เค้าใช้เวลาเตรียมตัวนาน2เดือน -3เดือน
ราคาตกกิโลละ 3000 บาท ปูตัวนึงน้ำหนักอยู่ที่ 2-4 กิโลกรัม
$50,000 - $100,000 USD ประมาณนี้อ่ะ
$100,000*35 = 3,500,000 บาท ต่อการออกเรือเพียง 3-5วัน เท่านั้น
กว่าจะได้ปูอลาสก้าอันแสนแพง...
ต้องฝ่าเข้าไปในทะเลอลาสก้าอันบ้าคลั่งพร้อมที่จะทำให้เรือแตกได้ทุกเมื่อ..
Deadliest Catch อาชีพ จับ ปูอลาสก้า อาชีพที่ รวย และเสี่ยงตายที่สุดในโลก
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว อาจสงสัยว่า Deadliest Catch นั้นคืออะไร คำตอบคือ มันเป็นชื่อเรียก ของอาชีพๆหนึ่ง ที่เรียกเป็นภาษาไทยให้เข้าใจง่ายๆว่า อาชีพ จับ ปูอลาสก้า นั่นเอง
จับปู แล้วจะรวย และเสี่ยงตายได้อย่างไร ?
ลองดูราคาปูกันก่อนดีกว่า สำหรับปูอลาสก้านั้น ในประเทศไทยจะมีราคาสูงถึง กิโลกรัมละ 3000 บาทโดยประมาณ และจะแพงกว่านี้ ถ้าหากถูกนำไปขายในประเทศที่นิยมรัปทานปูอลาสก้ากัน ลองคิดดูว่า ปูอลาสก้าตัวนึง ที่เป็นปูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จะมีน้ำหนักประมาณสักกี่กิโลกรัมกัน
ฟังดูดีนี่ แล้วอะไรกันคือความเสี่ยงตาย ?
ปูอลาสก้า ก็ต้องอยูที่ อลาสก้าน่ะสิ แล้วทำไมน่ะหรอ ง่ายๆเลยคือ ทะเลที่อาศัยของเหล่าปูอลาสก้านั้น จะประกอบไปด้วย คลื่นลมแรง และสูงอย่างต่ำ 7 - 10 เมตร ตลอดเวลา ทำให้เรือนั้นไม่มีทางที่จะอยู่นิ่งๆได้เลย นอกจากนี้ ด้วย อุณหภูมิ ประมาณ 0 องศา นั้น ก็เพียงพอที่จำทำให้น้ำทะเล ที่กระฉอกเข้ามาในเรือ กลายเป็นน้ำแข็งได้ทันที
ที่สำคัญการที่มีคนตาย ช่วงเทศการจับปูอลาสก้า ถือเป็นเรื่องปกติเพราะ
ในขณะที่กะลังหาปูอยู่ท่ามกลาง อุณหภูมิ ต่ำกว่า 0 องศาเช่นนี้ ภายในน้ำทะเล จะยิ่งมีความเย็นไม่ต่างจากการลงไปแช่ในน้ำแข็งสักเท่าไหร่นัก ลและสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตนั้น ก็คือการที่ ผู้จับ ตกลงไปในน้ำซึ่งหนาวจัด และเกิดภาวะ สูญเสียความร้อนอย่างเฉียบพลัน นั่นเอง
ดูคลิปนี้แล้ว เห็นแบบนี้แล้ว ยังมีใครที่อยากไปจับปูอลาสก้ากันอีกมั๊ยเอ่ย
. อิอิ