[+]เซ่อ นี่ เล่อ...ซาละวะ ด้วยรักและมาลาเรีย[+]: SiamFishing : Thailand Fishing Community
12345>>>
กระดาน
คห. 437 อ่าน 53,771 โหวต 57
[+]เซ่อ นี่ เล่อ...ซาละวะ ด้วยรักและมาลาเรีย[+]
ตั้ง: 11 ธ.ค. 50, 15:10
[+]เซ่อ นี่ เล่อ...ซาละวะ ด้วยรักและมาลาเรีย[+]
หลังจากตั้งกระทู้นี้เสร็จภายใน 2 สัปดาห์
ถ้าไม่เห็นเกงเลก้นโหว่ ให้ไปตามตัวได้ที่เวชศาสตร์เขตร้อน
เพราะนัดกับเพื่อนร่วมค่ายไว้แล้วว่า...เราจะไปตั้งแก๊งค์มาลาเรีย
ระหว่างที่รักษาตัวที่นั่นพร้อมกันทุกคน555+


หนังสือ หนังสือของคนกะเหรี่ยง
หนังสือ หนังสือของเราทุกคน
หนังสือ หนังสือทุก ๆ คนจงเรียนหนังสือ จะมีความรู้
มีปัญญาย่อมเกิดจากการเล่าเรียนหาความรู้
ทุก ๆ คนต้องขวนขวาย อย่าเกียจคร้าน
พยายามอย่างสม่ำเสมอ เราจะเหมือนคนตาบอด
หากไม่เรียนหนังสือ พวกเราลูกหลานคนกะเหรี่ยงที่ดี
ต้องเรียนหนังสือ

หนังสือ หนังสือของคนกะเหรี่ยง
หนังสือ หนังสือของเราทุกคน
หนังสือ หนังสือทุก ๆ คนจงเรียนหนังสือ
ลูกหลานชาวกะเหรี่pงทั้งหลาย ต้องหมั่นเพียรเรียนหนังสือ
อย่าเกียจคร้านการเรียนและละทิ้งหนังสือของเรา
ถ้าไม่รักษาไว้ซึ่งหนังสือและวัฒนธรรมกะเหรี่ยง
เราจะสูญสิ้นซึ่งชาติพันธุ์ จงระวังอย่าหลงระเริงในวัฒนธรรมอื่น
เปรียบดังเมื่อค่ำคืนมาเยือน เราจะได้ไม่หลงทาง
เราจะได้รู้เท่าทันคนอื่น ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงต้องเรียนหนังสือ

เพิ่มคลิปเพลง ไล้ไล หรือ หนังสือของคนกะเหรี่ยง ค่ะ
คห.1: 11 ธ.ค. 50, 15:19
เมื่อวันที่ 5 - 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา หลา
เมื่อวันที่ 5 - 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา หลาย ๆ คนอาจจะใช้เวลาไปกับการพักผ่อนกับครอบครัว
ในช่วงวันหยุดยาวตามสถานที่ต่าง ๆ แต่มีคนกลุ่มนึง นับหัวรวมกันไปมาได้ 20 ชีวิต
แบกสัมภาระมุ่งหน้าสู่ อ.สังขละบุรี จ.กาญนบุรี เข้าสู่พื้นที่สีแดงของไข้มาลาเรีย
ภาระกิจนี้หลัก ๆ คือการนำความรู้เกี่ยวกับโรคมาลาเรีย พยาธิ และการป้องกัน
ไปเสริมให้กับกลุ่มคนไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงในหมู่บ้าน ซาละวะ สาละวะ หรือ ซาละหวะ
หมู่บ้านที่อยู่ในระบบกรมการปกครองของไทย แต่อยู่ซะไกลปืนเที่ยงติดเขตชายแดนพม่า

โดยกลุ่มที่จะเข้าไปให้ความรู้นี้มีชื่อกลุ่มว่า

ข้าวเปลือก ต้นกล้า ฟ้าใหม่

โดยการชักนำของ อาร์ดแมน ซึ่งเกงเลก้นโหว่ได้พบกับเขาที่งานศพคุณลุงท่านนึง
ในเว็บพันธ์ทิพย์ดอทคอม โปรแกรมเมอร์หนุ่มเล่าให้ฟังว่าเค้ามีกิจกรรมอาสาทุกปี
กลับกลุ่มนี้ใช้ชื่อกิจกรรมว่า Kind for Kids และจากนั้นก็บิ๊วอารมณ์มาตลอด
จนกระทั่งเกงเลก้นโหว่ หรือ ไอ้โจ้ตัดสินใจหอบเสื้อผ้าหนีตามไปค่ายในที่สุด
คห.2: 11 ธ.ค. 50, 15:25
หวัดดีค่ะน้านุ  :grin: :blush:

ป้าปุ๊ตร๋า...อ
หวัดดีค่ะน้านุ 

ป้าปุ๊ตร๋า...อย่าเพิ่งหลับ กลับมาก่อนจิ่

++++

คืนวันที่ 5 ธันวาคม ไอ้โจ้ได้ใช้แรงงานพ่อช่วยกันแบกของที่ได้รับบริจาค
มาส่งลูกสาวขึ้นรถแท็กซี่ เพื่อไปยังจุดนัดพบข้างโรงเรียนหอวัง
แท็กซี่จอดข้างรถบัส ไอ้โจ้เถียงว่าไม่ใช่บัสคันนี้...มันหรูไป แต่เมื่อโทรถามอาร์ดแมน
ก็สรุปว่าใช่ ... รถแอร์ ป. 2 สังขละฯ - กาญจน์ คันสีแดงแป๊ด เป็นพาหนะที่ไฮโซที่สุด
ตั้งแต่เดินทางไปทำกิจกรรมค่ายอาสานับตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา 

พี่ ๆ แนะนำตัว และ อธิบายรายละเอียดคร่าว ๆ ถึงกิจกรรมในครั้งนี้ว่าสิ่งที่ควรทำ และ ไม่ควรทำ
ต่าง ๆ นานา จนถึงเวลาเที่ยงคืนไฟบนรถดับลง ทุกคนหลับพักผ่อนเอาแรง
คห.3: 11 ธ.ค. 50, 15:28
เช้ามืดพวกเรา 20 ชีวิตได้เดินทางมาถึ
เช้ามืดพวกเรา 20 ชีวิตได้เดินทางมาถึงพนธ์นทีรีสอร์ทของคุณพจน์
คนที่ทีมเซอร์เวย์ได้มาติดต่อไว้เมื่อครั้งนู้นนนน แต่คุณพจน์ไม่อยู่ เราได้พบกับพี่ชัย ผู้ซึ่งจะนำทางพวกเราเดินเท้าเข้าหมู่บ้าน
ขอนำภาพพี่ชัยไปไว้ในฉากต่อ ๆ ไปนะคะ
คห.4: 11 ธ.ค. 50, 15:30
ขอบคุณค่ะน้าแดนนี่  :cheer:

+++

สำรวจรีส
ขอบคุณค่ะน้าแดนนี่ 

+++

สำรวจรีสอร์ท พบแมวแฝด เพื่อน ๆ ฮากันกระจาย

"แมวที่ไหนมันก็หน้าเหมือนกันทั้งนั้นแหละไอ้โจ้"

ง่ะ...มองดี ๆ สิ่ แมวทั่วไปหน้าเหมือนกันที่ไหน
แต่เจ้าสองตัวนี้น่ะ...เหมือนกันเดี๊ยะจริง ๆ นะ
คห.5: 11 ธ.ค. 50, 15:31
หลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อย ก็มุ่
หลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อย ก็มุ่งหน้าสู่ตลาดสังขละบุรี
คห.6: 11 ธ.ค. 50, 15:32
บางส่วนก็ปั่นจักรยานรีสอร์ทไปค่ะ
บางส่วนก็ปั่นจักรยานรีสอร์ทไปค่ะ
คห.7: 11 ธ.ค. 50, 15:34
ตลาดยามเช้าไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว
ตลาดยามเช้าไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว คงเพราะส่วนหนึ่งยังคงทำงานกันไปตามปกติ
คห.8: 11 ธ.ค. 50, 15:37
บร้า....พี่ม๋วยก็ เค้าเป็นกระต่ายต่า
บร้า....พี่ม๋วยก็ เค้าเป็นกระต่ายต่างหาก คิคิคิคิ 
กรุงเทพฯ ตอนโจ้ไม่อยู่ปลอดภัยดีมั้ยคะ

++++

รับประทานอาหารเช้าและตุนเสบียง เนื่องจากไม่ได้หยิบผ้าถุงมา
เช้าวันนั้นเลยต้องสอยโสร่งติดตัวไปอีก 1 ผืน
คห.9: 11 ธ.ค. 50, 15:39
จากนั้นก็เริ่มเดินทางออกจากตลาดมุ
จากนั้นก็เริ่มเดินทางออกจากตลาดมุ่งสู่หมู่บ้านซาละวะ
นี่คือรถที่ขนสัมภาระของเรา 1 คัน ส่วนอีก 1 คันขนของที่ได้รับ
น้ำใจจากพี่ ๆ น้อง ๆ ฝากไปให้ผู้คนในหมู่บ้าน

(รถคันสีขาวนะคะ ไม่ใช่ซาเล้ง)
คห.10: 11 ธ.ค. 50, 15:47
สวัสดีค่ะน้า pungprakarn  :grin: :cheer: :cheer:

แรงก็ไม่
สวัสดีค่ะน้า pungprakarn 

แรงก็ไม่ค่อยจะมีค่ะน้าหมูบางปลา แต่ใจอยากจะไปก็เลยพาตัวรอดมาหลายทริปแล้ว 

กลับมาแล้วค่ะน้าหรั่ง 

อิอิ ได้เลยค่ะพี่ม๋วย งั้นแผ่นตาจู้ กับทริปที่แล้วรวบยอดให้ในวันเสาร์นี้เลยเน้อ

+++

ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก น้ำตกตะเคียนทอง เป็นจุดเริ่มต้นของพวกเรา
ทีมเซอร์เวย์สารภาพว่า... "นี่คือการเซอร์เวย์ครั้งแรกพร้อมกันของพวกเรา
เพราะคราวก่อน สภาพอากาศเลวร้ายมาก จนไม่สามารถเดินทางขึ้นไปได้ในฤดูฝน"

ไม่พอค่ะ พี่ชัยซ้ำดาบสอง "จากที่นี่ต้องเดินเท้าเข้าหมู่บ้านไปอีก 12 กม."

แทบจะยกเท้ามาแคะหู อะไร 12 กิโลนะ ข้าวสาร หรือ ระยะทาง
เดิน
ลมจะจับได้ยินไม่ผิด พี่ ๆ เจ้าหน้าที่ที่หน่วยช่วยตอกย้ำ แต่ก็ทำให้พวกเราสดใส

"น้อง ๆ นักศึกษาครับก่อนเดิน 12 กม. ช่วยลงชื่อทุกคนไว้ที่ใบขออนุญาตเข้าพื้นที่ด้วยครับ"

คิคิคิ หน้าตาพวกเรายังเป็นนักศึกษาอยู่ด้วยหรือนี่ ฮี่ ฮี่ ฮี่


ปล. ตอนเอารูปกล้วยหอมมาเปลี่ยน....ยังอยู่ที่ทำงานเลยแก้ขัดไปก่อนค่ะ 
คห.11: 11 ธ.ค. 50, 15:51
จ๊าก ลุงใหญ่ขา...มัวแต่วุ่นวิ่งถ่ายภ
จ๊าก ลุงใหญ่ขา...มัวแต่วุ่นวิ่งถ่ายภาพกิจกรรมทั่วเลยลืมเอาภาพตอนเด็กใส่รองเท้ามาฝาก
แต่ภาพตอนที่พวกเค้าเลือกรองเท้ากันมีมาให้ชมแน่นอนค่ะ 

น้าฉักตร๋า...อย่าเพิ่งหลับ คนแปะกระทู้ก็ตาจะปิดแล้วค่ะ ช่วยกันครึกครื้นหน่อยเร้ววววว 

+++

พี่ชัยพาอ้อมไปตามเส้นทางน้ำตกตะเคียนทอง
เดินชมธรรมชาติ ธารน้ำตกหินปูนที่ไหลเย็นชุ่มชื่น
บางช่วงก็ลึกจนต้องถอดรองเท้าเดิน
หลัง ๆ ก็ลุยค่ะ เปียกเป็นเปียก ถอดเข้าถอดออกมันช้า
คห.12: 11 ธ.ค. 50, 15:54
ทางช่วงแรก ๆ ที่นักท่องเที่ยวเข้าม
ทางช่วงแรก ๆ ที่นักท่องเที่ยวเข้ามาถึงอย่างง่าย ๆ
ก็พบร่องรอยความมักง่ายถือขนมเข้ามากินได้หนักแสนหนัก
พอกินหมดเป็นขยะ น้ำหนักเบากว่าตอนถือมาทำไมถือออกไปไม่ได้
เดินบ่น ๆ ๆ ๆ ไปลงท้ายด้วยคำว่า...ไม่อยากจะด่า
พี่ ๆ หันมาถาม...ตะกี้ยังไม่ได้ด่าใช่มั้ย  งั้นก็ดีแล้วล่ะ
สงสารคนที่จะถูกด่าจริง ๆ ซะเหลือเกิน 
คห.13: 11 ธ.ค. 50, 15:58
เส้นทางที่เดินจากชัดเจนเริ่มเลือน
เส้นทางที่เดินจากชัดเจนเริ่มเลือนลาง
จึงจำเป็นต้องเดินรอ ๆ กัน แต่ก็ยังไม่มีใคร
ที่แสดงออกถึงความเหน็ดเหนื่อย
คงเพราะธรรมชาติรอบ ๆ ตัวสวยงามสุด ๆ นั่นเอง
คห.14: 11 ธ.ค. 50, 16:01
เดินลัดเลาะข้ามลำห้วยกันหลายสาย จน
เดินลัดเลาะข้ามลำห้วยกันหลายสาย จนในที่สุดพวกเราก็มาทะลุ
ยังเส้นทางออฟ โรด ที่ชาวบ้านลงมาเคลียร์เส้นทางให้พวกเราเมื่อ 4-5 วันก่อน

รถขนสัมภาระของเรา 2 คันล่วงหน้าไปแล้ว ร่องลอยของล้อบางช่วงลึกถึงหัวเข่า
รู้สึกโชคดีจริง ๆ ที่ไม่ได้มาในช่วงหน้าฝน สภาพคงมอมแมมสุด ๆ แน่เลย
คห.15: 11 ธ.ค. 50, 16:05
โชคดีจริง ๆ ที่เราไม่ต้องแบกสัมภาร
โชคดีจริง ๆ ที่เราไม่ต้องแบกสัมภาระของตัวเองขึ้นไป
จากภาพที่เห็นนี่ คือเนินรับน้องลูกแรก ซึ่งหากเราไม่เดินอ้อม
มาทางน้ำตกนี่จะเป็นภูเขาลูกที่สองที่เราจะต้องเดินข้ามกันไป

เส้นทางที่มองเห็นใครดูก็นึกว่าพ้นโค้งจะเจอทางเรียบ
แต่ไม่ใช่เลย พอเลี้ยวขวาจากโค้งในภาพ พวกเราตาค้างกับ
เส้นทางที่ตั้งชันเดินขึ้นไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด โอ้....แม่เจ้า

โชคดีจริง ๆ ที่พี่ชัยไม่พาพวกเราขึ้นเขาลูกแรก 
คห.16: 11 ธ.ค. 50, 16:09
อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนค่ะน้าฉัก ปาด
อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนค่ะน้าฉัก ปาดน้ำลายนิดนึงด้วย อิอิ

+++

ช่วงนาทีนรกกับการปรับตัว และ ระบบหายในระหว่างที่ขึ้นเนินรับน้องมา
กล้องถ่ายภาพแทบไม่มีใครยกขึ้นมาเก็บภาพ มีบางคนเพิ่งจะเคยเดินป่าครั้งแรก
ดูท่าทางน่าเป็นห่วง แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคที่ยากเกินความสามารถ เพราะใจทุกคน
พุ่งไปถึงหมู่บ้านซาละวะกันหมดแล้ว

หลังจากฝ่าฟันขึ้นมาถึงยอดเนิน เราได้พบกับพี่ ๆ ทหารพรานส่งเสียงถามว่า "เหนื่อยมั้ยครับ"
ตอบไม่คิด "เหนื่อยค่ะ แฮ่ก ๆ ๆ  ๆ"
พี่ ๆ บอกว่า " ก็น่าเหนื่อยอยู่ล่ะครับ พวกผมเป็นทหารยังต้องใช้รถเข้าไปเลย" 
คห.17: 11 ธ.ค. 50, 16:11
เดินขึ้นลงเนินแล้ว เนินเล่า ช่วงที
เดินขึ้นลงเนินแล้ว เนินเล่า ช่วงที่ลงชัน ๆ แทบอยากร้องไห้
เพราะดันไปนึกถึงตอนเดินทางกลับ แล้วจะลากขาขึ้นเนินยังไงเนี่ย....
คห.18: 11 ธ.ค. 50, 16:18
ถึงจุดพักกลางวันของเรา บ่ายโมงแล้ว
ถึงจุดพักกลางวันของเรา บ่ายโมงแล้ว ระหว่างรอคนที่เดินตามมา เราส่วนหนึ่งก็เดินตามพี่ชัย และ น้องชาย
ที่ขี่มอร์เตอร์ไซค์มารออยู่ก่อนหน้า พร้อมกับรถออฟโรด 2 คัน พาไปดูแก่ง Unseen

น้องพี่ชัย มาดเด็กแว๊นซ์เล่าให้ฟังว่า มีชาวบ้านดำน้ำลงไปแทงปลาใต้หินใหญ่ ๆพวกนี้
เจอถ้ำที่เป็นถ้ำทางเชื่อมถึงกันหมดถึง 3 ถ้ำ และมีพระพุทธรูปอยู่ใต้นั้น
แต่ไม่มีใครกล้านำขึ้นมา ด้านบนเนื่องจากเกรงกลัวอาถรรพ์
จุดที่แลดูน้ำนิ่ง ๆ บางช่วงก็มีน้ำวนอยู่ใต้ล่าง หู่ย...แล้วตูจะกล้าเล่นมั้ยเนี่ย

ตัวน้องชายพี่ชัยเองก็เคยดำลงไปแต่ไม่เจอ พร้อมพูดตรง ๆ ว่า
"บางทีผมก็กลัวครับ" เออ ดีวุ้ย ไม่มีฟอร์มดี 
คห.19: 11 ธ.ค. 50, 16:22
กลับมานั่งกินข้าวกลางวันกับทุก ๆ ค
กลับมานั่งกินข้าวกลางวันกับทุก ๆ คนริมน้ำ บางส่วนอดใจไม่ไหว
แช่น้ำเล่นเย็นใจสบายตัว น้ำใสมาก ๆ ๆ มองเห็นเบื้องล่างแต่ลึกมิดหัว
กินอิ่ม พักหายเหนื่อยก็ออกเดินทางกันต่อไป

อืม...ตรงนี้ได้รู้จักผักที่ชาวกะเหรี่ยงนำไปต้มกินแล้วรสชาติเหมือนน้ำต้มกระดูกหมู
ชื่อว่า เลคองดุ หรือ ผักมันหมู นั่นเองโดยการอธิบายของน้องพี่ชัย เด็กแว๊นซ์
คห.20: 11 ธ.ค. 50, 16:25
เกือบเหมือนกัน เกือบไม่ได้ผ่านด่าน
เกือบเหมือนกัน เกือบไม่ได้ผ่านด่านเข้ามา 555+ ด่านลาดหญ้า
ขาว หล่อ หน้าตาดี ๆ ทั้งนั้น คิคิคิคิ

++++

เดินตามรถที่วิ่งนำมา เกิดอาการติดหล่มต้องใช้โซ่ดึงขึ้นไป

คห.21: 11 ธ.ค. 50, 16:26
รถไปทาง คนข้ามน้ำอีกทาง
รถไปทาง คนข้ามน้ำอีกทาง
คห.22: 11 ธ.ค. 50, 16:31
เดินจนเริ่มลากขากันเป็นแถว ๆ จนกระ
เดินจนเริ่มลากขากันเป็นแถว ๆ จนกระทั่งมาถึงหน่วยพิทักษ์ป่าสาละวะ

ที่นี่กลุ่ม ออฟ โรด มักใช้เป็นที่ตั้งแค้มป์พักแรม มีธารน้ำใส ๆ ให้อาบ
มีห้องน้ำรองรับนักท่องเที่ยว แต่ถ้าเดินไหว แนะนำให้เดินดีกว่าค่ะ สะใจสุด ๆ
ได้สัมผัสอะไรหลาย ๆ อย่างมากกว่าการนั่งอยู่บนรถโยกไปโยกมา 
คห.23: 11 ธ.ค. 50, 16:33
กลัวจะโดนผลักดันข้ามชายแดนไปก่อนจ
กลัวจะโดนผลักดันข้ามชายแดนไปก่อนจะพามาฝากน้องน่ะสิ่ 

+++

หายเหนื่อยก็เดินกันต่อไปกับเส้นทางสู่ภูเขาลูกที่ 3 ลูกสุดท้าย
ชันและลื่นจากหินก้อนเล็ก ๆ ...แล้วขากลับจะลงไปยังไงเนี่ย
คห.24: 11 ธ.ค. 50, 16:35
มองกลับลงไป + กับความเหนื่อยล้าที่ส
มองกลับลงไป + กับความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตลอดทาง
แทบจะตั้งแค้มป์นอนมันซะตรงนี้เลยทีเดียว
คห.25: 11 ธ.ค. 50, 16:38
รถแซงไปอีกครั้ง เส้นทางบางช่วง พี่
รถแซงไปอีกครั้ง เส้นทางบางช่วง พี่ชัยบอกว่าห่างจากชายแดนพม่าเพียง 5-10 กม. เท่านั้น
และเหตุที่เราเจอทหารลาดตระเวนก็เพราะมีคนพบทหารพม่าเข้ามาเดินในฝั่งไทยนี่แหละ

กำ...เกิดทหารไม่เจอ แต่ไอ้โจ้เจอจะทำไงดีล่ะเนี่ย 
12345>>>
siamfishing.com © 2024