สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 27 เม.ย. 67
บทพิสูจน์ของ อำนาจ–หน้าที่-... : Fishing Article
 ห้องบทความ/เทคนิค > บทความตกปลา
ความเห็น: 27 - [20 ธ.ค. 48, 14:19] ดู: 4,998 - [25 เม.ย. 67, 03:02] โหวต: 6
บทพิสูจน์ของ อำนาจ–หน้าที่-...
ซิวอ้าว (193 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้) offline
16 มี.ค. 48, 16:38
1

       

 
    TRIP


บทพิสูจน์ของ อำนาจ–หน้าที่-...

  อ.AAA  ตำนานแห่งเมืองในฝันของนักท่องเที่ยวตกปลาทุกคน ที่อยากจะมาสัมผัส อันหมายถึงบรรยากาศทิวทัศน์ที่สวยงาม คงไว้ซึ่งธรรมชาติอย่างแท้จริง และความมีไมตรีจิตของชาวบ้าน ชาวแพ รวมไปถึงเพื่อนต่างแดนที่อาศัยผืนแผ่นดินไทยดำรงชีวิตมาอย่างช้านาน และที่สำคัญคือเป็นแหล่งตกปลา ที่มีจำนวนทรัพยากรสัตว์น้ำต่างๆจำนวนมาก
แต่น่าเสียดายเมกกะของนักตกปลากำลังจะเปลี่ยนไป โดยนักปกครองอันทรงเกียรติ ใช้อำนาจหน้าที่อย่างมัวเมา ไม่รู้จักแยกแยะสิ่งด้วยวิจารณญาณ ของนักปกครองที่ดี เพียงถืออำนาจกฎหมายในมือ ออกไปปฏิบัติงาน ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายงบประมาณของแผ่นดิน
เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องที่นายแพะ(นามสมมุติ) บุคคลที่ถือว่าเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่จะกล่าวถึงเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นอย่างสัจจริง ถูกต้องตรงไปตรงมา และสามารถพิสูจน์ด้วยหลักฐานทุกกรณี

  วันที่ 16 มกราคม 25XX  นายแพะและพรรคพวก 4 คน ได้ตกลงที่จะออกไปตกปลากราย,ปลาเค้า, ที่เขื่อน... ชุดอุปกรณ์ต่างๆประกอบด้วย เบ็ดตกปลา 2 ชุด อุปกรณ์ตาข่าย 1 ชุด สำหรับหาลูกเหยื่อในการตกปลา และเรือหางยาวเครื่อง Honda 2 ลำเป็นของชาวท้องถิ่น
หลังจากพ้นฤดูวางไข่ของสัตว์น้ำตามประกาศของกรมประมงแล้ว เจ้าหน้าที่ประมงก็ได้ถอนกำลังกลับ และผ่อนผันให้ชาวบ้านที่ยากจนเข้าไปทำมาหากินได้เป็นครั้งคราว อาทิเช่น ตกปลา วางตาข่ายได้เล็กๆน้อยๆ ยกเว้นแต่สิ่งที่เป็นอันตรายแก่สัตว์น้ำมากที่สุดคือ การะเบิดปลา, ช๊อตปลา ดังนัน้แหล่งที่จะหาลูกเหยื่อได้มากที่สุดก็คือ ลำน้ำบลีคี่
    เวลาประมาณ 00:30 น.ของวันที่ 17 มกราคม 25XX นายแพะกับพวกก็เข้าไปหาลูกเหยื่อ เป็นปลาสร้อยประมาณ 2-3 กก. และบังเอิญมียอของชาวบ้าน ที่ได้เข้าไปจุดดักปลาในลำน้ำดังกล่าว ได้ปลาแป้นและปลาซิวแก้วมานิดหน่อย ซึ่งก็เพียงพอสำหรับการทำเหยื่อตกปลากรายและปลาเค้า นายแพะและพรรคพวก จึงขับเรือเพื่อเดินทางออกไปตกปลาต่อที่รันตี
เมื่อเรือมาถึงประตูเมือง ก็ได้พบกับเรือของนายอำเภอAAA และคณะฉายไฟเรียก ด้วยความบริสุทธิ์ใจของนายแพะ จึงรีบให้ความร่วมมือขับเรือเข้าไปหาโดยเร็ว เมื่อมาถึงเหตุการณ์มันไม่เป็นไปอย่างที่คิด นายอำเภอสั่งให้นายทหาร (อ.ส.) หลายนายเข้าค้นเรือของนายแพะทั้งสองลำ ค้นทุกซอกทุกมุม ก็พบว่ามีคันเบ็ดอยู่ 2 คัน ตาข่าย 1 ปาก และปลาเหยื่ออีก 3-4 กก.
“พวกคุณมาจากที่ไหนกัน ไม่รู้หรือว่าลำน้ำนี้ เป็นเขตหวงห้ามการทำประมงทุกชนิด”    เสียงอันแข็งกร้าวของนายอำเภอได้พูดผ่านมาในความมืด นายแพะกล่าวตอบ “ผมมาจากกรุงเทพ มาเที่ยว กำลังจะไปตกปลากราย ปลาเค้าอยู่พอดี ได้เข้ามาหาเหยื่อลูกปลาสร้อย ส่วนพรรคพวกที่มาก็เป็นชาวบ้านแถวๆนี้ และเป็นคนพามาตกปลาครับ” “พวกคุณฝ่าฝืน พ.ร.บ เขตรักษาพันธุ์สัตว์น้ำแล้วพวกคุณไม่รู้หรือ “นายอำเภอถาม” ทราบครับแต่ในช่วงฤดูวางไข่ผมปฎิบัติตามกฏข้อบังคับทุกอย่างไม่เคยละเมิดเข้ามาทำการประมงทุกอย่าง แม้แต่ตกปลา แต่ช่วงนี้ผมเห็นว่าได้มีการอนุโลมผ่อนผันให้ชาวบ้านได้เข้ามาหากินได้ จึงได้เข้ามา ซึ่งพอดีผมเพิ่งจะเข้ามาวันนี้เป็นวันแรก หลังจากที่ไม่เคยเข้ามาเที่ยวตกปลาในบีคลี่เป็นเวลา ๓ - ๔ เดือนแล้ว นายแพะตอบ
นายแพะบอกว่าผมเป็นนักท่องเที่ยวมาตกปลาที่อ.AAA มาร่วม ๑๐ ปีแล้ว และปัจจุบันก็เป็นตัวแทนกลุ่มของนักตกปลาทั่วประเทศไทย ได้ร่วมกับแพบางแพใน อ. AAA ทำการเพาะเลี้ยงปลาชะโด ให้ได้ขนาดและปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติเพื่ออนุรักษ์ และรักษาพันธุ์ปลาเป็นจำนวนหลายหมื่นตัว และโครงการทั้งหมดก็ใช้ทุนส่วนตัวของนักตกปลาทุกๆคน ร่วมทั้งแพดังกล่าวด้วย พวกเราทำเพื่อใคร ???? เพื่อที่จะฟื้นฟูสภาพปลาที่ลดน้อยลงเพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวตกปลาจากทั่วประเทศ รวมไปถึงชาวต่างชาติที่เข้ามาตกปลาที่อ.AAA กันมากขึ้น ทำรายได้ให้กับที่นี่มากมาย โดยเจตนาและจิตสำนึกที่ดี เหมือนจะเป็นคนAAA อยู่แล้ว นายแพะบอกไม่เคยคิดแม้แต่จะทำลายภาพพจน์การตกปลาของที่นี่ โดยการระเบิดปลา,ซ๊อตปลา และเฉพาะอย่างยิ่งพวกเพื่อนๆผมควักกระเป๋าจ่ายตรงนี้ทำไม ???? ถ้าไม่มีเจตนาที่ดีแก่ลำเขื่อน...แห่งนี้
    หลังจากนั้นนายอำเภอก็บอกกับนายแพะและพวก ให้อยู่เป็นเพื่อนกันที่นั่นก่อนโดยให้เอาเรือทั้งสองลำไปผูกกับก้อนหินที่หน้าประตูเมือง และที่น่าหดหู่ใจก็คือ นายอำเภอสั่งให้นายทหารสองนายพร้อมอาวุธปืน M ๑๖ คนละกระบอก ยืนคุมที่หัวเรือคนละลำ การกระทำดังกล่าวเหมือนเป็นการจับกุมอาชญากรสงคราม มีความผิดขั้นร้ายแรงถึงขั้นประหารชีวิต ทำไมไม่เอาโซ่ตรวนมาล่ามด้วย ทำไมจึงต้องมีการควบคุมกันถึงขนาดนี้ กับนักท่องเที่ยวที่มีเพียงเบ็ดตกปลา 2 คันเท่านั้น
หลังจากที่นายอำเภอสั่งจับกุมนายแพะไปไว้ที่ประตูเมือง โดยให้รออยู่ในเรือด้วยความหนาวเหน็บของฤดูหนาวในเดือนมกราคม ตากน้ำค้าง ตากหมอกที่หนาทึบ หนาวจนเข้ากระดูก พวกนายแพะรออยู่ในเรือ ท่ามกลางความทรมานจากอากาศที่หนาวเย็นจนเกือบจะตาย จากเวลาประมาณตี ๑ จนเกือบตี ๔ แน่นอนพวกนายอำเภอกับพวกทหารอยู่ได้อย่างสบายเพาะสวมชุดยูนิฟอร์มอย่างหนาแถมมีเสื้อกันหนาว รองเท้าคอมแบทท์ พูดแล้วมันน่าคิดว่าช่องว่างระหว่างผู้มีอำนาจยศศักดิ์ที่ทำกับประชาชนอย่างนี้ มันไม่ใช่จิตใจของวิญญูชนของคนไทยอย่างแน่นอน
    หลังจากนั้นนายอำเภอก็กลับมาแล้วถามว่า”ตกลงจะยอมรับสารภาพหรือเปล่า ว่าได้กระทำความผิด โดยจะให้นายแพะกับพวกเซนต์หนังสือจับกุมว่ายอมรับสารภาพ ทั้งที่นายแพะกับพวกได้กล่าวขอร้องว่า พวกผมมีเจตนาที่จะมาตกปลานะครับ ไม่มีเจตนาที่จะมาทำนอกลู่นอกทาง และอีกอย่างผมก็เป็นนักท่องเที่ยวตกปลาที่อ.AAA มาเกือบ ๑๐ ปี แล้ว นายอำเภอเป็นผู้มีความรู้ เป็นพ่อเมืองนักปกครอง จบรัฐศาสตร์การปกครองน่าจะแยกแยะได้ว่า สุดท้ายแล้วเจตนานั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด มาตกปลาแท้ๆ อนุรักษ์ปล่อยพันธุ์ปลาก็ปล่อย กลับต้องมาโดยจับกุมอย่างไร้การตักเตือน การผ่อนปรน จากการใช้อำนาจ และอารมณ์ ของข้าราชการบางคนเหมือนเป็นอาชญากรสงครามเลยทีเดียว
      หลังจากนั้นไม่นานก็มีเรือ ที่คาดว่าน่าจะเป็นพวกที่กระทำผิดจริงโดยเจตนา ซึ่งทางนายอำเภอและคณะได้ฉายไฟเรียก แต่เรือลำดังกล่าวกลับรีบเร่งเครื่องหนีสุดชีวิต และสุดท้ายอาชญากรตัวจริงก็หลบหนีไปได้ต่อหน้าต่อตา รวมทั้งหมด ๒ ลำ นายแพะถึงกับบ่นด้วยความน้อยใจเกินที่จะบรรยาย จึงได้ถามนายอำเภอว่า ทำไมเรือที่กระทำความผิดจริงกลับจับไม่ได้ ถ้าพวกผมทำความผิดจริงโดยเจตนา ก็คงไม่ให้ความร่วมมือเข้าไปหาหรอก คงขับเรือหนีไปแล้ว และนายอำเภอก็คงจับไม่ได้ มันช่างตรงกันข้ามกันเสียจริงๆ
จากคำพูดดังกล่าวซึ่งเป็นความจริงทุกประการ ทำให้นายอำเภอเกิดอาการหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด สั่งให้ปลัดลูกน้องทั้งสองคน เขียนหนังสือจับกุมทันที หลังจากนั้นได้ให้ทหารพร้อมปืน M ๑๖ ควบคุมผู้ต้องหาทั้ง ๔ คน ไปโรงพักทันที
    จากเหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มคับขัน ทำให้นายแพะรู้ว่า การจับกุมดังกล่าวเกิดจากอารมณ์ หรือสันด_น มากกว่าหน้าที่ ที่พึงกระทำ จึงได้รีบไปบอกเจ้าของแพที่นายแพะพักอยู่ เพื่อให้ทราบว่า นักท่องเที่ยวของแพตัวเองถูกจับเป็นผู้ต้องหาแล้ว หลังจากนั้นเจ้าของแพถึงกับตกใจ รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าขึ้นไปที่สถานีตำรวจทันที พอไปถึงก็เข้าพบกับ ปลัดฯอำเภอAAA  ว่าเรื่องมันเป็นอย่างไร จริงๆ แล้วน่าจะมีการประกาศให้ทราบอย่างชัดเจน เพราะที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ประมงก็ได้มีการผ่อนผันให้เข้าไปทำการประมงได้บ้าง หลังจากหมดฤดูวางไข่ไปแล้ว ถ้าจะมีการตรวจจับกุมกันจริงๆ จังๆ ก็น่าจะแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันก่อน แต่คำตอบของปลัด ทำให้เจ้าของแพถึงกับผงะทันทีเมื่อได้รับฟังคำตอบว่า ”ถ้าผมบอกพวกคุณ ผมจะได้จับพวกคุณเหรอ???? “
คำพูดดังกล่าวแทบไม่น่าเชื่อว่า จะได้ยินออกมาจากปากของข้าราชการระดับสูง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงปลัดอำเภอ แต่ช่างเถอะถึง ในที่สุดผู้มีอำนาจยศ ศักดิ์ก็ย่อมจะชนะสามัญชนอยู่วันยังค่ำ      สุดท้ายนายแพะกับพวกก็จำต้องยอมรับสารภาพว่ากระทำความผิด ในแง่ของการทำลายทรัพยากรสัตว์น้ำ ทั้งๆที่ตัวเองเป็นถึงหัวหน้าตัวแทนอนุรักษ์พันธุ์ปลาในเขตเขื่อน...แท้ๆ ยังต้องไปขึ้นศาลที่อำเภอทองผาภูมิ เสียค่าปรับและค่าใช้จ่ายกับเรื่องที่ไม่ได้รายแรงดังข้อกล่าวหา (ดังมีรายละเอียด ของเอกสารระบุคำฟ้อง) เพราะผู้ใช้อำนาจของรัฐบางคนเป็นเงินถึง ๒๐,๐๐๐บาท จึงเสร็จสิ้นคดีความ
    พอรุ่งขึ้นได้มีหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ฉบับวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕XX ลงข่าวครึกโครมว่านายแพะและพวก ๔ คน ได้เข้าไปทำการระเบิดปลาและซ๊อตปลา ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์น้ำในลำห้วยบีคลี่ ซึ่งทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ข้อมูลทุกอย่างละเอียดยิบถูกต้องทั้งชื่อผู้ต้องหาทุกคน ชื่อผู้ที่มีผลงานจับกุมอย่างชัดเจน ทั้งนายอำเภอ ปลัดอำเภอ ทั้งที่หลักฐานต่างๆในการจับกุมก็บอกอยู่อย่างชัดๆว่า มีคันเบ็ด ๒ คัน ตาข่าย ๑ ผืน ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้นายแพะเป็นผู้เสียหาย ทั้งด้านชื่อเสียง และหน้าที่การงาน
ซึ่งจากการวิเคราะห์เหตุการณ์ดังกล่าวทั้งหมด นี่หรือนักปกครองเมืองAAA นี่หรือปลัดอำเภอAAA  ผู้มีความรู้ ในการปกครองประชาชนทั้งอำเภอ นี่หรือผู้ที่จบรัฐศาสตร์การปกครอง กลับไม่มีวิจารณญาณ ในการใช้เหตุผลวิเคราะห์แยกแยะถึงเจตนาหรือการกระทำในการจับกุมหรือตักเตือนก่อน ทั้งๆที่จริงแล้ว มันเป็นความผิดเล็กๆน้อยๆ ที่น่าจะพูดคุยกันได้ น่าจะให้อภัยกันได้ไม่น่าจะมีการกระทำที่รุนแรงขนาดนี้ โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยว นักอนุรักษ์ หรือแม้แต่กับประชาชนทั่วๆไปที่ไม่มีอำนาจ ยศศักดิ์

    การกระทำอย่างนี้หรือ ที่บอกว่าจะมาพัฒนาการท่องเที่ยวให้อำเภอAAA  ผมคิดว่าน่าจะมาสร้างจุดจบของการท่องเที่ยวตกปลาที่อำเภอAAA เสียมากกว่า ถ้าวิเคราะห์กันอีกแง่หนึ่ง อาจต้องการสร้างผลงานให้ตัวเองหรือเปล่า หลังจากที่ท่านถูกย้ายมาใหม่ ก็ขอให้ผู้ใหญ่ในหน่วยงานราชการทุกๆท่าน ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงพี่น้องประชาชนในอำเภอAAA นักท่องเที่ยวตกปลาทุกท่านทั่วประเทศ ลองช่วยพิจารณาว่า มันเป็นบทพิสูจน์ว่าด้วยการจับกุมตามหน้าที่ หรือ...ของข้าราชการบางคน นายอำเภอAAA  ที่เคารพ ช่วยตอบคำถามนี้ด้วยนะครับ
นายแพะ(รับกรรม)






กรุณา ลงทะเบียน และ login ก่อนส่งความเห็นครับ
siamfishing.com © 2024