ภาพที่ 1ความเป็นมา
ที่จริงแล้วมันก็คือแกงป่าพื้นบ้านทางจันทบุรีและตราดครับ แต่เนื่องจากเครื่องแกงที่มีอยู่ยังไม่ครบทั้งหมดตามต้องการของผม จึงต้อง
ขอยืมชื่อแกงจาก น้าเป บูรพา กวีแห่งเมืองตราดมาใช้แทน เป็นแกงคุกแตก ตามตำนานเล่าว่ากลิ่นของแกงลอยเข้าไปในคุก นักโทษได้กลิ่นแกงแล้ว
ทนไม่ไหวอยากกินมาก พากันแหกคุกมาขอแกงกินกัน แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่านักโทษที่กินแกงเข้าไปท้องเสียหรือเปล่า...หึหึหึ
ส่วนผสม
พริกขี้หนูแห้งและสด พริกไทย ข่า ตะไค้ร ผิวมะกรูด เร่วหอม กระวาน หน่อสับปะรด ลูกผักชีไร่ ดอกยี่หล่า ขมิ้น ไพล หอมแดง กระเทียม
กะปิ เกลือ น้ำปลา น้ำตาลและ เนื้อ..........วัว หมู ไก่หรือ ปลา ก็ได้...ถ้าไก่ขอเป็นบ้าน ปลาก็เอาปลากระพงแดงตัวใหญ่ๆหน่อยเนื้อมันจะได้ทน
วิธีทำ
อื่นๆ
ภาพที่ 2นำเครื่องแกง พริกขี้หนูแห้ง,สด พริกไทย ผิวมะกรูด ข่า ตะไค้ร กระเทียม หอมแดง ลูกผักชีไร่ ดอกยี่หล่า เร่วหอม ขมิ้น ไพล กะปิ
เกลือ มาตำรวมกัน เป็นน้ำพริกแกง
ภาพที่ 3ใส่น้ำลงกระทะตั้งให้เดือด ใส่เครื่องแกงลงไปผัดให้สุกหอม
ภาพที่ 4เมื่อเครื่องแกงสุกแล้วก็ใส่เนื้อ.....ลงไป
ภาพที่ 5ผัดให้เนื้อสุก พอให้น้ำแห้งขลุกขลิก ถ้าแห้งไปก็เติมน้ำ น้ำเยอะไปก็เคี่ยวให้แห้งพอดี ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล
ภาพที่ 6หั่นหน่อสับปะรดกับกระวาน แล้วใส่ลงไป หรือจะใส่มะเขือพวง ใบมะกรูดใบยี่หล่าไปอีกก็ได้ แต่ที่ไม่ใส่เพราะแกงมันจะเสียง่าย
ภาพที่ 7ผัดให้สุกหอมกลิ่นกระวานฟุ้ง.....
ภาพที่ 8พร้อมรับประทานครับ ที่จริงต้องทานกับเครื่องดื่มเสือหรือสิงห์จะเข้ากันได้ดีกว่า