หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย

ความเป็นมา
TOM YAM GUNG อ่านว่า "โทมยามคุง" เมนูที่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และเป็นที่ขึ้นหน้าขึ้นตาของเมืองไทย แล้วถามว่ามันเกี่ยวอะไรกับผมด้วย? เกี่ยวสิครับ เกี่ยวแน่ ๆ เพราะคราวนี้ผมจะพามารู้จักกับ TOM YAM HUA PLA SAK NAM SAI อ่านแบบลิ้นเปื้อนเนยแบบว่า "โทมยามฮัวปลาซ่ากนามซาย" แต่ถ้าขูดเนยออกจากลิ้น อ่านแบบคนไทยว่า "ต้มยำหัวปลาสากน้ำใส"

ส่วนผสม
1. หัวปลาสากสับเป็นชิ้นประมาณ 1/2 กิโล
2. ตะไคร้ 2 ต้น
3. ใบมะกรูด 2 - 3 ใบ
4. ใบกระเพรา 1 ขยุ้ม
5. น้ำปลาดี, น้ำมะนาว
6. พริกขี้หนูสวน
7. ผงชูรสเล็กน้อย และเกลือป่น

วิธีทำ
ตั้งน้ำให้เดือด (ปริมาณกะเอาเอง) โยนตะไคร้บุบกับใบมะกรูดลงไป พอน้ำเดือดพล่านใส่หัวปลาลงไป ต้มต่ออีกสัก 7 - 8 นาที ระวังอย่าคนหัวปลาขณะต้ม เพราะจะทำให้ "คาว" เสร็จแล้วหันมาเตรียมเครื่องปรุงในชาม โขลกพริกขี้หนูสวน กะว่าชอบเผ็ดมากก็ใส่มาก ชอบเผ็ดน้อยก็ใส่น้อย ใส่เกลือป่นเล็กน้อย โขลกพร้อมกับพริก เสร็จแล้วตักใส่ชาม ตามด้วยน้ำมะนาวและน้ำปลาดี 2 - 3 ช้อนโต๊ะ และผงชูรส ส่วนใบกระเพราเด็ดเอาแต่ใบรองไว้ก้นชาม เสร็จแล้วตักเอาน้ำต้มหัวปลาใส่ชาม ชิมรสให้ถูกปาก ถูกใจ แล้วจึงตักหัวปลาตามลงแค่นี้เป็นอันเสร็จพิธี

อื่นๆ
"ทำไมมันง่ายยังงี้ฟะ" คิดอย่างนั้นใช่มั้ย ครับ อย่าลืมนะครับ ทำให้ถูกวิธีและขั้นตอน ความยากมักซ่อนอยู่ในความง่ายเสมอ และต้มยำหัวปลาสากน้ำใสนี้ ผู้ชิมจะเป็นใครอื่นไปเสียไม่ได้ นอกจากเฮียเอี้ยง The man who not say no แห่ง AIA "เด็ดขาดว่ะ แต่ของผมต้องลูกตาเท่านั้น ย้ำ ต้องลูกตาเท่านั้น" เพราะในวุ้นของลูกตานั้นมันมี DHA สูง
ครับ เฮียเอี้ยงแกบอกว่าอย่างนั้น พอชิมเสร็จก็หันไปตะโกนสั่งเหล้ามาแบนนึง "ข้องใจอารายวะ กับน่ะไว้กินกับเหล้า ข้าวเอาไว้กินกับไข่ว้อย" ครับ ก่อนจากก็ขอฝากไว้นิดนึงว่า ใครชอบเผ็ดน้อยใส่พริกน้อย เรียกว่าสูตรไม่เผ็ด (แค่สูตรเตี๋ยว) แต่สำหรับผมชอบเผ็ดมาก ต้องสูตรแตบครับ ย้ำ สูตรแตบ (ไปผวนเอาเอง) ลาละครับ
ป.ล. นั่ง post เรื่องนี้ตรงกะเวลาอาหารกลางวันพอดี พิมพ์ไปน้ำยายไหยไป ทนไม่ไหวแล้ววุ้ย ไปหาต้มยำหัวปลาช่อนน้ำใสกินแก้ขัดไปก่อนดีกว่า แหะ ๆๆๆ MrSHARK