หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย

  กรุงเทพฯ- การทดลองเพาะเลี้ยงปลาแซลมอลที่ในเขตภูเขาภาคเหนือของเวียดนามได้ผลดีเกินคาด ทางการกำลังเร่งขยายพันธุ์ไปสู่ประชาชนทั่วไปเพื่อให้มีการเพาะเลี้ยงเป็นเศรษฐกิจ ขณะที่ทางการตั้งเป้าจะเริ่มเพาะพันธุ์ปลาสเตอร์เจิ้น (Sturgoen) ปลาพื้นเมืองในเขตแอตแลนติก ที่นำไข่ไปผลิตเป็นไข่คาเวียร์ (Caviar) ที่มีราคาแพงและเป็นที่ต้องการในตลาดโลก
     
      การเพาะเลี้ยงเริ่มขึ้นเมื่อต้นปีนี้ในเขตซาปา (Sa Pa) ทางตอนเหนือของ จ.ลาวกาย (Lao Cai) ในเวียดนาม ซึ่งเป็นปลายทางยอดนิยมในการท่องเที่ยว แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นที่มีความเหมาะสมที่สุดในการปรับปรุงพัฒนาเป็นแหล่งในการเพาะเลี้ยงพันธุ์ปลาแซลมอนจากแอตแลนติกด้วย
     
      ที่ศูนย์เพาะเลี้ยงแห่งเดียวกันนี้กำลังมีการเพาะพันธุ์ปลาสเตอร์เจิ้น ที่นำเข้าพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ไปจากรัสเซีย เพื่อขยายการเพาะเลี้ยงในเชิงเศรษฐกิจต่อไป
     
      ไข่ปลาแซลมอนที่นำเข้ามาจากฟินแลนด์ได้ฟักเป็นลูกปลา โดยที่ศูนย์เพาะเลี้ยงพันธ์ปลาน้ำเย็นทั๊กบั๊ก (Thac Bac Cold Water Fish Centre) ซึ่งเป็นศูนย์เพาะเลี้ยงพันธ์ปลาน้ำเย็นแห่งแรกในเวียดนามเป็นผู้นำเข้ามามีปลาแซลมอนเกือบ 30,000 ตัว ซึ่งประมาณ 17,000 ตัว เป็นปลาที่เจริญเติบโตมาจากไข่ปลาที่นำเข้ามาเพาะเลี้ยงเอง
     
      ไข่ปลาแซลมอนถูกนำมาจากสถาบันเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำหมายเลข 1 (Aquaculture Institute No 1) และ ได้รับการช่วยเหลือเรื่องการดูแลเพาะเลี้ยงเพื่อให้ฟักกลายเป็นลูกปลาอยู่เป็นเวลา 10 วันโดยผู้เชี่ยวชาญชาวฟินแลนด์
     
      นายหวูวันเจียว (Vu Van Trieu) ผู้อำนวยการฝ่ายการต่างประเทศ กระทรวงการประมง กล่าวว่าตอนนี้ทางศูนย์พร้อมแล้วในการจัดส่งลูกปลาไปยังสถานที่เพาะเลี้ยงอื่นๆ ที่มีความเหมาะสม
     
      ถึงแม้ว่าลูกปลาแซลมอนมีราคาค่อนข้างแพงกว่าปลาพันธุ์อื่นๆ แต่นายหวูเชื่อว่าเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงปลาจะซื้อลูกปลาแซลมอนไปเลี้ยง เพราะเป็นปลาที่มีคุณภาพ และเป็นที่นิยมทั่วโลก ทั้งนี้ปลาแซลมอนจะจัดเตรียมไว้ให้สำหรับเกษตรกรในเขตภูเขา เช่นที่เมืองซาปา ให้มีโอกาสหลุดพ้นจากความยากจน และกลายเป็นมั่งคั่งได้
     
      ศูนย์เพาะเลี้ยงจำหน่ายลูกปลาแซลมอนให้กับเกษตรกรในราคาตัวละ 12,000-15,000 ด่ง (ประมาณ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ) การเพาะเลี้ยงยังต้องใช้เทคโนโลยีและเทคนิคเข้าช่วย เนื่องจากเวียดนามเป็นประเทศในเขตร้อน
     
      เรื่องน้ำก็นับว่ามีความสำคัญมากเพราะปลาแซลมอนไม่สามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้ในน้ำอุ่น แต่ควรจะเป็นน้ำที่มีอุณหภูมิอยู่ที่ 15-17 องศาเซลเซียส ซึ่งน้ำในเมืองซาปานั้นอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมในการเพาะเลี้ยง
     
      เจ้าหน้าที่ศูนย์เพาะเลี้ยงกล่าวว่า เมื่อเกษตรกรรายใดสนใจที่จะเพาะเลี้ยงปลาแซลมอน ทางสถาบันก็จะคอยให้การช่วยเหลือในการจัดซื้อลูกปลา คู่มือการเพาะเลี้ยง รวมไปถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นด้วย และ จะมีบริษัทในท้องถิ่นทำการจัดส่งปลาแซลมอนที่โตแล้วไปจำหน่ายให้กับร้านอาหาร ภัตตาคาร และโรงแรมต่างๆ
     
      ปัจจุบันกำลังมีการจัดตั้งศูนย์เพาะเลี้ยงแซลมอนอีกแห่งหนึ่งขึ้นในเขตเมืองดาลัต (Da Lat) ใน จ.เลิมด่ง (Lam Dong) เพื่อเป็นศูนย์เพาะเลี้ยงลูกปลาให้แก่จังหวัดต่างๆ ในเขตที่ราบสูงไตเงวียน (Tay Nguyen) ในภาคใต้ตอนบนและภาคกลางของประเทศ.
...........................
ข่าวที่มา  www.manager.co.th

ผู้เชี่ยวชาญชาวฟินแลนด์กำลังช่วยเวียดนามดูแลปลาแซลมอนในเขตซาปา

เช่นเดียวกันกับปลาสเตอร์เจิ้น (Sturgeon) ปลาพื้นเมืองจากเขตแอตแลนติก

บรรยากาศสดชื่นอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี

เมืองซาปา (Sa Pa) ทางตอนเหนือของ จ.ลาวกาย (Lao Cai) ปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งในเวียดนาม

เป็นข้อมูลการพัฒนาของเพื่อนบ้านเรานะครับ  เลยเก็บมาฝาก