่เราไปประจำมียี่สกใหญ่ๆๆเยอะมาก  ผมจะใช้สายที่ขนาดกลางๆๆเช่น 8 ปอน์ดเพราะธรรมชาติของยี่สกเมื่อกินเหยื่อแล้วจะพุ่งออกตัวเต็มแรงถ้ายังไม่ชำนาญพออาจเสียคันที่รักได้ดังนั้นถ้าใช้สายที่ขนาดไม่ใหญ่เกินเวลาปลากระชากสายหน้าจะขาดก่อนเราก็ไม่ต้องเสียทุ่นและถนอมคันให้ใช้ได้นานๆๆครับ
หวังว่าพอจะตรงกับที่น้าสงสัยอยู่หวังว่าพอช่วยได้บ้างครับ
mok(7679 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.34: 29 มี.ค. 53, 22:41
สวัสดีครับ น้า  A_Porpiew 
1. เรื่องความยาวสายเมนนั้นตามความเข้าใจแบบผมแล้ว ความยาวเท่าคันน่าจะดีที่สุดเพราะช้อนปลาง่าย ถ้ายาวกว่าจะช้อนยากเพราะเรายกคันสุดแล้วสายก็ยังไม่ถูกยกให้ปลาขึ้นผิวน้ำ ส่วนสั้นกว่าก็จะทำให้คันโค้งเลยไปน่าจะทำให้คันหักได้ง่าย
2. ถ้าเจอลมแรงมากเกินเหตุประมาณพายุ นั้นมีวิธีแก้ไข สองแบบคือ ตั้งทุ่นแบบไม้ตายไปเลย ทุ่นยกก็วัด แต่ต้องคอยเช็คเหยื่อว่าหมดหรือเปล่า อีกแบบคือ ใช้ทุ่นตัวที่มีเบอร์เพิ่มขึ้น (แรงยกเยอะขึ้น ) แล้วถ่วงฟิวส์ ถ้าเป็นทุ่นแบบที่ก้านทุ่น(สีดำข้างล่าง) ยาวหน่อยก็จะลดแรงแกว่งลงได้ ในกรณีที่ผมใช้ทุ่นเบอร์มากขึ้นทำให้ต้องถ่วงนั้นเมื่อเจอลมทุ่นจะนิ่งมากขึ้นเพราะฟิวส์ที่ถ่วงจะกดทุ่นไม่ให้ดิ้นไปตามกระแสน้ำที่ลมพัดแรงครับ
3. เหมือนกันครับน้าเป็นคันแนวเสาอากาศเหมือนกันเพียงแต่ผิดกันที่วัสดุทั้งน้ำหนัก,แรงงัดและความสวยงาม  ก็เลือกเอาตามใจครับ
การตกแบบชิงหลิวและสปี๋วสำหรับผมต่างกันที่ระยะสายมากกว่าครับคือคันชิงหลิวมีความยาวสายตายตัวส่วนสปี๋วอาจเลื่อนระยะไปมานิดหน่อยส่วนทุ่นเราใช้แบบเดียวกันตั้งทุ่นแบบเดียวกัน  ก็แล้วแต่ใครถนัดแบบไหนใจรักแนวไหนสุดท้ายเราก็ได้ปลาเหมือนกัน
ขอให้สนุกกับการนั่งจ้องทุ่นกลางแดดครับน้า ถ้ามีโอกาสเราอาจได้เจอกันตามบ่อครับเพราะผมหลิวไปทั่วเจอกันก็ทักทายกันบ้างครับน้า
หวังว่าจะตรงกับที่น้าสงสัย  หวังว่าพอช่วยน้าได้บ้าง
mok(7679 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.35: 29 เม.ย. 53, 08:48
สวัสดีครับน้า suchi_05
โดยส่วนตัวแล้ว  เรื่องจังหวะปล่อยคัน (ต้องมีสายเซพตี๋อยู่ด้วยนะครับ ) ผมจับจังหวะที่ปลากระชากคันแรงๆๆหรือไม่ก็ เมื่อรั้งปลาแล้วคันเบ็ด...จากที่โค้งๆๆอยู่ถูกปลาดึงออกจนเกือบกลายเป็นเส้นตรง...........
ผมจะจุ่มปลายคัน(ด้านที่มีสายเอ็น )ลงน้ำแล้วคลายมือที่กำด้ามจับออกปลาจะดึงคันลงไปเอง  คันจะได้ไม่กระแทกน้ำให้ปลาตื่นเดี๋ยวปลายิ่งหาคันวิ่งไปไกล (ยิ่งเหนื่อนตอนเก็บ )   
ส่วนมากผมไม่ค่อยหลิวช่วงกลางคืนเพราะขี้เกียรสู้กับยุง.............วิธีการก็ไม่มีอะไรซับซ้อน แค่น้ามีไฟฉายเปิดให้แสงส่องไปยังจุดที่ทุ่นอยู่ก็จะเห็นอาการของทุ่นได้ชัดเจน เพราะส่วนมากแล้วปลายทุ่นจะฉาบสารเรืองแสงไว้อยู่แล้ว เพียงแต่อาการทุ่นอาจเห็นไม่ชัดเจนเหมือนตอนกลางวันครับ
วิธีของผมไม่ถือว่าเป็นหลักการตายตัวเพราะความชำนาญของแต่ล่ะคนไม่เหมือนกันเราพยายามปรับให้เข้ากับความถนัดของเราเดี๋ยวก็จะได้วิธีเฉพาะตัวที่สามารถหาปลาชนิดต่างๆๆเจอแล้วน้าก็จะเพิ่มความสนุกไปกับการตกหลิวไปเองครับ
หวังว่าจะตรงกับที่น้าสงสัยและหวังว่าพอช่วยได้บ้างครับ 
mok(7679 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.36: 15 พ.ค. 53, 17:32
สวัสดีครับน้า    CORONABB 
ผมเข้าใจว่าที่น้าเคยเห็นน่าจะเป็นการพันคันเพื่อป้องกันการหลุดออกของคันแบบทูแพ็คอันนี้เพื่อคว่มมั่นใจเพิ่มขึ้นเวลาอัดปลา  และอีกแนวก็ตามที่ น้า manoj  ได้กรุณาชี้แจงไว้เพื่อเพิ่มความแข็งแรงขึ้นมั่นใจขึ้น
โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องช่างเท่าไหร่ผมเลยมักใช้แบบเดิมๆๆที่โรงงานผลิตมายังไงก็เอาอย่างนั้น
หวังว่าจะตรงกับที่น้าสงสัยอยู่บ้างครับ.......
mok(7679 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.37: 27 ส.ค. 53, 22:08
สวัสดีครับ น้าคน นนท์
ช่วงนี้งานเยอะไม่ค่อยได้เข้ามา  โทษทีครับ
สำหรับการจับคันที่ผมทำจนเคยชิน แต่ไม่รู้ว่าถกต้องหรือเปล่า.... ผมมักจับแบบกำด้ามคันหลวมๆๆเพราะ ในจังหวะที่วัดนั้น
ผมใช้ข้อมือตวัดแล้วยกมือขึ้นไปถ้าจะอธิบายให้เห็นภาพนึกตามได้ก็ต้องว่า ...ยกมือขึ้นแค่ข้อศอก ไม่ได้ยกทั้งแขก(หัวไหล่)
ที่ว่ากำด้ามจับหลวมๆเพราะถ้าปลากระชากปลาจะดึงคันออกจากมือแล้วเลย(จังหวะที่ว่าทิ้งคัน)
แต่วิธีนี้น่าจะเหมาะสำหรับคันที่มีน้ำหนักเบาหรือผู้ตกที่มีกำลังข้อดีๆๆ
ถ้าคันหนักก็จะทำให้วัดได้ช้า แต่ถ้าฝึกจนเคยชินแล้วผมว่าน่าจะกลับเป็นผ่อนแรงทำให้สบายขึ้น
ขอให้สนุกกับการวัดปลาซ่งครับน้า............หวังว่าพอช่วยได้บ้างครับน้า 
mok(7679 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.38: 19 ก.ย. 53, 09:05
สวัสดีครับ น้า mongkol jit
รบกวนขอข้อมูลเกี่ยวกับปลาที่จะลงไว้ในบ่อครับ ว่าจะต้องมีปลาอะไรบ้าง

  ขอโทษทีครับ ไปทำงานที่ภาคเหนือเสียหลายวันไม่มีที่เข้า net เลย มาตอบช้าไปหน่อย
โดยหลักการแล้ว การตกชิงหลิวน่าจะเข้ากันได้กับ ปลาเกล็ดมากกว่าปลาหนัง เพราะสนุกว่า  ดังนั้น ปลาเกล็ดพื้นฐานที่หาได้ในพิ้นที่จะเป็นตัวหลัก เช่น นิล ตะเพียน (แต่ขอให้มีขนาดที่เร้าใจห่อย ) ส่วนปลาที่ชิงไหวชิงพริบกับทุ่นชิงหลิวเพื่อประลองความไว น่าจะเป็น ปลาซ่งหรือ เล่ง ครับ  ส่วนปลาจับจังหวะยากแล้วเอาขึ้นมาให้เห็นตัวได้ยาก น่าจะเป็นตระกูลยี่สกเทศหรือยี่สกไทย และ กระโห้ครับ ถ้าหาขนาดสัก 3โลขึ้นไปมาลงได้ในปริมาณที่ไม่บางจนเกอนไปกับขนาดบ่อแล้ว มือหลิวอย่าง น้าเอ็ดดี๋ต้องเข้าไปเฝ้าเป็นขาประจำแน่นอน..............
ขอให้ปรับสภาพเป็นบ่อหลิวได้สำเร็จในเร็ววันครับ น้า เดี๋ยวผมสัญจรผ่านไปจะขอไปอุดหนุนด้วยคนครับ   
mok(7679 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.39: 19 ก.ย. 53, 09:14
สวัสดีครับ น้า kinu
ผมมีคำถามครับคือว่าผมยังไม่เคยตกชิงหลิวเลยครับ ผมไปซื้อทุ่นชิงหลิวมาที่โคนทุ่นมีลวดคล้ายๆสปริงจะต้องแกะออกก่อนป่าวคับเพราะผมเอาไปเสียบที่เสียบทุ่นไม่ได้ครับหรือไช้ร้อยสายเมนเข้าไปเลยครับ

มัวไปทำงานที่เหนือนานไปหน่อยมาตอบช้าโทษครับน้า    น้า
ลวดสปิงที่แถมมากับทุ่นผู้ผลิตต้องการให้ใช้แทนลูกหมุนเมื่อตอนที่ประกอบชุดการใช้งานทุ่น ..........
ทีนี้ในบ้านเรากลับไม่ค่อยนิยมเพราะนิยมการใช้ที่เสียบทุ่นแบบยางมากกว่าดังนั้นก็ทำอย่างที่ น้า  SuperBiGgame ได้กรุณาแนะนำไว้  แต่เมื่อดึงลวดที่ว่าออกจากปลายทุ่นแล้วควรใช้กระดาษทรายถูที่ส่วนปลายแหลมของทุ่นเพื่อไม่ให้แหลมเกินไปเด๊ยวยางเสียบทุ่นจะทะลุทำให้ขาดโดยส่วนตัวแล้วผมขี้เกียจผูกใหม่เลยต้องลบปลายแหลมออก
หวังว่าจพอช่วยได้บ้างครับน้า   
mok(7679 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.40: 10 พ.ย. 53, 22:18
สวัสดีครับ น้า อย่ามาด๋อย
มาตอบช้าไปหน่อยช่วงนี้งานเยอะไม่ค่อยได้เข้าเวป  มาคุยกันเลยดีกว่าครับ
1. ตามจริงแล้วการปล่อยคัน  นั้นจุดมุ่งหมายเพื่อการสู้ปลาที่มีขนาดใหญ่หรือปลามีกำลังวิ่งเร็วเพราะปลาในบ่อฟิชชิ่งโดยเฉลี่ยมักใหญ่กว่าที่ผู้ผลิตได้ออกแบบมาให้คันรับน้ำหนักได้ ดังนั้นจึงใช้สายเซพตี๋ช่วยสู้ปลาด้วย ถ้าเจอปลาใหญ่ก็ได้สนุกกันพักใหญ่แหละครับ
2. ส่วนเรื่องที่ว่าต้องปล่อยคันทุกครั้งหรือเปล่านั้นโดยส่วนตัวแล้วไม่ทุกครั้งครับมีแต่เมื่อเจอตัวใหญ่เท่านั้นแต่ใครจะปล่อยก่อนค่อยว่ากันแบบทุกครั้งก็ได้เพราะมันไม่ผิดอะไร
3.ในสภาพบ่อฟิชชิ่งนั้นมักจะโล่งและไม่มีสิ่งกีดขวางในพื้นน้ำเป็นปกติดังนั้นเมื่อปล่อยคันโดยมากมักไม่ค่อยเสียหายมีบ้างที่เจอตัววิดน้ำแต่ก็ไม่มากไหร่นานๆเห็นทีครับ  แต่หากในหมายธรรมชาติก็มีลุ้นเหมือนกันครับน้า เท่าที่เคยเจอมาส่วนใหญ่ในหมายธรรมชาติมักไม่ค่อยมีโอกาศที่จะเจอปลาใหญ่ริมตลิ่งสักเท่าไหร่มีแต่เจอปลาน้อยเลยไม่ต้องปล่อยคัน
4. ทำไมถึงเรียกว่าชิงหลิวนั้นเป็นคำถามที่ตอบได้ยากมากครับน้า และการเรียกชื่ออุปกรณ์ในแบบนี้ เป็นชื่อที่ใช้เรียกเฉพาะในเมืองไทย ที่จีน,ไต้หวัน,เกาหลี ล้วนเรียกแบบอื่นทั้งสิ้น  แล้วทำไมเรียกแบบนี้ก็ยังหาข้อยุติไม่ได้ชัดเจนครับ แบบว่าเรียกตามๆกันมา
5. ถ้าคันที่เป็นแบบเสาอากาศแต่มีไกค์เล็กๆๆและติด รอก เฉพาะที่เมืองไทยเรียกว่า เสือติดปีก แต่ทำไมเรียกอย่างนั้นผมก็ไม่รู้เหมือนกัน  เห็นเค้าเรียกตามๆกันมาแต่ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตั้งชื่อแบบนี้
6. ส่วนมาแล้วคันชิงหลิวที่มีคุณภาพและมีสายเซพตี๋เมื่อสู้กับปลาใหญ่โอกาสที่คันจะหักก็มีน้อยครับแต่ไม่ใช่ว่าคันจะไม่หักนะครับแต่ผมเองไม่ค่อยเจอเท่าไหร่แบบนานๆทีเพราะหลักการเรื่องนี้ก็เหมือนคันที่อัดบึกที่ว่าดีว่าเหนียวก็ระเบิดหักได้ ก็ประมาณนั้นแหละครับ
7. จริงๆแล้วอุปกรณ์ในการตกหลิวตามแบบจีนหรือไต้หวันนั้นทางประเทศกลุ่มนี้ใช้แต่ตัวเบ็ดไม่ใช้ตะกร้อ ทำให้นักตกปลาบ้านเราก็ปฎิบัติตามนั้นตามๆกันมาตามที่เคยเห็นชาวต่างชาตินั้นที่ใช้อุปกรณ์แบบนี้เมื่อครั้งแรกที่นำอุปกรณ์แบบนี้ในบ่อฟิชชิ่งในกรุงเทพ  ถ้าถามผมว่าผิดมั๊ยโดยส่วนตัวผมว่าไม่น่าผิดเพราะไม่มีกฎตายตัวเพียงแต่เมื่อใช้ตะกร้อก็จะไม่สะดวกหรือทำให้ยุ่งยากมากกว่าเช่น  ปกติเราใช้ทุ่นแบบชิงหลิวซึ่งปกติจะเรียวเล็ก  เมื่อเราใช้ตะกร้อถึงแม้จะเลือกที่เล็กและเบาที่สุดเพิ่มเข้ามา ขนาดยังไม่ใส่เหยื่อกระตร้อก็แทบจะดึงให้ทุ่นจมมิดเสียแล้ว  ถ้าเราจะต้องใช้ตะกร้อให้ได้ เราก็คงต้องหาทุ่นที่มีขนาดใหญ่พอเพื่อให้ยกตะกร้อพร้อมเหยื่อได้ทีนี้เมื่อใช้ทุ่นดอกใหญ่ๆๆทุ่นก็จะออกอาการได้ยากหรือช้ามากจนปลากินเหยื่อฟรีๆไปหมดแต่ไม่สามารถที่จะวัดปลาติดได้ ทั้งนี้ยกเว้นว่าปลาใหญ่ฮุบเหยื่อพร้อมเบ็ดไปทั้งก้อนถึงจะดึงทุ่นให้หายไปได้  โดยรวมๆๆแล้วที่ชาวหลิวไม่ใช้ตะกร้อผมว่าน่าจะมาจากเหตุผลนี้มากกว่าครับ
หวังว่าจะตรงกับที่น้าสงสัย คงพอช่วยได้บ้างครับ
mok(7679 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.41: 22 ก.พ. 54, 18:43
สวัสดีครับ น้า เฮง บุรีรัมย์
ผมก็ไม่ได้จับคันเข้าบ่อเสียนานก็ได้อาศัยดูจากกระทู้น้าๆๆ ยิ่งดูก็ยิ่งอยากไปหลิวเดี๋ยวต้องโดดงานไปแอบหลิวบ้างแล้วเผื่อมีทริปใหม่ๆๆมาลงกระทู้กันบ้าง 
mok(7679 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.42: 1 ส.ค. 55, 23:03
การตั้งทุ่น  เราจะรู้ได้ไงว่า น้ำลึกเท่าไร แล้วจะรู้ได้ไงว่าตัวเบ็ดถึงพื้น    ถ้าล็อกทุ่นยาวเกินทุ่นก็จะนอนตัวเบ็ดอยู่บนดิน  ถ้าสั้นเกินทุ่นตั้งแล้วจะรู้ได้ไงว่าห่างจากพื้นเท่าไร ตรงนี้แหละครับ

สวัสดีครับน้า  กระโห้ยักษ์ ......
จริงๆแล้วผมใช้วิธีเดาพูดให้เพราะๆก็ ... กะระยะเอา ..... เช่น เมื่อไปถึงบ่อที่ไม่เคยเข้าเลยผมใช้คันเบ็ดจุ่มปลายลงในน้ำเพื่อกะระยะ                                 

สมมุติว่า น่าจะ70 ซม  ผมก็จะเลื่อนลายสต๊อปเปอร์ให้ ทุ่นอยู่ที่ตำแหน่งประมาณ 70 ซม
แล้วส่งทุ่นเปล่าที่ยังไม่มีเหยื่อไปสุดสายเอ็น ............................
.....กรณีที่ตั้งบาล๊านซ์ ทุ่นได้แล้ว เมื่อก้านสีของทุ่นยังลอยอยู่ที่ระดับคอของทุ่นคือมองเห็นก้านสีครบเต็มทั้งหมด       
   
ก็ถือว่าค่อนข้างโอเคแล้วเมื่อใส่เหยื่อแล้วส่งทุ่นออกไปทุ่นควรจะยกแบบเห็นก้านสี สองหรือสามสีอันนี้แล้วแต่ชอบ
สรุปประมาณว่า  เมื่อเลื่อนทุ่นไปถึงจุดที่เรากะแล้วใส่เหยื่อ ( ขนาดเหยื่อว่าจะเม็ดเท่าไหร่ถึงจะพอดีขึ้นอยู่กับแรงยกของทุ่น ) ตัวเหยื่อจะเพิ่มน้ำหนัก ทำให้ทุ่นจมลงในน้ำมากกว่าเดิม
...........แต่ถ้าเราเลื่อนทุ่นมากไปตัวเบ็ดถึงพื้น ทุ่นจะลอยเอียงๆไม่ตั้งตัวตรงให้เห็นเฉพาะคอทุ่น
............แต่ถ้าเลื่อนน้อยไป เมื่อใส่เหยื่อทุ่นจะจมหายไปเลยทั้งดอก.....

ไม่ทราบว่าน้าจะเข้าใจที่ผมอธิบายมั๊ยเพราะการอธิบายโดยไม่เห็นของจริงจะเข้าใจยากแต่ถ้าได้เห็นของจริงจะเข้าใจง่ายมากเลยครับ

โดยสรุป ถ้าผ่านเรื่องวิธีการตั้งทุ่นให้บาล๊านซ์ไปแล้ว เราก็..กะระยะทุ่นที่ห่างจากลูกหมุนตามที่ต้องการแล้วเพิ่มเหยื่อเข้าไปถ้าทุ่นยังจมก็เลื่อนทุ่นให้ห่างลูกหมุนมากขึ้น ที่สำคัญคือเม็ดเหยื่อต้องกะให้น้ำหนักเท่าเดิมให้มากที่สุด.............ก็จะตั้งบาล๊านซ์หน้าดินได้แล้วครับน้า 
หวังว่าพอจะช่วยได้บ้างครับน้า .....
mok(7679 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.43: 6 มิ.ย. 57, 15:59
ใช่ครับน้า ....กาวแบบนั้นยี่ห้ออะไรก็ได้ครับ
<12
ทำการ login ก่อนส่งความเห็น
siamfishing.com © 2025