บาล๊าน กับ ไม้ตาย  เป็นการตั้งทุ่นที่ไม่เหมือนกันเลยครับ

การตั้งทุ่นแบบบาล๊านนั้นเวลาปลาเข้า  ปลาตอด    ปลาดูดเหยื่อ  ฯลฯ
แม้แต่เวลาเหยื่อหมดทุ่นจะสื่ออาการให้รู้ว่าเหยื่อหมด (ไม่ใช่เหยื่อหมดทุ่นถอนจนนอน )

การตั้งทุ่นแบบไม้ตายคือตะกั่วกองที่หน้าดิน ถ้าน้ำตื้นทุ่นก็สื่ออาการได้ แต่ถ้าน้ำลึกล่ะก็ทุ่นจะสื่ออาการไม่ดีเท่าที่ควร
คุณจะรู้ว่าปลากินก็ตอนที่ทุ่นถอนขึ้นมาแล้วหรือลากคามือ
เหยื่อหมดก็ไม่รู้

ส่วนการตั้งทุ่นแบบ...กินดิบ + กึ่งบาล๊าน หรือ  กึ่งไม้ตาย
เป็นการนำการตั้งทุ่นแบบ  บาล๊าน + ไม้ตาย  มารวมกัน
ซึ่งการตั้งทุ่นแบบนี้น่ะผมเคยบอกแล้วว่ามันเป็นของใหม่ที่ไม่มีในตำรา
เพราะฉะนั้นย่อมเป็นที่สับสนของหลายๆท่าน
 
ข้อดีของการตั้งทุ่นแบบ + กึ่งบาล๊าน+ กึ่งไม้ตาย
ตกได้ทุกประเภท    ซึ่งไม้ตายโอกาศตกปลาซ่ง+ ปลาเล่ง ยากมาก
แต่กึ่งบาล๊าน +กึ่งไม้ตาย  ตกปลาซ่ง+เล่ง ได้ไม่แพ้บาล๊านเลยครับ
และเป็นการปิดข้อเสียหลายๆด้าน  เช่น  เหยื่อหมดเราก็รู้
ถ้าเป็นไม้ตายทุ่นจม (ปลาตอกเหยื่อ )จะวัดไม่ค่อยอยู่แต่วิธีนี้วัดอยู่

ป.ล  การตั้งทุ่นแบบนี้เป็นประยุกต์มาใช้กับการแข่งขันซึ่งแน่นอน
ย่อมต้องไม่ค่อยมีใครรู้จักผมจึงอยากเผยแผ่ให้ได้รู้จักว่ามีการตั้งทุ่นแบบนี้ (ซึ่งมันไม่มีใน  ตำรา  ) แต่รับรองผล 100%  555

ส่วนวิธีที่  น้า บิ๊กเกม วาดรูปมาน่ะครับผมว่าตามนี้ไกล้เคียงที่สุดแล้วครับ
     
    ข้อ.  2    7    8    9

ขอให้สนุกกับการฝึกซ้อมครับ

ถ้ามีกินสุกช่วยบอกด้วย น้าเอก 

แก้ไขให้เรียบร้อยแล้วครับ น้าเอกและน้าTITHI_dam

ทั้งสามแบบที่ว่าใช่แบบนี้รึป่าวครับ.. น้าเอกครับ

ถูกครับน้า หรั่ง

แต่แบบที่1 น่ะ  ตะกั่วจะลอยเรี่ยๆพื้นเลยอ่ะครับในรูปสูงไปครับ

กินสุกเป็นอย่างไงหรือครับ บังชาย เทคนิคใหม่หรือครับ  อิอิ
แสดงว่า หลายท่านยังไม่เข้าใจเรื่องของการตั้งทุ่น แบบบัลลานซ์ 
การตั้งทุ่น แบบบัลลานซ์ คือการตั้งทุ่น โดยใช้ตะกั่วถ่วงให้ ทุ่นตั้งตรงตามที่เรากำหนด  เช่น  เมื่อเริ่มตั้งทุ่น (ก่อนใส่เหยื่อ) กำหนดน้ำหนักของตะกั่ว เพื่อให้หางทุ่นตั้งพ้นน้ำ 4-5ข้อ (หลังใส่เหยื่อ) เหยื่อตกถึงพื้น หางทุ่นจมเหลือ 2ข้อ แต่เมื่อเหยื่อหมด ทุ่นก็จะกับมาที่4ข้อเช่นเดิม ดังนั้น การตั้งทุ่นแบบบัลลานซ์ เมื่อเหยื่อหมด ทุ่นบอกได้ครับ   

แก้ไขให้เรียบร้อยแล้วครับ น้าเอกและน้าTITHI_dam

สำหรับวิธีการตกสปิ๋ว/ชิงหลิวนั้นก็ได้พัฒนาไปอีกขั้นโดยมีน้กตกปลามืออาชีพหลายๆท่านมาเปิดเผยกันแบบไม่หวงวิชาเลย ขอบคุณมากครับ

น้า ธิติ  เปิด  อคาเดมี่    อีกรอบเป้นไง

พึ่งรู้ว่าเค้าเรียก ว่ากินดิบ ตกแบบนี้บอ่ยเหมือนกัน แต่ คำนวนน้ำหนักเหยื่อยาก  แต่สำหรับคนหัดตก สปิว ไม่ควรข้ามขั้นตอนควร ตกไม้ตายกอ่น จะได้ข้าใจง่ายในการตกแบบต่อไป การแต่งตะกั่ว  การตั้งทุ่น การเลือกใช้ทุ่น การตั้งลาย การปั้นเหยื่อ อาการของทุ่น ลักษณะการกินของปลา เมื่อเราชำนาน การตกแบบนี้แล้ว ในการตกแบบอื่นๆต่อไปก็จะเข้าใจง่ายขึ้น  มัมบอกยาคับ กับการตั้งทุ่นแต่งตะกั่ว เพราะทุ่นแต่ละตัวไม่เหมือนกัน   

การตั้งทุ่นแบบ บาล๊านที่ถูกต้องให้ดูที่หมายเลข  2  และ  5  ครับ


พี่ ชาย    กินสุกต้องรออาทิตย์นี้  ไปกินด้วยกัน  คงไม่ต้องบอกนะว่าที่ใหน

อยากไป ปิ๋ว อเคเดมี่ ค้าบบบ
น้าเอก จัดอีกทีสิ่คับบบบ

กินสุก

ตามไปกินด้วยได้เปล่า แต่ม่ายกินหมูกับเหล้านะ

น้าเอกครับ เปิดอคาเดมี่เมื่อไร แจ้งด้วยครับ ผมอยากเพิ่มความรู้ครับ ขอบคุณน้าๆ ท่ให้ความรู้ครับ

พี่ ชาย    กินสุกต้องรออาทิตย์นี้  ไปกินด้วยกัน  คงไม่ต้องบอกนะว่าที่ใหน

55555  ...  น้าเอก จะ พา บังชาย(แสนแสบ)ไปกินซกเล็กที่ไหนเหรอคับ ??

ขอบคุณ BIG GAME  ผมกินสุกๆดิบๆ บาลานซ์ เอาตามคุณ ฐิติ ครับ 23 ปีที่ผ่านมาก็เรียกการตั้งทุ่นแบบนี้ว่าบาลานซ์มาตลอด ไม่เชื่อถาม...(เอเอาใครดีหว่า) ชื่อที่เรียกกันอยู่เนี่ยเรียกการตั้งทุ่นครับ ซึ่งคุณต้องตั้งทุ่นให้ได้ตามที่คุณต้องการซึ่งมีข้อกำหนดหลายอย่างเช่นระดับน้ำจะกำหนดขนาดทุ่นและขนาดทุ่นจะกำหนดน้ำหนักที่ต้องในการถ่วงตั้งทุ่นลมมีผลกับการเลือกหางทุ่นและการโผล่มากหรือน้อยของทุ่นการเลือกประเภทของปลาที่จะตกจะกำหนดว่าจะตั้งบาลานซ์ในระดับ(กระทู้คุณหรั่งนครสวรรค์แต่คุณหรั่งไม่ได้ตั้งทุ่น)ไหนเพราะปลาแต่ละชนิดหากินไม่เหมือนกัน การตั้งทุ่นในการตกชิงหลิวมีแบบบาลานซ์เท่านั้นที่นิยมใช้เพราะสามารถหย่อนเหยื่อลงจุดเดิมได้เสมอ(ไม่มีปัญหาเรื่องระดับน้ำเหมือนสปิ๋ว)เมื่อต้องตกไกลตลิ่งออกไปมาก และการทำงานของทุ่นจะดีกว่าแบบอื่นๆ คนที่ตกชิงหลิวจึงชอบตั่งทุ่นแบบบาลานซ์ ไม้ตายใครเป็นคนตั้งชื่อไม่รู้คิดว่าเหมาะกับการตกสปิ๋วที่สุดด้วยเหตุผลที่ตรงข้ามกับชิงหลิวเพราะมีการเคลื่อนย้ายที่ตกไปได้เรื่อยๆปรับระยะทุ่นก็แค่เลื่อนไลน์สต๊อปเปอร์ จะสะดวกเวลาไปแข่งขันมากกว่าชิงหลิวซึ่งมักลงรากจนเลิกตกถ้าไม่ถูกกวนหมายซะก่อนการตั้งทุ่นแบบไม้ตายหลักคือน้ำหนักถ่วง****ต้องสามารถทำให้จมเพื่อให้สายจากทุ่นถึงน้ำหนักถ่วงอยู่ในแนวดิ่งโดยหาระดับน้ำที่ทุ่นจมแล้วเลื่อนขึ้นจนหางทุ่นโผล่ตามสภาวะแวดล้อมจะ 1,2หรือ 3 ก็แล้วแต่ความเหมาะสม ****การถ่วงน้ำหนักควรถ่วงแค่ทุ่นจมพอดีโดยทดลองในน้ำทีใสและสามารถมองเห็นได้เช่นไนตู้ปลาว่าน้ำหนักถ่วงลงถึงก้นตู้ การถ่วงน้ำหนักมากเกินความจำเป็นมีผลกับการกินเหยื่อของปลา ถ้าถ่วงน้ำหนักพอดีแค่ปลาดูเหยื่อเบาๆทุ่นก็สามารถลอยตัวขึ้นได้ไม่ต้องรอให้ปลาคาบเหยื่อขึ้นซึ่งถ้าถ่วงน้ำหนักมากเกินไปปลาก็จะระแวงอีก ส่วนตัวทุ่นผมใช้ตัวอวบสั้นหาง 3 ข้อครับ(คุณเอกเรียกกินดิบใช่ไหม)และที่คุณอั๋น ว่านั่นเห็นด้วยครับ ทุ่นแต่ละตัวไม่เหมือนกันส่วนตัวผมทุ่นแต่ละตัวจะมีของใช้ส่วนตัวของใครของมันเตรียมไว้เลยครับตั้งในอ่างเลยครับ รูปแบบการตั้งทุ่นยังมีอีกมากที่ถูกคิดค้นไว้ลองคิดค้นรูปแบบใหม่ๆแล้วค่อยตั้งชื่อให้มันถูกใจสักรูปแบบนึง เราจะได้เป็นผู้ต้นคิดเทห์ๆๆๆๆๆ ซ๊ะ โอ๊ยเมื่อยนิ้วจัง

รู้สึกว่ากะทู้นี้อบอุ่นจัง
คิดดูดิ  มีทั้ง  น้าธิติ  แล้วก็  น้าใหญ่  บางพลี  นี่อีกคน  บังชาย แสนแสบ(ss1)

เห้อ....... ทำให้ผมดูเด็กขึ้นตั้งเยอะ

55555 จริงๆแล้วชอบ ที่จะเป็นคนชมมากกว่า จึงไม่ค่อยมาออกแสดงความเห็นเท่าไรครับ แต่เมื่อเห็นว่า หากไม่มาแสดงความเห็น ก็อาจจะทำให้ ผู้ที่สนใจรุ่นใหม่ๆ อาจเข้าใจผิดได้ครับ    ขอให้ตกปลาอย่างสนุกครับ 

โอยย 

ต้อง ขออภัยครับ น้า THITI_DAM ครับ
ผมไม่ได้มีเจตนา มาเผยแพร่  ให้คนอื่นเข้าใจผิดๆ นะครับ
เพียงแต่ ผมได้ลองปฏิบัติแล้ว มีคำถามต่างๆนาๆ ที่ผมไม่แน่ใจ
และยังไม่รู้ หน่ะครับ
ผมเลยตั้งกระทู้ถามครับ ว่า ส่วนไหนผมทำถูก หรือ ผิด
อยากให้น้าๆช่วยแก้ไขให้มันถูกต้องสมบูรณ์ ครับ
 

**************
ตามข้อความด้านล่างนี้หน่ะครับ
**************

น้าๆช่วยดูหน่อยครับ ว่า ตรงไหนถูก ตรงไหนผิด ยังงัย
ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ
ผมจะได้ปฏิบัติได้ถูกต้อง และสมบูรณ์ที่สุดครับ

ขอบคุณมากๆครับ

*********************

ตอนนี้ เข้าใจอย่างดียิ่ง และ พร้อมที่จะนำไปปฏิบัติให้ถูกต้องแล้วครับ

ขอบคุณน้าๆทุกท่านมากเลยครับ 

ขอถามอีกนิดนะครับ

ถ้าเปลี่ยนเป็น เอาฟิลล์ มาร้อยในสาย แทนการที่จะพันในลูกหมุน มันจะได้ไหมครับ

เพราะเอาฟิลล์ พันลูกหมุนแล้ว พันยากเหลือเกิน ใช้ลูกหมุนเล็กหน่ะครับ
แล้วอีกอย่างคือ เอาฟิลล์ พันที่ลูกหมุน แล้ว ลูกหมุน ไม่ค่อยหมุนเลยครับ

*********

ขอบคุณน้าๆทุกท่านมากครับ

ขอเสริมหน่อยนะครับ  นานๆเพื่อนผมมันจะโผล่มาออกความเห็นซะที(ท่านดำ)
การตกบาลานซ์ส่วนใหญ่ผู้ตกจะไม่ใช้ขนมปังเกี่ยวตัวเบ็ดนะครับจะใช้เหยื่อเม็ดเพื่อหวังผลการตกปลาซ่งปลาเล่งเป็นหลักเพราะฉนั้นเมื่อเหยื่อหมดอาการของทุ่นจะเปลี่ยนไปเราจะรู้ได้ไม่เหมือนกับการตั้งทุ่นไม้ตายเราจะไม่รู้ว่าเหยื่อหมดเพราะตะกั่วแตะหน้าดินทุ่นจะไม่ขยับบอกอาการนะครับ
ส่วนการตั้งทุ่นข้อที่เป็นจุดประสงค์หลักก็คือ  เราต้องการตกปลาอะไร(ใช่ไหมครับ)เราก็จะใช่วิธีนั้นๆในการเลือกที่จะตั้งตกแบบไหน.....
และส่วนที่มีผลมากที่สุดก็คือการวัดเบ็ด...เมื่อวัดติดปลาแล้วใช่ว่าจะได้ปลาที่ถูกต้องเสมอไป    ถ้าตั้งทุ่นผิดประเภทในการตกแล้ว....วันนั้นคุณจะได้ปลาที่ไม่ได้ใช้ปากกินเหยื่อเลย...
ในการตกปลาของคนที่ตกชิงหลิวอย่างเดียวจะตั้งทุ่นแบบบาลานซ์เสมอเพราะตกปลาได้ครอบคลุมกว่า..และที่สำคัญเหยื่อทุกเม็ดในการเหวี่ยงออกไปจะลงในหลุมเดิม  นี่คือสิ่งที่การตกแบบอื่นทำไม่ได้   
แต่ที่คนส่วนใหญ่นิยมตกไม้ตายกันมากมีเหตุผลเดียวครับ....ตั้งง่ายไม่ยุ่งยากและปลากินไว....ปลาอะไรก็คงรู้นะครับ 
เพราะฉนั้นไม่ว่าจะตั้งทุ่นอะไรแบบไหน  ถามตัวเองก่อนว่าจะตกอะไร  แล้วเราเลือกให้เหมาะสมกับหมายนั้นๆจะดีกว่านะครับ
ฝากคำถามสักข้อ 
คุณแคร์ไหม  ถ้าวัดปลาแล้วต้องติดปาก
(คนที่ตกชิงหลิวจะถือเรื่องนี้มากเพราะจะบอกให้รู้ได้เลยว่าสติและจิตใจตอนนั้นเป็นอย่างไรมีสมาธิไหม.....ลองถามพวกตกชิงหลิวดูนะครับว่าเวลาไปตกกันเป็นกลุ่มแล้วมีคนวัดปลาดช้างติดคางจะโดนเหน็บแนมตลอดทั้งวันเลย....จริงไหมท่านดำ)

ข้าน้อยขอคาราวะ ....

รับทราบครับ