เลิกใช้แล้วครับ

โดนมาเหมือนกันครับ  แต่ว่าเป็นจากลูกยางปั๊มในถัง  มานบวมจนละลาย  แล้วถูกดูดมาตันที่หัวฉีดครับ

ของผม นิสสัน นีโอ  กับ นิสสัน เทียน่า  อาการเดียวกันเลยครับ

เลยเลิกคบแล้ว  มาเติมแบบแพง  สบายใจกว่ากันเยอะเลยครับ  อัตราเร่งก็ทันใจดีครับ...........

การใช้แก๊สโซฮอล ในรถรุ่นที่รองรับระบบผลเสียอาจไม่ค่อยมีมากนัก ถ้าเทียบกับ
รถรุ่นที่ไม่ได้รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล เพราะซีลยาง โอริง ระบบการเผาไหม้ ไม่ได้ออกแบบ
และทดสอบมาเพื่อใช้แก๊สโซฮอล มันจะทำให้เสื่อมคุณภาพเร็วมากขึ้นนะครับ
สำหรับเคสของน้า รถรุ่นนี้ผมไม่แน่ว่ารองรับระบบแก๊สโซฮอลแล้วรึยัง ถ้ารองรับแล้ว
ก็อาจจะหมดปัญหาเรื่องโอริงต่างๆ แต่คราบขม่าที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเบนซิน ธรรมดา หรือแก๊สโซฮอล
ก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อนะครับ ในเมื่อเราใช้รถไปแล้วรู้สึกรอบเครื่องเดินไม่นิ่ง สะดุด
ปีกผีเสื้อก็เป็นจุดแรกที่ควรถอดมาล้าง สำหรับรถรุ่นใหม่ๆเพราะรุ่นใหม่ๆส่วนใหญ่จะเป็นปีกผีเสื้อไฟฟ้า
มันรวนง่ายมากครับ ในเมื่อน้านำออกมาล้างแล้ว ถ้าทำในศูนย์ ทางศูนย์เขาจะต้องเรียนรู้รอบเดินเบาใหม่
โดยการใช้โปรแกรมซอฟแวร์ควบคุม เพื่อให้รอบเดินสมดุลที่สุด แต่ถ้าน้านำไปล้างที่อู่ บางอู่ก็จะไม่
รีเซทรอบให้แต่ไม่ต้องตกใจครับ ใช้ไปสักพักมาจะเรียนรู้รอบเดินเบาด้วยตัวเองมันเอง บางกรณีนะครับ
ในบางคันอาจไม่รีเซทรอบด้วยตัวเองได้ รอบจะสวิงเดินไม่เรียบ แนะนำให้เขาศูนย์เพื่อเรียนรู้รอบ
เดินเบาอีกครับ เพียงแค่นี้แจ่มแล้วครับ

+1

+ สำหรับความร้ดีๆ ครับ

ถามเพิ่มนิดนึง

Vios ของน้า เป็นVios รุ่นไหนครับผม ปีอะไรครับ

หากเป้น New Vios ออกรถปีไหนครับผม

เติมไปเหอะ ของเอ็งอ่ะเติมได้ ของพี่เก่ากว่าเอ็งตั้งเยอะ ของพี่รถปี 2002 เติม e10 มาหลายปีแล้ว


ส่วนเรื่องคราบเขม่าซึ่งเป็นปัญหาของเจ้าของกระทู้นั้น ผมเห็นด้วยกับความเห็นที่ 8 น้า Exp.สุริยา ครับ จุดที่ถอดมาล้างคือลิ้น และตัวคุมรอบเดินเบา ซึ่งอยู่ค่อนข้างห่างไกล และมีโอกาสสัมผัสน้ำมัน e10 ตรงๆ ได้ยากมากครับ ส่วนที่ทำให้เกิดคราบเขม่าน่าจะมาจากไอน้ำมันเครื่องที่ออกจากฝาครอบวาล์วมาต่อเข้าตรงกลางระหว่างลิ้นปีกผีเสื้อและกรองอากาศมากกว่าครับ

มาขอเก็บความรู้ด้วยคน...........

จูนกล่อง motec ดีกว่า พี่ป้อม อิ...อิ

ผมก็ใช้วีออสนะ

ลิ้นปีกผีเสื้อมันจ่ายอากาศ  หัวฉีดจ่ายน้ำมันมันอยู่ที่รางหัวฉีดเหนือฝาวาล์วไม่ใช่เหรอครับ?

แล้วลิ้นปีกผีเสื้อสกปรกมันเกี่ยวกับน้ำมันที่ใช้ตรงไหนหว่า?  มันน่าจะเกี่ยวกับกรองอากาศมากกว่านิ ? 

ผมก็วีออส ปี 2002 2003
เติม โซฮอล 95 มา2-3ปีแล้ว จะงานเข้าไม้เนี่ย
แล้วกลับมาเติม เบนซินได้ป่าวไม่รู้
ชอบขับกระชากแหลก 

ขอบคุณครับ + 

เป็นเมล์ที่โกหกชัดๆ


แบบว่า เติมแกสโซออล์ แล้วเครื่องมันหายไปเลยนะ เคยดูโฆษณาในทีวีไหมครับ

Forward Mail อันนี้ รู้สึกแปลกๆ
เหมือนเขาไม่มีความรู้ในน้ำมันแกสโซฮอลเลยว่ามันคืออะไร
แล้วเรายิ่งควรรู้ไปอีกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านเป็นองค์แรกเสียด้วยซ้ำที่มีพระราชดำริในเรื่องนี้

คำว่าแกสโซฮอล เกิดจากการรวมคำระหว่างคำว่า Gasoline + Ethanol ( Ethyl alcohol) = Gasohol

91 หรือ 95 เป็นค่าออกเทน

น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว (น้ำมันแก๊สโซลีน) มีส่วนผสมของสาร MTBE ในการเพิ่มออกเทนให้เป็น 91 หรือ 95

ในขณะเดียวกัน น้ำมันเบนซินแกสโซฮอล์ จะใช้ เอทานอลหรือเอทิลแอลกอฮอล์ ที่มีความบริสุทธิ์ 99.5% โดยผสมกับน้ำมันเบนซิน ในอัตราส่วน 90 : 10 คือใช้เอทิลแอลกอฮอล์ 10 ส่วนเป็นตัวเพิ่มค่าออกเทน ( โดยไม่ใช้สาร MTBE (Methyl Tertiary Butyl Ether) เป็นสารเพิ่มค่าออกเทน )

ดังนั้น น้ำมันแกสโซฮอล์ โดยพื้นฐานก็ยังเป็นน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วถึง 90 ส่วน
ซึ่งก็เหมือนกับน้ำมันเบนซิลไร้สารตะกั่ว ชนิด 91 หรือ 95 ที่ต้องเติมสาร MTBE เข้าไปเพื่อปรับค่าออกเทนให้สูงขึ้น
จริงๆ แล้ว สาร MTBE มีค่าออกเทนต่ำกว่า เอทิลแอลกอฮอล์ ด้วยซ้ำ ดังนั้นการผสมจึงต้องผสมในอัตราส่วนที่มากกว่า

การเติมน้ำมันแกสโซฮอล์ มีข้อจำกัดที่ว่า เครื่องยนต์ ท่อ ถังน้ำมัน และอื่นๆ ที่สัมผัสกับน้ำมันแกสโซฮอล์ ต้องมีความสามารถที่จะทนต่อเอทิลแอลกอฮอล์ ได้ โดยเฉพาะน้ำมันที่มีส่วนผสมเอทิลแอลกอฮอล์ มากขึ้น ได้แก่ E20 หรือ E85 เป็นต้น

แต่น้ำมัน E10 ที่เป็นพื้นฐาน ที่เราเรียกว่า น้ำมันแกสโซฮอล์ 91 หรือ 95 นั่น มันมีคุณสมบัติเหมือนกับน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว 91 หรือ 95 เช่นกัน อย่างในอเมริกา ยุโรป ก็มีแต่น้ำมันแกสโซฮอล์เท่านั้น นอกนั้นประกาศเลิกใช้ไปแล้ว จึงไม่ได้มีผลเสียต่อรถยนต์ที่ใช้น้ำมันค่าออกเทน 91 หรือ 95 แต่อย่างใด

ในเมืองไทยก็มีแผนงานที่จะเลิกผลิตน้ำมันไร้สารตะกั่ว 91 หรือ 95 ที่เพิ่มออกเทนด้วยสาร MTBE เช่นกัน
แต่ยังทำไม่ได้ เพราะยังมีรถยนต์เก่าๆ ที่ใช้งานกันมาเกินสิบปี ยี่สิบปี บางคันอาจจะมากกว่า
โดยเฉพาะเครื่องยนต์ที่ใช้คาบูเรเตอร์ พวกนี้เครื่องยนต์ถูกผลิตขึ้นมาด้วยเทคโนโลยี่ที่ต่ำ จึงปรับแต่งเครื่องยนต์ยาก
จึงใช้ไม่ได้ เมืองไทยก็เลยยังต้องผลิต น้ำมันไร้สารตะกั่ว 91 หรือ 95 ที่เพิ่มออกเทนด้วยสาร MTBE ออกขายอยู่

หากรถยนต์วีออส คันดังกล่าว ผลิตด้วยเทคโนโลยี่ที่ต่ำ ใช้วัสดุเกรดต่ำ ที่ใช้กันเมื่อก่อน ก็คงมีผลครับ
ดูจากเมล์แล้ว ยังใช้สายคันเร่งอยู่เลย ปัจจุบันเขา Drive By Wire กันแล้ว

แต่เอฟดีของเราผลิตด้วยเทคโนโลยี่สมัยใหม่ ทั้งมีการควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (ECU/ECM) มันจึงไม่มีปัญหาครับ

ไม่รู้ว่าผู้ตั้งเรื่องมีความรู้แค่ไหน หรือเข้าใจผิดอะไรมา หากมันมีผลเสียจริง แค่ล้างปีกผีเสื้อคงไม่หาย เพราะความเสียหายนั้นจะทำให้วัสดุที่สัมผัสเอทิลแอลกอฮอล์นั้นเสียหายไปเลย เช่นท่อน้ำมันก็บวมเปื่อยแตกไปเลย
นี่เขายังบอกว่าเมื่อล้างปีกผีเสื้อแล้ว (ทำข้างนอก) ก็เป็นปกติใช้ได้ต่อไป
จริงๆแล้วไม่ว่าจะใช้น้ำมันอะไร มันก็จะมีพวกเขม่าเกิดขึ้นอยู่แล้ว ส่วนที่ปีกผีเสื้อ กับ Sensor สกปรก มันก็เกิดจากฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่มากับอากาศ ปีกผีเสื้อไม่ได้มีน้ำมันมาผ่าน แล้วมันจะเสียเพราะน้ำมันแกสโซฮอล์ได้อย่างไร ฝุ่นที่ปนมากับอากาศต่างหากที่ทำให้สกปรก ล้างแล้วก็กลับมาเหมือนเดิมครับ

ถึงจะใช้น้ำมันเบนซินธรรมดา หรือน้ำมันอะไรก็แล้วแต่มันก็สกปรกแบบนี้อยู่ดี ลมหรืออากาศถูกดูดเข้าโดยผ่านวาล์วปีกผีเสื้อ ไปที่ท่อ Intake โดยมีลูกสูบที่เลื่อนลงเป็นตัวดูด ส่วนน้ำมันถูกปั๊มติ๊กปั๊มส่งไปยังหัวฉีด หัวฉีดจะฉีดน้ำมันเข้าห้องกระบอกสูบเลย แล้ว น้ำมันมันจะไปทำให้วาล์วปีกผีเสื้อ และเซนเซอร์สกปรกได้อย่างไร ในเมื่อน้ำมันมันไม่ไดผ่านไปที่นั้น

เราน่าจะมีความรู้เรื่องนี้ให้ดีนะครับ เพื่อจะได้ไม่รับเมล์ที่ไม่เป็นความจริงแล้วก็บริโภครับมันเข้าไว้
กลายเป็นเรารู้หรือเชื่อในเรื่องที่ไม่จริงไป

รูปน้ำมันที่ผ่านหัวฉีดเข้าเครื่อง โดยผ่านที่หัวฉีดโดยตรง

http://i.imagehost.org/0960/am0311025h.jpg





Credit  จากพี่ วัชร  civic FD thailand

+1

ของผมก็เติมแก๊สโซฮอล 95 อย่างเดียวเลยใช้มา2ปีแล้วครับยังไม่เกิดปัญหาเลย แต่รถผมเป็นรถของสัญชาติเยอรมัน รุ่นE220ครับ...แต่ถ้าเป็นแก๊สLPG มีปัญหาที่รอบเครื่องยนต์เหมือนกันแก้ไม่หายครับจูนเครื่องจนเบื่อระบบหัวฉีดอย่างดี...เลยไม่ใช้LPGเลยครับประหยัดจริงแต่เบื่อมากๆเวลารถดับๆขับๆไปรอบตกยิ่งติดไฟแดงอยู่แล้วดับเสียรถไปเลยครับ......ตอนนี้ใช้แต่แก๊สโซฮอล95อย่างเดียวเลยไม่เกิดปัญหาเลยครับ

ตามความเห็นที่ ๒๐ ครับ ถูกต้อง

     
มีอีกเรื่องจะมาแนะครับ ผมจะเปรียบเทียบให้ดูที่บอกว่าใช้แก๊สโซลฮอลกลัวรถพังไม่คุ้มลองมาดูทางนี้ครับ
ผมจะนำแก๊สโซฮอล ออกเทน 95 (Gasohol 95 - E20)มาลองเปรียบเทียบกับเบนซิน91นะครับ
ปัจจุบัน E20 ราคา29.94บาท/ลิตร และเบินซิน91 ราคา35.84 บาท/ลิตร (ปตท.)
ผมสมมุติว่า  - นายกุ๊กไก่ใช้ E20 เติมไปทำงานวันละ10 ลิตร จะเป็นเงิน 299.4 บาท/วัน
                      ถ้า 1 ปี จะเป็นเงิน 109,281บาท/ปี
                    - นายไข่ไก่เติมเ บนซิน91ไปทำงานวันละ10 ลิตร จะเป็นเงิน 385.4 บาท/วัน
                      ถ้า 1 ปี จะเป็นเงิน 140,671 บาท/ปี
              สรุปแล้วใน 1 ปี นายกุ๊กไก่ประหยัดค่าน้ำมันต่อปีได้มากกว่านายไข่ไก่เป็นเงิน 31,390 บาท/ปี

                แล้วถ้าสมมุติอีกว่า ใน 3 ปีนายกุ๊กไก่ใช้รถที่เติม E20 แล้วพัง เนื่องจากวาล์วอาจจะรั่ว ก็เสียค่าแรง
ยกฝาสูบซ่อมบดวาล์ว เปลี่ยนปะเก็น โอริงต่างๆ อะสัก 2 หมื่น ไปเลย(มากน้อยขึ้นอยู่กับยี่ห้อรถ)
แต่ใน 3 ปี นายกุ๊กไก่ประหยัดเงินจากการเติม E20 ได้มากถึง 91,470 บาท นายกุ๊กไก่จึงไม่กังวลเลย
เรื่องการซ่อมบำรุง เห็นไหมหละครับ ลองคิดดูว่าได้คุ้มเสียรึเปล่า แค่คิดแต่ไม่อยากให้รถเสียไว อิอิ
และยิ่ง รถน้าใช้ LPG หรือ NGV ก็ลองคำนวนดูแล้วกันครับ LPG ลิตรละ11.15 บาท(แถวบ้านผมนะ)
NGV ลิตรละ 8.50 (ปตท.)  เห็นขนาดนี้แล้ว กลัวอย่างเดียวครับแก๊สระเบิด อย่าไปกลัวรถพังเลย
นับปีดูคุณประหยัดเงินร่วมแสน กับแค่กลัวรถจะพังไว เอ้อ คิดดีๆครับ
ที่ผมคิดให้ดูเป็นการสมมุติการใช้งานต่อวันเท่านั้นนะครับ ส่วนน้าๆคนไหนใช้รถยังไงก็ลอง
คำนวนดูกันเอาเองนะครับ ว่างๆลองนั่งคิดดูครับไม่เสียหลาย ได้ข้อคิดบวกประหยัดเงินอีกด้วย
ทางผู้ผลิตเขาคิดคำนวนการประหยัดมาก่อนแล้วหละครับ ไม่งั้นเขาคงไม่กล้าผลิตมาขายหรอกครับงิงิ
ยังไงผมบวกเลขผิดหรือผิดพลาดประการใดก็ช่วยแย้งด้วยนะครับ เพราะเพิ่งคิดเพิ่งเขียนเอาเมื่อกี้
ใช้เครื่องคิดเลขในมือถือบวกเอา ไม่ได้ก๊อบข้อความมาจากไหนเน้อ อาจมีผิดบ้างนะครับ

ใช้วีออส ไมเนอร์เชน สงสัยพรุ่งนี้ต้องไปล้างปีกผีเสื้อ,กรองอากาศ มั้งแล้วอาการที่น้าๆบอกมีทุกอย่างเลย

แต่ขับเป็นอย่างเดียวครับผม