11 ส.ค.  รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีวัฒนธรรม กล่าวถึงกรณีที่ประเทศกัมพูชาได้นำรำไทย ท่าจีบไทย และหนังใหญ่ไทยขึ้นทะเบียนกับยูเนสโก ว่า ตนได้รับทราบรายละเอียดแล้ว จากนี้จะหารือกับ นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร ในฐานะกรรมการมรดกโลก เพื่อลงในรายละเอียดอีกครั้ง ว่า สิ่งที่กัมพูชาจดทะเบียนนั้นเป็นการจดทะเบียนในลักษณะไหนอย่างไร คงต้องขอเวลาในการศึกษา



ขณะเดียวกัน ยังต้องหารือกับนายสุรพงษ์ โตวิจักรชัยกุล รัฐมนตรีต่างประเทศด้วยว่า ขั้นตอนการจดทะเบียนศิลปวัฒนธรรมไทยเป็นอย่างไร ปัญหานี้ถือเป็นภารกิจแรกที่ต้องเร่งดำเนินการเพราะประชาชนให้ความสนใจและเป็นวัฒนธรรมไทย หากต่างชาติจะนำไปขึ้นทะเบียนเราก็ต้องปรึกษาหารือ หาทางแก้ไขกันต่อไป



อย่างไรก็ตาม ในเว็บไซต์ยูเนสโก ได้มีการขึ้นรายงานการขึ้นทะเบียน มรดกที่ไม่มีตัวตน ในส่วนของกัมพูชาไว้ 2 รายการ คือ เดอะรอยัลบัลเล่ต์ของกัมพูชา จารึกไว้ในปี 2008 ในรายการตัวแทนของมรดกทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติที่ไม่มีตัวตน (แต่เดิมประกาศในปี 2003) และ เขมรเงาโรงละคร จารึกไว้ในปี 2008 ในรายการตัวแทนของมรดกทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติที่ไม่มีตัวตน (แต่เดิมประกาศในปี 2005)



อนึ่ง การรำของเขมร หรือเป็นนที่รู้จักสากลในชื่อ รอยัลบัลเล่ต์  มีชื่อเสียงสำหรับท่าทางมือสง่างามและเครื่องแต่งกายสวยงาม โดยมากจะใช้แสดงในพระราชพิธี งานแต่งงาน งานศพหรือในวันหยุด โดนศิลปะดังกล่าวเกือบสุญหายไปในปี 1970 หลังถูกสั่งกวาดโดยกองทัพเขมรแดง กระทั่งในปี 1979 เมื่อเขมรแดงแพ้สงคราม ศิลปะดังกล่าวจึงถูกฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้ง








*ข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ผมว่าเคยเห็นและได้ยินมานานพอสมควรละแต่ยังไม่มั่นใจจากแหล่งข้อมูล  แต่กระทรวงนี้พึ่งจะมาทำเรื่องนี้จังหวะแบบนี้มันน่าคิดนะคับ(ถ้าข่าวนี้จริงมันไม่ช้าไปหรือ).....บอกตรงๆผมกลัวทฤษฎีสมคบคิดของคนบางกลุ่มมากกว่า.....ไม่รู้เพื่อนๆพี่ๆ จะคิดกับเรื่องนี้อย่างไร....เพราะเรื่องวัฒนธรรมของชาติอีกเรื่องหนึ่ง เล่นการเมืองก็อีกเรื่องหนึ่ง.......ยังไงวัฒนธรรมของชาติใครก็รักและห่วงแหนอยู่แล้ว แต่มันดูแปลกไปนิดส์ในสายตาผมนะ...

....ถ้าเป็นเรื่องจริงยูเนสโกนี่ทำงานด้านวัฒนธรรมเชิงท้องถิ่นและภูมิศาสตร์ได้แย่มากๆ.....

เครดิตจากโอเคเนชั่นครับ

อีกหน่อยจะเหลืออะไรที่เป็นวัฒนธรรมไทยให้ลูกหลานเราภูมิใจละครับ

นั่นนะสิครับ
คนไทย ไม่"รัก"ของไทย
คนอื่นๆเค้าก็มา "ลัก" ของเราหมด

เขมร...มันเล่นสงครามประสาท...ตีรวน...ป่วนเมืองอยู่ครับ...อยู่ที่ไทยแล้วจะทันเกมส์หรือเปล่า...ตำราพิชัยสงครามพื้นๆๆเลย

เขมรเป็นประเทศที่ประเทศไทยเคยช่วยเหลือมาตลอดแต่มาตอนนี้สิ

พระยาละแวกนี้หมายถึงเขมรหรือเปล่า..................ถ้าใช่...

ไม่แปลกใจเลย ไม่เลยซักนิด ก่อนนั้นก็ ขึ้นทะเบียนมรดกโลก ยุคใครหว่าจำไม่ได้ 
ยุคนี้ ขึ้นทะเบียนท่ารำไทย ยุคใครหว่าช่วงนี้ 
อีก4ปี จะเป็นจังได๋ เมื่อยุคเขมรแดงเรืองอำนาจ 
ได้แต่ทำใจ เค้าพวกกันทั้งนั้น

หมดความหวังทุกสิ่งกับประเทศไทยมานานแล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดครับ ยังไงพวกเราก็ต้องทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวต่อไปครับ เรื่องนี้ ปลง ปลง ต้องปลงยาวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ครับ

อันโบราณท่านว่า เจ้าชาวนา
ดับไปเก็บเจ้างูมา รักษาไว้ ................. ให้กัดตน

นักการเมืองเข้ามาไม่เคยนึกถึงประโยชน์ของชาติ มีแต่ประโยชน์ส่วนตัวเป็นหลัก ประชาชนประเทศชาติไม่สนใจ เอาแต่สูบเลือดเนื้อคนในชาติ มันน่าตูมๆให้สูญพันธุ์จริงๆ............เ.........ซ็..........ง

มีแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว  แล้วต่อไปเราจะเหลืออะไรให้ภูมิใจได้บ้างน่ะ     

ท่ารำเขมรถูกต้องแล้วครับเราเอาของเขมรมาเพราะอีสานใต้ของไทยเดิมเป็นประเทศเขมรที่เราแบ่งคนละฝั่งแม่น้ำโขงกับฝรังเศษ

เราช่วยกัน ต...เขมรกันดีไหม

แย่จัง

ไม่น่าทำกันได้นะครับ

แค้นมากทำแบบนี้ ต้องไปตีเมืองขึ้นล้างแค้นซะหน่อยแล้ว 

ศิลปวัฒนธรรมโบราณ มันแลกเปลี่ยนกันมานาน เขารับของเราไป เรารับของเขามา  นมนานกาเล

จนบางครั้งไม่รู้ว่าใครเป็นต้นตำรับ ยกตัวอย่างศาสนาพุทธเกิดใน อินเดียแต่ประเทศเรานับถือ

จนเป็นศาสนาประจำชาติ  ไม่ต้องไปสนหรอกครับ เมื่อ100ปีก่อนไม่มียูเนสโก้ คนไทยเที่ยวงานวัด

ฟ้อนรำกันสวยงาม  เดี๋ยวนี้ มีแต่ แร๊พ  เรกเก้  ฮิบฮอบ สกา แถมด้วยท่าเต้นกวนทีนอีกมากมาย  รำไทยจะ

มีให้ดูก็แต่ในงานพิธีต่างๆเท่านั้น  มาสนใจทำให้คนของเราเห็นคุณค่าดีกว่าไปสนใจยูเนสโก้ กับ ไอ้เจ้าเล่ห์

ฝั่งขแมร์ดีกว่าครับ 

คิดแล้วปวดหมอง ขอ สักนิด((แหมน่ามีอีโมรำไทย))

เรามีวัฒนธรรมร่วมกันหลายอย่าง กับเพื่อนบ้านรอบๆ เรา บางอย่างเรายืมเค้ามา บางอย่างเค้าเอาของเราไปใช้ บางอย่างต่างคนต่างยืมมาจากที่อื่น หรือรับมาพร้อมกัน ใจเย็นๆ กันนะครับ 

ใช่ครับ

ไปเข้าwikipediaมาครับ กดแปลมาให้อ่านกัน อาจจะไม่ตรงทีเดียวภาษาแปลกๆนิดนะครับ
ประเพณีการเต้นรำที่ได้รับความเสียหายในช่วง เขมรแดง ระบอบการปกครองในระหว่างที่มีนักเต้นหลายคนถูกฆ่าตายในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์  แม้ว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของศิลปินคลาสสิกทุกกัมพูชาเสียชีวิตระหว่างปี 1975 และ 1979 หลังจากการล่มสลายของเขมรแดงผู้ที่ไม่รอด  ออกจากที่ซ่อนที่พบกันและเกิดขึ้น"อาณานิคม"เพื่อฟื้นฟูประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา  การฝึกอบรมเขมรรำได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาในค่ายผู้ลี้ภัยในภาคตะวันออกของประเทศไทยซึ่งมีไม่กี่คนที่รอดตายนักเต้นระบำเขมร  เต้นรำและละครหลายคนเต้นรำถูกสร้างขึ้นยังที่ รอยัลมหาวิทยาลัยศิลปากร ในประเทศกัมพูชา

ในปี 2003 มันก็แต่งตั้งให้เข้ามาใน ยูเนสโกที่ไม่มีตัวตนทางวัฒนธรรมมรดกรายการ .

ผมเข้าไปดูในยูทูปเค้าคุยกันครับ ไม่อยากพูดเลยว่าคนที่เหลือรอดมาไม่กี่คนนั้น จะเปนคนที่จำเอกลักษณ์ประเพณีการรำแบบเขมรทั้งหมดได้จนสามารถตั้งเป็นวิทยาลัยขึ้นมาใหม่ได้เลย มีท่ารำมากมายเป็นร้อยๆ มีการเข้าคู่กับเพลงต่างๆของเขมรมากมายได้โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากศิลปะไทยเลยงั้นหรอ อยากจะบอกว่าต่างชาติมองว่าไทยไปก็อบเค้ามาทั้งนั้น บ้างก็ว่าไทยเปนประเทศเกิดหลัง ไทยขี้ขโมย สุดท้ายไปเจอคนนึงในยูทูปว่าในหลวงเราด้วย คำเดียวครับ  "ปวดใจ"

ไปเมื่อไหร่บอกด้วยนะเฮีย  รำอีโมไทย  ตามด้วยบางระจัน สนุกพิลึกเลย

เห็นด้วยครับ เด็กหลังๆมาเนี่ยบางคนยังไม่รู้จักการรำ และหนังใหญ่เลยด้วยซ้ำ

อย่าคิดมากครับ ผมว่าปล่อยไปตามเงื่อนไขและหลักความเป็นจริงที่พิสูจน์ได้ดีกว่า ครับ 

ฟ้าหลังฝนมักจะสดใสเสมอ 

เมืองไทยยังต้องเดินต่อไป ทุกคนก็ต้องเสียภาษีต่อไป ชีวิตไม่มีอะไรเปลี่ยน สุดท้ายก็ต้องทำงานหนักเหมือนเดิมและต้องหนักมากขึ้นกว่าเดิมขึ้นไปเรื่อยๆ

//// คิดมากปวดหัว ตกปลาดีกว่า