ภาพที่ 1ความเป็นมา
อาหารพื้นบ้านโบราณนานโข นานๆได้ทำกินซะทีนึง กินเป็นยา.....ยาอะไรไม่รู้จำไม่ได้แล้วต้องไปเปิดตำราดูใหม่.....กระแท่ง(ชื่อเฉพาะถิ่น)เป็นต้นบุกชนิดหนึ่ง
เรียกบุกแดงหรือเปล่าไม่รู้นะจำไม่ได้แล้ว บางที่เรียกผักอีรอกหรือ อีรอกจุด จะแทงยอดขึ้นมาจากดินตอนต้นฝน เดินตัดเก็บเอาส่วนก้านใบและก้านดอกมากิน หนึ่งปีจึงได้กินหนเดียว คันๆๆๆๆๆๆนะครับ
ส่วนผสม
เครื่องแกงเลียง(พริกไทย หอมแดง กุ้งแห้ง กะปิ ตำๆๆให้เข้ากัน ไม่ใส่พริกนะ) กุ้งสด สับปะรดเปรี้ยวๆ ระกำเปรี้ยวๆ ชะอม น้ำปลา น้ำตาล
วิธีทำ
อื่นๆ
ภาพที่ 2ไปตลาด ซื้อกระแท่งมา 2 กำ ขี้เกียจไปเดินเก็บในสวน ยุงเยอะ ให้คนใช้ไปเก็บยอดชะอมมานิดนึง
ภาพที่ 3มีทั้งก้านต้นและก้านดอก กินตรงก้านต้นและก้านดอกรวมถึงใบอ่อนๆและดอกอ่อนๆก็กินได้ครับ
ภาพที่ 4ตัดเอาใบและก้านที่แก่ๆทิ้งใบ แล้วทำการลอกเปลือกออกครับโดยดึงจากโคนถึงปลาย เอาเปลือกออกเพื่อความสวยงามจะได้ไม่มีลายเปลือกดูแล้วไม่น่ากิน
ภาพที่ 5ลอกเปลือกเสร็จก็หั่นเป็นท่อนๆให้เรียบร้อยแล้วเอาไปล้างให้สะอาด
ภาพที่ 6ปลอกเปลือกกุ้งให้เรียบร้อย
ภาพที่ 7เดินไปขโมยสับปะรด บ้านป้ามาซัก 1ลูก
ภาพที่ 8ปลอกสับปะรด แล้วก็สับๆๆๆๆแบบมะละกอ แบบนี้นะครับ
ภาพที่ 9ตั้งน้ำให้เดือด ใส่เครื่องแกงเลียงลงไป ใส่กระแท่งลงไปต้มสักพัก ให้ออกเกือบๆเปื่อยเลยนะครับ ถ้าไม่เปื่อยมันจะคันนิดๆ
ภาพที่ 10ต้มให้เปื่อยประมาณนี้นะครับ ไม่งั้นมันจะคันคอนิดๆ แต่ก็มีคนแก่ๆหลายท่านชอบให้มีรสคันนิดๆเค้าบอกว่ามันสะใจดี ผมเคยลองกินดูแล้วก็อร่อยสะใจจริงๆอย่างคนแก่ว่าแหละครับ ในที่นี้ของผมต้มเปื่อยๆเอาไม่คันดีกว่าเพราะมีหลานกับแม่กินด้วย
ภาพที่ 11พอเปื่อยได้ที่แล้วก็ใส่สับปะรดลงไป ใส่ระกำลงไปแต่ในที่นี้ผมไม่ใส่ระกำนะครับเพราะแม่กับหลานกินด้วย ใส่กุ้งลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ชิมดูให้หอมกลิ่นระกำ
หวานจากสับปะรด เค็มกำลังดี ใส่ชะอมลงไป แล้วก็ปิดไฟ เสร็จแล้วครับ
ภาพที่ 12ซดร้อนๆ อร่อยแบบโบราณบ้านๆแหละครับ
ภาพที่ 13แถมน้ำพริกกะปิกับผักด้วยครับ มาทานข้าวกันครับ
ตกหล่นอะไรก็ขออภัยด้วยนะครับ ขอบคุณทุกท่านครับ