การตกปลาแบบ ชิงหลิว ให้สนุกและถูกหลัก: SiamFishing : Thailand Fishing Community
<123>
กระดาน
คห. 60 อ่าน 119,437 โหวต 7
การตกปลาแบบ ชิงหลิว ให้สนุกและถูกหลัก
The Bear(171 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.26: 1 มิ.ย. 50, 08:32
คห.27: 1 มิ.ย. 50, 08:45
ถามหน่อยครับว่าทำไมต้องให้ปลายคันจมอยู่ใต้น้ำครับ
นึกว่าอยู่ข้างบนจะดีกว่า ??
คห.28: 1 มิ.ย. 50, 09:20
คห.29: 1 มิ.ย. 50, 09:51
ผมใช้ตกปลาดุก ใช้คัน 4.5 เมตรทีแรกใช่สาย 15 ปอนด์หลายครั้งพอปลากินวัดคันแล้วสายเมนขาด บางครั้งสายหน้าขาดหรือไม่ก็ของ้าง  ทั้ง ๆ ที่พยายามวัดไม่แรงเท่าไรแล้วก็ยังขาดอีกทั้ง ๆ ที่บางครั้งปลาตัวไม่ถึงครึ่งกิโลเอง ลองเปลี่ยนสายเมนเป็นสายลีดเดอร์ 50 ปอนด์ สายก็ยังขาดอีก(บางครั้งรู้ตัวว่าวัดแรงไปเพราะตกใจปลากินเร็ว) อยากทราบวิธีวัดทึ่ถูกวิธีด้วยครับ แต่ตกด้วยสปิ๋วปัญหานี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลยทั้ง ๆ ที่วัดแรงมาก
คห.30: 1 มิ.ย. 50, 10:46
คุณ BG 30 วัดสายเมนขนาด 15 ปอนด์ขาดด้วยคันชิงหลิวนั้นยากมากครับลองตรวจสอบสายเอ็นดูครับ แต่ถ้าสาย 50 ปอนด์ยังขาดอีกคงต้องขอดูคันแล้วละครับ จริงๆแล้วการตกปลาด้วยคันชิงหลิวเวลาปลากินเหยื่อเมื่อทุ่นทำงานและเราอ่านจังหวะได้ถูกต้องเพียงแค่ยกคันขึ้นให้เร็วๆในลักษณะกระดกปลายคันขึ้นก็จะติดแล้วครับไม่ต้องถึงกับออกแรงวัดเพียงแต่ต้องจับคันให้แน่นเพราะถ้าติดปลาคุณจะเจอปฏิกริยาโต้ตอบโดยทันทีหากเป็นปลาใหญ่คันอาจหลุดมือได้ ****ตามรูปของคุณหรั่งสายเมนควรเหยียดตรงไม่ตกท้องช้างครับวิธีการคือเวลาโยนเหยื่อต้องให้ทั้งสายเมนเหยียดตรงเมื่อเหยื่อตกลงน้ำแล้วกดปลายคันลงน้ำช้าๆไล่สายให้จมน้ำซึ่งขณะเดียวกันทุ่นจะตั้งขึ้นและถอยเข้ามาหาตัวเรา จนสายจมน้ำหมด **ระวังอย่ากดปลายคันลงลึกเกินไปเพราะจะทำให้ทุ่นถอยมามากเกินไปสายก็จะตกท้องช้างได้  การแช่ปลายคันไว้ในน้ำน้นช่วยให้ปลายคันไม่ถูกลมพัดโยกไปมาและสายเอ็นจะไม่ถูกลมพัดให้หย่อนได้ครับ  จะให้ชำนาญต้องไปตกบ่อยๆครับแล้วเราจะจับจังหวะในการยกคับได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ผมตกใหม่ๆก็เอาทุ่นขึ้นไปติดต้นไม้ประจำ บางทีวัดผิดจังหวะคู่ต่อสู้รู้ตัวเผ่นออกจากตรงนั้นฟองฟอดไปเลยได้แต่นั่งเสียดาย แต่ก็ได้เรียนรู้ว่าอย่าใจร้อนถ้าไม่มั่นใจรอจังหวะให้แน่ใจก่อนถ้าจับจังหวะไม่ทันก็ให้เขากินเหยื่อจนหมดแล้วยกขึ้นมาเบาๆแล้วส่งเหยื่อลงไปหลอกล่อกันใหม่จะดีกว่า นี่แหละเสน่ห์ของชิงหลิวที่สามารถเข้าและออกจากหมายได้แม่นยำและเงียบที่สุด
olaola(344 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.31: 1 มิ.ย. 50, 11:33
คห.32: 1 มิ.ย. 50, 11:45
การวัดปลา จุดประสงค์ก็คือการกระตุกให้คมเบ็ดฝังเข้าไปในปากปลา หากสายตึงอยู่ แค่เรากระตุกสายนิดเดียวเท่านั้นแรงกระตุกก็จะส่งถึงปลายสาย หากสายหย่อนอยู่ จะกระตุกยังไงแรงก็ส่งไม่ถึงปลายสาย คันยาวจะได้เปรียบคันสั้นเพราะรัศมีของปลายคันจะเดินทางยาวกว่า

เวลาตกชิงหลิว สมมุติว่าคันยาว 4.5 เมตร ชุดสายทั้งหมดก็จะยาวประมาณเท่านั้นเหมือนกัน สมมุติว่าน้ำลึก1.5 เมตรก็เท่ากับว่าระยะสายจากปลายคันถึงที่ตัวทุ่นก็ประมาณ 3 เมตร ยิ่งถ้าตกแบบชิงหลิวและดีดเหยื่อออกไปได้ถูกต้อง สาย 3 เมตรนี้ก็แทบจะไม่มีการหย่อนเลย พอปลาตอด เราแค่ยกข้อมือกระดกคันขึ้นเท่านั้นก็เพียงพอที่จะกระตุกให้เบ็ดติดปากปลาได้แล้ว

เวลาตกด้วยคันสปิน ติดทุ่น ส่วนมากก็จะตีเหยื่อออกไป สมมุติว่าตีเหยื่อออกไปสิบเมตร ทุ่นอยู่ที่ระยะสิบเมตรก็จริงแต่สายที่ลอยอยู่บนผิวน้ำก็อาจจะยาวกว่าสิบเมตร เวลาวัดปลา ถ้ากระดกแค่ข้อมือก็คงจะไม่เพียงพอเพราะไหนจะต้องวาดให้ได้ระยะเพียงพอที่จะเก็บสายที่หย่อนอยู่ให้ตึงก่อนที่แรงกระตุกจะส่งถึงปลายสาย

วัดปลาไม่ใช่วัดแรงหรือวัดค่อยครับ วัดปลาคือการที่จะทำยังไงให้แรงกระตุกของเราส่งไปถึงปลายสายเท่านั้น

ส่วนคำถามที่ว่าทำไมถึงต้องให้ปลายคันจุ่มน้ำ นั่นก็เพราะเราต้องการให้สายจมน้ำ สายจะได้ไม่ถูกลมพัดเหไปมา ซึ่งจะส่งผลไปถึงตัวทุ่นด้วย

หากอยากจะตกปลาด้วยทุ่นแบบชิงหลิวก็หันมาใช้คันชิงหลิวเถอะ คันที่มีรอกเอาไว้ตกด้วยวิธีอื่น ผมคิดว่าขนาดของปลาที่ตกกันอยู่ทั่วไปมันไม่น่าจะใหญ่โตเสียจนจะต้องสู้ด้วยคันประกอบรอก

ตกชิงหลิวมีข้อจำกัดอยู่ที่ไม่สามารถตกในระยะห่างจากฝั่งมากๆ ได้ แต่นั่นก็คือเสน่ห์ของเกมส์ การตกอยู่แค่ในระยะสุดปลายสายก็ไม่ต้องไปรบกวนผู้อื่น พื้นที่นิดเดียวก็นั่งเรียงหน้ากระดานตกกันได้ ตกปลากันไปก็คุยกันไปได้ เวลาวัดปลาเล่นปลาก็ทำกันแบบเรียบง่ายไม่ต้องโฉ่งฉ่าง เห็นบางคนที่ตกด้วยคันมีรอก ตีเหยื่อออกไปเสียไกล วัดธรรมดาปลาก็ไม่ติดเบ็ด ต้องใช้วิธีพาคันออกวิ่ง ดูแล้วเหนื่อยแทนครับ
TITHI_dam(1044 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.33: 1 มิ.ย. 50, 12:11
ผมชอบบอก เพื่อนๆเสมอว่า เวลาวัดคันชิงหลิว ให้วัดแค่หักข้อมือ เหมือนกับการเปิดน้ำอัดลมเท่านั้นครับ ข้อสังเกตุเมื่อวัดคันแล้ว ทุ่นไม่ค่อยจะพุ่งขี้นพ้นจากน้ำ
ส่วนเรื่องสายเอ็น ที่เหมาะสมกับชิงหลิว ไม่ควรใช้สายใหญ่ ผมนนิยมใช้ 6-8 LB มีผลดีคือ
1.ช่วยให้ปลากินเหยื่อไม่ระแวง มีผลกับอาการของทุ่น เมื่อปลาไม่ระแวง (ทุ่นก็ออกอาการแรงตามไปด้วย)
2.ช่วยให้สายจมน้ำเร็ว และไม่ตกท้องช้าง
3.ช่วยให้ ไม่เกิดอันตรายต่อคันเบ็ด
เพื่มเติมซะนิดครับ หากเมื่อไรที่ปลาติดแล้ว ห้ามลดคันจนคันชี้ไปที่ปลาเด็ดขาด ผลก็คือทำให้สายขาดได้ทันที แต่เมื่อไรทีเราสามารถตั้งคัน ให้มีองศาเพียงเล็กน้อย สายไม่ขาดแน่นอนครับ
 
คห.34: 1 มิ.ย. 50, 12:45
ชัดเจนเลยค่ะ แต่ต้องหัดตวัดคันนิดส์ๆๆก่อน เอิ๊กๆๆ ขอบคุณค่ะน้าแหลมแท่น น้าใหญ่ และน้าติ
jedi(100 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.35: 1 มิ.ย. 50, 12:51
ยินดีด้วยครับ
คห.36: 1 มิ.ย. 50, 13:09
ขอขอบคุณคุณใหญ่ บางพลี  คุณแหลมแท่น และคุณ TITHI_dam มาก ๆ ครับ ชัดเจนจริง ๆ ครับ
คห.37: 1 มิ.ย. 50, 15:37
555 ได้ความรู้อีกแล้ว 555
ขอบคุณครับน้า ๆ ที่ให้ข้อมูล

ชัดเจนเลยค่ะ แต่ต้องหัดตวัดคันนิดส์ๆๆก่อน เอิ๊กๆๆ ขอบคุณค่ะน้าแหลมแท่น น้าใหญ่ และน้าติ
.... โปรปุ๊มาเอง 


ปล.น้าหมอสมยศ/น้า ๆ ที่ถามคันชิงหลิว ในหน้าตลาด"ร้านน้องบัว"เห็นมีขายคันและอุปกรณ์ชิงหลิวครบวงจร อิอิผมไปอุดหนุนมาแว้ว  http://www.siamfishing.com/market/mview.php?tid=62644
คห.38: 1 มิ.ย. 50, 16:23
ฮั่นแน่ๆๆ น้าแดง อิอิ  (((จุ๊ๆๆๆ )))
คห.39: 2 มิ.ย. 50, 00:55
แก้ไขภาพและบรรยายใหม่ครับ เพื่อความถูกต้องที่สุดครับ

และวันนี้ผมก็ได้ไปตกมาครับ เราควรจะให้ปลายคันอยู่ผิวๆน้ำไว้จะดีครับ หรือจุ่มปลายคันไปซักคืบก็ได้นะ ลมไม่มารบกวนเลยครับ ....จริงอย่างที่น้าแหลมแท่นได้ว่าไว้ครับ

ชิงหลิวโดยแท้  สอนอะไรเราบ้างที่การตกปลาอื่นๆไม่มี
-ฝึกให้มีสมาธิ (มองทุ่น)
-ฝึกให้ผู้ตกไต่ตรองวิเคาะห์อย่างมีเหตุและผล(ดูลักษณะอาการของทุ่น)
-ฝึกการตัดสินใจ( การวัดปลา)
-ฝึกให้มีความเป็นนักกีฬา รู้จักแพ้ชนะ (ตัวเบ็ดเกี่ยวภายในปาก,ปลาเข้าสวิง)
และที่สำคัญที่สุด เป็นกีฬาสุภาพชน
คห.40: 2 มิ.ย. 50, 06:17
ส่วนตัวหนังสือที่บรรยายภาพอยู่นั้น
-คัน2.4เมตรขึ้นไป
-สาย4-8ปอนด์
-เบ็ดเบอร์5-9
-จากฝั่งถึงทุ่นไม่เกิน3เมตร
-ลึก1-2เมตร
-เหยื่ออ่อย


- ไม่มีกฏเกณฑ์เรื่องความยาวของคันชิงหลิว อยากตกไกลก็ใช้คันยาว จะตกใกล้ก็ใช้คันสั้น

- ขนาดสายและตัวเบ็ดก็ขึ้นอยู่กับความพอใจและขนาดของคันที่ใช้รวมถึงปลาที่ต้องการจะตกด้วย

- จากฝั่งถึงทุ่นจะกี่เมตรก็ได้ ตกไกลใช้คันยาว ตกใกล้ใช้คันสั้น

- ความลึกก็แล้วแต่สถานที่ๆ ไป

- เหยื่ออ่อยก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลเช่นกัน บางคนก็จะอ่อยเป็นงานเป็นการ บางคนก็อาจจะโยนเหยื่อออกไปยังบริเวณที่หย่อนเบ็ดบ้าง บางครั้งพอตั้งทุ่นเรียบร้อย ดีดเหยื่อไปเม็ดแรกก็มีปลากินเบ็ดเลย อย่างนี้ก็ไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องอ่อยเหยื่ออีก เศษเหยื่อที่เหลือจากเหยื่อแต่ละเม็ดที่ส่งออกไปก็อาจจะทำงานได้เพียงพอแล้วก็ได้
คห.41: 2 มิ.ย. 50, 12:39
คห.42: 3 มิ.ย. 50, 11:01
ไม่รู้เค้าเล่นอะไรกัน เลยเอามาให้ด
ไม่รู้เค้าเล่นอะไรกัน เลยเอามาให้ดูครับ
artit(17 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.43: 3 มิ.ย. 50, 13:16
เมื่อวานไปตกสปิ๋วมาครับปลานิลน้อย  วัดติดยากมาก  คันหน้าดินที่ไม่ค่อยใส่ใจดันได้ไซส์  เกือบกิโล !คงต้องหาคันชิงหลิวมาเรียนรู้กับเขาบ้างแล้ว  แนะนำด้วยครับ  ไม่เกิน1000 b.
aRtist(65 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.44: 3 มิ.ย. 50, 14:42
แหล่มเลยครับน้าหรั่ง น้าแหลมแท่น และน้าๆที่ให้คำแนะนำ







มือใหม่อย่างผมได้ความรู้ไปเต็มๆ





masternui(41 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.45: 4 มิ.ย. 50, 13:21
มะวันเสาร์ไปลองหมายธรรมชาติ มาเจอแก้มช้ำลุม วัดซะเบื่อเลย วัดติดยาก มันจะดูด ๆ พ่น ซักแปป แล้วมันจะลาก ทีเดียววัดทันก็ได้ตัว - -เยอะจริง ๆ
คห.46: 4 มิ.ย. 50, 15:12
สนุกไหมครับนี่ละครับการต่อสู้ที่ยุติธรรมที่สุด มันเรียกอดีนาลีนได้ดีจริงๆใช่ไหมครับ คุณ masternui ขอแนะนำว่าลดขนาดของตัวเบ็ดและขนาดของเหยื่อลงให้ปลาดูดเข้าในปากได้ครับเพราะถ้าเหยื่อใหญ่ปลาจะตอดนานครับบางครั้งก็จะคาบเหยื่อไว้แล้วว่ายหนีปลาตัวอื่นซึ่งเวลาวัดอาจติดส่วนอื่นๆที่ไม่ใช่ปากของปลาตัวอื่นได้ครับ
คห.47: 4 มิ.ย. 50, 16:23
กระแสร์  ชิงหลิว แรงดีจัง
เห็นทีจะต้องไปรื้อมาปัดฝุ่นซะหน่อยแล้วค่อยตามน้าๆไปตกปลาด้วยคันชิงหลิวบ้าง
The Bear(171 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.48: 4 มิ.ย. 50, 17:12
สนุก สนาน กันใหญ่ 

น้าเอกครับ อย่างน้าไม่ต้องปัดฝุ่นหรอก แค่หาเวลามาเปิดคอร์ส สอนน้องๆ ก็พอแล้วครับ 
คห.49: 4 มิ.ย. 50, 18:13
หวัดดีครับ น้า หมี ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนเลยว่าอย่าให้ถึงกับสอนเลยครับเรามาสังสรรค์แรกเปลี่ยนความรู้กันดีกว่า
เพราะทุกวันนี้ผมตกปลาแบบเป็นอาชีพไปแล้ว (ทำงานเป็นงานอดิเรก+ตกปลาเป็นอาชีพ )เพราะฉะนั้นวิธีการย่อมต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมพอสมควรซึ่งในบางครั้งที่ผมออกมาโพส
เกี่ยวกับการตกปลาเกล็ดจึงอาจจะไม่ตรงกับ..ทฤษฎี..เท่าที่ควร (เพราะเวลาไปแข่งคุณต้องใช้ความสามารทเฉพาะตัว+ทีมงานที่จะต้องปรับเปลี่ยนอยู่ตลอด )
ยกตัวอย่างการตั้งทุ่นแบบ..กึ่งบาล๊าน หรือ กินดิบ  นี่อ่ะนะในหลักของการตั้งทุ่นที่ถูกต้องน่ะไมมีครับแต่เรานำมาปรับใช้จนประสบความสำเร็จ

พูดซะยาวเลย ก็ถ้าว่างเรามานัดแรกเปลี่ยนความรู้กันนะครับน้าๆทุกท่าน
ไม่เจอพี่ หมี  ตั้งนานแระเมื่อไหร่ดีล่ะโพสบอกบ้างเด้อ
jedi(100 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.50: 8 มิ.ย. 50, 14:47
อยากทดลองดูบ้างครับ ?? 
<123>
siamfishing.com © 2024