ภาพที่ 1วันนี้เรามาทำของอร่อยกัน บอกก่อนนะครับไม่ได้ชำนาญ ใครที่มีประสบการณ์ก็มาช่วยกันให้ความรู้นะครับ จะมีประโยชน์ต่อผู้อื่นมากครับ พอดีอากาศช่วงนี้ที่ผมไม่หนาวมากกำลังเหมาะทำของตากแห้งพวกนี้พอดีเลย วันนี้เป็นสไตล์กวางตุ้งนะครับ คนจีนมักจะทำไว้ตอนช่วงฤดูใบไม้ร่วงเข้าหนาว เพราะอากาศเย็น แห้ง เหมาะที่จะทำแล้วก็เก็บไว้ใช้ในโอกาสสำคัญและปีใหม่ คนจีนเรียกหมูสามชั้นว่า หมู5ชั้น อย่างดีต้องมีมัน3ชั้น เนื้อ2ชั้น ผมใช้หมูทั้งแผ่นมาทำเลยไม่สามารถเลือกตรงส่วนที่ดีที่สุดได้
คุณสมบัติที่ดีของหลาบหยกคือ ต้องดูสะอาด เงางาม แห้งสนิท แต่ไม่แห้งจนแข็งเป็นหิน ไม่ขึ้นรา ไม่หดตัวเกินไป หลาบหยกก็เหมือนแฮม ยิ่งหมักนานยิ่งหอมอร่อย ความอร่อยของมันที่คนติดใจคือ กลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ได้จากไขมัน เวลาเราหุงใส่ข้าวหรือทำข้าวอบหม้อดิน ไขมันในหมู และเครื่องหมักจะซึมลงมาในข้าวทำให้ข้าวหอมชวนทาน หลายหยกสไตล์กวางตุ้ง จะหมักด้วยซีอิ้วชั้นดี นั่นคือตัวชูโรงให้หลาบหยกอร่อย เหล้ากุหลาบ น้ำตาล มักไม่ค่อยใส่เครื่องเทศกัน บางคนก็จะใส่ผงพะโล้บ้าง แต่ไม่แนะนำครับ เพราะแค่ซีอิ้วชั้นดีก็หอมมากแล้ว แต่ถ้าอยากได้กลิ่นที่หอมขึ้นไปอีกแนะนำให้เอาเครื่องเทศเช่น อบเชย โป๊ยกั๊ก ใบกระวาน พริกเสฉวนอะไรพวกนี้ไปต้มกันซีอิ้วและน้ำตาลก่อน พอซอสเย็นก็ค่อยเทเหล้าใส่ลงไป แล้วถึงนำไปหมักหมู ห้ามต้มเหล้าลงไปในซีอิ้วนะครับ เหล้านั้นสำคัญมากครับในการทำ หลาบหยก และกุนเชียง เพราะเหล้าสามารถยับยั้งแบคทีเรียได้ แล้วเหล้ายังช่วยเปลี่ยนไขมันให้มีกลิ่นหอมขึ้น เหล้าที่ใช้นั้นก็ต้องเป็นเหล้ากุหลาบ(สไตล์กวางตุ้งนะครับ)ถ้าเป็นที่อื่นก็มีใช้เหล้าทั่วไปที่หมักจากข้าวได้ ที่สำคัญคือเหล้าต้องมีแอลกอฮอล์50%ขึ้นไป ถ้าใช้เหล้าฝรั่งก็ใช้ได้ครับ แต่ต้องไม่ใช้เหล้าที่มีกลิ่นเฉพาะตัวแรงเพราะจะทำให้หลาบหยกกลิ่นเพี้ยนไปได้ครับ
#การตากก็เหมือนผึ่งลมครับ แต่บ้านเราแดดแรงมาก คงต้องตากเช่นเอาไว้หน้าบ้านให้โดนแดดเช้าที่ไม่แรงมาก พอบ่ายแดดไปหลังบ้านก็ตากลมต่อไป หรือไม่ก็ตากใต้ร่มไม้ที่โปร่งใสลมผัดผ่านตลอดเวลา พอตากไปซักสามวันเริ่มแห้งแล้วเราก็สามารถย้ายไปตากตรงหน้าต่างบ้านได้ครับ แดดที่แรงเกินไปจะทำให้หลายหยกแห้งและแข็งเกินครับ หมูไม่เสียครับ แต่ไม่อร่อย การจะทำให้หลาบหยกเงางาม เราต้องนวดหรือถูมันนิดหน่อยครับ พอตากไปไขมันในหมูก็จะออกมา เราก็นวดไปเบาๆครับ จะช่วยให้หลาบหยกเงางามง่ายขึ้น หลาบหยกที่ดีเวลาเคี้ยวต้องหนึบๆครับ ไม่แห้ง ไม่แข็ง ส่วนตัวแล้วผมก็ไม่ชอบทานแบบที่แห้งเกินไป ก็จะตากเสร็จแล้วใส่ถุงเข้าช่องแข็งไปเลย ไม่เอาแขวนไว้จนแห้งมากๆ อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบนะครับ ว่าชอบแห้งมากแห้งน้อย ต้องลองตากเองแล้วชิมดูครับ
(เหล้ากุหลาบครับลองสั่งดู)
http://www.chinatownyaowarach.com/modules/product/addtocart.php?wid=170730&product_id=1835831&rand=1524671018
LAP YUK 腊肉 หลาบหยก Chinese cured pork belly
หมูสามชั้น 9 lbs (สี่กิโลกรัม)หั่นหนา 1 นิ้ว ประมาณ 12 ชิ้น ได้9lbsพอดี ถ้าไม่อยากตากนานก็หั่นหนา 3/4นิ้ว 1/2นิ้วบางไปนิดนึง
ซีอิ้วขาว 300 กรัม
ซีอิ้วดำ. 50 กรัม ถ้าไม่ชอบสีเข้มมากตัดไป เพิ่มซีอิ้วขาวแทน
น้ำตาลทรายแดง 200 กรัม
เหล้า120 กรัม ใช้เหล้า Rose Wine Mei Gui Lu Jiu(Bacardi151)
เกลือ หรือ Tender Quick 50 กรัม
หมัก3วัน กลับข้างทุกวัน
ตาก5-6วัน แดดไม่แรงมาก ควรทำช่วงอากาศแห้งและเย็น
หรือDehydrate 72 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ด้วยความร้อน 50-55 c/125f กลับข้างทุกๆ12ชั่วโมง
ภาพที่ 2สามชั้นแห้งสไตล์ฮ่องกง เอาไว้ทำข้าวอบหม้อดิน ผักผัก ทำน้ำแกงใส่ขนมผักกาด ทำได้สารพัดครับ
ภาพที่ 3มันยังไม่แห้งแต่อยากกิน เลยจับมาผัดก่อน
ภาพที่ 4ชุงฉ่าน
ภาพที่ 5_
ภาพที่ 6_
ภาพที่ 7แห้งแล้ว
ภาพที่ 8สวยงามน่าทาน
ภาพที่ 9อร่อยด้วยครับ
ภาพที่ 10_
ภาพที่ 11_
ภาพที่ 12หมู9lbs ทำออกมาได้ 6Lbsครับ ขนาดตากแบบไม่แห้งมากนัก
ภาพที่ 13แพ็คเก็บเข้าตู้เย็นครับ ที่จริงก็แขวนไว้ได้เลยครับ ไม่เน่าแต่จะแห้งครับ ผมไม่ชอบแห้งมากก็เข้าตู้เย็นไว้ครับ
ภาพที่ 14_
ภาพที่ 15นึงกับกุนเชียง
ภาพที่ 16กินข้าวกัน
ภาพที่ 17_
ภาพที่ 18_
แก้ไข 29 พ.ค. 63, 07:42