กระดาน
รีวิว
ตลาด
ประมูล
เปิดท้าย
เรือ
แหล่งตกปลา
ร้านค้า
ค้นหาข้อมูล
Login
สมัคร
28 พ.ย. 67
@เรื่องเล่าในการตกปลาแบบที่เจอสยองๆของน้าๆป้าๆครับ@: SiamFishing : Thailand Fishing Community
<
1
2
3
4
5
>
กระดาน
คห. 120 อ่าน 26,114 โหวต 43
@เรื่องเล่าในการตกปลาแบบที่เจอสยองๆของน้าๆป้าๆครับ@
iron_rose
(10072
)
คห.26: 18 พ.ย. 53, 10:04
faro
(10
)
คห.27: 18 พ.ย. 53, 10:12
มาหลอนด้วยคนครับ
เก๋_โขทัย
(363
)
คห.28: 18 พ.ย. 53, 10:13
Naeng
คห.29: 18 พ.ย. 53, 10:22
ชอบๆๆ แนวนี้
FF_driftking
(999
)
คห.30: 18 พ.ย. 53, 10:37
เขื่อนสองแคว ก่อนเป็นเขื่อน เป็นป่า มีโบราณสถาน17แห่งในนั้นที่ต้องถูกน้ำท่วม
ตามไร่มันไร่ผลไม้ของชาวบ้าน ที่เข้าไปถางป่าปลูกกัน จะเจอเศษๆเล็กๆ ของไห จาน ของโบรานๆ นิดๆหน่อยๆด้วย
ผมข้าไปดูที่ พาคนงานไปปลูกผลไม้ ดึกคืนนั้น เขานอนพักในกระท่อมไร่ผลไม้ กลางป่ากัน แต่ผมหนีมานอนในรถที่จอดอยุ่ห่างๆ
ตื่นมาตี2.00 กินน้ำไปครึ่งขวด ตอนนั้นเงียบสนิทมากๆ ในป่า เงียบจนเสียงวิ้ง มีแสงจากดวงจันทร์พอมองเห็นเรือนราง ผมก็มองรอบๆรถดูไม่มีอะไร
พอล้มตัวลงปุ๊บ ทันใดนั้นก็มีเสียงกุ๊กๆๆ เสียงเหมือนคนหรืออะไรขึ้นมาบนกระบะไลเนอร์ ตอนแรกคิดว่าช่าวบ้านแอบเข้ามาขโมยของบนหลังรถ ก็จะลุกขึ้นมาดู แต่.. ขยับไม่ได้ เหมือนมีใครเอามือใหญ่ๆหนักๆกดไหล่ทั้ง2ข้างไว้
ตอนนั้นตาลืมครึ่งตา มันมัวๆ มืดด้วย แต่ง้างไม่ได้ พอกระพริบตาก็ลืมตาไม่ขึ้น อ้าวยังไง..
แล้วจากนั้น รถ4x4ที่หนักร่วม2ตันก็ขย่ม เสียงแอ๊ดๆ น่าจะเป็นเสียงกดกันชนเสตนเลสหน้ารถให้ขย่ม
ล้อกันเล่น ใช่มั้ยนี่.. เอาวะเป็นไงเป็นกัน ผมพยายามดิ้นจะสบัดพลิกตัวยังไง แต่สู้แรงไม่ไหวครับแรงมันเยอะมาก ดิ้นได้หน่อยก็ถูกกดกลับไป
สวดมนต์เลยครับ พอเริ่มสวด ก็ปวดหัว เหมือนโดนบับขมับ ยิ่งสวดยิ่งบีบหนัก ปวดมากๆครับ
สวดมนต์ยาวตั้งนะโม ปวดไม่หาย จนหยุดสวดก็โดนบีบ ปวดมาก คิดในใจไม่ไหว ผมยอมแล้วครับจะทำไรผม ผมยอมแล้ว มันปวด
แล้วผมก็นึกถึงหลวงพ่อเคลือบ ช่วยผมด้วยเถอะครับไม่ไหวแล้ว สักพักนึง ก็รู้สึกแบบวิ้งงงง มันไปแล้ว ผมผุดลุกขึ้นมาทันที หอบ เหนื่อยเหงื่อเต็มกาย
เวลา2.30พอดี จิตใจตอนนั้นโมโหมากครับ ผีมันหน้าตาเป็นยังไงวะ เล่นตรูซะงอมเลย เปิดประตูมองหาด้วยความโมโห
แล้วทันใดนั้น ใบไม้ข้างหน้าก็ปลิวลู่เป็นทาง ทั้งๆที่ไม่มีลม ผมวิ่งตาม จะไปดูหน้ามันเป็นตัวตนแบบไหน มันลู่วนรอบรถ2รอบ ยิ่งวิ่งยิ่งไม่ทัน ผมจะจึงหยุด แล้วมันก็ลู่ไปใส่ต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้ต้นนั้น สั่นไหวทั้งต้นเพียงต้นเดียว แล้วผมก็ขนลุก บรึ๋ย... ผมกลัวผีแล้วคร้าบบ
จึงใจแข็งเดินไปหาคนอื่นๆที่กระท่อม อย่างเงียบๆตัวแข็งๆ
กลับมาถึงมาคุยกัน ลูกน้องเก็บ(น่าจะเป็นเงินสมัยก่อน) กับเศษพวกจานชามสมัยเก่าๆได้แถวๆที่รถจอดนั่นแหละ บรึ้อออ...
ที่ผมโดนเหมือน เป็น ตนใหญ่ๆดำทะมึนๆ กำยำมาก อาจจะเป็นนักรบโบราณ
cutebank
(228
)
คห.31: 18 พ.ย. 53, 10:38
ขอแจมด้วยคนครับน้า
*โปรดใช้วิจารณญาณ*
ผมเคยเข้าไปในป่าเขาใหญ่ โดยมีพี่ๆทหารเข้าไปด้วยครับ ไปนอนที่บ้านพักทหารกลางป่า เดินเลยหนองผักชีเข้าไปลึกๆครับ ตื่นเต้นมากๆวันนั้นได้เจอฝูงหมาไนล่ากวางกันแบบสดๆเลยครับ เฝ้าดูพวกมันกินกุงกวางเสร็จก็เดินไปดูซากกวางครับ โอ้โห แมลงตอมซากกวางเป็นล้านตัวได้เลยมั้ง ภาพยังติดตาไม่รู้ลืม อิอิ พอตกกลางคืนก่อนนอน (2 ทุ่มก็มืดสนิทคิดว่าเที่ยงคืนแล้ว) พี่ทหารบอกว่าถ้าตื่นมาตอนกลางคืนแล้วเห็นหญิงสาวยืนอยู่หน้าบ้าน แล้วกวักมือเรียกให้ออกไปหา ห้ามออกไปเด็ดขาด ระวังโดนเสือคาบไปกินนะครับ เหอๆ (เสืองสมิง) ฟังแค่นี้ก็มุดถุงนอนเลยล่ะครับ 555
แถมพี่ทหารเค้ายังเล่าให้ฟังว่าเค้าเจอสิ่งลี้ลับเหล่านี้ในป่าเข้าใหญ่มาเยอะเหมือนกันครับ เอาเรื่องเด่นๆของเค้าเลยก็เรื่องผีพายบอกเหตุครับ ประมาณว่าพี่เค้านักท่องเที่ยวเดินเข้าป่าเขาใหญ่ลึกเข้าไปกว่าที่ผมเข้าน่ะครับ แบบว่าไปกางเต้นท์นอนกลางป่าของจริงเลย นักท่องเที่ยวก็กางเต้นท์นอนกันไป พี่ทหารเค้าก็นอนเปลญวนเฝ้านักท่องเที่ยวครับ พี่เค้าเอาผ้ามาปิดหน้านอน (กันพวกแมลงอะไรงี้) กำลังเคลิ้มๆก็เหมือนมีคนมาดึงผ้าออกจากหน้าครับ พี่เค้าก็งงๆโดนดึงได้ยังไง เป็นอย่างนี้มา 3-4 ที เค้าก็เลยไม่สนใจหลับไป แล้วก็ฝันครับว่ามีผู้ชายแต่งตัวแบบเพชรฆาตสีดาบแบบไทย (นุ่งกางเกงสีแดง) 3-4 คน มีล้อมและต่อสู้กัน พี่เค้าก็สู้กับ 3-4 คนนั้นสุดท้ายก็โดนชายคนนึงแทงเข้าที่ตัวจนตกใจตื่น พี่ทหารคนนี้เค้าก็คิดแล้วว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ เลยรีบเก็บของ พร้อมวิ่งไปหลุกนักท่องเที่ยวว่าให้ออกจากเต้นท์ด่วน เอาอะไรเอาไปได้ให้เอาที่จำเป็นก่อนครับ พอวิ่งๆหนีออกมาได้ไปถึง 5 นาที (มั้ง) ฝูงช้างป่าทั้งโขลงก็เดินกันสนั่นผ่านตรงที่ๆพี่ทหารและนักท่องเที่ยวนอนเลยครับ พี่ทหารบอกว่าขอบคุณผีพายที่มาบอกเหตุจริงๆ ไม่งั้นคงโดนเหยียบตายไปเลย เหอๆ
ขนลุกตามๆกันไป (จะเล่าก่อนกรูนอนกลางป่าทำไมเนี่ย โอ้ววววว
)
-----------------------------------
อีกเรื่องที่เจอมากับตัวเอง จนตอนนี้ยังไม่รู้ว่าคืออะไรครับ เจอที่หัวหินเมื่อนานมาแล้ว (สมัยอยู่ ม4 นู้น ตอนนี้อายุจะ 29 แล้วครับ 555)
คือบ้านที่หัวหินรับไปเที่ยวกับเพื่อนๆ 8 คน ตอนนั้นหัวหิน ยังไม่บูมเท่าตอนนี้ และหาดตอนกลางคืนก็ยังมืดมาก แถมตอนนั้นเหยียบลงทะเลไปยังเห็นฟอสฟอรัส สีน้ำเงินประกายขึ้นมาด้วยครับ ตอนนี้ไม่มีให้เห็นอีกแล้ว (ความเจริญทำธรรมชาติหายจริงๆ แหะๆ)
ประมาณ 4-5 ทุ่มพวกผม 8 คนก็ลงไปเดินเล่นที่ชายหาดกันครับ เดินไปเรื่อยๆ ผมกับเพื่อนอีก 3 คนก็บอกขี้เกียจเดินล่ะ เดินกลับก่อนล่ะ ก็กลับมานั่งเล่นกีตาร์ กินขนมหน้าหาดหน้าบ้านกันครับ ส่วนอีก 4 คนก็เดินไปต่อ (ตอนนั้นน้ำลง มีแอ่งขั้นระหว่างชายหาดกับทะเลนะครับ) เพื่อนผมคนนึงมันซื้อกระจับกับไดนาไมท์มา บอกว่าถ้าไอ้ 4 คนนั้นเดินกลับมาแล้วจะจุดแล้วปาใส่ให้ตกใจเล่นๆ ก็นั่งรอครับ สักพัก เรา 4 กันก็เห็นคน 4 คนเป็นเป็นเงาดำๆเดินมากันครับ ทุกคนบอกว่ามาแล้วๆจัดใส่เลย เพื่อนผมมันก็จัดกระจับมเดแรกยืนไป อ้าว!!! ด้านนี่หว่า เม็ด 2 จัดตามมาทันที พอโยนไปใส่ปุ๊ป ปั๊ง!!!!!!! กระจับระเบิด เงาดำๆ 4 เงานั้นทำท่าตกใจวิ่งวนๆไปวนมา พวกผม 4 คนก็เฮ้ ดีใจกัน แต่ดีใจได้ไม่นาน เงาดำ 4 เงานั้นก็แว้บหายไปกับตาทันที อ้าวววว อิ๊บอ๋ายแล้วสิหายไปได้ไง(ฟะ) ก็เลยคิดว่าตาฝาด ใจดีสู้เสือเดินไปดูกัน มันลงทะเลหนีกันป่าวเนี่ย เดินไปส่องไฟฉายทั่วๆก็พบแต่ความว่างเปล่าครับ งานเข้าล่ะทีนี้กลับไปนั่งเบียดกันแบบอบอุ่นมากหน้าบ้าน ได้เวลา 4 คนั้นเดินกลับมาจริงๆ ร้องเพลงสนุกสนานเลย ก็เลยถามพวกนั้นว่า เอาจริงๆนะ เมื่อกี้เดินกลับมาหรือป่าว พวกมันก็บอกว่าเพิ่งกลับมาเนี่ย ทำไมหรอ พอพวกเรา 4 คนเล่าเหตุการณ์นี้ให้ฟังคราวนี้ล่ะครับ วงแตก วิ่งขึ้นบ้านกันแทบไม่ทัน 555
ปัจจุบันยังงงอยู่เลยว่ามันคืออะไรกันแน่ๆ เหอๆ แต่ก็ไม่เคยเจออีกเลยครับ
--------------------------------
ขอบคุณที่อ่านนะค้าบบบบ
แอบอัด
(597
)
คห.32: 18 พ.ย. 53, 10:40
โอ๊ยยยยยยยยย...แว๊กกกกกก...ว๊ากกกกกก...บรื๋อออออออ
น่ากัวงะ.....
แหะๆๆๆๆ
ผมเข้าป่า....เที่ยวป่า.....ก่อนที่ทำอะไร..กินข้าว ก็เรียกกินด้วย.......ถ่ายหนัก-เบา...ก็ขออนุ
ญาติ ขอโทษเจ้าที่เจ้าทาง เรื่องแบบนี้ทำให้สบายใจไว้ก่อนดีกว่าครับ...สิ่งที่เรามองไม่เห็น
อธิบายยากถ้าไม่เจอกับตัวเองครับ
นักล่าแห่งลำน้ำจาง
(2492
)
คห.33: 18 พ.ย. 53, 11:08
สวัสดีน้ามัส....อันนี้เก่าแล้ว ....หาใหม่ๆมาหน่อยซิ...ผมเคยอ่านมาแล้ว...แหมเอาเรื่องผีน้ำมันพรายมาฉาย ซ้ำๆอีก...ของผมมีผีผ้าห่ม...และเรื่องผีจับหัว..ยังไม่กล้าเล่าเลย....จะ อ่านแบบๆสยองๆซ่ะหน่อย....อีตามัสน่ะอีตามัส....ฮึ่มๆๆๆๆๆๆจะหาเรื่องสยองๆ ของจริงๆอ่านซ่ะหน่อย...เปิดมาเจอเรื่องอีตามัสเป็นเรื่องแรก...แล้วใครเขา จะกล้าเล่าให้อ่านกันล่ะที่นี้...
เอิ้กๆ น้าเหลืองเคยอ่านแล้ว ก็แบ่งๆคนอื่นอ่านมั่งนะคร้าบตัวเธอ น้าๆอีกหลายท่านอาจจะยังไม่เคยอ่านก็ได้ใช่ม๊า
อ่านผีๆมากไปเดี๋ยวเครียดกันไปหมด หาอะไรมาผ่อนคลายบ้าง เครียดไปเดี๋ยวหัวระเบิดกันหมดเน้อ
แต่ก็ขออภัยครับ ถ้ามันผิดแผกแปลกไปจากวัตถุประสงค์ที่แท้จริง
kondoy
(2143
)
คห.34: 18 พ.ย. 53, 11:09
ด้วยคนครับ
สมัยเรียน ปวส. อยู่ที่ขอนแก่นคืนวันหนึ่งในหอพักผมนอนอยู่แบบหลับๆ ตื่นๆ แต่จำได้ว่าแขนตัวเองยื่นออกไปนอกเตียง
แล้วมีความรู้สึกว่ามีใครมายกแขนผมขึ้นก็เลยลืมตาดูแต่ก็ลืมตาไม่ขึ้นเห็นลางๆ เป็นผู้หญิงใส่ชุดขาว แต่ที่สำคัญกว่านั้น
คือเธอมีแค่ครึ่งตัว และใบหน้าที่ปราศจากดวงตา จมูก ปาก ง่ายๆ เลยคือ เธอมีแค่หน้าเปล่าๆ เอาเข้าให้แล้วนึกอะไรได้
ในตอนนั้นสวดหมดทุกอย่าง แต่พอตั้งสติได้ว่าเธอยกมือผมขึ้นบนหัวของเธอเหมือนกับว่าขอส่วนบุญส่วนกุศล
หลังจากที่สวดไปได้หลายจบลืมตาดูอีกทีเธอก็ไปแล้ว ตัวผมเปียกไปหมดเลยลุกขึ้นมานั้งคิดดูกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวผมว่ามันคืออะไร
ตอนเช้ารีบขับมอไวด์ไปหาเพื่อนแล้วเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้ฟัง แต่มันไม่เชื่อหัวเราะผมหาว่าผมเมาอีก ในตอนเย็น
หลังเลิกเรียนกลับมาที่หอ ก็เลยเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้พี่ที่หอฟัง ทุกคนยิ้มแล้วก็ถามผมว่าพึ่งจะเจอใช่มั้ย อ้าวทำไมถามแบบนี้ละ
แกก็เลยเล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนมีผู้หญิงมาเช่าห้องพักที่นี่แล้วผูกคอตายที่ห้องข้างๆ ผมนี่แหละ แต่ด้วยเหตุใดนั้นไม่ทราบเพราะ
ทุกคนก็เคยเจอเหมือนกันแต่ไม่มีใครเล่าให้ผมฟัง แม้แต่ญาติๆ ที่มาเยี่ยมลูกหลานของเค้าที่หอพักนี้ก็ยังเคยเจอเหมือนกัน
สำหรับตัวผมแล้วก็มีเรื่องมาเล่าให้ฟังแต่เพียงเท่านี้ผิดพลาดประการใดขอกราบอภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ขอบคุณครับ
รักษ์น้ำ
(3016
)
คห.35: 18 พ.ย. 53, 11:10
ผมขอแจม 1 เรื่องนะครับ
พาดหัวข่าว ไฟลัดวงจรบึ้มสนั่นรง.พลุดับ 2
วันที่ 23 มกราคม 2552 เวลา 09:18 น.
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ม.ค. ร.ต.อ.ธงชัย เจิมขุนทด ร้อยเวรสภ.บางมูลนาก จ.พิจิตร รับแจ้งมีเหตุโรงงานทำพลุระเบิด มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 120 หมู่ 4 บ้านวังกร่าง ต.เนินมะกอก อ.บางมูลนาก หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สันต์ โพธิ์รักษา ผกก.สภ.บางมูลนาก พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัย
พบโรงงานทำพลุ เป็นอาคารเดียวถูกแรงระเบิดพังทั้งหลัง พบศพนายวิรนิจ ฤทธิ์เดช อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ที่ 4 บ้านวังกร่าง อ.บางมูลนาก เจ้าของโรงงานดังกล่าว นอนเสียชีวิตในสภาพศพไหม้เกรียม ด้านหลังบ้านริมคูน้ำพบร่างของนางสมหมาย ฤทธิ์เดช อายุ 40 ปี ภรรยา ของนายวิรนิจ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่นำส่งร.พ.บางมูลนากแต่เสียชีวิตระหว่างทาง
จากการสอบสวน ทราบว่า โรงงานผลิตและเก็บพลุอยู่ห่างจากชุมชนไม่มากนัก มีพลุที่ผลิตแล้วจำนวนมาก และดินปืนที่ยังไม่ได้ผลิตกว่า 1 ตัน ขณะเกิดเหตุไม่มีคนงานอยู่ในโรงงาน เนื่องจากไปส่งพลุให้ลูกค้าที่จังหวัดใกล้เคียง มีเพียงนายวิรนิจและนางสมหมายกำลังเคลื่อนย้ายพลุ เพื่อที่จะไปส่งให้ลูกค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จ.นครสวรรค์ จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
ต่อมาเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.เชาวลิต ชาญเวช ผบก.ภ.จว.พิจิตร พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิชชะญะ ลีนะทำ รองผบก.ภ.จว.พิจิตร เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการมาตรวจที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุว่าระเบิดเกิดจากสาเหตุอะไร
พล.ต.ต.เชาวลิตเปิดเผยว่า สาเหตุการเกิดระเบิดของโรงงานทำพลุนั้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรเนื่องจากไฟไหม้คัตเอาต์ และสะเก็ดไฟตกมาใส่ที่ทำพลุซึ่งเป็นชนวนที่ทำให้ระเบิดได้ ตนให้ตำรวจวิทยาการมาตรวจสอบสาเหตุอีกครั้ง ว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือไม่หรือเกิดจากสาเหตุใด เท่าที่ตรวจสอบพบว่าโรงงานทำพลุแห่งนี้ตั้งมานานแล้ว และมีการขออนุญาตทำถูกต้อง ซึ่งหากเป็นเหตุสุดวิสัยคงเอาผิดใครไม่ได้
สำหรับ โรงงานดังกล่าวขออนุญาตเปิดทำพลุถูกต้อง โดยจะหมดอายุในวันที่ 9 มี.ค.2552 โรงงานดังกล่าวนี้เคยเกิดเหตุระเบิดมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อปี 2539 มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และย้ายสถานที่มาเปิดโรงงานใหม่และเกิดเหตุระเบิดขึ้นอีก
ขอพาดหัวย้อนไปเมื่อ 52 แล้วย้อนไปปี 2539 ที่บ้านเกิดผมเอง อ่านพาดหัวข่าวให้จบก่อนนะครับ แล้วผมจะเรียบเรียงเหตุการณ์สุดสยองที่เจอกันทั้งหมู่บ้าน
ย้อนไปเมื่อเหตุเมื่อปี 2539 เหตุการณ์ ครั้งนั้นเสียชีวิตรวม 5 ศพ
ศพแรก (ลูกชายเจ้าของโรงงาน) สภาพศพ ที่เหลือ (ลำตัวเหลือครึ่งซีก แขน, ขาเหลืออย่างละข้าง)
ศพที่ 2 ลูกสะใภ้ (ท้อง 7 เดือน) สภาพศพศรีษะขาดหายไป
คนที่ 3 ลูกจ้างชื่อนางดำ (ถูกแรงอัดของระเบิกพลุ) กระเด็นไปชนตอไม้ทิ่มทะลุปอด เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา (หลังรับการรักษาจนเกือบหายแล้ว)
ลูกๆ ของนางดำ จำนวน 2 คน ที่เข้าไปเล่นในโรงงาน (เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ) ผมไม่ทันเห็นสภาพเพราะห่อผ้าขาวแล้ว
จากที่เรียบเรียงสภาพศพได้ เนื่องจากว่าผมไปดูศพที่วัดขณะบรรจุลงโลงศพ
เหมือนไม่มีอะไรจะสยองมากกว่านี้แล้วแท้ๆ แต่
เริ่มจากในวันบรรจุศพ ศพลูกสะใภ้ มีศพทารกในครรภ์ แล้วทางญาติให้ผ่าท้องศพเอาทารกออกมาห่อผ้าใส่ข้างๆ ศพแม่ พยาบาลที่มากับรถเอามีดซึ่งเป็นมีดผ่าตัด อย่างที่รู้ๆ กันว่าคมขนาดไหน แต่วันนั้นกีดไม่เข้า สุดท้ายต้องให้สัปเหร่อของวัดจัดการทำพิธีแล้วเอามีดพร้าสนิมเขลอะของสัปเหร่อผ่าเอาศพทารกออกมาแทน
ต่อมาหลังทั้งหมดเสียชีวิตไปแล้ว 3 วันทั้งหมู่บ้านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าได้ยินเสียงร้องโอดโอย ขอความช่วยเหลือดังมาจากบ้านที่เกิดเหตุ (รวมถึงผมด้วย) ซึ่งบ้านผมอยู่ห่างไปไม่ไกลแถมอยู่หลังวัดซะด้วย
วันเผาศพ คือ 7 วัน เนื่องจากวันนั้นมีการเผาศพลูกชายกับลูกสะใภ้พร้อมกัน ลูกสะใภ้เผาก่อนในตอนเช้า ก็เหตุการณ์ปกตินะครับ แต่พอมารอบเย็นเผาลูกชายเหตุการณ์เล่นเอาวิ่งกันทั้งฆารวาสทั้งพระ เมื่อเริ่มเผาศพที่เมรุ ปกติควันจากปล่องต้องลอยขึ้นฟ้า หรือลอยไปตามกระแสลม แต่วันนั้นควันกลับลอยไต่ระดับจากปลายปล่องลงมาที่พื้น คละคลุ้งไปทั่วบริเวณวัด จากนั้นกลุ่มควันก็ลอยไปทางทิศเหนือซึ่งเป็นบ้านที่เกิดเหตุ
เหตุการณ์ผิดธรรมชาติที่เห็นกันทั้งวัดในครั้งนั้น ทุกคนถึงกับตะลึงพูดอะไรไม่ออก แต่ยังไม่หมดความน่ากลัว เพราะแม่(เจ้าภาพ) เอาตะไลยักษ์มาจุดด้วย ในวันนั้นจะจุดทั้งหมด 7 อัน เพียงจุดอันแรกตะไลกลับไม่วิ่งขึ้นฟ้า มันหมุนวนอยู่กับที่แล้ววิ่งไล่ไป/มาในวัดแล้วก็ระเบิดจนคนในวัดต้องวิ่งหนีกันหมด (ส่วนตัวผมในวันนั้น) อาศัยใต้ถุนศาลาหลบภัย ที่เหลืออีก 6 อันเป็นอันต้องยกเลิกไป
หลังจากวันเผาศพ 2 สามีภรรยา นางดำที่เป็นลูกจ้างที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเริ่มมีอาการดีขึ้นเป็นลำดับก็เล่าเหตุกาณ์ให้คนในหมู่บ้านที่ไปเยี่ยมว่าวันเกิดเหตุกำลังเร่งงานที่จะส่งล๊อตใหญ่ ในขั้นตอนการทำดินปืนได้มีการผึ่งดินปืนบนสังกะสี เลยเดาๆ เอาว่าดินปืนน่าจะร้อนจนเกิดปะทุแล้วไอร้อนแผ่ไปโดนลูกพลุที่เสร็จแล้วในลังข้างๆ หลังจาเล่าเหตุการณ์ แล้วแกบอกกับคนในหมู่บ้านว่าฝันว่าลูกมาเยี่ยมแล้วถามว่า “แม่ไปอยู่ด้วยกันไหม” แล้ววันรุ่งขึ้นนางดำก็เสียชีวิต
หลังเผาศพทุกคนจนหมดแล้ว หมู่บ้านผมก็คล้ายหมู่บ้านร้างในยามค่ำคืน หลังหกโมงเย็นทุกกิจกรรมจะหยุดนิ่ง ร้านเหล้าที่เคยมีขี้เมา(รวมถึงผม) ไปนั่งดื่ม ไม่มีใครกล้าไปนั่งอีกเลย ทุกบ้านจะเข้าบ้านปิดประตูหน้าต่างเงียบ ไม่ออกไปไหนกัน
ผมจำระยะเวลาไม่ได้ว่าหลังเผาศพนานแค่ไหน แต่คนแรกที่โดนดีคือคนขับรถเมล์ประจำทาง บางมูลนาก – นครสวรรค์ ขับรถชนหน้าบ้านที่เกิดเหตุในตอนตี 4 จากคำบอกเล่าที่คนในหมู่บ้านออกมาช่วยเหลือ คนขับแกเล่าว่าก่อนเกิดเหตุมองเห็นว่ามีคนอุ้มลูกมายืนโบกรถที่หน้าบ้านหลังนั้นก็เลยชะลอรถเพื่อจะจอดรับเพราะเข้าใจว่าผู้โดยสารแต่พอเขามองให้ชัดกลับเห็นว่าเป็นผู้หญิงไม่มีหัวยืนอุ้มเด็กโบกรถอยู่ เลยหักรถเลี้ยวลงข้างทาง
ต่อมาน้องสาวคนตายประกาศขายรถมอเตอร์ไซค์ ผมจำได้เลยว่าเป็น Honda NSR เป็นรถของคนตาย ขายถูกมาก เหมือนจะยกให้เลยว่างั้นเถอะ มีคนจากหมู่บ้านอื่นไปดูรถกันหลายคนแต่พอมีคนนึงจะซื้อ รถมอเตอร์ไซร์ที่จอดมาแรมเดือนกลับสตาร์ทเครื่องเองได้ แค่นั้นละคนซื้อก็กระเจิงกันหมด
ผ่านไปนานพอสมควร แก๊งค์ขี้เมาก็เริ่มกล้าออกมาเปรี๊ยว ผมและเพื่อนๆ ยึดทำเลบ้านเพื่อน เพราะว่าคิดกันว่าถ้าเมาก็นอนบ้านเพื่อน ตั้งวงกินไป 4 คน พอเริ่มเมาก็เป็นธรรมดาที่ต้องปวดฉี่ ห้องน้ำก็น้อย ขี้เมาอย่างเราก็หมดยางอาย ผมเลยเดินข้ามถนนไปยืนแอ่นข้างทาง เพื่อนๆ มันก็อยู่ชั้นสอง มองผมแล้วก็แซวๆ ว่าเดี๋ยวผีมันก็มาแอบดูหรอกเมริง ผมไม่สนใจยืนแอ่นจนเสร็จกิจ แต่ก็สงสัย เอ๋ทำไมพวกมันเข้าไปกันเร็วจังว่ะเงียบเชียว พอผมกลับมาที่วงเหล้าเพื่อนมันบอกว่าเอ็งไม่เห็นหรอเมื่อกี้มีคนตั้ง 5 คนเดินผ่านหลังเอ็งไปตามถนน ผมถึงกับอึ้งล่ะครับงานนี้ งานเลี้ยเลยต้องเลิกราแยกกันมุดมุ้งเป็นแถว
หลังจากเหตุสยองครั้งแรก นานมากเหมือนกันจนหลายๆ คนคงคิดว่าไม่มีอะไรน่ากลัวแล้ว ผมกับเพื่อนขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งพี่ๆ ที่สถานีรถไฟกว่าจะส่งกันเสร็จก็ปาเข้าไปตั้งห้าทุ่ม กลับมาสองคนแล้วทางผ่านก็ต้องผ่านบ้านที่เกิดเหตุ พลันผมก็ได้กลิ่นเหมือนคนเผาเนื้อแล้วไหม้ มีกลิ่นดินปืนผสมจนฉุน จากบ้านหลังนั้น ราวๆ โลนึงก็ต้องเข้าวัดเพื่อเข้าบ้านผม (บ้านผมต้องผ่านวัดทุกครั้งที่จะเข้าบ้านหรือออกจากบ้าน) เพื่อนเลยจอดรถหน้าวิหารหลวงพ่อ แล้วถามผมว่า เอ็งได้กลิ่นใช่ไหม ผมได้แต่พยักหน้าแล้วก็พากันวิ่งไปหน้าวิหารไหว้หลวงพ่อก่อนขี่รถเข้าบ้านกัน ซึ่งเหตุการณ์ครั้งสุดท้ายในครั้งนั้นผ่านไปผมก็ยังไม่เคยเจออีกเพราะหลังจบผมแทบจะไม่ได้กลับบ้านแล้วจนถึงวันนี้
ผู้การเสือ
(6514
)
คห.36: 18 พ.ย. 53, 11:25
สวัสดีครับน้าๆป้าๆทุกท่าน....เด๊วผมเข้ามาทักทายใหม่ครับ...แว๊ปๆๆๆๆไปทำงานก่อนเด๊วเข้ามาชมครับ
wa
คห.37: 18 พ.ย. 53, 11:35
ชอบคับๆๆ สงสัย น้าเดียว นี่จะเป็นคนมีบุญนะคับ เลยได้เจอกะเรื่องพวกนี้บ่อยๆ
นึกเรื่องของตัวเองก่องคับ เยอะไปหมด เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังคับ เรื่องส่วนใหญ่มักจะเกิดที่อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า เชียงใหม่ เพราะไปบ่อยๆ ไม่เคยเข็ดซะที หลายๆเรื่องเคยเล่าไปแล้ว นึกก่องคับว่ามีเรื่องไหนยังไม่เคยเล่า
jeffrykub
(39
)
คห.38: 18 พ.ย. 53, 11:37
ผีมีจริง จะเจอในรูปแบบไหนแค่นั้นแหละครับ ......
กระบี่เดียวดาย
(3277
)
คห.39: 18 พ.ย. 53, 11:46
เรื่องน้ารักษ์น้ำน่ากลัว สยอง อะจึ๋ยยยย
wa
คห.40: 18 พ.ย. 53, 11:49
น้ารักษ์น้ำคับ น้าเป็นคนที่ไหนคับ คุ้นๆว่า ที่บ้านเกิดผมแต่คนละอำเภอ คือที่เชียงใหม่ อำเภอสันป่าตอง ก้อเรื่องคล้ายๆอย่างนี้เลยคับ 5555++ สยองกันไปคับ ระเบิดราบพนาสูญจิงๆ แต่จำไม่ได้แระคับว่าปีไหน สงสัยจางานเดียวกันหรือเปล่าคับ
pinit_mp
(86
)
คห.41: 18 พ.ย. 53, 12:07
มาร่วมหลอนด้วยคนคับแบบว่าชอบอ่านมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
พลพัฒน์
(555
)
คห.42: 18 พ.ย. 53, 12:17
นาย_ตั้ม
คห.43: 18 พ.ย. 53, 13:09
รักษ์น้ำ
(3016
)
คห.44: 18 พ.ย. 53, 13:26
อ้างถึง: wa posted: 18-11-2553, 11:49:25
น้ารักษ์น้ำคับ น้าเป็นคนที่ไหนคับ คุ้นๆว่า ที่บ้านเกิดผมแต่คนละอำเภอ คือที่เชียงใหม่ อำเภอสันป่าตอง ก้อเรื่องคล้ายๆอย่างนี้เลยคับ 5555++ สยองกันไปคับ ระเบิดราบพนาสูญจิงๆ แต่จำไม่ได้แระคับว่าปีไหน สงสัยจางานเดียวกันหรือเปล่าคับ
ผมอยู่ บ้างวังกร่าง อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร สถานที่เดียวกับที่เกิดเหตุเลยครับ ปี 39 เรียนอยู่ปวช.ปี 2 กลับมาจากฝึกงานพอดีเลยพบตั้งแต่วันแรกเต็มๆ บ้านผมอยู่หลังวัดวังกร่างที่บรรจุศพและเผา ผมต้องทนเสียวสันหลังตลอดเพราะเข้าบ้านก็วัด ออกบ้านก็วัด บริ์อๆๆๆๆๆ
แต่เมื่อปี 52 ได้ยินแต่ข่าว (กลับมากรุงเทพก่อน) คนที่ตายก็พี่ชายคนที่ตายเมื่อปี 39 เองนั่นล่ะ โรงงานย้ายจากบ้านไปกลางนา ยังไม่เหลือเหมือนเดิม ที่สำคัญโรงงานนั้นผมเองเคยไปตกปลาเมื่อปีใหม่ปีนั้นพอดี (ข้างบ่อน้ำที่เขาตายนั่นล่ะครับ)
ส่วนอีกครั้งที่ผมโดนด่าทั้งหมู่บ้าน ตอนเรียนจบปวช. หลังเหตุสุดสยองพลุระเบิดปีนึงแล้ว (ตอนนั้นขี้เหล้ามาก)
สอบเสร็จวันสุดท้าย (วันจบ) เป็นธรรมดาที่ต้องเปรี๊ยว กลับจากฉลองฟังผลสอบก็แอ่นหน้า แอ่นหลังตั้งกะอำเภอตะพานหิน กว่าจะถึงบ้านผ่านร้านเหล้าอีกนับสิบ เมาแอ๊เลย กลับมาต่อที่บ้านอีก 2 แบน เรื่องเกิดจากบุหรี่หมด เลยไปซื้อ (จริงๆ เดินไป 100 เมตรก็ถึงร้านที่ใกล้ที่สุด) แต่ด้วยความคึกเลยคว้าแมงกะไซค์ บึ่งไปร้านประจำ ห่างจากที่นั่งกินราว 3 โล บิดหมด สุดแรง เสียงดังแรงแสบหู โดนด่าตั้งแต่ลากเกียร์หนึ่ง ชาวบ้านด่ากันขรม ตอนขาไปก็ไม่เท่าไร ตอนกลับ ลากเสียงฝาดอีกรอบ ชาวบ้านออกมาดูแถมแช่งอี๊ก แน๊ คนบ้านเดียวกันแท้ๆ สรุปแหกโค้ง คางแหก แตกเย็บไป 10 เข็ม
แต่เรื่องน่าแปลกที่ผมมารู้ทีหลังว่า คนที่ออกมาด่า เขาว่าเห็นแต่ลูกมะพร้าวอยู่บนรถ มองไม่เห็นคนขี่ ผมงี้ฟังแล้วขนหัวลุก
สรุปหายดีแล้วต้องร่อนพานขอขมากันทั้งหมู่บ้าน มาจนถึงวันนี้ไม่กล้าขับรถไวอีกแล้ว กลับบ้านทีไร ใครๆ ก็ล้อ ไอ้ลูกมะพร้าว แน๊!!! เล่นล้อตั้งกะหนุ่มยันแก่เลยวุ้ย 555
NaiJuy
(308
)
คห.45: 18 พ.ย. 53, 13:52
wa
คห.46: 18 พ.ย. 53, 14:12
งั้นแสดงว่า เรื่องแบบนี้ คดีแบบนี้ มีทีไร บรรยากาศเหมือนกันทุกที่ เพราะว่า คนแถวๆนั้นเค้าเล่าให้ฟังว่า กลางดึก ได้ยินเสียงร้องโหยหวนตลอดเวลา แต่ตอนนี้ไม่รู้เป็นยังไงบ้างแล้ว แต่ตอนที่เกิดระเบิดใหม่ๆ เปงโรงงานทำ สารเร่งผลลำไยอะคับ รัศมี 2 กม.กลายเป็นที่โล่งครับ ถามว่ามีคนตายกี่คน ตอบไม่ได้เลยครับ เพราะว่า ไม่สามารถระบุได้ อันนี้ฟังเค้าเล่ามานะคับ ถ้ามีน้าๆท่านไหน อยู่ในพื้นที่น่าจะให้รายละเอียดได้ดีกว่านี้ครับ
ใหญ่ บางพลี
(166
)
คห.47: 18 พ.ย. 53, 14:16
เคยเจอตอนไปถ่ายภาพ ปิล็อค ครับ ถึงเนื้อถึงตัวกันเลยทีเดียว
แถมกลับมาตกปลายังเจอเพื่อนหลอกอีก
เอ.....ว่าแต่เล่าไปแล้ว จะกลัวกันไหมครับ
เดี๋ยวเย็นมาลงรายละเอียด ให้ครับ ท่านผู้การเสือ
มาแล้วครับ เรื่องราวของ ไซเรนซ์ ฮิลล์ เย้ยยยย ปิล๊อค ฮิลล์
ไปต่อที่ คห.ท้ายสุดครับ
asia
(132
)
คห.48: 18 พ.ย. 53, 14:30
หนุกดีอ่ะ ขออีกๆๆๆๆๆๆๆ
เย่อกับตอ
(585
)
คห.49: 18 พ.ย. 53, 14:34
CK2525
(99
)
คห.50: 18 พ.ย. 53, 14:45
บรึ๊ย น่ากลัว
<
1
2
3
4
5
>
siamfishing.com © 2024