ขั้นเริ่มต้น....ของชิงหลิว: SiamFishing : Thailand Fishing Community

ขั้นเริ่มต้น....ของชิงหลิว

mok(7679

)

ตั้ง: 31 ธ.ค. 51, 09:24

เรื่องมันผ่านมานานแล้วของผมคือพอหายสงสัยเรื่องอุปกรณ์ต่างๆๆที่มีสารพัดมากมาย....จนหามาสะสมได้กองพะเนินแล้ว
เมื่อออกไปหลิวจริงๆๆก็มีเรื่องที่ยังทำให้ชวนสงสัยต่ออีกหลายๆๆเรื่อง.....
ก็เหมือนเดิมครับ....มาลองดูกันว่าเรื่องธรรมดาที่ไม่ธรรมดาเหล่านั้นมีอะไรกันบ้าง....
ตามมาดูกันครับน้าๆๆ

คห.จก.

kkkeen

คห.1: 31 ธ.ค. 51, 09:29

+1 รอชมครับน้า mok

mok(7679

)

คห.2: 31 ธ.ค. 51, 09:36

หมาย.......?
จุดที่เราจะไปสร้างบ้านเป็นปัญหาของผมเสมอเมื่อไปถึงบ่อที่ยังไม่คุ้นเคย.....
จุดที่ผมจะไม่เลือกนั่งเพราะเป็นอุปสรรคก็มีดังนี้
1. จุดที่มีสิ่งกีดขวาง.....
1.1ด้านบนต้องไม่มีกิ่งไม้, สายไฟ , เสาไฟฟ้า ,หลังคาซุ้ม ซึ่งทำให้สายเอ็นไป พัน เมื่อตอนวัดแล้วไม่โดนปลา
2. มีนักตกปลาประเภทอื่นๆๆรวมตัวอยู่ ไม่บอกก็รู้ว่าคือใครบ้าง

3. พื้นที่ตลิ่งสูงกว่าพื้นน้ำต่างกันมากจนทำให้เสียระยะคันไปฟรีๆๆ
4. พื้นดินที่แข็งเกิน หรือพื้น ซีเมนต์ ที่ไม่สามารถปักร่มบังแดดได้
จุดที่ผมชอบนั่ง..... เพราะเดาว่าปลามักไปรวมอยู่
1. จุดที่พื้นบ่อมีระดับความลึกมากพอที่จะตั้งทุ่นแบบหน้าดินได้ลึกพอ วิธีสังเกตุคือ จุดที่มีท่อส่งน้ำเข้าบ่อ
2. ตรงมุมฉากของบ่อปกติจะมีบ่อละ สี่มุม ยิ่งมุมที่มีระหัดตัวตีน้ำจะดูดีมาก เพราะมีเสาของตัวตีน้ำซึ่งปลาถือเป็นที่อาศัษ
3. จุดที่ทางบ่อมักให้อาหาร โดยมากจะเป็นท่าน้ำที่ผูกเรือหรือไม่ก็จุดที่อยู่ใกล้ๆๆที่เก็บขนมบัง
หากเป็นบ่อที่ไม่เคยเข้าไปเลยก็ถามจากเด็กบ่อจะดีมากเพื่อประกอบการตัดสินใจ

mok(7679

)

คห.3: 31 ธ.ค. 51, 09:53

เหยื่อ.....นั้นใครคิว่าไม่สำคัญ.....

การตกแบบชิงหลิวไม่รู้ใครเป็นคนกำหนดมาว่าต้องตกโดยการใช้เหยื่อหุ้มเบ็ดตัวเดียวมีบ้างที่ใช้สายหน้าสองชุด แต่ไม่ใช้ตะกร้อ......กัน
เมื่อเป็นอย่างนั้นเหยื่อควรมีลักษณะที่เมื่อปั้นหุ้มเบ็ดแล้วควรมีคุณสมบัติหลักที่จะต้องฟุ้งกระจายได้ ทั้งชิ้นเนื้อของเหยื่อหรือ กลิ่นเพื่อเรียกความสนใจของปลาให้เข้าหา.....
ที่นิยมอยู่ในบ้านเรามี รำ และขนมปัง( ทั้งแผ่นและปั่นมาแล้ว ) อันนี้เป็นเหยื่อที่ได้รับความนิยมใช้ในบ่อฟิชชิ่งครับ
เราควรเลือกเหยื่อตามสายพันธ์ปลาที่ปล่อยไว้เป็นปลาเกมส์ในบ่อส่วนใหญ่ประกอบด้วย
1. ปลาเกล็ด.... มีทั้งที่กินพืชและเนื้อ...รำเปล่า , ขนมปังปั่น ,หรือผสมกัน ( เหยื่อนวด ) เช่น ซ่ง ,ยี่สก ,ปุ้มปุ้ย ,นิล , ตะเพียน ,ปลาแรด
2. ปลาหนัง..... ส่วนมากก็จะเป็นกลุ่มที่เหมือนปลาเกล็ด เช่น สวาย กินไม่เลือกถ้าเป็นขนมปังมีกลิ่นจะโปรดเป็นพิเศษ
3. ปลาล่าเหยื่อ ส่วนมากกินเนื่อ เช่นเปคู , ปลากราย ,กระพง ขนมปังและรำ ได้ผลบ้างส่วนมากใช้ ไส้เดือนหรือกุ้ง
การผสมเหยื่อเพื่อหลิวนั้นเมื่อเราต้องเน้นให้เหยื่อยังคงความฟุ้งกระจายเพื่อเรียกปลามา หลักการง่ายๆๆๆคือควรผสมให้เหยื่อนั้นๆๆ กับน้ำ ( ส่วนมากใช้น้ำในบ่อนั้นไม่ใช้น้ำปะปา ) ให้เหยื่อค่อยข้างเหลวมากกว่าจะให้แข็งหรือไม่ผสมน้ำเลย เพราะเสียคุณสมบัติเรื่องฟุ้งกระจาย ส่วนเทคนิคใครจะผสมอะไรใส่กี่อย่างก็แล้วแต่เพื่อช่วยเสริมความมั่นใจ อันนี้ตัวใครตัวมันครับ...

mok(7679

)

คห.4: 31 ธ.ค. 51, 10:02

การเรียกปลาให้มาที่หมาย........อ่อยบรรลือโลก....
เนื่องจากการตกชิงหลิวมีพิสัยทำการจำกัดแค่ระยะคันที่ใช้เท่านั้น...ก็จำเป็นอยู่เองที่จะเรียกให้ปลามารวมศูนย์.....
การอ่อยแบ่งเป็น....
1. เพื่อเรียกปลามา รำเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะพกง่ายและปลาทุกสายพันธ์ที่มีในบ่อวิ่งเข้าหา.. วิธีการควรควรผสมรำให้เหลวเท่าที่เราจะสาดไปถึงระยะที่ทุ่นเราอยู่ได้...ขนมปังปั่นเป็นตัวเลือกที่ดีเมื่อต้องการให้ปลาที่เข้ามาเพราะรำที่ฟุ้งกระจายแล้วเฝ้าอยู่ไม่หนีหาย
2. เพื่อไล่ปลาไปจากจุดที่เราตกอยู่....กรณีที่มีปลาเล็กจิ๋วมากวน....ควรใช้รำแห้งสาดไปตามผิวน้ำให้เลยจุดที่เรานั่ง หรือ ถ้าตั้งใจจะหาปลา ซ่ง แต่ปลานิลเข้า ก็ผสมรำหรือขนมปังให้เหนียวๆๆแข็งๆๆแล้วโยนไปห่างจากจุดที่เรานั่ง เพื่อให้ฝูงนิลตะเพียนไปจากหมายเราครับไปรวมตัวกันที่จุดนั้น
การอ่อยแบ่งเป็นช่วงก่อนประกอบคัน....สาดเป็นแบบเหลวเพื่อให้ฟุ้งปลาเข้ามาแต่กินไม่ได้ เนื่องจากฟุ้งเป็นม่านผงรำเล็กละเอียด
อ่อยในจุดที่อยู่ไกลกว่าระยะทุ่น มากๆก่อนแล้วโยนอ่อยใกล้ เข้ามาหาทุ่นเรื่อยๆๆจนกว่าทุ่นจะเริ่มมีอาการปลาเข้าครับ

ยูจังดำจัง(112

)

คห.5: 31 ธ.ค. 51, 10:10

มาแล้วคัมภีร์เทวดาของน้าม๊ก +5000 ครับน้าม๊ก

mok(7679

)

คห.6: 31 ธ.ค. 51, 10:12

การหุ้มเหยื่อ.....
หลายครั้งที่ผมสงสัยว่าเหลวแค่ไหนถึงจะไม่หลุดตอนส่งเหยื่อออกไป...,เม็ดขนาดไหนถึงจะพอดี...,ทำไงให้เหยื่อหุ้มได้เกือบจะเท่าๆๆกันเพื่อที่ก้านทุ่นจะพ้นน้ำได้ระดับที่ตั้งไว้....ตลอด
เมื่อถามน้าๆๆที่มีประสบการณ์มากกว่าเกือบทุกท่านจะแนะนำไว้ว่า...
เมื่อตอนผสมเหยื่อแห้งกับน้ำบ่อนั้นผสมให้ออกเหลวนิดๆๆไว้ก่อน แล้วค่อยเติมเพิ่มเข้าไปเพื่อปรับให้พอดี แล้วเมื่อผ่านเวลาไปเหยื่อเริ่มแห้งก็ใช้วิธีมือข้างที่จะปั้นจุ่มลงในถังน้ำล้างมือแล้วปั้นเหยื่อ เหยื่อจะนิ่มลง
ถ้าเป็น รำต้องผสมให้ค่อนข้างแข็งแล้วเอามือชุบน้ำตอนปั้น
ถ้าเป็นขนมปังปั่น เมื่อผสมน้ำให้ค่อนข้างเหลวแล้วทิ้งระยะให้ขนมปังอมน้ำสักพักก่อนจึงใช้งานได้
ส่วนน้ำหนักที่พอดีไม่หลุดตอนส่งเหยื่อแล้วทำให้ทุ่นอยู่ในระดับตลอดก็คือ...หุ้มให้พอดีตัวเบ็ดนั้นๆ.....ส่วนจะเป็นรูปทรงอะไรก็แล้วแต่น้าๆๆชอบ แล้วร่นระยะให้ทุ่นห่างออกจากลูกหมุน

mok(7679

)

คห.7: 31 ธ.ค. 51, 10:20

การนั่ง......
จริงๆๆแล้วมันก็ไม่น่าแตกต่างนะครับ....แต่มันแตกต่างจริงๆๆ ( ขออนุญาติ ใช้รูป น้ากระทิเป็นนายแบบให้ผม )
....จากในรูปจะเห็นว่าการนั่งของน้าเค้าคันจะอยู่ด้านขวามือใกล้ๆๆหัวเข่า ( กรณีที่น้าถนัดขวา )....
เมื่อปลาเข้ามาเล่นทุ่น ตอนเตรียมตัววัด....มือจะจับ ( แบบกำหลวมๆๆ ) เตรียมจับจังหวะวัด...มือซ้าย จะกำเหยื่อที่ผสมมาให้เหลวว่าที่ใช้ตกอยู่ เพื่ออ่อยเพิ่ม
หากปลาเข้าสม่ำเสมอก็ไม่ต้องอ่อยเพิ่มมาก ซึ่งจะอ่อยเพิ่มหรือไม่ขึ้นอยู่กับความถี่ห่างของการเข้าของปลาในบ่อนั้นๆๆ
เท่าที่ผ่านมาช่วงแรกๆๆผมมักนั่งโดยให้ที่วางคันอยู่ระหว่างขา จริงๆๆมันก็ไม่ได้ผิดอะไรแต่ผมรู้สึกว่าทำให้วัดได้ช้ากว่าแบบนี้....สรุปว่านั่งยังไงก็ได้ขอให้มือจับคันอยู่ในลักษณะที่วัดถนัดที่สุดครับ

mok(7679

)

คห.8: 31 ธ.ค. 51, 10:28

เมื่อวัดปลาแล้วผมมักจะใช้แอ๊คชั่นของคันเป็นเครื่องมือในการทำให้ปลายอม....
ในรูปคือการตั้งคันขึ้นอย่างที่เรามักอ่านเจอในกระทู้ต่างๆๆ......
เมื่อรั้งปลาเข้ามาสิ่งที่ควรระงัวคืออย่าให้คันโค้งจะเกินกว่าที่แอ๊ดชั่นคันจะรับไหว...
เราจะรู้ได้ยังไงละว่าเกินแล้ว หลักการแบบของผมคือปลายคันเริ่มใกล้โคนมากเกินแล้ว
วิธีการจัดการคือเมื่อปลายคันเริ่มโค้งเข้ามามากเกินผมก็จะยกมือชูขึ้นและพยายามชี้ปลายคันไปด้านหน้าแทนที่จะเป็นชี้ขึ้นด้านบนแบบตอนแรกก็จะช่วยลดอาการคันเสียหายได้

mok(7679

)

คห.9: 31 ธ.ค. 51, 10:35

จังหวะที่ต้องปล่อยคัน ( ทิ้งคัน )........
ในรุปจะสังเกตุเห็นว่าปลายคันเริ่มจะเป็นเส้นตรงเมื่อเปรียบกับด้ามจับที่มือผม....
ถึงตัวผมโน้มตัวไปด้านหน้า...เพื่อช่วยแอ๊คชั่นคัน แต่ก็ยังรั้งปลาให้หันหัวกลับไม่ได้
แต่ถ้าจังหวะนี้ผมสามารถรั้งคันให้ตั้งได้ก็สู้กัน แบบยกสอง....
แต่ถ้ารั้งไม่ไหวแล้วจังหวะนี้ควรจะปล่อยคันลงน้ำได้แล้วครับ...เพราะถ้าขืนต่ออีกแป๊ปนึง....สายขาดปลาจะไปด้วยครับ....
เฮ้อ....เหนื่อยฟรี ครับพี่น้อง

mok(7679

)

คห.10: 31 ธ.ค. 51, 10:41

เมื่อทิ้งคันไปแล้ว......
ถ้าปลาวิ่งไม่หยุด...สายเซพตี๋ที่มือก็ควรจะเป็นแบบยืดตัวได้จะดีกว่า .....
เมื่อสาวสายกลับความเร็วในการสาวอยู่กับประสบการณ์ของน้าๆๆและขนาดของสายที่น้าใช้ครับ

วรปรัชญ์(662

)

คห.11: 31 ธ.ค. 51, 10:44

ตามชมด้วยคน ครับ

mok(7679

)

คห.12: 31 ธ.ค. 51, 10:45

เมื่อสาวคันกลับมาแล้ว.....ถ้าสามารถควรตั้งคันให้ได้โดยเร็วที่สุดเพื่อให้แอ๊คชั่นของคันจัดการกับปลาต่อ....
จังหวะนี้ควรใช้ข้อศอก( ยืดหยุ่น ) ช่วย...หากไม่ไหวก็จุ่มปลายคันลงถ้าปลาแรงยังเหลือปลาจะกระชากคันจากมือเราไปเอง....
แต่ถ้าไม่ไปแล้วเราก็ตั้งคันใหม่....
จังหวะช่วงนี้คนที่เพิ่งเริ่มออกตกใหม่ๆแล้วเจอปลาใหญ่มักจะทำสายขาดจึงควรระมัดระวังครับ

tumheroman(381

)

คห.13: 31 ธ.ค. 51, 10:48

ความรู้มาจากอาจารย์ม๊ก อีกแล้ว ดูด ๆ ๆ

ขอบคุณน้าม๊กมาก ๆ ครับ

mok(7679

)

คห.14: 31 ธ.ค. 51, 10:57

อุปสรรค....ที่เจอบ่อยๆๆๆ......
1. บ่อน้ำลึกมาก.....แก้โดยการเปลี่ยนทุ่นเป็น บาลานซ์กลางน้ำ
2. ลมแรงมาก.......แก้โดยการเปลี่ยนเป็นตั้งทุ่นแบบไม้ตาย...( ถ้าทุ่นหนุนก็วัดทันที )
3. ปลาไม่เข้า........แก้โดยการอ่อยด้วยรำให้หนักๆๆเป็นก้อน ในรัศมีรอบทุ่น...และอย่าเปลี่ยนหมายถ้าไม่จำเป็น การที่ทุ่นไม่เคลื่อนไหวอาจเป็นเพราะทุ่นมีแรงยกมากเกินไม่ไวพอต้องเปลี่ยนทุ่นดอกที่เบากว่ามาใช้ในขณะที่ปลาบ่อนั้นกินเบาแบบระแวงก็ได้ครับ แต่ถ้าเปลี่ยนทุ่นแล้ว ,อ่อยเพิ่มก็แล้ว...ทุ่นยังนิ่งอาจเป็นที่ระยะ เช่น ปลาอาจอยู่ใกล้ตลิ่งมากกว่า หรืออยู่ห่างตลิ่งมากกว่าเป็นต้น....แบบประมาณว่าพอปลาไม่กินมันฟรุ้งซ่านครับ...

mok(7679

)

คห.15: 31 ธ.ค. 51, 11:05

ในการตกชิงหลิวในช่วงเริ่มต้นสำหรับผมแล้วเรื่องที่ผมสงสัยและพยายามแก้ไขก็เป็นแบบที่ลงเรื่องไว้
หวังว่าพอจะช่วยแก้ข้อสงสัยและหวังว่าพอจะช่วยคนที่เริ่มใหม่ได้บ้าง....
ขอบคุณน้าๆๆที่แวะมาครับ
สวัสดีปีใหม่....2552....