สวัสดีกันอีกครั้งครับน้าๆเพื่อนๆที่รักทุกท่าน...วันนี้ผมมีทริปท่องโลกมาแลกเปลี่ยน
กันเหมือนเช่นทุกปีนะครับ  ปีนี้ได้มีโอกาศไปอิตาลี่อีกครั้งครับ  ใจก็เลยกะว่าจะหาเรื่องอยู่ต่อ
ตะลอนยุโรปกันอีกซักพัก โดยวางแผนล่วงหน้าไว้ กระว่าจะค่อยๆขึ้นไปแถวสแกนฯ      (อิตาลี่,
เดนมาร์ค, นอเวย,์ สวีเดน, ฟินแลน) จัดแจงรีบจองตั๋วเครื่องบิน, ตั๋วเรื่อ, ที่พักในจุดต่างๆไว้เรียบ
ร้อย ถึงเวลาถึงวันจะได้ไม่ต้องไปตระเวนหาให้เสียเวลาระหว่างที่ตะลอนอยู่ในอิตาลี่ใจผมก็ไม่
ค่อยสู้ดีนัก..ด้วยเหตุข่าวภูเขาไฟระเบิดที่ไอแลนด์(ตอนใต้ของอังกฤษ) ก็คอยหลอกตัวเองว่ามัน
คงไม่รุนแรงอะไรมากมาย แต่ในที่สุดแล้วมันก็เป็นไปตามที่คิดไว้ลึกๆ กรั๊กๆๆๆ.....เมื่อสิบห้าวัน
ให้หลังฝุ่นภูเขาไฟก็ปลิวมาถึงอิตาลี่สนามบินมิรานจึงต้องปิดทำการแบบไม่มีกำหนด  เอาลาวะ
ทำไงละทีนี้  กรั๊กๆๆ.. กะตังก็จ่ายเค้าไปหมดแว้ววว..ด้วยเหตุนี้และด้วยความพยายามที่ผมต้อง
การให้ทริปนี้เป็นไปตามโปรแกรม  ในเมื่อไปเดนมาร์คด้วยเครื่องบินไม่ได้ก็ไปมันรถไฟซิไม่
เห็นจะยากเลย  กรั๊กๆๆ........ จัดแจงแพ็คสัมภาระมุ่งหน้าไปสถานีรถไฟมิรานทันที แต่เมื่อไปถึง
โอ้ววว...มายก๊อดดด.....ผู้คนมากมายเหลือเกินเค้าก็คงจะคิดแบบเรา กรั๊กๆๆ.... ยืนต่อแถวรออยู่
สอง ชม.ก็ได้ตั๋ว มิราน-ฝรั่งเศษ มาคนละใบหน้าตาประหลาดๆ เป็นแค่กระดาษกับลายเซ็นและ
ขอโทษต้องเงินสดเท่านั้นด้วยนะ  "มันจะเชื่อได้มั้ยวะเนี่ย"  อีกสี่ ชม. รถไฟถึงจะออกแต่เห็นคน
ขนาดนี้คงไม่ต้องรอให้ถึงเวลากันละครับ รีบขึ้นไปจองที่นั่งกันก่อนดีกว่า กรั๊กๆๆๆ.....นั่งรถไฟ
ตั้งแต่เย็นที่มิรานมาถึงเช้าที่ฝรั่งเศษ โหยยย..แถมระหว่างทางยังต้องมาเปลี่ยนขบวนอีกถึงสาม
ขบวนมืดก็มืดมองอะไรก็ไม่ค่อนจะเห็นได้ที่นั่งบ้างไม่ได้บ้าง    "นี่มันพาตูไปอ้อมที่ไหนมาบ้าง
วะเนี่ยไม่ได้คุ้นเลยยย...หันไปทั้งซ้ายขวามีแต่ภูเขาน้ำแข็ง นานๆถึงจะเห็นหมู่บ้านซักที" พอถึง
ฝรั่งเศษก็รีบดิ่งไปที่ช่องขายตั๋วทันที และเมื่อได้คุยกับเจ้าหน้าที่ก็ถึงกับต้องสะอึกเมื่อได้รับการ
ยืนกานว่าอีกสองวันถึงจะมีตั๋วขึ้นไปเดนมาร์ค เฮ้อออ.......เอาไงดีไม่มีทางไปเดนมาร์ได้ทันเวลา
เป็นแน่แท้..มันทำมัยจะต้องมาระเบิดเอาตอนนี้ด้วยฟะ กรั๊กๆๆ......จึงตัดสินใจไม่ปงไม่ไปมันแล้ว
สแกนฯ ไปมันเรื่อยเปี่อยแถวๆนี่ละวะ ไล่โทรยกเลิกขอคืนเงินจากสายการบิน เรื่อที่ใช้ข้ามประ
เทศ และโรงแรมที่จองร่วงหน้าเอาไว้ ได้บ้าง โดนหักบ้าง ไม่ได้บ้าง  เวรจริงๆ ซึ่งบางที่ก็เข้าใจ
ถึงสถานการณ์แต่บางที่ขอบอกว่าเห็นแก่ตัวสุดๆ    ช่างมันคิดซะว่าเค้าก็คงจะเดือดร้อนกว่าเรา
เมื่อตัดสินใจกันแล้วคืนนี้ก็ต้องหาที่นอนกันที่ฝรั่งเศษกันก่อนเดินออกจากสถานีรถไฟมาเจ็ดโมง
เช้าเดินหาร้านเนตกว่าจะเจอแล้วต้องมายืนรอร้านเปิดอีกนู่นแหนะสิบโมง ระหว่างติดต่อยกเลิก
พยายามขอกะตังคืนก็เลยกางแผนที่ยุโรปออกมาไปไหนดีฟะก็เลยได้เส้นทางใหม่    ดังนี้ครับ
อิตาลี่, ฝรั่งเศษ, สวิส, ออสเตรีย, ฮังการี่(ปูดาเปสสวยมาก)  ทริปนี้มันสุดๆเรียกได้ว่ากินนอนกัน
บนรถไฟเลยทีเดียวหละครับ 







  The Corrs (only when I sleep live) 

ผ่านกระบวนการ ตม. เข้ามาในสุวรรณภูมิก็มาหาไรทาน
รอเครื่องขึ้นที่นี่ก่อนเลยครับ

กาแฟซักถ้วยมั้ยครับ 

รึจา...นี่ดี 

ของทานเพียบบบ....เลือกทานกันตามสบายเลยครับ เผื่อเอาไว้...เพราะอีกหลายวัน
ข้างหน้าไม่รู้จะเป็นไง 

ตามชมภาพสวยๆคร้าบๆๆ

สวัสดีครับน้าfirefishing 





Cheer...............

Now On Board รัดเข็มขัดกันแล้วนะครับ จากนี้อีกหก ชม. เราต้องไปเปลี่ยนเครื่องที Abu Dhabi
คิดว่าตลอดเส้นทางเราคงไม่เหงานะครับ 

ภายในพื้นที่ Transfer สนามบิน Abu Dhabi ครับ 

+ตีตั๋วแถวหน้าก่อนเลยครับ

สวัสดีครับน้าcha-ken 





เจ้าอูฐตัวนี้คอยทำหน้าที่ต้อนรับอยู่ที่นี่เสมอครับ 

สะกดรอย........ตามไปด้วยครับ 

สวัสดีครับน้าmoozashi 





หลังจากสอง ชม. ได้เวลา On Board อีกครั้งครับ...จากที่นี่ใช้เวลา
อีกหก ชม. ถึงมิลาน Italy ครับ 

  เดินทางมา14 ชม. เฮ้อออ.....ถึงซะทีมิลาน 

    Sforzesco Castle (ปราสาท สฟอร์เชสโก) คือปราสาทมหาวิหารที่ตั้งอยู่ในมิลานมีชื่อเสียงมาก สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่มั่น
และที่พำนักของตระกูลเฟอร์ซา      ซึ่งช่วงนั้นถือเป็นผู้มีอำนาจในการปกครองเมืองมิลานอยู่ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14
ต่อมาสมาชิกท่านหนึ่งของตระกูล ผู้เป็นแม่ทัพรับจ้างชื่อว่า ฟรานเชสโก ได้ขึ้นเป็นผู้ปกครองมิลานในรุ่นที่สี่    ได้ว่าจ้าง
สถาปนิกชื่อ โจวานนี ดา มิลาโน มาออกแบบต่อเติมปราสาทให้ดูยิ่งใหญ่มากขึ้น  ส่วนหอคอยใหญ่นั้นตกแต่งโดยสถาป
นิกชาวฟลอเรนซ์ชื่อ ฟีลาเรเต      ใกล้ๆกันนี้มีโบสถ์ที่ชื่อ ซานตามาเรีย เดลเล กราเซีย สร้างขึ้นในปี 1466 และมีการว่า
จ้าง บรามันเต ให้มาต่อเติมเพิ่มในปี 1492 ถัดจากโบสถ์คืออาคารชื่อ เชนาโกโลวินชาโน เคยใช้เป็นโรงอาหารของบาท
หลวงในนิกายโดมินิกัน ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่แสดงภาพวาดและมีภาพ Last Supper ของ เลโอนาร์โด ดาวินชี  วาดไว้
ในปี 1495-97 ให้ชมอยู่ที่นั่นครับ 

ภาพวาด Last Supper ของเลโอนาร์โด ดาวินชี ที่แสดงอยู่ในอาคาร เชนาโกโลวินชาโน
http://www.google.co.th/images?q=Last+Supper&um=1&hl=th&client=opera&sa=X&rls=en&tbs=isch:1

ตามไปสะกดรอยด้วยครับ

มุดฝุ่นละอองภูเขาไฟตามไปด้วย

ขอไป เที่ยวด้วยคนครับ...แหมมน้าต้องเล่น..the corrs เพลงโปรดผมเลยครับ..ชอบครับ  อันปลัก แท้ๆ

สวัสดีครับน้าอ้วนพระนคร 




มามะตาหนุ่มมุดขึ้นมาเลยยย...กรั๊กๆๆ 




สวัสดีครับน้าแม็ก มาด้วยกันเลยครับ 



สวัสดีครับน้าpenny 





ไปครับ...เข้าไปชมด้านในกัน 

นักท่องเที่ยวหลากเชื้อชาติสลับสับเปลี่ยนกันเข้าชมปราสาทครับ