กระดาน
รีวิว
ตลาด
ประมูล
เปิดท้าย
เรือ
แหล่งตกปลา
ร้านค้า
ค้นหาข้อมูล
Login
สมัคร
27 พ.ย. 67
สัตว์ทะเล ที่เป็น อันตรายที่พบในน่านน้ำไทย: SiamFishing : Thailand Fishing Community
1
2
3
4
>
กระดาน
คห. 85 อ่าน 101,128 โหวต 24
สัตว์ทะเล ที่เป็น อันตรายที่พบในน่านน้ำไทย
ลุงหรั่ง
(97
)
1
ตั้ง: 6 ก.ค. 52, 18:59
สัตว์ทะเล ที่เป็น อันตรายที่พบในน่านน้ำไทย
คห.จก.
บอสTP
(78
)
คห.1: 6 ก.ค. 52, 19:00
ไหนครับๆๆๆ
+++
BOMhandmade
(11342
)
คห.2: 6 ก.ค. 52, 19:01
wasin
(435
)
คห.3: 6 ก.ค. 52, 19:01
+ครับ อยากเห็นจังครับ
ลุงหรั่ง
(97
)
คห.4: 6 ก.ค. 52, 19:01
กุ้งมังกร (Lobster)
กุ้งมังกรหรือกุ้งหัวโขนหรือกุ้งหนามเป็นกุ้งทะเลขนาดใหญ่ มักพบอาศัยอยู่ตามแนวปะการัง เปลือกที่คลุมหัวและอกมีลักษณะแข็งและมีหนามกระจัดกระจายทั่วไป โดยเฉพาะบริเวณฐานหนวด มีหนามยาวและแข็งหากจับกุ้งชนิดนี้โดยไม่ระมัดระวัง ก็อาจถูกหนามแทงจนเกิดบาดแผลได้
ปั๊ม
(76
)
คห.5: 6 ก.ค. 52, 19:02
ป้าด ....... น้ำลายหก
หนอนพิฆาต
(2732
)
คห.6: 6 ก.ค. 52, 19:03
บอสTP
(78
)
คห.7: 6 ก.ค. 52, 19:03
โอ้ว... น้ำลายหกเปงลิตรๆ หลายตังค์นะนั่น
ลุงหรั่ง
(97
)
คห.8: 6 ก.ค. 52, 19:03
ปู (Crabs)
ปูเป็นครัสเตเซียนที่วิวัฒนาการจากกุ้ง โดยมีส่วนท้องลดขนาดลงและพับอยู่ใต้อกปูมีขาเดิน 5 คู่ คู่แรกเปลี่ยนแปลงไปเป็นก้านหนีบใช้ในการจับเหยื่อและป้องกันตัว ปูส่วนใหญ่มีก้ามแข็งแรง สามารถใช้หนีบศัตรูให้บาดเจ็บได้ โดยเฉพาะปูทะเล ปูม้า และปูใบ้ขนาดใหญ่ การจับปูเหล่านี้จึงต้องระมัดระวังโดยเฉพาะปูที่ยังมีชีวิตและถูกแก้มัดออกแล้ว ตลอดจนปูใบ้ที่มีเปลือกแข็งแรง ก้ามแข็งแรงมาก เมื่อหนีบแล้วจะไม่ยอมปล่อยง่าย ๆ อย่างไรก็ตาม อันตรายจากปูหนีบนั้นยังไม่ร้ายแรงเท่ากับการรับประทานปูมีพิษ เช่นเดียวกับแมงดาไฟ ซึ่งอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ ตัวอย่างปูมีพิษได้แก่ ปูใบ้แดง (Artergatis intergerrinus) ปูใบ้ลาย (Lophozozymus pictor) เป็นต้น
ลุงหรั่ง
(97
)
คห.9: 6 ก.ค. 52, 19:05
ปูใบ้หลังเต่า ครับ อันนี้ก็อันตราย นะครับ
ลุงหรั่ง
(97
)
คห.10: 6 ก.ค. 52, 19:06
ดาวหนาม (Clown-of-thorn Sea Star)
ดาวหนามหรือดาวมงกุฎหนามเป็นดาวทะเลชนิดหนึ่งที่มีแขนงจำนวนมาก ตามผิวลำตัวมีหนามยาวประมาณ 1 นิ้ว อาศัยอยู่ตามแนวปะการังโดยกินโพลิปปะการังเป็นอาหาร นอกจากผลกระทบต่อระบบนิเวศในแนวปะการังแล้วดาวหนามยังเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยวและชาวประมงที่ดำน้ำอยู่บริเวณปะการังด้วย เพราะหากเหยียบลงไปบนตัวดาวหนามแล้วจะทำให้เกิดบาดแผลได้รับความเจ็บปวด
BULINO
(12950
)
คห.11: 6 ก.ค. 52, 19:06
ลุงหรั่ง
(97
)
คห.12: 6 ก.ค. 52, 19:07
แมงดาทะเล (Horse-shoe Crab)
แมงดาทะเลเป็นสัตว์ทะเลโบราณที่ยังคงเหลืออยู่ในโลกปัจจุบันเพียง 4 ชนิด และมีอยู่ 2 ชนิดที่พบในทะเลไทย คือ แมงดาจานหรือแมงดาหางเหลี่ยม (Tachypleus gigas) และแมงดาถ้วยหรือแมงดาหางกลม (Carcinoscorpiu srotundicauda) ทั้งสองชนิดมีความเป็นอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน โดยแมงดาจานอาศัยอยู่ตามพื้นทะเล วางไข่ตามริมชายฝั่งที่เป็นดินทราย ส่วนแมงดาถ้วยอาศัยอยู่ตามพื้นทะเลที่เป็นดินโคลนและลำคลองในป่าชายเลน เท่าที่มีรายงานในประเทศไทย เฉพาะแมงดาหางกลมเท่านั้นที่อาจเป็นพิษ และเรียกชื่อแมงดาที่เป็นพิษนี้ว่า แมงดาไฟหรือเหรา (อ่านว่า เห-รา) จนบางครั้งทำให้เข้าใจสับสนว่า เหรา เป็นแมงดาชนิดที่สามจากคำบอกเล่ามักอธิบายถึงลักษณะของเหราว่าตามลำตัวมีขนยาวที่นักอนุกรมวิธานได้ศึกษาแน่ชัดแล้วว่า แมงดาไฟ หรือ เหรา ก็คือแมงดาหางกลมบางตัวนั่นเอง แต่การเป็นพิษนั้นจะเกิดเฉพาะช่วงเดือนธันวาคม-มีนาคม เหตุที่แมงดาถ้วยมีพิษเป็นบางช่วงนี้ สันนิษฐานได้ว่าช่วงเวลาดังกล่าวอาจมีการเจริญแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็วจนเกิดการสะพรั่งของแพลงค์ตอนบางชนิดในกลุ่มไดโนแฟลกเจลเลต เช่น (Gonyoulax catenella) ที่สร้างสารพิษแล้วแพลงค์ตอนชนิดดังกล่าวถูกกินโดยหอยหรือหนอนซึ่งเป็นสัตว์หน้าดิน เมื่อพิษเข้ามาสะสมในหอยหรือหนอนแล้วถูกกินโดยแมงดาทะเล พิษจึงสะสมอยู่ในเนื้อและไข่ของแมงดาถ้วย เมื่อคนรับประทานแมงดาถ้วยตัวที่มีสารพิษสะสมอยู่ จึงทำให้เกิดเป็นพิษขึ้นมาได้ แม้ว่าไข่หรือเนื้อที่รับประทานจะได้ปรุงให้สุกแล้วก็ตาม และหากเหยียบย้ำโดนหางของแมงดาทะเลจะทำให้ได้รับบาดเจ็บจากการโดนตำ
ไข่หวาน
(358
)
คห.13: 6 ก.ค. 52, 19:07
ลุงหรั่ง
(97
)
คห.14: 6 ก.ค. 52, 19:09
เม่นทะเล (Sea Urchin)
เม่นทะเลเป็นสัตว์มีหนวดตามผิวลำตัวเช่นเดียวกับดาวทะเล แต่เม่นทะเลมีหนามยาวจำนวนมาก ชนิดที่พบค่อนข้างชุกชุมในแนวปะการังของชายฝั่งทะเลไทยคือเม่นดำหนามยาว (Diadema setosum) มีหนามขนาดยาวอยู่รอบตัว การท่องเที่ยวเดินใต้ทะเลในบริเวณที่มีเม่นทะเล คลื่นอาจซัดให้โยนตัวไปเหยียบย่ำเม่นทะเลได้ หนามของเม่นทะเลมักหักเปราะฝังอยู่ในผิวหนัง ซึ่งไม่สามารถบ่งออกได้อย่างหนามเล็กๆหรือหนามจากพืช การแก้ไขเมื่อถูกหนามเม่นตำคือการทุบอย่างเบาๆ เพื่อให้หนามเม่นแตกเป็นชิ้นขนาดเล็ก ร่างกายจะสร้างสารออกมาย่อยสลายหนามของเม่นได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม เม่นทะเลบางชนิดมีต่อมน้ำพิษเมื่อถูกหนามเม่นตำแล้ว น้ำพิษยังอาจเข้าสู่ร่างกายทำให้เกิดอาการอักเสบ บวมแดง เจ็บปวดและเป็นไข้ได้ นอกจากหนามที่แหลมคมแล้ว เม่นยังมีโครงสร้างพิเศษที่เรียกว่า เพดดิเซลลาเรีย (pedicellariae) กระจัดกระจายแทรกอยู่ระหว่างหนาม ตรงปลายมักมี 3 แฉกคล้ายคีม ซึ่งทำหน้าที่เก็บเศษอินทรีย์และจุลินทรีย์ออกจากผิวลำตัวในหนามเม่นบางชนิดเพดดิเซลลาเรียมีต่อมน้ำพิษอยู่ด้วย อันตรายจากเม่นทะเลจึงไม่มีเฉพาะหนามเพียงอย่างเดียว
ลุงหรั่ง
(97
)
คห.15: 6 ก.ค. 52, 19:12
พวกที่กัดได้ (Snapper) ได้แก่ งูทะเล(Sea snake) ปลาไหลมอเล่ย์ (Moray eel) ปลาฉลาม (Sharks) ปลาหมึกยักษ์ที่เรียกว่า Blue-ringe Octopus) เป็นต้น ซึ่งพิษมีผลต่อระบบประสาทอยู่ในต่อมน้ำลายทำให้ผู้ที่ถูกกัดมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ช็อค และอาจทำให้เสียชีวิตได้ เพื่อให้เข้าใจและตระหนักถึงอันตรายที่อาจได้รับจากสัตว์ทะเล ตัวอย่างสัตว์ทะเลชนิดต่าง ๆ พร้อมอธิบายถึงอันตรายที่จะได้รับ ดังนี้
ลุงหรั่ง
(97
)
คห.16: 6 ก.ค. 52, 19:13
งูทะเล (Sea Snakes)
งูทะเลมีลักษณะแตกต่างจากงูบกคือลำตัวส่วนท้ายแบนทางด้านข้างจนถึงปลายหางมีลักษณะคล้ายใบพาย เพื่อใช้สำหรับว่ายน้ำ งูทะเลทุกชนิดมีพิษอยู่ที่เขี้ยวในปาก บางชนิดว่ายน้ำเหมืออย่างปลา และบางชนิดอาจขึ้นมาวางไข่บนชายฝั่งเช่นเดียวกับเต่าทะเล พิษของงูทะเลมีอันตรายร้ายแรงมาก แม้จะถูกนำขึ้นมาบนบกแล้วก็ไม่ควรใช้มือจับ การเดินไปตามแนวปะการังควรใส่รองเท้ายางหุ้มข้อ รวมทั้งงูที่ตายแล้วก็ต้องระมัดระวังพิษจากเขี้ยวที่ยังสามารถออกฤทธิ์ได้ น้ำพิษจากงูทะเลมีผลโดยตรงต่อระบบกล้ามเนื้อ ปัสสาวะของผู้ป่วยจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ภายในเวลา 3-5 ชั่วโมง เนื่องจากเม็ดสีถูกปล่อยออกมาจากเซลล์กล้ามเนื้อที่ถูกทำลาย ระบบหายใจขัด หรือการทำงานของหัวใจล้มเหลว ( งูทะเล มีมากมายหลายชนิดครับ เพื่อนๆ )
ลุงหรั่ง
(97
)
คห.17: 6 ก.ค. 52, 19:14
ปลาไหลมอเล่ย์ (Morey Eel)
ปลาทะเลในแนวปะการังหลายชนิดเป็นสัตว์กินเนื้อ และมีฟันแหลมคม โดยเฉพาะปลาไหลมอเล่ย์ซึ่งซ่อนตัวอยู่ตามโพรงหินปะการังและโผล่หัวออกมาเฝ้าระวังเหยื่อหรือศัตรู หากนักท่องเที่ยวว่ายน้ำผ่านบริเวณที่ปลาอาศัยอยู่ ปลาก็อาจพุ่งตัวออกมาฉกกัดคล้ายงูได้ แม้ว่าปลาไหลมอเล่ย์จะไม่มีเขี้ยวพิษอย่างงูทะเล แต่เมือกในปากของปลาก็มีพิษอ่อนๆ
ลุงหรั่ง
(97
)
คห.18: 6 ก.ค. 52, 19:16
ฉลาม (Sharks)
ปลาฉลามเป็นปลาที่คนโดยทั่วไปเข้าใจว่าเป็นสัตว์ดุร้าย หรือเป็นปลากินคน ความจริงแล้วปลาฉลามเป็นสัตว์กินเนื้อพวกหนึ่ง ซึ่งมีฟันแหลมคมไว้ล่าเหยื่อเป็นอาหารแต่ก็มีบ่อยครั้งที่ปลาฉลามขนาดใหญ่อาจเข้าจู่โจมกัดนักประดาน้ำหรือผู้คนที่เล่นน้ำอยู่ตามชายหาดซึ่งเป็นโดยธรรมชาติของปลา การหลีกเลี่ยงอันตรายจากการถูกปลาฉลามกัดจึงควรป้องกันไว้ก่อน เช่น ไม่ว่ายน้ำแยกตามลำพัง หรือทำให้ฉลามได้รับความตื้นตกใจ เช่น กลุ่มของฉลามหูดำ ซึ่งพบได้ทั่วไปในน่านน้ำไทย
ลุงหรั่ง
(97
)
คห.19: 6 ก.ค. 52, 19:24
หมึก (Cephalopod)
หมึกเป็นมอลลัสพวกหนึ่งที่มีวิวัฒนาการสูงกว่าหอยโดยสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว สามารถไล่ล่าสัตว์อื่นกินได้ ลำตัวไม่มีเปลือกหนวดของหมึกสายมี 8 เส้น ซึ่งเปลี่ยนแปลงมาจากเท้าของหอย ภายในปากของหมึกมีขากรรไกรแข็งซึ่งใช้ขบกัดเหยื่อ ดังนั้นการจับหมึกด้วยมือขณะที่หมึกยังมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมึกสาย สามารถกัดทำให้บาดเจ็บได้ ยิ่งไปกว่านั้นหมึกสายบางชนิด เช่น หมึกสายวงน้ำเงิน (Hapalochlaena naculosa) ซึ่งอาศัยอยู่ตามแนวปะการัง มีต่อมน้ำพิษที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
ลุงหรั่ง
(97
)
คห.20: 6 ก.ค. 52, 19:27
แม่เพรียง (Clam Worm)
แม่เพรียงเป็นหนอนปล้องที่มีลำตัวเรียวยาว บางชนิดอาจยาวถึง 2 เมตร อาศัยอยู่ตามแนวปะการังใต้ซอกหินหรือบางชนิดอยู่ตามป่าชายเลน บริเวณส่วนหัวของแม่เพรียงมีปากและขากรรไกรลักษณะคล้ายเขี้ยวอยู่ในปาก ซึ่งใช้สำหรับฆ่าเหยื่อหรือคาบจับอาหาร แม่เพรียงจึงอาจใช้เขี้ยวกัดทำให้ได้รับบาดเจ็บ ปวด เช่นเดียวกับผึ้งต่อย แม้โอกาสจะถูกกัดมีน้อยมากก็ตาม
ลุงหรั่ง
(97
)
คห.21: 6 ก.ค. 52, 19:29
พรมทะเล หรือซูแอนทิด (Zoanthid)
พรมทะเลเป็นสัตว์จำพวกดอกไม้ทะเลขนาดเล็ก หนวดมีขนาดสั้น ลำตัวมักเป็นท่อนยาว และอาศัยอยู่รวมกันเป็นโคโลนี โดยมีส่วนฐานเชื่อมต่อถึงกันได้ ตามปกติพรมทะเลไม่มีพิษในแง่การสัมผัสเพราะนีมาโตซีสมีพิษอ่อนมาก แต่มีพรมทะเลบางชนิดของสกุล Palythoa มีสารพิษที่ชื่อว่าพาลิทอกซิน (palytoxin) ซึ่งมีฤทธิ์ต่อระบบหัวใจ สารชนิดนี้นับเป็นสารที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในสัตว์ทะเลยิ่งกว่าพิษจากปลาปักเป้า ในฮาวายนำมาใช้เป็นยาพิษอาบปลายธนูด้วย ดังนั้นการที่นักท่องเที่ยวอยู่ในบริเวณที่มีพรมทะเลอาศัยอยู่จำนวนมากจึงไม่ปลอดภัย
Aspire5050
(567
)
คห.22: 6 ก.ค. 52, 19:29
+1
Exp.สุริยา
(242
)
คห.23: 6 ก.ค. 52, 19:32
ขึ้นด้วยของอร่อย อิ่มแล้วจบด้วยของแขยงอี๋เพรี้ยงน่ากัว
โดนแน่555
(231
)
คห.24: 6 ก.ค. 52, 19:32
patipon rodpon
(2841
)
คห.25: 6 ก.ค. 52, 19:33
1
2
3
4
>
siamfishing.com © 2024