..ขอที่พึ่งทางใจ และกำลังใจ จากน้าๆทุกๆท่านครับ...: SiamFishing : Thailand Fishing Community
<<<23456>>>
กระดาน
คห. 267 อ่าน 16,939
..ขอที่พึ่งทางใจ และกำลังใจ จากน้าๆทุกๆท่านครับ...
boonchooo(24 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.126: 8 มิ.ย. 53, 21:42
ขอให้คุณลูกหายไวไว และขอเป็นกำลังใจให้คุณพ่อสู้ๆคับ 
tuktik(49 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.127: 8 มิ.ย. 53, 21:42
เป็นกำลังใจให้อีก 1 ครับ ขอให้หลานหายไวๆนะครับน้าบอมฯ
คห.128: 8 มิ.ย. 53, 21:42
ขอให้น้องหายเร็วๆนะครับ บอบ์ม
ช่วงนี้ฝนเเริ่มตกแล้ว จะมีเชื้อไวรัสมากับฝน ช่วงนี้เด็กจะไม่สบายบ่อยๆครับ ลูกผมก็เป็นบ่อยๆ หมอเค้าบอกมา
ยิ่งตอนนี้ไปโรงเรียน ติดเพื่อนมาประจำ
ตอนนี้อยู่ใกล้หมอ ไม่น่าห่วงหรอกครับ ทำใจให้สบายครับ
คห.129: 8 มิ.ย. 53, 21:46
ขอให้หายไวๆ...นะ.....

เด็กๆ...ไม่สบายน่าสงสารมาก...เลย...ระวังหน่อยนะ..บอม.......

เชื้อโรค..มา..กับ...ลม..กับ..ฝน...ต้อง....ดูแล...ดีๆโชคดี..นะ....

คห.130: 8 มิ.ย. 53, 21:50
ไข้หวัด2009คงไม่ใช่แน่ครับน้าบอม ส่วนไข้เลือดออกนั้น หมอดูอาการใน48ชั่วโมงยังบอกอาการไม่ได้หรอกครับ อยากให้น้าบอมอ่านเพื่อเข้าใจเกี่ยวกับไข้เลือดออกที่สงสัยน่ะครับ ว่าโดยทั่วไปหมอจะปฎิบัติอย่างนี้ครับ น้าบอมจะได้ไม่ต้องกังวล ส่วนตัวผมว่าน่าจะเป็นไข้ออกผื่นธรรมดาครับ  ส่วนไข้เลือดออกลองอ่านนี่ครับ ของหมอแมว ได้ประโยชน์มากครับ

- หมอจะถามอะไรบ้าง
ไข้กี่วันเริ่มช่วงไหน มีเลือดออกผิดปกติหรือไม่ มีใครใกล้ๆบ้านเป็นไข้เลือดออกไหม
อาการผิดปกติมีอะไรบ้าง ปวดหัว ปวดท้อง ปวดกล้ามเนื้อ น้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอ
มีแผลฝีหนองที่ไหนหรือไม่ ฉี่แสบหรือขัดไหม

- ไข้เลือดออก น่ากลัวแบบไหน
ไข้เลือดออกเป็นโรคติดเชื้อไวรัส เมื่อได้รับเชื้อและเกิดอาการ จะมีไข้ หลังจากมีไข้ไปได้ระยะหนึ่งจะเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงของระบบเลือด โดย เกร็ดเลือดจะลดต่ำลง มีการรั่วของเส้นเลือด และเมื่อไข้ลง จะเกิดอาการของเลือดออกและน้ำรั่วออกมาจากเส้นเลือด อาการของผู้ป่วยจะหนักหรือไม่ ขึ้นกับความรุนแรงของโรคในการรั่วของน้ำจากเส้นเลือด
ความน่ากลัวของโรคนี้อยู่ที่เมื่อมีการรั่วออกมามากๆ น้ำที่รั่วจากเส้นเลือดในปอดจะไปท่วมถุงลมในปอด ทำให้หายใจไม่ได้... และหนักไปกว่านั้น อาจมีอาการเลือดออกในสมองหรือตับวายได้
.... ฟังดูน่ากลัว แต่ลองมาดูต่อ

- ชนิดของไข้เลือดออก
ที่จริงคำว่า"ไข้เลือดออก"เป็นการติดเชื้อไวรัสเดงกีจากยุงลายแล้วเกิดอาการของเลือดออก แต่ไข้เลือดออกในความหมายของแพทย์ไทย จะหมายถึงการติดเชื้อไวรัสเดงกี ส่วนจะเลือดออกหรือไม่ก็ได้
เหตุที่ไม่ค่อยมีคนเรียกชื่อว่าไข้เดงกี ก็เพราะว่าพูดไปก็ไม่มีคนรู้ เพราะสื่อสารมวลชนหรือการประชาสัมพันธ์ก็เป็นไปในชื่อเดียวคือ"ไข้เลือดออก" ที่สำคัญที่สุดคือในช่วงต้นของอาการไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าโรคจะมีอาการรุนแรงแค่ไหน ดังนั้นคำว่าไข้เลือดออกที่ออกมาจากปากแพทย์ช่วงนี้ก็จะหมายถึงการติดเชื้อไวรัสเดงกี ซึ่งเราสามารถแบ่งการติดเชื้อได้เป็น

ชนิด UF undifferentiated fever เป็นการติดเชื้อไวรัสเดงกีโดยไม่มีอาการพิเศษ จะมีไข้ธรรมดา เจาะเลือดหรือรัดแขนก็ไม่อาจบอกได้ว่าเป็นหรือไม่ ... ส่วนใหญ่จะหายเองโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นโรคนี้
ชนิด DF ไข้เดงกี เป็นการติดเชื้อไวรัสเดงกีโดยมีอาการไข้ ปวดหัวปวดกล้ามเนื้อ มักไม่มีน้ำมูก อาจพบจุดเลือดออกขึ้น รัดแขนมักพบจุดเลือดออก เจาะเลือดมักพบเม็ดเลือดขาวต่ำ เกร็ดเลือดจะต่ำหรือไม่ก็ได้ ... ส่วนใหญ่จะหายเองไม่มีอันตราย เพียงแต่จะมีอาการอ่อนเพลียหลังฟื้นไข้นานกว่าปกติ
กลุ่มนี้รักษาก็หาย ไม่รักษาก็มักหาย

ชนิด DHF ไข้เลือดออก เป็นการติดเชื้อเดงกี มีอาการเริ่มต้นต่างๆเหมือนDF และตรวจพบว่ามีเกร็ดเลือดต่ำและ มีน้ำรั่วออกมาจากเส้นเลือด (เช่นตรวจพบน้ำในช่องปอด)

ชนิด DSS ไข้เลือดออกชนิดช๊อค ... เป็นการติดเชื้อเดงกีรุนแรง อาการเริ่มต้นเป็นแบบDF และต่อมาผู้ป่วยจะเริ่มมีเกร็ดเลือดต่ำและน้ำรั่วออกมามากจนกระทั่งเกิดการช๊อคและเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ยังสามารถพบอาการรุนแรงอื่นๆเช่นเลือดออกในสมองและทางเดินอาหาร ตับวายไตวาย ...
กลุ่มนี้ไม่รักษาอาจตาย แต่ถึงรักษาเต็มที่ก็ยังอาจตาย ขึ้นกับความรุนแรงของโรค...
แต่ที่ยากก็คือระยะเริ่มต้นช่วงแรกๆของโรค เป็นไปได้ยากที่จะแยกว่าคนไหนจะกลายไปเป็นไข้เลือดออกชนิดไหน

- การรักษาโดยคร่าวๆที่จะเกิดขึ้น เมื่อโดนบอกว่าเป็นไข้เลือดออก
เมื่อซักประวัติ ตรวจร่างกาย และตรวจทางห้องปฏิบัติการ สงสัย(หรือแน่ใจ)ว่าเป็นไข้เลือดออก แพทย์จะประเมินว่าสภาพของผู้ป่วยอยู่ในระยะที่สมควรรับไว้ในโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการหรือไม่ ... จากนั้นเมื่อให้ผู้ป่วยนอนในรพ. จะมีการให้ยาลดไข้และน้ำเกลือดื่ม มีการเจาะเลือดปลายนิ้ว,วัดความดัน,วัดไข้,ชีพจร,และเจาะเลือดที่แขน
หากมีภาวะที่ดูท่าจะกลายเป็นไข้เลือดออกที่รุนแรง ในระยะที่ไข้เริ่มลดลง จะมีการตรวจเจาะเลือดตรวจต่างๆอย่างมาก
ส่วนการให้เลือดหรือให้สารประกอบจากเลือดต่างๆ หรือยาต่างๆ ขึ้นอยู่กับสภาพของผู้ป่วยและความรุนแรงของโรค

ปกติเมื่อมีการรักษาเกิดขึ้น ก็มักมีการบอกเป็นระยะๆอยู่แล้วถึงสถานการณ์และสิ่งที่จะต้องทำ แต่อย่างไรก็ตาม ก็มักเกิดความไม่เข้าใจเกิดขึ้นระหว่างการรักษา เพราะว่าการรักษามักกินเวลาหลายวัน(จนญาติมักเกิดความเครียด) การตรวจบางอย่างก่อความเครียดไม่สบายแก่ตัวผู้ป่วย และการรักษาหลายๆอย่างจะต่างไปจากโรคทั่วไปที่พบกันบ่อยๆ
ดังนั้น ส่วนที่เหลือนี้จะเป็นการยกตัวอย่างปัญหาที่เกิดขึ้นและเหตุผลชี้แจง เพื่อผู้อ่านจะได้ทำความเข้าใจไว้ .... แค่เผื่อๆไว้ครับ (Just in case)

- เป็นไข้ กลัวไข้เลือดออก ทำไมหมอไม่ "เจาะเลือด"
เป็นคำถามที่หมอต้องตอบบ่อยๆเวลาตรวจผู้ป่วยที่มาด้วยไข้
เหตุผลก็คือ การเจาะเลือดไม่ได้เป็นคำตอบเดียวในการวินิจฉัยไข้เลือดออก
ผลเลือดในช่วง72ชั่วโมงแรกของผู้ที่เป็นไข้เลือดออกมักไม่เหมือนไข้เลือดออก ถ้าเจาะเลือดในช่วงนี้ ผลเลือดที่ออกมาจะไปคล้ายการติดเชื้อแบคทีเรีย และจะพาทั้งแพทย์และผู้ป่วยเข้าใจผิดไปว่าไม่ได้เป็นไข้เลือดออก

อาการและสิ่งที่ตรวจพบไม่เหมือน บางครั้งผู้ป่วยมาด้วยอาการอื่นๆที่ชัดเจนกว่าจนแพทย์ไม่นึกถึงไข้เลือดออก เช่นมีแผลเฟอะฟะหนองไหล ปัสสาวะออกมาเป็นหนอง คอแดงแบบทอนซิลมีหนองเต็ม
ไข้ ที่พบบ่อยมากคือ พ่อแม่พาเด็กมาด้วยเรื่องว่าเด็กมีน้ำมูกหรือไอสองสามครั้ง ไม่มีไข้เลย
อาการของผู้ป่วยและการรักษาต่อไป ถ้าอาการค่อนข้างดีกินได้สัญญาณชีพดี และต่อให้เจาะเลือดออกมาพบว่าเป็นไข้เลือดออก(แบบไข้เดงกี DF)ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงการรักษา

- หมอบอกว่าเป็นไข้เลือดออก ทำไมไม่ให้นอนในรพ. แต่ให้กลับบ้านแล้วนัดมารพ.
เนื่องจากบางครั้งแม้จะสงสัยไข้เลือดออกจากอาการและผลเลือด แต่ถ้าผู้ป่วยอาการค่อนข้างดี ไข้ไม่สูงมาก ยังกินได้ ไม่มีอาการของการขาดน้ำ และเกร็ดเลือดยังไม่ต่ำ แพทย์ก็จะให้ผู้ป่วยกลับบ้าน เพราะว่าจะอยู่บ้านหรือโรงพยาบาลก็ให้การรักษาเหมือนกัน และใน1วันก็มักนัดมาเจาะเลือดและดูอาการซ้ำ
โดยมาก(80-90%)ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไข้เลือดออก จะอยู่ในกลุ่ม UF และ DF (ดังอธิบายข้างต้น)ซึ่งจะหายได้เอง มีส่วนน้อยที่จะเป็นชนิดที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลในโรงพยาบาล ซึ่งระยะเวลาไม่เกิน24ชั่วโมงโรคก็มักไม่เปลี่ยนจากอาการดีๆเป็นอาการหนักๆได้
โดยทั่วไป คำถามนี้จะพบในรพ.ของรัฐ และจะพบคำถามกลับกันในรพ.เอกชน

- ทำไมหมอไม่ให้น้ำเกลือ
หลายครั้งหลายหนที่ประเด็นนี้ถูกยกขึ้นมาเป็นตัวชี้ว่าแพทย์ด้อยมาตรฐานในการรักษา และเป็นประเด็นชวนทะเลาะอย่างหนึ่ง
เหตุที่หมอจะไม่ให้น้ำเกลือเข้าเส้นแก่ผู้ป่วยไข้เลือดออก ก็ด้วยเหตุผลที่ว่า การตายของผู้ป่วยส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากน้ำรั่วจากเส้นเลือดและเกิดน้ำท่วมปอด , น้ำเกลือ เป็นสารที่เมื่อให้เข้าในร่างกายแล้ว โดยธรรมชาติมากกว่าครึ่งนึงที่ให้ไปจะรั่วจากเส้นเลือดไปสะสมในเนื้อเยื่อต่างๆ
ถ้าให้น้ำเกลือแก่คนปกติแม้ไม่ได้เป็นไข้เลือดออก ถ้าให้มากพอก็จะเกิดภาวะน้ำท่วมปอด
ดังนั้นเมื่อให้น้ำเกลือแก่ผู้ป่วยไข้เลือดออก เมื่อถึงจังหวะไข้ลงซึ่งเป็นช่วงที่เส้นเลือดรั่วที่สุด ... ก็จะเกิดภาวะ น้ำท่วมปอดกำลังสอง
แต่ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการของการขาดน้ำมากๆหรือกินไม่ได้เลย ก็จะมีการให้น้ำเกลือทางเส้นในขนาดที่พอช่วยไม่ให้เกิดการขาดน้ำมากจนเกินไปครับ

- แล้วจะทำอย่างไรเพราะดูแห้งมาก ขาดน้ำและเพลียมาก
จะมีการให้ดื่มน้ำเกลือทดแทน เพราะน้ำที่ผ่านการดูดซึมตามปกติของร่างกายจะรั่วซึมออกจากเส้นเลือดได้ยากกว่าน้ำเกลือทางเส้น
ส่วนที่ว่าให้ดื่มอย่างอื่นได้หรือไม่ เช่นน้ำอัดลม น้ำหวาน จริงๆก็พอทำได้ แต่ว่าสารพวกนี้มีความเข้มข้นต่ำและมีแนวโน้มที่จะรั่วจากเส้นเลือดได้ง่ายกว่าน้ำเกลือ ดังนั้นถ้าพอกินได้ก็ควรกินเป็นน้ำเกลือจะดีกว่า

- ยังมีไข้สูง ทำไมไม่ให้ยาลดไข้แรงๆ
ปกติเวลารักษาไข้เลือดออก ยาที่แพทย์สั่งในช่วงแรกจะมีเพียงยาพาราฯและน้ำเกลือORS และจะมีปัญหามากในแง่ไข้สูง ที่ญาติหรือผู้ป่วยมักกังวลและมักขอยาลดไข้อย่างแรง
ยาพาราฯฉีดเข้ากล้ามมักถูกขอเป็นตัวแรกๆ ซึ่งไม่ควรใช้อยู่แล้ว เพราะว่าการกินกับฉีดก็ลดไข้ได้ไม่ต่างกันมากนัก และที่สำคัญการฉีดยาเข้ากล้ามในช่วงที่เลือดออกง่ายนี้ จะเสี่ยงต่อการเลือดออกในกล้ามเนื้อ(ซึ่งทรมานมาก!)

ยาที่ลดไข้ได้ดีกว่ายาพาราฯ ก็มีเช่นยาIbuprofen และ Aspirin แต่ว่าการให้ยาพวกนี้ จะเพิ่มความเสี่ยงของตับวาย และจะไปลดการทำงานของเกร็ดเลือด(ซึ่งเจ้านี่เป็นตัวช่วยป้องกันเลือดออก)
โรคไข้เลือดออกมักมีช่วงไข้อยู่ในระดับหนึ่งซึ่งสามารถใช้การเช็ดตัวบ่อยๆลดไข้ได้ ซึ่งหากผู้ป่วยมีไข้สูงมากจนเกินระดับที่การเช็ดตัวและยาพาราฯไม่สามารถลดไข้ได้ ก็คงต้องกังวลเรื่องอื่นมากกว่าเรื่องตัวร้อนแล้วครับ

- เช็ดตัวทำไมไม่ให้ใช้น้ำเย็น
แม้จะไม่เกี่ยวกับไข้เลือดออกโดยตรง ก็ขอกล่าวถึงเพราะเป็นปัญหาที่เจอบ่อย
การเช็ดตัว ทำเพื่อ ก.เพื่อใช้อุณหภูมิของน้ำลดความร้อนที่ผิวหนัง ข.ให้เส้นเลือดที่ผิวหนังขยายตัว และพาความร้อนจากร่างกายชั้นในระบายสู่อากาศภายนอก ดังนั้นอาจจะใช้น้ำธรรมดาหรือน้ำอุ่นเล็กน้อยในการเช็ดตัว
หากใช้น้ำเย็นเช็ดตัวหรืออาบ จะทำให้เส้นเลือดที่ผิวหนังเกิดการหดตัว เลือดไม่มาที่ผิวหนัง อุณหภูมิที่ผิวหนังจะลดลงมาก แต่ไข้จะขึ้นสูงกว่าเดิมแบบทับทวี

- เจาะเลือดปลายนิ้ว วัดความดัน ทำบ่อยๆทำไม
หลายครั้งหลายคราวที่แม้อธิบายแล้ว ก็ยังเกิดความไม่เข้าใจ เพราะการตรวจเหล่านี้ถูกทำทุกๆ2-8ชั่วโมง ตามแต่อาการ ยิ่งหนักยิ่งทำถี่ จนญาติอาจจะไม่เข้าใจว่าผู้ป่วยอาการเริ่มไม่สบายมากแต่ทำไมต้องมารบกวน
การเจาะเลือดปลายนิ้ว ทำเพื่อประเมินภาวะขาดน้ำและภาวะเลือดออก เพื่อประโยชน์ในการปรับการรักษา
การวัดความดันจับชีพจร ทำเพื่อประเมินภาวะน้ำรั่วจากเส้นเลือด
การเจาะเลือดจากเส้นเลือด ทำเพื่อเอาไปตรวจดูปริมาณและลักษณะของเม็ดเลือดเกร็ดเลือด
ของเหล่านี้จะถูกทำถี่ขึ้นเรื่อยๆในภาวะที่จำเป็นครับ โดยเฉพาะในช่วงระยะไข้ลง

- ไข้ลดลงแล้ว ทำไมต้องทำอะไรมากมาย
ผมเคยต้องเถียงกับญาติผู้ป่วยที่ไม่ต้องการจะให้ผู้ป่วยนอนรพ.หรือเจาะเลือดวัดความดัน เพราะเห็นว่าไข้ลดลงแล้ว...
ที่จริงช่วงไข้ลดลงเป็นช่วงที่จะต้องระวังไว้ให้มากที่สุดช่วงหนึ่ง เพราะว่าตามกลไกของโรคนี้ เมื่อไข้ลดลงได้ระยะหนึ่ง จะเกิดการลดลงของเกร็ดเลือดอย่างรวดเร็ว และเกิดการรั่วของน้ำจากเส้นเลือดในช่วงนี้มากขึ้น
ส่วนใหญ่ของไข้เลือดออกจะอยู่จะไปก็คือช่วงไข้ลงนี่แหละครับ

- ทำไมไม่ให้เกร็ดเลือด ไม่ให้ยานั้นยานี้
เกร็ดเลือดเป็นสิ่งที่ถูกถามถึงบ่อยเวลาเป็นไข้เลือดออก เพราะมักเข้าใจกันว่าถ้าเกร็ดเลือดน้อยก็ใส่เข้าไปสิ...
ไข้เลือดออก มีเกร็ดเลือดต่ำลงด้วยกระบวนการทางภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ไปกำจัดเกร็ดเลือด.... การให้เกร็ดเลือดเข้าไปก็จะเกิดการทำลายเกร็ดเลือดอยู่ดีไม่ได้ประโยชน์เท่าใด.... ดังนั้นการเลือกใช้ก็ขึ้นกับสถานการณ์
สารพันยาต่างๆที่อาจจะได้ยินตามสื่อ ก็จะให้ในกรณีที่โรคมีความรุนแรงอย่างมากมาย และได้รับการรักษาทุกทิศทุกทางแล้วอย่างครบถ้วน...
อย่างไรก็ดี โรคไข้เลือดออก จัดเป็นโรคที่เกิดได้ไม่นานมาก (ระบาดครั้งแรก พศ. 2497 ที่ฟิลิปปินส์) การรักษาหลายๆอย่างถูกปรับเปลี่ยนไป มาตรฐานพื้นในการรักษาในขณะนี้เหมือนกัน แต่ยังมีการรักษาบางส่วนที่อาจจะยังแตกต่างกันออกไป จึงยังเร็วไปที่จะบอกว่ายาตัวใดจะดีหรือไม่ดีในการรักษาไข้เลือดออกครับ

stopnco4(29 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.131: 8 มิ.ย. 53, 22:00
เอาใจช่วยตัวเล็กครับ
NONG_23(483 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.132: 8 มิ.ย. 53, 22:04
ขอเป็นกำลังใจให้ครับ...
คห.133: 8 มิ.ย. 53, 22:14
เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ ขอให้น้องหายเร็วๆนะครับ สู้สู้
คห.134: 8 มิ.ย. 53, 22:22
หลานที่บ้านเคยเป็นครับ ไปหาหมอเขาก็บอกไวรัส ไม่ทราบชนิดเหมือนกัน
ส่วนใหญ่จะมาจาก การที่เด็กชอบโน่นจับนี้มาแล้วเอามือเข้าปากครับ
หมั่นดูแลในจุดนี้ด้วย และระวังเด็กไขสูงจนเกิดอาการชัก ถ้าชักแล้วเมื่อไหร่
ครั้งหน้าก็จะชักอีก แนะนำให้หาซื้อที่ตรวจอุณหภูมิ แบบแหย่หู ราคาแปดเก้าร้อยบาท
หาซื้อตามร้านขายยา ใหญ่ๆนะครับ ช่วงหลานผม1ขวบไขขึ้นบ่อยมากๆ
เป็นคล้ายของน้าบอมแหละครับ แต่ตอนนี้ขวบเจ็ดเดือนแล้ว อาการนี้ก็ไม่เป็นอีกแล้ว
ส่วนใหญ่หมอจะไม่ค่อยทราบสาเหตุ ถ้าเกิดเป็นบ่อยๆต้องสังเกตุจากการเลี้ยงดูของเราอะครับ
ขอให้หายไวๆนะครับ
คห.135: 8 มิ.ย. 53, 22:23
เป็นกำลังใจให้่นะครับ น้าบอม
BOMhandmade(11342 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.136: 8 มิ.ย. 53, 22:25
...................ขอบพระคุณน้าๆทุกๆท่านทุกกำลังใจมากๆครับผมอยากตอบกระทู้ทุกคนแต่จิตรใจยังอ่อนแออยู่ครับเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะมาตอบทุกๆท่านครับ ไม่รู้ทำไมเจอแบบนี้เข่าอ่อนเลยบางทีนั่งร้องให้คนเดียว ขอบพระคุณทุกๆท่านมากๆครับพรุ่งนี้คงต้องรอดูผลเจาะเลือดว่าเป็นเชื้อไวรัสตัวไหนขออย่าให้ร้ายแรงเลยครับ
คห.137: 8 มิ.ย. 53, 22:28
หลานของผมเวลาไข้ขึ้นพี่สาวของผมเขาก็เป็นห่วงแบบน้าบอมนี้แหละครับ
ร้องไห้ร้องห่มเป็นธรรมดาครับคนเป็นพ่อเป็นแม่ เชื่อผมสิครับยังไงก็ต้องหายเพราะครอบครัวผม
ก็ผ่านเหตุการ์ณแบบนี้ มาแล้ว เป็นกำลังใจให้นะครับ
คห.138: 8 มิ.ย. 53, 22:31
หายไวไวนะตัวเล็ก
คห.139: 8 มิ.ย. 53, 23:01
อยู่กับหมอแล้ว ค่อยเบาใจได้หน่อยครับ แต่ก็ยังอดห่วงไม่ได้นะครับ คนเป็นพ่อก็งี้ละครับ ลูกผม 2 คน ... เคยเป็นไข้หวัด 2009  มาแล้วทั้งคู่ เป็นพร้อม ๆ กัน เพราะติดกัน อยู่ในมือหมอแล้วคงเบาใจได้ระดับหนึ่งครับ ไม่ว่าจะเป็นอะไร ก็ขอให้หายไว ไว นะครับ    เอาใจช่วยครับ
aummangmun(464 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.140: 8 มิ.ย. 53, 23:32
ขอให้หายไวๆนะครับเป็นกำลังใจให้ครับ
คห.141: 8 มิ.ย. 53, 23:36
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ...ขอให้น้องหายไว ๆ  อยู่ใกล้มือหมอแล้วคงจะวางใจได้นะค่ะ...สู้ ๆ ค่ะ...
Jaa(3 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.142: 8 มิ.ย. 53, 23:45
เป็นกำลังใจให้หายไวๆๆครับ 
tid pod(9628 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.143: 8 มิ.ย. 53, 23:50
มันอาจไม่เลวร้ายอย่างที่เราคิดก็ได้ครับน้าบอม....เป็นกำลังใจให้นะครับ....สู้ๆๆๆๆ
RUSSIA13(200 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.144: 9 มิ.ย. 53, 00:07



+++ ขอให้พระนารายณ์  คุ้มครอง  +++


+++ ขอให้ศาลพระกาล  รักษา  +++






+++  สาธุ  +++









++++หายวันหายคืน++++
TheSign(12841 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.145: 9 มิ.ย. 53, 02:42
เป็นกำลังใจให้ครับน้าบอม ตัวน้อยหายไวๆนะ
BULINO(12950 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.146: 9 มิ.ย. 53, 08:01
ขอให้เจ้าตัวเล็หายโดยเร็วนะครับบอมม์
คห.147: 9 มิ.ย. 53, 08:05

ตัวเล็ก.กกกกกกกกกกก...หายไวไว นะ โตมาจาได้ไปตกปลากะพ่อไง
chigeru(319 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.148: 9 มิ.ย. 53, 08:07
สู้ๆครับน้าเป็นกำลังใจให้ครับ
ขอให้พระคุ้มครองครับ
หายเร็วๆนะหลาน
คห.149: 9 มิ.ย. 53, 08:09
เป็นกำลังใจให้พ่อและตัวเล็ก ขอให้ตัวเล็กหายไวๆนะครับ
chartai(619 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
คห.150: 9 มิ.ย. 53, 08:17
ขอให้น้องหายไวๆครับน้าบอม กำลังใจและสติจะช่วยให้ดูแลน้องได้ดีครับน้าบอม
<<<23456>>>
siamfishing.com © 2024