ภาพที่ 1 พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา
ภาพที่ 2 กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังมีสัตวชาตยักษ์ใหญ่โตมโหฬาร พวกมันท่องไปทั่วพื้นปฐพี
ยึดครองดวงดาวเคราะห์อยู่หลายล้านปี ในทุกวันนี้ยังไม่มีใครคอนเฟิร์มได้ 100 % ว่าเหตุใดพวกมัน
จึงนัดกันเด๊ดสะมอเร่ สูญพันธุ์หายไปจากโลกนี้ แต่ซากฟอซซิล ซากอินทรีย์ที่พวกมันทิ้งไว้หลังความตาย
กลับกลายเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลให้กับสัตว์โลกยุคใหม่ ผู้ค้นพบและตั้งชื่อ ไดโนเสาร์
ให้พวกมันหลังจากที่พวกมันอันตรธานไปจากโลกามิสนานกว่า 200 ล้านปี
ทะเลอ่าวไทยเป็นแหล่งกักเก็บแก๊สและน้ำมันของซากไดโนเสาร์ จึงไม่แปลกที่แท่นขุดเจาะ
แก๊ส - น้ำมัน เกิดขึ้นมากมายเหนือซากฟอสซิลเหลวโบราณ
ก็ในเมื่อซั้งซึ่งประกอบด้วยทางมะพร้าวบ้องไม้ไผ่ไม่กี่ลำยังเป็นแหล่งพำนักพักพิงของ
เหล่าปลาน้อยใหญ่ได้ แล้วทำไมคอนโดมิเนียมที่พุดขึ้นดั่งดอกเห็ดกลางอ่าวไทย
จะเป็นแหล่งซ่องชุมกำลังของเหล่ามัจฉาไม่ได้
ภาพที่ 3 ว่าแล้วพยัคฆ์ร้ายปุ้ม 007 ก็อาศัยไซเบอร์ไร้สายปิดประกาศหาเหล่าผู้กล้า
รวบรวมเหล่าจอมยุทธ์ใต้ฟ้าเมืองไทยได้ 15 จอมยุทธ อาศัยเรือเอี่ยมจุ้น ( NO ขอโทษผู้ใหญ่ )
เรือพิฆาตลาภสมุทรอันทรงอานุภาพของผู้ใหญ่จื้อที่จอดเทียบท่าอยู่ที่ อ.ประแสร์ จ.ระยอง
ภาพที่ 4 พวกเรา( ซือเฮียกับช้างน้ำ )อาศัยรถโพร์วิลสีแดงคันนั้นตะบึงจากทุ่งเมืองช้างเวลาหนึ่งโมงเช้า
ราวบ่ายสองเราก็ถึงสำนักผู้ใหญ่จื้อ
ประมาณ 4 โมงเย็น เมื่อเหล่าจอมยุทธ์มาพร้อมหน้า น้ำจืดน้ำแข็งเสบียงพร้อม
เรือลาภสมุทรก็เคลื่อนลำออกจากท่าไปทิ้งสมอหลังเกาะมันหากระสุน
ภาพที่ 5 ใต้ราวไฟสปอร์ทไลท์สว่างไสว เหล่าจอมยุทธ์ต่างเข้าประจำฐานที่มั่นของตนช่วยกันโสกหมึกได้ราวร้อยตัว
หมึกหอมห้าสิบกว่าตัว(ตอนแบ่งปลาไม่เห็นสักตัว) กับไต๋น้อยครอบหมึกครั้งเดียวตอนสี่ทุ่มกว่า
ได้หมึกอีกราวร้อยตัว เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ผู้บัญชาการรบปุ้ม 007 สั่งถอนสมอเคลื่อนทัพเรือออกศึกทันที
เรือต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 17 ชั่วโมงกว่าจะลอยลำถึงแท่นมังกร ตอนตี 5 ครึ่ง กัปตันพานาวาแวะเติมกระสุน
จากเรืออวนได้ปลาทูร้อยกว่าตัวเตรียมไว้เป็นกระสุนสำรอง
ภาพที่ 6 ปลาบินของช้างน้ำกับขาวหัวแดง CD 14 ของโป้
ทั้งคู่ว่ายน้ำระริกระรี้ตามหลังเรือลาภสมุทรถึงหมายโดยสวัสดิภาพ
4 โมงเย็นเหล่าจอมยุทธ์ก็ตะลุยถึงคอนโดหลังแรก ความไวยกให้เสี่ยพงษ์
ชิงคว้าคันหย่อนน้ำทดสอบหมายเล่นๆเป็นคนแรก เพียงไม่กี่จิ๊กก็มีเสียว
ปลาโออวบอ้วนสวยฉวยเหยื่อจิ๊ก กระตุ้นต่อมตื่นเต้นปลุกเร้าเหล่าจอมยุทธ์ให้คึกคักเป็นพิเศษ
ทั้งเหยื่อสดเหยื่อจิ๊กถูกเหล่าผู้กล้าส่งลงน้ำมากกว่า 15 สาย แล้วทั้งคันเต้นคันนิ่งต่างเป็นอัมพาตข้ามชั่วโมง
อย่างทรมานใจผู้ถืออาวุธเพราะไร้ผู้ต่อกร
ภาพที่ 7 พระอาทิตย์ตกน้ำต๋อมแต๋มไปแล้ว เวลาใกล้ทุ่ม โทรฟี่ยังอยู่ห่างมือเหล่าจอมยุทธ ซือเฮียกด
SEABORG 300 FB กรอเอ็นขึ้นเช็คเหยื่อ หมึกตายถูกปลาเล็กแทะเล็มตัวแหว่งหัวกุด
เฮียย่องไปหัวเรือหากระสุนนัดใหม่ ผ่านคัน G. CRAFT BACK BONE ปักอยู่แคมเรือ หางตาเหลือบเห็นปลายคันสั่นดิ๊กๆๆ
เฮียๆๆ!
เรียกทำไม?
ปลากินๆ!
เห็นแล้วไม่อยากปล้นคันคนอื่น เจ้าของอยู่ไหน
เจ้าของรอกACCURATE 665N โดดเข้าคว้าคัน
ตัวใหญ่ๆ! เสียงจากเพื่อนร่วมเรือเมื่อเห็นปลายคันโค้งคำนับทะเลงึกๆงักๆ
ใจเย็นๆ หลายคนเอาใจช่วย
ดูเหมือนว่าการชักคัน G. CRAFT ออกจากกระบอกปักคันกลายเป็นเรื่องยาก และเมื่อเขาเอาคันเบ็ดออกจากรูได้
การปล้ำกับนางโฉมเชฟบ๊ะที่ความลึก 60 เมตรก็ง่ายปานพลิกฝ่ามือ เพียงไม่กี่ขบวนท่า
เธอก็เสร็จน้าดั๊ย เขายิ้มแก้มปริเมื่ออุ้มเธออยู่ในอ้อมกอดอย่างมีความสุข ซือเฮียเกี่ยวหมึกตายตัวใหม่
หย่อนลงน้ำไม่กี่อึดใจ ทางหัวเรือเฮียก็ได้ยินเสียงไชโยโห่หิ้วแสดงความยินดีกับน้องน็อตที่สามารถน็อคแม่โฉมงามได้อีกตัว
เวลาถัดมาพยัคฆ์ร้ายปุ๋ม 007 ก็โดนเจ้าถิ่นบุกถล่มแบบตั้งตัวไม่ติด ส่วนนางโฉมหุ่นนางแบบ
เสียท่าให้กับคุณกอล์ฟ แล้วเหยื่อจิ๊กคุณหนึ่งก็ถูกนักรบตาเพชรใต้คอนโดบุกโจมตี
ภาพที่ 8 พ่อนกก็ไม่ยอมน้อยหน้าลูกนกนางนกต่อที่ปลายสายถูกนักเลงตาเพชรบุกฉุดคามือ
คุณวัฒน์เขย่าคันไม่กี่ทีปลายคันโค้งรับหน่วยคอนมันโดเจ้าถิ่น ดูเหมือนว่าหน่วยกล้าตายทัพหน้าป้องกันป้อม
บุกโจมตีโอบล้อมเรือรบลาภสมุทรรอบทิศทาง สงครามเต็มรูปแบบระเบิดขึ้นแล้ว
คุณเอก คุณโป้ ล้วนโดนไอ้หางแข็งถล่มกันทั่วหน้า
ภาพที่ 9 ที่เรือโยกโครงเครงไม่แน่ใจว่าเกิดจากแรงเขย่าคันเบ็ดของเหล่าจอมยุทธ์รอบลำเรือ
หรือแรงคลื่นลมกันแน่ แต่ที่แน่ๆ คลื่นลมสงบราบอย่างน่าพอใจ
ชัคฮื้อตัวนั้นลอบทำร้าย Y0ZUR1 100 กรัมสีน้ำเงินฟ้าอ่อนของซือเฮีย
แต่มันหนีไม่รอดถูกเจ้า SEABORG 300 FB หิ้วขึ้นมาถึงผิวน้ำ คุณกอล์ฟเกี่ยวพลาด
เบ็ดหลุดจากปาก จึงจมอ้อยอิ่งลงสู่ก้นทะเล
ซือเฮียได้หางแข็งอีกตัวเบ็ดเกี่ยวถูกครีบ ตัวถัดมาเบ็ดเกี่ยวใต้ปาก
ภาพที่ 10 อีกตัวเบ็ดเกี่ยวใต้ท้อง ตัวนี้แปลงร่างเป็นผิวสองสี เหยื่อหมานตัวนี้พลีชีพให้ไอ้สากในเวลาถัดจากนั้น
ซือเฮัยเปลี่ยนเหยื่อตัวใหม่จิ๊กได้นางโฉมแต่เบ็ดเกี่ยวท้อง
แล้วชัคฮื้ออีกตัวสไตรค์เหยื่อ 180 กรัม ยาว 8 นิ้ว สีเหลืองพรายน้ำทั้งตัว
ขณะที่เจ้าเหลืองก้านยาวคลุกวงในกับชัคฮื้ออีกตัวห่วงเหล็กพร้อมเบ็ดตัวล่างก็หลุดหายไป
ภาพที่ 11 เวลาผ่านถึงห้าทุ่ม ซือเฮียย่องไปหัวเรือพบศพกะมงตาเพชรกองทับถมกันล้นตะกร้า
กวาดสายตาไปรอบๆ ไม่รู้จะถามใคร เหล่าจอมยุทธ์ต่างหันหลังถืออาวุธในท่าเตรียมพร้อมก็มี
ที่เขย่าอาวุธกันอย่างเมามันก็มี
ภาพที่ 12 ชัคฮื้อ 76 ตัว เข้าใจว่าติดโรคจิตชอบของปลอมมากกว่าเหยื่อจริง
เฉพาะคุณเก่งคนเดียวเขย่าเอาชัคฮื้อได้มากกว่าสิบตัว
เวลาล่วงเข้าตีหนึ่งกว่า นายทัพ นายกองเหนื่อยล้าจากการสัประยุทธ์ทยอยหนีขึ้นห้องแอร์
พักผ่อนเอาแรงทีละนาย
ศัตรูก็คงอ่อนกำลังลง ข้าศึกใช้เวลานานกว่าจะบุกเข้าโจมตีผู้รุกรานสักครั้ง ทัพหน้าเหลือ
คุณวัฒน์ หนึ่ง กอล์ฟ ส่วนจอมยุทธเก่ง จอมยุทธอ้วนยังเฝ้าระวังข้างเรือ
ตอนที่ชัคฮื้อสองตัว บุกทำร้ายนางนกต่อของช้างน้ำ กับซือเฮียนั้น
เรือกำลังถอนสมอ ออกเดินทางไปหมายใหม่ ยามนั้น ตี 3 พอดี
ภาพที่ 13 เสียงไอ้เปียรบกวนโสตประสาทเฮียตอนฟ้าสางแล้ว นอนทำใจอีกครู่ใหญ่
เฮียก็ทนไม่ได้กับเสียงไอ้เปียตรงนั้นทีตรงนี้ที.... คอนโดหลังนี้น่าจะเป็นกองทัพไอ้เปีย.....
เฮียลุกขึ้นแปรงฟันล้างหน้าเสร็จแล้วเอาเบ็ดเกี่ยวหมึกตายทิ้งลงน้ำ
ย้ายๆๆ
อ้าว! ยังไม่ทันรู้ดำรู้แดง ตะกั่วหย่อนลงน้ำยังไม่ทันแตะพื้น ผู้บัญชาการรบสั่งย้ายหมายเสียแล้ว
ภาพที่ 14 8.00 น. เชฟจ้อนเสิร์ฟข้าวต้มปลากับกุนเชียงหั่นเฉียงทอด
ตอนที่เรือถึงคอนโดหลังใหม่ เรือยังจอดไม่สนิท ฝนก็ชิงเทลงมาราวกับฟ้ารั่ว
30 นาทีแล้วพระพิรุณยังไม่ยอมอ่อนข้อให้ กัปตันติดเครื่องเรือเตรียมย้ายหมาย
ขณะที่จอมยุทธ์อ้วนกรอเก็บสายลอยที่เกี่ยวปลาทูทิ้งไว้ก่อนฝน ( จอมยุทธ์พวกนี้ลิงเรียกพี่ )
เจ้าเรนโบว์รันเน่อร์ก็ชาร์จเหยื่อปลาทู มันสิ้นอิสรภาพคามือจอมยุทธ์อ้วน
ภาพที่ 15 10 โมงกว่า เรือก็ถึงคอนโดอีกหลัง ( เราไปไม่ถึงซากเรือซีเควส ) หมึกตายทั้งถุง
วางแช่บนกองน้ำแข็งในถังแช่ เริ่มส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ ซือเฮียใช้ตะกั่วลูกละครึ่งกิโลยังถูกกระแสน้ำพัดปลิว
เราจับลิ่วล้อเฝ้าค่าย ( ไอ้สาก ) ได้เพียงตัวเดียว ประเมินกันว่าหมายนี้น่าจะเป็นป้อมร้าง
แล้วจะทนเอาเบ็ดแช่น้ำอยู่ทำไม...จั๊งซี่มันต้องถอน...(สมอ)
ภาพที่ 16 5 โมงเย็น เหล่าจอมยุทธ์บุกถึงซากเรือจม
ไอ้สากโชคดีตัวนั้นติดเบ็ดน้าดั๊ย มันคงสักยันต์หนังเหนียว คมตะขอในมือเฮียจึงตะหวัดไม่ระคายผิวมัน
ซือเฮียต้องขอโทษขอโพย เจ้าของโทรฟี่ชิ้นงามที่เฮียทำให้ไอ้สากหนีลอยนวลไปได้
หมายนี้เซียนมือจิ๊กยังไม่ประสพผลสำเร็จ ต่างหันมาเอาหมึกตายทำเหยื่อ
หายเหนื่อยก็พากันจิ๊กๆ หยุดๆ ตอนนั้นเวลาสามทุ่มกว่าแล้ว ซือเฮียเกี่ยวหมึกตายตัวใหม่ปล่อยลงน้ำ
ได้ยินเสียงคุณกอลฟ์ตีปีกดีอกดีใจ
ภาพที่ 17 ไอ้หางแข็งกินเหยื่อหมึกเน่าโว้ย!
ซือเฮียมัวแต่ไปแสดงความยินดีกับคุณกอลฟ์ พอกลับมาที่คันเบ็ดอีกทีทำไมสาย PE
จึงชี้ทะแยงเฉียงไปท้ายเรือไกลผิดปกติ ปลายคันก็ไม่ได้งอจนสังเกตได้
เมื่อกี้ก็ยังอยู่ในแนวเดียวกันกับสายของผม น้าดั๊ยออกความเห็น
ชั่งใจอยู่ครู่ก็กรอเก็บสาย อ้าวปลายสายมีปลาติดอยู่ ปั๊มโยกเข้ามารู้สึกได้ว่ามันดิ้นเบาๆ
แต่ต้านน้ำหนักเอาการ น้าดั๊ยเกี่ยวปลาขึ้นเรือได้ก็ต้องร้องอ๋อ คมเบ็ดเกี่ยวที่ปากปลาชัคฮื้อ
แล้วสายเอ็นต่อจากเบ็ดไปพันโคนหางจนตัวงอดิ้นไม่ได้ ( ตัวนี้เล่นท่าแปลก )
4 ทุ่มกว่าเซียนมือจิ๊กจิ๊กจนมือหงิก โปรหน้าดินถือคันจนแขนล้า ไม่มีอะไรดีไปกว่าย่นระยะทางกลับเข้าฝั่ง
ฟ้าสางเรือลาภสมุทรผูกติดซั้งลูกหนึ่ง จอมยุทธหน้าเรือต่างเล่นเบ็ดราวกันสนุกสนาน
คุณเอกสอยครืดคราด ทีละสองสามตัว โทรฟี่ซั้งนี้เป็นโต้มอญหลงทาง
ภาพที่ 18 8 โมงเรือเข้าเทียบชั้งอีกลูก จุ่มโพ่จ้อนเสิร์ฟกาแฟ ไข่ดาว ไส้กรอก อิ่มแล้วพากันทำหน้าที่ที่ชื่นชอบต่อ
หนูต๊ะนั่งบนแคมเรือ ด้านซ้ายท้ายเรืออยู่ข้างหน้าซือเฮีย เด็กน้อยประคองคันไลท์นิ่งที่น้าดั๊ยตัดโคนคันทิ้ง
แล้วบิ้วท์ใหม่มีความยาวเพียง 3 ฟุตกว่า หลังคันเบ็ดติดรอกอาบู C4 5601
หนูน้อยตั้งหน้าตั้งตาเขย่าคันกระดกขึ้นลงอย่างขะมักเขม้น ตามคำสอนของอาจารย์ดั๊ย
หนูอายุกี่ขวบแล้ว ? ซือเฮียสัมภาษณ์
11 ขวบครับ หนูน้อยกระดกคันไปพร้อมกับตอบคำถาม
อนาคต...หนูอยากเป็นไต๋ครับ อยากมีเรือของตัวเองครับ คุณพ่ออยากให้หนูเป็นตำรวจ แต่หนูไม่ชอบครับ
ภาพที่ 19 หนูน้อยค่อนข้างจะมีความใฝ่ฝันที่แจ่มชัด บางความฝันอาจเป็นจริงได้ บางความฝันอาจจะไขว่คว้ายากสักหน่อย
เส้นทางวิบากสายนี้เปลี่ยวและอันตราย แต่หนูน้อยเลือกเดินเพราะชอบเสียแล้ว
บังเอิญถูกปลูกฝังโดยผู้เป็นแม่อย่างไม่ตั้งใจ ถ้าเขาไม่ออกนอกเส้นทางเสียก่อน
เขาจะต้องผจญภัยบนสายน้ำนี้ผ่านกาลเวลาอีก 50 ปีกว่าจะเกษียร
เราอาจจะมองเห็นภาพอนาคตลางๆบางภาพ ของใครบางคนได้ ด้วยจุดเริ่มต้นของการเดินทาง
แต่การณ์หน้ามีเพียงสายน้ำกับฟ้าเท่านั้นที่รู้
เก้าโมงครึ่งเรือถึงซั้งอีกลูก ครืดคราด หมูสี่ ทรายแดง ล้วนเป็นของเล่นของเหล่าจอมยุทธ์
ซั้งนี้มีแม่ปลาช่อนเป็นผู้คุมบ่อน
11 โมงเรือแวะซั้งสุดท้าย คุณเอกได้ร้องรำทำเพลงกับคุณสายัณห์( พี่เป้า )
อย่างสนุกสนาน ถ่ายรูปคู่กันแล้วปล่อยตัวไป เมื่อไม่มีปลาฉวยเหยื่อ ช้างน้ำเอาโยซูริ
โสกได้หมึกหอมตัวใหญ่กับหมึกศอกตัวยาว เซียนหัวเรือพากันปลดหมึกเน่าทิ้งหันมาโสกหมึกกันใหญ่
ภาพที่ 20 เรือออกเดินทางแล้ว อีก 7 ชั่วโมงก็จะถึงฝั่ง พวกเรารวมตัวกันที่หัวเรือสานสายสัมพันธ์
ร้อยเรียงมิตรภาพเป็นสายใยเส้นเดียวกัน ไหมเส้นนี้อาจจะเปราะบาง จึงควรระวังหากจะต้องประคองมันไว้
เพื่อนทุกคนล้วนถวิลหาความสุขจากเกมส์ตกปลา คงมิใช่ตัวปลาที่ตกได้
แต่การแสวงหาภราดรภาพก็เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนาด้วยมิใช่หรือ