สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 29 เม.ย. 67
ตามล่าปลาทรายแดง(5) : Fishing Article
 ห้องบทความ/เทคนิค > บทความตกปลา
ความเห็น: 10 - [5 พ.ย. 47, 12:17] ดู: 5,338 - [21 เม.ย. 67, 14:40] โหวต: 3
ตามล่าปลาทรายแดง(5)
ป.ประจิณ (232 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้) offline
31 ต.ค. 47, 20:36
1
ตามล่าปลาทรายแดง(5)
ภาพที่ 1
                                             
                                                  วิกฤตปลาเก๋าแห่งเกาะกูด

    คณะของครูดี ลุงหมานนั่งคุยอยู่กับปลัดพตจนดึก ไต๋หมีขอตัวเอาเรือออกไปจอดนอนข้างนอกขณะที่น้ำเริ่มลงก่อนเรือจะเกยตื้น ไชโยกับเหวียนตกหมึกหอมได้หลายตัวที่กองหินหัวเกาะแรดห่างจากรีสอร์ตออกไปเล็กน้อย ลมหนาวเริ่มพัดมา แสงไฟจากเรือไดปลาหัวอ่อนคืนนี้มากจริง ๆ เกือบร้อยลำจากแนวหินห้าร้อย อ้อมมาทาง เกาะรัง เกาะไม้ซีกเล็ก จนถึงเกาะกระดาด 
    เสียงวิทยุเรือคุยตอบโต้กันไม่ได้หยุด ดูเหมือนว่าทุกลำคุยกันถึงเรื่องปลาทรายแดง เก๋า กะรังแดง ว่าเรือใครพบเห็นหรือได้มากน้อยขนาดไหน ? นอกจากหมึกและปลาอื่นๆ แล้ว ทุกลำหวังเติมฝันกับปลาหายาก ที่ลูกกะตาเป็นยาโด๊ปแสนวิเศษ
    ที่หัวหินเกาะแรดตอนรุ่งสาง ท่ามกลางสายหมอกที่หนาวเย็น ไชโยก็อัดเอาปลาสากใหญ่ขึ้นมาได้อีกสองตัวกับปลากองหินที่น่ากินอีกเล็กน้อย
    “กลับรีสอร์ตหากาแฟดื่มกันดีกว่าเรา เอาปลาให้แม่ครัวทำก่อน”
    “ดีเหมือนกัน หลังมื้อเช้าจะได้ออกสำรวจแหล่งดำน้ำกัน”
    บนระเบียงท่าเรือ กาแฟร้อน ข้าวต้มปลาอินทรี ผสมกับกลิ่นไอของป่าดง เรียกความสดชื่นกลับมาอีกครั้ง ทุกคนตื่นตาตื่นใจไปกับความงดงามของหาดทรายขาวเบื้องหน้า ที่โค้งยาวไปจนจดแหลมหินดำ มองเห็นหมู่บ้านประมงเล็ก ๆ ที่เรียกกันว่าคลองมาด
      ชาวบ้านในคลองนี้นอกจากทำสวน ค้าขายของชำเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้ว บางคนยังออกวางลอบปลา ลอบหมึก ตกปลา ขายให้กับร้านอาหารของรีสอร์ตต่าง ๆ จากการบอกเล่าของไอ้หมา เด็กหนุ่มลูกชาวเกาะช่างคุย หนึ่งในพนักงานของที่นี่
    เกาะกูดนับว่าใหญ่เป็นอันดับที่4ของประเทศ โดยมีขนาดความยาว25กิโลเมตร และขนาดความกว้าง12กิโลเมตร มีเนื้อที่106ตารางกิโล ลักษณะโดยทั่วไปเป็นป่าเขาที่สมบูรณ์ มีที่ราบสันเขา สวนมะพร้าว ป่ายาง เป็นต้นกำเนิดของน้ำตกหลายแห่ง แต่ที่ขึ้นชื่อคือน้ำตกคลองเจ้า คลองที่มีรีสอร์ตมากที่สุดของเกาะกูด...
   
   
 
 
     
   
   
   
   
     

     
   

   
ตามล่าปลาทรายแดง(5)
ภาพที่ 2
   
    ฝั่งตะวันตกของตัวเกาะตั้งแต่แหลมยายตุ่น จดปลายแหลมเทียน เป็นแนวโขดหิน แหลมผา สลับกับชายหาด มีอ่าวผักแว้ง หาดคลองระหาน หาดคลองยายกี๋ หาดคลองโพธิ์ หาดคลองเจ้า อ่าวพร้าว มีเกาะอยู่สองเกาะ คือเกาะไม้ซี้เล็ก และเกาะแรด นอกนั้นจะเป็นหินกองใต้น้ำที่กระจัดกกระจายอยู่ทั่วไป หินกองบังเบ้านับว่ากว้างใหญ่ที่สุด
    ทานอาหารเสร็จ ครูดีก็เตรียมอุปกรณ์ลงเรือเพื่อทำการสำรวจแหล่งดำน้ำ โดยวางแผนเริ่มจากบริเวณที่ใกล้ที่สุดก่อน เกาะแรดที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก และอยู่ด้านหลังของรีสอร์ตจึงถูกกำหนดให้เป็นหมายแรก
    “ไปเรือไต๋หมีหรือคะพี่ดี มีห้องน้ำหรือเปล่า” หมอราณีในชุดเวทสูท
เกาะแขนครูดีลงเรือแบบกลัว ๆ เกือบจะลื่นตกน้ำ
    “ระวังนะน้อง ! ”ครูดีช่วยหมอสาวให้ก้าวลงจากระเบียงที่สูงกว่ากราบเรือ
      “ไม่เห็นเหมือนเรือแถวพัทยาเลยสะดวกสะบายจะตายไป” หมอราณีบ่นกระปอดกระแปด
      “เอาเถอะน่า นี่มันเรือตกปลา เดี๋ยวก็ชินไปเอง”
    เมื่อเรือจอดทอดสมอที่หินเรียบร้อย ครูดี หมอราณี เนตร และลุงหมานจะเป็นทีมสำรวจชุดแรกที่ลงไป โดยมีไต๋หมี ไชโย และเหวียนคอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวกบนเรือ
    เมื่อทุกคนพร้อมก็โดดน้ำดำดิ่งลงสู่ความลึกเบื้องล่างที่ระดับน้ำลึกสุด 20 เมตร วนรอบหัวหินไล่ระดับเข้าหาที่ตื้นนานกว่าครึ่งชั่วโมงก็ขึ้นมาจากน้ำ
    “พบอะไรบ้างครับครู ?” ไต๋หมีที่อยากรู้ พร้อมกับฉุดทุกคนขึ้นจากผิวน้ำ
    “น้ำใสดีไต๋ แต่มันไม่มีอะไรให้ดู ปะการังตายหมด เจอะแต่ปลิง”
    “ผมก็คิดเหมือนครู ผมอยากดูปลาใหญ่ แต่ก็ไม่พบ เจอะแต่ลอบดักปลาหลายใบ มีเก๋าเล็กๆ อยู่หลายตัว” ลุงหมานเสียอารมณ์กับสิ่งที่พบเห็นรายล้อมรอบหิน
      “ไปไหนดีไต๋?” ลุงหมานถามความเห็นก่อนมองไปที่ครูดี
      “หินบังเบ้าดีกว่าทิดหมาน เห็นว่าปลัดพตจะเอาเรือเร็ว อาหารตามไปสมทบ”
      “ดีเหมือนกันวันนี้เราลุยให้ถึงเรือปูนเลยนะไต๋” ลุงหมานเสนอความเห็น
      เรือวิ่งเลาะชายฝั่งผ่านแหลมหินดำ หาดตะเภา คลองเจ้า แหลมโม่ง มองเห็นรีสอร์ทหลายแห่งตลอดแนวอ่าวที่เว้าเข้าไปในตัวเกาะสีเขียวครึ้มเป็นฉากหลัง มีเรือเร็วรับนักท่องเที่ยววิ่งสวนไปมาตลอด เรือประมงหลายสิบลำจอดบังคลื่นลมพักนอน ก่อนออกปั่นไฟในช่วงเย็น
      “ทำไมเรือเร็ว เรือประมงมันมากมายขนาดนี้ลุงหมาน?”ครูดีถามขณะประกอบถังชุดใหม่
        “ก็นี่ล่ะ คือสาเหตุหนึ่งที่ปะการังตาย ปลาชายฝั่งก็หมด”
    …ลุงหมานนึกถึงช่วงเวลาที่ยังหาตกปลาขายอยู่ในแถบนี้ เรือประมงในตอนนั้นก็นับว่าเยอะแล้ว แต่ก็ยังไม่มากเหมือนที่เห็นในวันนี้ การทิ้งสมอ แรงอัดของใบจักรเรือก็ยากที่ปะการังจะโงหัวขึ้น ภายหลังปรากฎการณ์ฟอกขาวที่ผ่านมาหลายปี
ตามล่าปลาทรายแดง(5)
ภาพที่ 3
 
      ที่หินกองบังเบ้า มียอดหินโผล่พ้นน้ำ เรือจอดห่างยอดหินออกมาเล็กน้อย มองลงไปยังเห็นสีเขียวครามของแนวกองหินใต้น้ำได้ชัดเจน ถัดออกไปมีเรือวางลอบจอดอยู่ ชาวประมงสามคนกำลังช่วยกันกู้ลอบ
    เรือเร็วของปลัดพต วิ่งมาถึงพอดี แกตรงไปที่เรือวางลอบ ก่อนเอาเรือเข้าเทียบด้านข้าง
    “มีไอ้ย่ำบ้างไหมลุงวันนี้มีแขก?” ย่ำสวาท หมายถึงปลาเก๋าชนิดหนึ่งซึ่งเนื้อดีมีราคาเกือบพันบาทต่อกิโลกรัม
    “มีครับ แต่มันยังเล็ก ขนาด 2-3 ขีดเท่านั้น กู้มาหลายสิบใบแล้ว เอาเก๋าจุดไปก่อนแล้วกัน” ลุงตอบพร้อมกับส่งปลาขนาดจานให้
    ปลาเก๋าย่ำสวาทตัวเล็กไม่ได้ขนาด จะถูกนำไปเพาะเลี้ยงในกระชังให้ได้หนึ่งกิโลก่อนถึงจะขายได้ราคา ทั้งส่งรีสอร์ทและมีพ่อค้ามารับส่งไปขายกรุงเทพฯซึ่งจะมีราคาเพิ่มขึ้นอีก2-3เท่าตัว ถ้าไปถึงต่างประเทศราคาจะแพงมาก เป็นหนึ่งในอาหารบำรุงเซ็กส์ ที่กำลังโปรโมทอยู่ในขณะนี้
      หน้าเกาะแรดก็มีกระชังเลี้ยงปลาเก๋าขนาดใหญ่อยู่หลายกระชัง แต่ลูกปลาก็ต้องนำมาจากทะเล ยังไม่มีการเพาะพันธุ์ขึ้นมาได้ ลอบดักปลาจึงพบเห็นได้ทั่วไปตามหินกองต่าง ๆ ไว้ให้ดูแทนแนวปะการัง
    การดำน้ำครั้งนี้ไต๋หมีขอลงไปกับทีมของครูดีด้วย โดยเริ่มดำที่ระดับน้ำตื้นก่อน น้ำบริเวณนี้ใสมากจนมองได้ไกล ทุก ๆ คนก็มองหาสิ่งที่ตัวเองสนใจพร้อมกับถ่ายภาพ
    ไต๋หมีดำคู่ไปกับลุงหมาน ให้ครูดีกับหมอราณี เนตร ดำนำหน้าออกทางปีกขวาเลาะชายกองหิน ลุงหมานนำออกซ้ายเพื่อค้นหาปลายทรายแดง กะรังแดง เก๋าดอกแดง กระพงแดง หรืออังเกย ซึ่งเป็นปลาที่จะบ่งชี้ความสมบูรณ์ของสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ บริเวณนั้นได้อย่างดี จากหินกองหนึ่งมุ่งหน้าไต่ระดับความลึกลงไปเรื่อย ๆ จนถึงแนวน้ำขุ่นที่เป็นพื้นทราย
    ที่นี่พอมีปะการังให้ได้เห็นบ้างถึงจะดูหรอมแหร็ม แตกหัก ตายกระจายเป็นบริเวณกว้าง แต่ก็ยังดีกว่าที่เกาะแรดที่มีแต่กองหินเท่านั้น ที่ระดับชายหินน้ำลึก 15-20 เมตรเป็นพื้นทรายขาว สองคนพยายามว่ายวนให้ได้พื้นที่สำรวจมากที่สุดภายในเวลาอันจำกัดของอากาศภายในถัง ก็พบแต่ปลาการ์ตูน ทาก ปลาสวยงามบางชนิด ฝูงข้างปานขนาดเล็ก สากน้ำดอกไม้ ปลาตะคองเหลืองฝูงเล็ก
    สิ่งที่พบเห็นสะดุดตาอยู่เป็นระยะคือซากอวนเก่า ลอบดักปลา ที่วางกันเกลื่อนทั้งเก่าและใหม่มีปลาเก๋าเล็กๆ อยู่ภายใน พบตัวใหญ่ขนาดสองโลกว่าอยู่ตัวเดียว มันทำท่าขู่ อ้าปากพองเหงือก เมื่อลุงหมานเข้าไปแหย่มันเล่น ก่อนขึ้นจากน้ำ
    “เป็นยังไงบ้างหมายนี้พอจะเป็นแหล่งดำน้ำได้ไหมครูดี?”ปลัดถาม
    “พอได้ดำครับ กองหินกว้างมาก แต่ปะการังเก่าตายหมด ที่เกิดใหม่ก็ยังไม่สมบูรณ์”
    “ตรงนี้เป็นจุดดำน้ำที่ดีที่สุดของเกาะกูดแล้วนะครับครู”
    “เมื่อก่อนละก็จริงปลัด ผมดำแค่ผิวน้ำยังสวยงามมากกว่านี้เยอะ” ลุงหมานเสริม
    “เอ้า ! ทิดหมานเคยมาแถวนี้ด้วยเรอะ?”
    “ถิ่นหากินเก่าครับ ผมตกปลาขายมาก่อน ตอนนั้นยังไม่มีรีสอร์ต เรือประมงมากมายขนาดนี้”
    “แล้วจะไปสำรวจตรงไหนกันดีล่ะ”
    “นักดำน้ำชอบเรือจม เราลองไปที่เรือปูนกันก่อนดีกว่ายังมีเวลาก่อนจะมืด”ลุงหมานแนะนำหมายที่เคยตกปลาขายในอดีต
      “ไปก็ไป ดีเหมือนกันทิดหมาน”ปลัดคล้อยตามเพราะอยากจะได้แหล่งดำน้ำดี ๆ ที่จะเป็นจุดขายใหม่
    “ออกเรือเลยไต๋” ลุงหมานพร้อมกับช่วยไชโยคว้านสมอเรือขึ้น ปลัดบอกว่าจะไปหาปลาย่ำสวาทก่อน แล้วจะตามไปมีปัญหาอะไรให้โทรหา ครูดีอยู่ท้ายเรือ ลุงหมานมานั่งคุยกับไต๋
ตามล่าปลาทรายแดง(5)
ภาพที่ 4
   
    “ทิดหมานคิดดูซิ ขนาดหินกองนี้ใหญ่ที่สุดแล้วยังไม่มีอะไรน่าสนใจ แล้วจะนับประสาอะไรกับหินห้าร้อย หรือหินกองกลาง ”
    หินทั้งสองเป็นหินกองน้ำลึกที่อยู่ห่างออกไปอีกเล็กน้อยจากกองหินหลายสิบกองของบริเวณนี้ นับเป็นแหล่งตกปลาที่ดีที่สุดของเกาะกูดในอดีต ตอนนี้ก็แล้วแต่ดวง มีปลาเข้าเป็นบางช่วง จากการบอกเล่าของเรือเบ็ด
    “นั้นสิไต๋ ผมก็อยากรู้เหมือนกัน เสร็จจากดำน้ำเราลองไปตกปลากันดีกว่า”
    “ดี เหวียนกับไชโย เขาขอขึ้นฝั่งไปดูงานก่อนนะ แต่จะอยู่ช่วยเราอีกสองสามวัน จะได้มีปลาไปฝากทางบ้าน”
    “ไม่แน่ไต๋ ผมอาจจะไปด้วย คิดถึงเมียว่ะ”
    “ไปกันหมดเลยเรอะ แล้วผมจะอยู่กับใครล่ะ?”
    “เห็นครูดีคุยกับปลัด จะให้ไต๋อยู่ช่วยปลัดสักพัก”
    “ผมเองก็อยากอยู่ จะได้สำรวจให้ทั่ว แต่ใครจะช่วยผม”
    “ปลัดจะให้ไอ้หมาลูกน้องแกคอยช่วยตอนออกเรือ”
    “เรื่องนั้นผมไม่ห่วง คนเดียวก็อยู่ได้ แต่ผมกลัวเหงา ตอนดำน้ำคนเดียว”
    “ก็รู้อยู่แล้วอย่าไปดำลึกสิ สำรวจเท่าที่ทำได้เน้นหมายปลา แล้วเก็บเป็นความลับ
“มันจะลับยังไง ? ผมรู้น้อยกว่าไต๋เรือแถวนี้เยอะ น้อยกว่าทิดหมานอีก”
      “อยู่ไปเถอะจนกว่าจะเบื่อ อาหาร ที่พัก น้ำมัน ทางปลัดจะช่วยดูแลให้ คุยกันเมื่อคืนเขาอยากเปิดทัวร์ดำน้ำ เรือของไต๋ อุปกรณ์ของผมกับครูดี คงจะช่วยให้ปลัดเริ่มต้นได้”
    “แล้วทิดหมานจะไปนานมั้ย?”
    “ไม่นาน จะไปเอาเรือเร็วมาไว้ให้ใช้อีกลำ ใช้ลากสกีได้ด้วย”
    “นี่เราจะมาลงทุนด้วยรึ?”
    “เที่ยวอย่างเดียวจะเอาทุนที่ไหนมา มันต้องมีกิจกรรมเป็นค่าใช้จ่ายด้วย”
    “เอาก็เอา ลองดูสักตั้งคงสนุกดี อุปกรณ์เราก็ครบที่ขนกันมาก็เป็นล้านแล้วนี่”
    “นั่นแหละไต๋ ปลัดถึงอยากให้เรามาอยู่ที่นี่ เพาะแกไม่อยากจะลงทุนตอนนี้ ”
    “แกฉลาดนี่หว่า ! ไอ้เราก็อยากสำรวจ”
    “ใช่เลย นั่นคือความตั้งใจแรกของเรา”
      ไต๋หมีกับลุงหมานนั่งคุยกันไปเรื่อย ขณะเรือออกเดินทางมุ่งหน้าไปเรือปูนในช่วงบ่าย  เรือวิ่งผ่านอ่าวพร้าว แหลมเทียนออกสู่ทิศตะวันออกของเกาะกูด ผ่านไปสองชั่งโมงก็ถึงเรือปูนที่อยู่ประมาณกึ่งกลางระหว่างเกาะกูดกับคลองใหญ่แผ่นดินสุดท้ายชายแดนเขมร
    ไต๋หมีวนเรือหาอยู่นานกว่าจะพบซากของเรือปูนจากจอซาวเดอร์ ที่ระดับน้ำ20 เมตร ซากเรือกระจายออกสองสามกองมียอดสูงอยู่หนึ่งยอดที่17 เมตร มีเชื้อปลาพอสมควร
  …หมายเรือปูนเป็นหมายตกปลาอินทรีที่โด่งดังมาก ในช่วงปลายฝนที่ทะเลค่อนข้างจะแปรปรวน นักตกปลาที่มุ่งหวังกับปลาลอยมักจะไม่ค่อยผิดหวัง แต่ก็อาจมีอันตรายจากคลื่นลม เหตุที่มีปลามากคิดว่าคงอยู่ใกล้น่านน้ำเขมร ปลาจะเลาะชายฝั่งสวนลมหนาวเข้ามาในบางช่วงของเวลาไม่นานนัก พอถึงปลายปีก็แทบจะหมดตัว…
    ผลจากการดำน้ำสำรวจหมายนี้ เมื่อลงไปถึงระดับสิบเมตรพบฝูงปลาสากฝูงใหญ่มากขนาด2-3 กิโล ว่ายวนล้อมรอบตัวนักดำน้ำที่ลงไป ที่ระดับ 15 เมตรน้ำขุ่นมากและเย็น มองกันแทบไม่เห็น เสี่ยงเกินไปที่จะลงไปให้ถึงตัวเรือ ครูดีจึงให้สัญญาณทุกคนขึ้นจากน้ำยกเลิกการสำรวจ รอเวลาให้น้ำใสก่อน
ตามล่าปลาทรายแดง(5)
ภาพที่ 5
 
      คณะของครูดี ใช้เวลาช่วงกลางวันอีกสามวันตระเวนดำน้ำไปตามกองหินต่างๆ ที่เป็นหมายดังของเกาะกูด และบริเวณใกล้เคียง เช่น หินกองต้นไทร หินแผน หินหลังเกาะกระดาด หัวเกาะไม้ซีกเล็ก ฯ
    แต่ก็ไม่มีอะไรน่าประทับใจ นอกจากความใสของน้ำแล้ว สิ่งที่พบเห็นเหมือนกันในเกือบทุกหมาย คือความตายของเหล่าปะการัง และแววตาของชาวประมงวางลอบที่คาดหวังกับปลาเก๋าย่ำสวาท มันหมายถึงเงิน เป็นปลาที่จะช่วยฉุดให้นักท่องเที่ยวประเภทบริโภคนิยมมาเกาะกูด มาเพื่อเสริมพลังทางเพศกับลูกกะตาของปลาสดๆ ที่มีสารอย่างว่าเช่นเดียวกับปลาทรายแดง
      พรุ่งนี้ทุกคนที่มาก็จะเดินทางกลับบ้านก่อนแล้ว คงเหลือแต่ไต๋หมีที่จะอยู่ตามล่าหาความจริง ความฝัน ต่อไปอีกสักระยะ ตามลิขิตแห่งฟ้า หรืออัตตาแห่งตนก็ไม่อาจรู้ได้
    ค่ำนี้เลยเป็นคืนเลี้ยงส่งที่แสนวิเศษอีกค่ำคืนหนึ่ง ถึงแม้ว่าภารกิจยังไม่เสร็จ เสียงเพลงบรรเลงเบาๆ นักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตา แลดูคึกคัก อาหารทะเลสดๆ ถูกเสิร์ฟเต็มทุกโต๊ะ หนึ่งในนั้นมีปลาเก๋าทอดกรอบวางเด่น เป็นเมนูสวรรค์ที่ต้องสั่งล่วงหน้าถึงจะได้กิน
    “ขอบคุณทุกๆคนที่มาช่วยผมสำรวจในครั้งนี้” ปลัดเริ่มต้นพูด ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม พร้อมกับคีบปลาดิบใส่ปาก
    “ถึงแม้ไม่ได้มาที่นี่ พวกเราก็ดำน้ำกันอยู่แล้วครับ”ครูดีพูดแทนทุกคน
    “วันนี้โชคดี ได้ไอ้ย่ำมาตัวหนึ่ง ผมต้องชิงเอามาให้พวกเราก่อนแขกคนอื่นๆ เอาไป”
    “ขอบคุณครับ”
    “เนื้อมันทำปลาดิบได้สุดยอดจริงๆ ไม่มีปลาอะไรเทียบได้ เชิญเลยทุกคน เอ้า… ไต๋ลองดู”
    “ผมไม่กล้ากินครับ”ไต๋หมีตอบเสียงเรียบ ๆ
    “อ้าวทำไม ไม่เคยกินปลาดิบรึ?”
    “เคยครับ แต่ผมกลัวว่ามันจะเป็นปลาเก๋าตัวสุดท้ายแห่งเกาะกูด”

                                      (ติดตามตอนต่อไป)
ตามล่าปลาทรายแดง(5)
ภาพที่ 6
กรุณา ลงทะเบียน และ login ก่อนส่งความเห็นครับ
siamfishing.com © 2024