ภาพที่ 1
สวัสดีเพื่อนๆชาวสยามฟิชชิ่งครับ
วันนี้ ผมมีเรื่องราวดีๆเกี่ยวกับการทำปลาเค็มครั้งแรกของผมมาแบ่งปันกันนะครับ
ทริปนี้ผมได้ไปออกรอบที่ทะเลบางเสร่ ซึ่งเป็นทริปที่โชคร้ายเนื่องจากในวันนั้นลมเข้าพอดีทำให้มีคลื่นลมแรง
แต่ในความโชคร้ายยังมีเรื่องดีๆ นั่นคือเราได้ปลาสละ ไซส์ 3 กิโลกว่าๆ 1 ตัว แต่มากัน 4 คน เราจะแบ่งปลากันอย่างไร
ทางกลุ่มผมจึงได้มติให้คนที่ชอบทำกับข้าวไปแปรรูปแล้วค่อยนำมาแบ่งกัน นั่นคือผมนั่นเอง
ผมจึงตั้งเป้าหมายว่าในครั้งนี้ผมก็นั่งคิดว่าจะทำอะไร เมนูทอด เนื้อปลาสละก็แข็งเกินไป กินไม่น่าอร่อย แถมแบ่งเพื่อนไม่ได้อีกต่างหาก อยากจะแล่ทำแดดเดียว พรุ่งนี้ฝนก็เข้า ไม่มีเวลาดู เลยได้ไอเดียทำปลาเค็มแบบหมักทั้งตัว เพราะสามารถตากในร่มได้ ถ่วงเวลาให้หมดฝนไปได้สัก 2-3 วันภาพที่ 2
วิธีทำ
ขั้นตอนแรกเลยคือการทำความสะอาดปลา นำเหงือก เครื่องในออกมา ซึ่งในความเป็นจริง เครื่องในปลาพวกตับเอยอะไรเอย เราสามารถนำมาคลุกเกลือ แดดเดียวรับประทานได้นะครับ แต่เผลอทิ้งไปหมดก่อน 555ภาพที่ 3
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
1. เกลือป่น
2. เทปกาว
3. ถุงดำ
หลังจากที่ทำการล้างปลาควักไส้เรียบร้อยแล้วให้นำถุงดำมาปูวาง และนำปลามายัดเกลือใส่ท้องให้เต็มยันช่วงหัวทะลุปาก คือคอนเซปต้องยัดให้เต็ม ทั้งภายในแล้วภายนอกเลยครับ หากเกลือไม่ถึงมีเน่าแน่นอน ซึ่งในขณะที่ทำปลา ก็นึกถึงสมัยประถม จะเคยเรียนเรื่องการถนอมอาหารด้วยวิธีต่างๆ ซึ่งการดองเค็มด้วยเกลือ ก็เป็นหนึ่งในวิธีดังกล่าว แอบตลกตัวเองที่วันนี้เราได้นำมันมาใช้จริงๆภาพที่ 4
เมื่อทำการยัดเกลือจนภายในเต็มแล้ว ก็ทำการเทเกลือลงบนพื้นถุงให้รองรับตัวปลา และทำการพอกเกลือด้านบนตัวปลาให้ทั่ว เพื่อให้เกลือได้ดูดซับน้ำของปลา และรักษาปลาให้เต็มที่ภาพที่ 5ภาพที่ 6
เมื่อได้ดังภาพ ให้ทำการห่อถุงให้แนบชิดเนื้อปลา พยายามไม่ให้มีพื้นท่ี่ว่างเหลือ ทำการมัดด้วยหนังยางให้พอตึง จึงต่อด้วยการพันเทปกาว ให้แนบสนิทแน่นๆ ให้ทั่วตัวปลาจนได้มัมมี่ปลาดังภาพภาพที่ 7
ทำการเจาะรูที่ปากปลาไว้นิดนึงเพื่อให้น้ำได้ไหลออกมาไม่ขังไว้กับตัวปลา ซึ่งในคืนแรกนี้ผมจะนำแผ่นกระเบื้องหนักๆมาทับปลาไว้เพื่อให้มันแนบชิดกับปลา ก่อนที่จะนำมาแขวนไว้ในที่ร่ม อากาศถ่ายเท (นำกะละมังมารองไว้ด้วยนะครับ)ภาพที่ 8
ผมหมักปลาไว้เป็นเวลา 3 คืน 3 วัน (คืนวันอาทิตย์ถึง เย็นวันพุธ) ซึ่งในช่วงวันแรกๆ น้ำที่ออกมาจากตัวปลาจะมีจำนวนเยอะมากๆ จนตอนช่วงวันที่ 3 จะยังมีน้ำหยดอยู่แต่ออกมาช้ามากๆ อีกทั้งเกลือได้จับตัวเป็นก้อนที่บริเวณปากปลาด้วยภาพที่ 9
เมื่อครบเวลาเราก็จะนำปลาออกมาจากโลงมัมมี่เพื่อนำไปล้างเกลือออกให้หมด ทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะภายในต้องล้วงออกหน่อย ไม่งั้นมันจะยังคงเค็มไปเรื่อยๆ เมื่อล้างเสร็จแล้ว ก็นำไปซับให้แห้ง รอผึ่งแดดในเช้าวันถัดไป (เจ้าของกระทู้ทำงานกลางวัน จึงมีเวลาทำปลาแต่ช่วงกลางคืน)ภาพที่ 10
สภาพปลาหลังล้างเสร็จภาพที่ 11
ตอนนี้กลิ่นของปลานั้นมีกลิ่นที่หอม ไม่มีกลิ่นเน่าเหม็น แต่เรายังนำไปปรุงอาหารไม่ได้ เพราะเราต้องนำไปตากแดดก่อน โดยวิธีตากแดดนั้น เราจะใช้กระดาษมาห่อปลาไว้บริเวณช่วงปากปลาจนถึงเหงือกปลา และส่วนของรูขับถ่ายของปลา (ตูดนั่นแหละครับ) ซึ่งครั้งนี้เจ้าของกระทู้จะตากแดดเป็นเวลา 2 วันครึ่งภาพที่ 12
ทำการบั้งแบ่งชิ้นปลา ซึ่งได้จำนวนหลายชิ้นเลยทีเดียวภาพที่ 13
เนื้ออมชมพูน่ากิน กลิ่นหอมฟุ้ง จึงรีบทำการแบ่งให้กับเพื่อนๆตามนัด แบ่งให้พ่อแม่ที่ช่วยตากปลากลางวันภาพที่ 14
ส่วนของผมเองก็ทำการเก็บโดยการดองน้ำมันเอาไว้ จะได้ไม่ต้องเปลืองพื้นที่จัดเก็บในตู้เย็น อีกทั้งปลายังชุ่มฉ่ำไม่แห้งอีกด้วยภาพที่ 15ภาพที่ 16
โทรหาเพื่อนให้มารับปลา เพื่อนบอกรีวิวด้วย อดใจไม่ไหว เลยจัดข้าวสวยร้อนๆ พร้อมยำปลาเค็มไป 1 ชุด รสชาดดีมาก เค็มกำลังดี เนื้อซุย ติดอันดับทอปไปเลย (อินทรี กุเลา สละ) แต่ชอบมากที่สุด เพราะเราทำเองนี่แหละภาพที่ 17ภาพที่ 18ภาพที่ 19
ข้าวสวยร้อนๆมั้ยน้าภาพที่ 20
ขอบคุณน้าๆ ที่ติดตามรับชมครับผม แก้ไข 18 มิ.ย. 62, 17:07