7. ปลาไนเจ็บแล้วจำ

          ถ้าใครทำปลาไนหลุดหรือทำสายเบ็ดขาดติดกับปลาไนไป  ก็เตรียมย้ายไปหาหมายใหม่ได้เลย  เพราะปลาไนที่หลุดไปนั้นมันจะไปส่งสัญญาณบอกให้พรรคพวกมันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมัน  และปลาไนจะพากันนี้ไปทั้งฝูง
          กว่ามันจะลืมนาทีระทึกใจที่ถูกอัด ถูกวัดเกือบตายหรือเกือบเอาตัวไม่รอด ก็อีกนานหลายชั่วโมงเชียวละ  กว่ามันจะว่ายกลับมาที่เก่า รวมถึงการที่ไม่มีกระชังขังปลาด้วย  เพราะปลาไนที่ตกได้แล้วปล่อย  มันก็จะไปบอกกับพวกของมันถึงความโหดร้ายใจดำของมนุษยื  บางรายที่เห็นว่ามันอ้วนท้วนมีน้ำหนักจะเกินพิกัดไป  ก็จับมันรีดน้ำหนักจนไส้แทบทะลักออกมาก็มี  แล้วมันก็ชวนกันหนีไปโลด

          เรื่องกระชังขังปลานี้ มีเจ้าของบ่อบางคนจะเถียงชนิดหัวชนกำแพงหรือยืนกระต่ายขาเดียวว่า ไม่จริ๊งไม่จริง  และไม่ยอมเชื่อว่า ปลาที่ปล่อยไปโดยไม่ใส่กระชังขังไว้ก่อนนั้นมันจะไปบอกพรรคพวกมันได้    แต่บรรดานักกีฬาตกปลาหน้าเก่า ๆ เขาเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง  เขากลัวการปล่อยปลาที่ตกได้มันจะไปบอกพวกมันทำให้ตกปลากันไม่ค่อยได้    พอดีพอร้าย  ถ้าบ่อนั้นไม่มีกระชัง  เขาก็อาจจะโยนปลาไว้ในรกในพวงบนตลิ่ง  หรือแอบยัดใส่กระเป๋ากลับบ้านเสียเลยก็มี    ปลาตัวนั้นมันจะได้ไม่มีโอกาสไปบอกเพื่อนได้

ส่งให้น้า นารา คนเดียว คนอื่น ก็ไม่ได้อ่านอ่ะดิ 

ต่อเลยครับ

8. ปลาไนก็กลัว  "หมายดำ"

          " หมายดำ"  ในภาษาตกปลาวันละคำมีความหมายว่า  บริเวณที่ใครเอาแก๊สหรือลูกเหมันมาทิ้งไว้เพื่อไล่ปลาให้ไปอยู่ที่อื่นนั่นเอง  ซึ่งเป็นผลงานของนักกีฬาตกปลาสมองไวที่จะทำมิร้านมิดี หรือวังที่จะกวาดรางวัลแต่ผู้เดียว  บริเวณดังกล่าวนี้ไม่ว่าปลาไน หรือปลาอะไร ก็ไม่ว่างเข้าไปอย่างเด็ดขาด  เพราะมันเหม็นแก๊สหรือลูกเหม็นนะซี่  กว่าจะย้ายกลับมาอีกทีก็ราวๆ  14-15 วัน กลิ่นนั้นจึงจะจางหายไป

9. ปลาไนไปขึ้นสวรรค์กันง่าย

          ปลาไนเป็นปลาที่มีสีสันสวยงามน่ารัก  มีทั้งสีเหลือง สีส้ม สีขาว สีดำ และสีเทา  บางชนิดก็มีหลายสีในตัวเดียวกัน  ตระกูลเดียวกับปลาคาร์พนั่นเอง  ใครที่ตกได้ก็อยากจะเอาไปเลี้ยง  มีทั้งเลี้ยงไว้ดูเล่นและเลี้ยงแขก  เพราะรสชาติของปลาไนนั้นอร่อยเคยขึ้นเหลาเป็นอาหารจานเด็ดมาแล้ว

          ก็เพราะความน่ารักและน่ากินของมันนั่นเอง  ใครที่ตกได้ก็มักจะแอบนำกลับไปบ้านกันคนละตัวสองตัว  หลายคนก็หลายตัว  และหลายคนกับหลายๆ  วันมันจะเป็นกี่ตัวเล่าครับ  กว่าเจ้าของบ่อเขาจะหาซื้อปลาไนมาปล่อยได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย   
            ทั้งหายากและราคาก็แพงมาอีกด้วย  เจ้าของบ่อสมองไวบางรายไปหาซื้อลูกปลาคาร์พตัวละ 4-5 บาท  มาปล่อยก็มี  เลี้ยงไว้ครึ่งค่อนปีก็โตขึ้นมาก  แต่ลูกปลาไนมันก็เขาไปอยู่ในปากในท้องของปลาล่าเหยื่อ  เป็นอาหารจานโปรดของปลาช่อน ปลาชะโดและปลากระพง  วันละไม่น้อยเหมือนกัน  พอมันโตขึ้นได้  ก็กลายเป็นอาหารจานโปรดของคนอีก  ต่างกับปลาซัคเกอร์ที่มีรูปร่างน่าเกลียดจึงไม่มีใครเอาไปกิน

          สรุปแล้ว  ปลาไน จึงมีโอกาสขขึ้นสวรรค์ กันตั้งแต่เล็กจนโตอย่างง่ายดาย  โดยที่เจ้าของบ่อบางรายยังมั่นใจว่าในบ่อของเขานั้นยังมีปลาไนอีกเยอะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
                      จบแล้วครับ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

                                      ปลาตายกลายเป็นปลาผี

                          คนก็ตายกลายเป็นผี  ตามไปตกปลาผี

       

555555 ---รับทราบข้อมูล ครับ

ความรู้เพิ่มพูน ขอบคุณน้าโยมากคับบบบ

ขอบคุณน้านารา ที่ตั้งฉายาให้ซะเท่เชียว
ความจริงแล้วเรื่องเทคนิคการหาหมายที่จะนั่งตกปลาเกล็ดผมได้เคยกล่าวไว้ในกระทู้ก่อน แต่เอาตามหลักง่ายๆ คือตามมุมบ่อ ใต้ต้นไม้ที่ยื่นลงในน้ำ ตอไม้หรือกังหันวิดน้ำ แนวสะพานพวกนี้ สามารถตกปลาเกล็ดได้ทั้งนั้นครับ

เทคนิคอีกอย่างในการ หาหมายคือการดูฟองปลา แต่ผมคงยังจะไม่แยกชนิดของฟองปลาแต่ละชนิดนะครับเอาเป็นว่า เทคนิคการดูฟองปลานั้น สามารถใช้เป้นข้อพิจรณาในการหาทำเลนั่งตกปลาได้อีกข้อนึง

การดูฟองปลาเกล็ด
ในการดูฟองปลาเกล็ดนั้นผมจะพูดแบบรวมๆ คือก่อนอื่นจะต้องแยกให้ออกก่อนว่าฟองปลากับฟองอากาศต่างกันอย่างไร
ฟองปลาเกิดจากการหายใจของปลา แล้วปล่อยเป้นฟองอากาศขนาดเล็กเล็กออกมาจากทางเหงือก ฉนั้นฟองอากาศที่ผ่านซี่เหงือกของปลามาจะมีคาวหรือเมือกบางๆของปลาห่อหุ้มออกมาด้วยฉนั้น อยากให้เพื่อนๆลองนึกถึงลูกโปร่งฟองสบู่ที่เราเคยเป่าเล่นตอนเด็กนะครับ  ลักษณะจะคล้ายๆแบบนั้น เมื่อฟองอากาศที่ถูกปล่อยมาจากเหงือกลอยขึ้นสู่ผิวน้ำเมือกบางๆที่หุ้มฟองอากาศนั้นจะยังไม่แตกทันที แต่จะลอยอยู่ที่หน้าผิวน้ำซักระยะนึงแล้วจึงแตกออก ฟองปลาแต่ละชนิดมีขนาดและลักษณะของการปล่อยฟองอกาศต่างกันไป บางชนิดจะปล่อยฟองอากาศมาคราวละ 1-2 เม็ด บางชนิดจะปล่อย เม็ดใหญ่และตามด้วยเม็ดเล็กๆ ในการดูฟองปลานั้น ผมแนะนำให้ดูช่วงเช้า จะเจอฟองอกาศได้ง่ายกว่า ส่วนฟองอากาศที่เกิดขึ้นเองใต้น้ำนั้น ลักษณะจะต่างจากฟองปลาที่ผมกล่าวไว้ข้างต้น คือฟองอากาศนี้จะผุดมาทีละหลายๆเม็ดเมื่อฟองอากาศลอยถึงผิวน้ำมักจะแตกทันที แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความตึงผิวของน้ำด้วย เทคนิคในการดูฟองปลาเกล็ดนี้ นักตกปลาบางท่านนำไปใช้ควบคู่กับการอ่อย เพื่อดูว่ามีปลาเข้ามาหรือยังอีกด้วย

ลองทดลองดูนะครับ 

โอ้โฮแฮะ สุดยอดครับ ขอบคุณ อาจารย์ปู่ครับ

ผมอยากเห็นพี่นาราใช้คันใหม่แล้วถ่ายรูปมาดูหน่อยเนี่ยเขาเรียกว่าคันตกปลาเกล็ด

น้าโยครับ..มีโอกาสเรามาแข่งตกปลาซัคเกอร์ที่มีรูปร่างน่าเกลียดกันไหมครับ..

คุณ นารา ตกปลาเกล็ดที่ไหนครับ ผมกำลังหาบ่อตกอยู่พอดี บอกหน่อยครับ

ผมเป็นแชมป์ตกปลาซัคเกอร์  บ่อแถว ๆ ทางไปสันกำแพงเน้อ  "นานมากแล้วตั้งแต่ปี 37 " อิ อิ  น้าละอ่อนเจียงใหม่  ฮุ้ไว้โตย 

: ข้อมูลแน่นเลยครับคราวนี้...

กระทู้นี้ต้องเซพแล้วหล่ะ ขอบคุณมากๆครับ

ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ขี้เกียจตก ทำไงดีหว่า

เอาเรื่อง ทุ่นชิงหลิว สามารถบ่งบอกถึงชนิดของปลา ที่กำลังเข้ามากินเหยื่อ  ใครรู้ช่วยเหลาทีครับ ขณะนี้ปวดหัวกับ เรื่องกล้องอยู่เลย คิดไม่ออก

บ่อตอนนี้ ปลาซ่ง ดีมากๆ อยู่แถวบางบอน5 ครับ ชื่อบ่อ วินเนอร์ รับรองว่าเซ็งปลาซ่งไปเลยครับ

สุดยอดคับ จะลองนำไปใช้สังเกตุดู
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จากน้ารินคัมคับ

ผมไปตกที่ช่อมะม่วงได้แต่ปลาไนเป็นส่วนมาก เยอะจริงๆ
ซัคเกอร์ก็เยอะ แรงดีซะด้วย อิอิ


อืมม์... ชอบภาพประกอบข้อความของน้าโย อุบลแฮะ เข้ากันดี

รับทราบข้อมูลครับ ...

เข้ามาเนี่ยก็เพื่อ
1. จะบอกว่าผมไม่ได้เป็นเทพและไม่ได้ดูแลโซนใดโซนหนึ่ง
2. ผมเป็นเพียงคนชอบตกปลาคนหนึ่งเท่านั้น
3. จุดที่มีปลาเกล็ดอยู่ ถ้าเป็นตามแหล่งธรรมชาติก็เป็นตามที่มีคนมาบอกไปแล้ว แต่ถ้าตามบ่อตกปลามันก็คงจะกระจายอยู่ทั่วไป อาจจะชอบมาอยู่มากเป็นพิเศษก็บริเวณที่พื้นผิวบ่อมีการเปลี่ยนแปลงระดับ
4. เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีใครเลี้ยงปลาไน เจ้าของบ่อตกปลาที่รู้นิสัยปลานี้ก็ไม่อยากจะปล่อยปลานี้ลงบ่อเพราะมีนิสัยชอบมาขุดโพรงที่คันบ่อ ทำให้คันบ่อยุบ
5. เวลาไปตกปลา ผมถือว่าเป็นการไปพักผ่อน การเลือกทำเลของผมก็ต้องเลือกทำเลที่สะดวกและสบาย ผมไม่ชอบทำเลที่แดดส่องหน้าหรือทำเลสวนลม
6. ทำเลที่แดดส่องหน้าทำให้มองทุ่นไม่ถนัดและทำให้หน้าดำได้มากเป็นพิเศษเพราะโดนแดดส่องโดยตรงหนึ่งทาง แถมด้วยแดดที่สะท้อนผิวน้ำมาอีกหนึ่งทาง โดนสองต่อเลย 
7. ทำเลสวนลม ผมก็ไม่ชอบ ยิ่งการตกปลาด้วยชิงหลิว เราก็ต้องการให้อุปกรณ์ปลายสายเราเบาที่สุดเท่าที่จะเบาได้ การโยนเหยื่อสวนลมก็มักจะทำได้ไม่ดีนัก

คุณใหญ่  บางพลี  ผมจาตกอยู่แถวๆยุธยา กาเสนานี่แหละครับ
        ส่วนตอนนี้ กาลังโจมตีแถบๆบางบัวทอง เหนว่าสูสีกัน
        บ้าสูสีกัน แต่ฝีมือคนละโยชน์

ขอบคุณน้าธิติ น้าแหลมครับผม
                  ส่วนน้า เจดาย กาน้าพงษ์ อาทิตย์นี้ ฝากตัวด้วยนะครับ

น้าเอก กะ น้า เจดาย  อาทิตย์นี้ ไป 345 หรือป่าวครับ จะได้ตามไปเชียร์

ไปครับ